คมชัดลึก
------------------------------
บุกช่อง3จี้แจง'ถอดเหนือเมฆ2' : 'คนในโลกออนไลน์' สวมหน้ากากขาว บุกช่อง 3 ทวงถาม 'ถอดเหนือเมฆ2' ทำไม จี้ให้แจงภายใน 1 อาทิตย์ 'ฉัตรชัย-สินจัย'เดินทางกลับไทยแล้ว
เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 13ม.ค.2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม “รณรงค์แบนช่อง3 กรณีถอดละครเหนือเมฆ 2 สนองคำสั่งนักการเมือง” ประมาณ 200 คน ได้มาชุมนุมที่หน้าอาคารมาลีนนท์ช่อง 3 จากกรณีสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ระงับออกอากาศละคร “เหนือเมฆ 2” โดยผู้ชุมนุมได้แต่งกายด้วยเสื้อสีขาว และส่วนใหญ่สวมหน้ากากสีขาวปกปิดใบหน้า พร้อมกับมีการชูแผ่นป้ายกระดาษให้กำลังใจทีมงานละคร “เหนือเมฆ2” และคัดค้านการถอดละครดังกล่าว
เจ้าของนามแฝงในโซเชียลมีเดีย “แอดมินจ่าสมิง” ซึ่งเป็นชายวัยประมาณ 40 ปี ไม่ประสงค์แสดงชื่อ-นามสกุลจริง ได้นำอ่านแถลงการณ์ มีเนื้อหาว่า กิจกรรมครั้งนี้สะท้อนว่าสิทธิเสรีภาพของสื่อกำลังถูกริดรอน การออกมาครั้งนี้ไม่ได้โจมตีช่อง 3 โดยตรง โดยหลังจากที่สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 ได้ออกมาชี้แจง ถึงเหตุผลในการระงับละคร “เหนือเมฆ2” เนื่องจากมีเนื้อหาที่จะส่งผลกระทบกับความมั่นคงของประเทศ เข้าข่ายผิดมาตรา37 แห่งพ.ร.บ. ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2551
หากพิจารณาจากเนื้อหาของละครที่มุ่งเน้นเปิดโปงพฤติกรรมนักโกงเมืองในคราบนักการเมือง ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยรณรงค์ในการสร้างความมั่นคงต่อประเทศในทางอ้อม การชี้แจงของทางช่อง 3 จึงกลายเป็นเหตุผลที่ขัดแย้งกับเนื้อหาที่เกิดขึ้น และทำให้ประชาชนยอมรับไม่ได้ในเรื่องความโปร่งใส จากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น จึงทำให้เกิดการรวมตัวกันบนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก ภายใต้ชื่อกลุ่ม กลุ่ม “รณรงค์แบนช่อง3 กรณีถอดละครเหนือเมฆ 2 สนองคำสั่งนักการเมือง”
สำหรับกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ ได้แก่ 1.เพื่อเปิดประเด็น “อำนาจมืดบางอย่างกำลังคุกคาม และริดรอนสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน” ซึ่งเป็นการกระทำที่ “เข้าข่ายผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคล และสื่อมวลชนมาตรา 45,46,47
2.เพื่อเปิดประเด็น “การขาดจริยธรรม และธรรมภิบาลของช่อง3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” ได้แก่ การชี้แจงของช่อง3 เข้าข่ายปกปิดบิดเบือนข้อเท็จจริง ขาดความโปร่งใสต่อสาธารณชน,เรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ,กลต. และสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประกาศปรับลดระดับเรื่องธรรมาภิบาลช่อง3 (BEC) สู่ระดับต่ำสุด จนกว่าเหตุการณ์เรื่องนี้จะเกิดความโปร่งใสต่อสาธารณชน , เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ที่ได้ซื้อเวลาในการโฆษณา ผ่านทางช่อง3 ร่