ตั้งแต่ช่วงอายุประมาณสิบกว่าขวบ เราดูละครเพราะ ดูตามพ่อแม่ ปู่ยาตายาย เราก็ดูไปแบบไม่คิดอะไร ดูไปเรื่อยๆฟังคำวิจารณ์จากคนรอบตัว ตัวโกงก็เลวซะ พระเอกนางเอกบางเรื่องก็ทำปู่ยาตายายอินร้องไห้ เศร้าตาม เราก็ดูไปอย่างนั้นแหละค่ะ
จนพอเริ่มโตมาอยู่ในช่วงม.ปลาย มหาวิทยาลัย ก็ยังติดการดูละครอยู่ แต่เริ่มมีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้นจากการพบปะผู้คนมากมายกว่าแต่ก่อน ดูคนรอบตัวเราเริ่มรู้แล้ว ไม่มีใครมีมุมเลวทั้งหมดหรือมุมดีทั้งหมด ซึ่งผิดกับชีวิตในละครไทย
พระเอกนางเอกเป็นคนดีราวกับเกือบจะเป็นนักบวชมาเกิด (แต่มีบางจุดที่โง่และหูเบาเกินพิกัดบ้าง)
ตัวร้ายก็ร้ายจนเราคิดว่ามันเกิดมาเพื่อโดนทุเรียนตบเท่านั้น แกเกิดมาทำไม แกเลวโดยชาติกำเนิดมาก หามุมดีไม่เจอ
สรุปว่าละครไทยในสายตาเราขณะนั้นคือตัวละครมีมิติเดียวและน้ำเน่า ดีและร้ายอย่างไร้เหตุผล เกินจริงที่สุด
ทำให้มีบางจังหวะต้องหยุดดูละครหลายๆเรื่องไปบ้าง ช่วงนั้นละครเกาหลีเริ่มตีตลาด ก็ลองไปดู รู้สึกเลยว่าตัวละครเค้ามีหลายมิติหลายมุม ทำให้ดูเป็นจริงเป็นจังกว่า สักพักก็ลามไปถึงละครญี่ปุ่น ละครสหรัฐอเมริกา เปิดโลกทัศน์เลยค่ะ อืมมมม เค้าไปไกลกว่าเรามากเลยนะ ตัวละครนี่มิติเยอะจริง มีมุมดีมุมเลว ตอนจะทำตัวเลวก็เริ่มมีเหตุผลรองรับในความเลว ถึงจะเป็นเหตุผลที่ผิดๆก็เถอะ แต่ก็ถือว่ามีรองรับ ไม่ได้เลวมาจากสันดานเท่านั้น ตัวโกงก็มีมุมดีที่ทำให้เราหลั่งน้ำตาได้
เข้าเรื่องมาที่ละครไทยค่ะ ช่วงหลังๆมานี้เราว่าละครไทยเริ่มทำให้ตัวละครมีมิติขึ้นจริงๆนะ ไม่แน่ใจว่าเรื่องอะไรเป็นเรื่องแรกที่ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น อาจจะเป็นเรื่องวิมานดินที่พี่แท่ง พิมมาดา พอใจเล่นเรื่องนึง ช่วงนั้นเราว่าเรื่องนี้ดี แต่เรื่องอื่นรอบตัวก็ยังไม่เวิร์คมาก จนมาช่วงปัจจุบันนี้แหละที่เราเห็นพัฒนาการแบบก้าวกระโดดของละครไทยหลายๆเรื่อง ที่ไม่ยึดติดกับความเป็นมิติเดียวของตัวละครประเภทดีสุดตัว ชั่วสุดขีดอีกแล้ว
แรงปรารถนาเป็นเรือ่งหนึ่งที่เข้าข่ายนี้
พระเอกอาจจะดีเวอร์ไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นนักบวช มีมุมสองมีผู้หญิงสองคนในใจพร้อมกันคนหนึ่งรักอยู่ในมุมลึกของใจ อีกคนหนึ่งก็คิดว่าตัวเองรักและผูกพัน
นางเอกก็มีมุมนิสัยแย่ ซึ่งก็มีเหตุผลรองรับความแย่ในการแย่งแฟนคนอื่น (ไม่เห็นด้วยนะกับมุมนี้ แต่คนเขียนบทก็พยายามจะทำให้คนดูเข้าถึงจิตใจนางเอกอยู่)
แฟนพระเอก คนนี้สิเกือบจะนางฟ้าอยู่แล้วเชียว แต่การที่คนรอบข้างชักนำ ทำให้เธอเขวไป แต่เธอก็ไม่ได้ร้ายโดยสันดานแต่เธอได้รับรู้เรื่องต่างๆที่แย่แบบผิดที่ผิดเวลา แถมมีคนเป่าหูรอบตัว (แอบไปอ่านเรื่องย่อ)
ตัวร้ายเพลย์บอยตัวพ่อ อาจจะเกือบร้ายโดยสันดาน แต่เค้าก็มีมุมเล็กๆเจ็บปวดบางมุมที่ทำให้เราเห็นใจ
นี่สิละครไทยต้องทำให้ได้อย่างน้อยประมาณนี้ ถึงจะเรียกว่าพัฒนาขึ้น ละครเรือ่งนี้ไม่ได้ดีมากจนหาจุดติไม่ได้ ช่องโหว่ให้ติก็ไม่ใช่น้อย อาทิ บ้านพระเอกใหญ่เกินและอีกหลายๆอย่าง แต่ถือเป็นก้าวหนึ่งของพัฒนาการละครไทย
มีใครเห็นแนวๆเราบ้างหรือเห็นต่างก็ได้ค่ะมาแชร์ความคิดเห็นกัน
แรงปรารถนา ตัวละครที่มีมิติมากขึ้น ทำให้ละครไทยดูพัฒนาขึ้น เห็นด้วยรึเปล่าคะ
จนพอเริ่มโตมาอยู่ในช่วงม.ปลาย มหาวิทยาลัย ก็ยังติดการดูละครอยู่ แต่เริ่มมีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้นจากการพบปะผู้คนมากมายกว่าแต่ก่อน ดูคนรอบตัวเราเริ่มรู้แล้ว ไม่มีใครมีมุมเลวทั้งหมดหรือมุมดีทั้งหมด ซึ่งผิดกับชีวิตในละครไทย
พระเอกนางเอกเป็นคนดีราวกับเกือบจะเป็นนักบวชมาเกิด (แต่มีบางจุดที่โง่และหูเบาเกินพิกัดบ้าง)
ตัวร้ายก็ร้ายจนเราคิดว่ามันเกิดมาเพื่อโดนทุเรียนตบเท่านั้น แกเกิดมาทำไม แกเลวโดยชาติกำเนิดมาก หามุมดีไม่เจอ
สรุปว่าละครไทยในสายตาเราขณะนั้นคือตัวละครมีมิติเดียวและน้ำเน่า ดีและร้ายอย่างไร้เหตุผล เกินจริงที่สุด
ทำให้มีบางจังหวะต้องหยุดดูละครหลายๆเรื่องไปบ้าง ช่วงนั้นละครเกาหลีเริ่มตีตลาด ก็ลองไปดู รู้สึกเลยว่าตัวละครเค้ามีหลายมิติหลายมุม ทำให้ดูเป็นจริงเป็นจังกว่า สักพักก็ลามไปถึงละครญี่ปุ่น ละครสหรัฐอเมริกา เปิดโลกทัศน์เลยค่ะ อืมมมม เค้าไปไกลกว่าเรามากเลยนะ ตัวละครนี่มิติเยอะจริง มีมุมดีมุมเลว ตอนจะทำตัวเลวก็เริ่มมีเหตุผลรองรับในความเลว ถึงจะเป็นเหตุผลที่ผิดๆก็เถอะ แต่ก็ถือว่ามีรองรับ ไม่ได้เลวมาจากสันดานเท่านั้น ตัวโกงก็มีมุมดีที่ทำให้เราหลั่งน้ำตาได้
เข้าเรื่องมาที่ละครไทยค่ะ ช่วงหลังๆมานี้เราว่าละครไทยเริ่มทำให้ตัวละครมีมิติขึ้นจริงๆนะ ไม่แน่ใจว่าเรื่องอะไรเป็นเรื่องแรกที่ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น อาจจะเป็นเรื่องวิมานดินที่พี่แท่ง พิมมาดา พอใจเล่นเรื่องนึง ช่วงนั้นเราว่าเรื่องนี้ดี แต่เรื่องอื่นรอบตัวก็ยังไม่เวิร์คมาก จนมาช่วงปัจจุบันนี้แหละที่เราเห็นพัฒนาการแบบก้าวกระโดดของละครไทยหลายๆเรื่อง ที่ไม่ยึดติดกับความเป็นมิติเดียวของตัวละครประเภทดีสุดตัว ชั่วสุดขีดอีกแล้ว
แรงปรารถนาเป็นเรือ่งหนึ่งที่เข้าข่ายนี้
พระเอกอาจจะดีเวอร์ไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นนักบวช มีมุมสองมีผู้หญิงสองคนในใจพร้อมกันคนหนึ่งรักอยู่ในมุมลึกของใจ อีกคนหนึ่งก็คิดว่าตัวเองรักและผูกพัน
นางเอกก็มีมุมนิสัยแย่ ซึ่งก็มีเหตุผลรองรับความแย่ในการแย่งแฟนคนอื่น (ไม่เห็นด้วยนะกับมุมนี้ แต่คนเขียนบทก็พยายามจะทำให้คนดูเข้าถึงจิตใจนางเอกอยู่)
แฟนพระเอก คนนี้สิเกือบจะนางฟ้าอยู่แล้วเชียว แต่การที่คนรอบข้างชักนำ ทำให้เธอเขวไป แต่เธอก็ไม่ได้ร้ายโดยสันดานแต่เธอได้รับรู้เรื่องต่างๆที่แย่แบบผิดที่ผิดเวลา แถมมีคนเป่าหูรอบตัว (แอบไปอ่านเรื่องย่อ)
ตัวร้ายเพลย์บอยตัวพ่อ อาจจะเกือบร้ายโดยสันดาน แต่เค้าก็มีมุมเล็กๆเจ็บปวดบางมุมที่ทำให้เราเห็นใจ
นี่สิละครไทยต้องทำให้ได้อย่างน้อยประมาณนี้ ถึงจะเรียกว่าพัฒนาขึ้น ละครเรือ่งนี้ไม่ได้ดีมากจนหาจุดติไม่ได้ ช่องโหว่ให้ติก็ไม่ใช่น้อย อาทิ บ้านพระเอกใหญ่เกินและอีกหลายๆอย่าง แต่ถือเป็นก้าวหนึ่งของพัฒนาการละครไทย
มีใครเห็นแนวๆเราบ้างหรือเห็นต่างก็ได้ค่ะมาแชร์ความคิดเห็นกัน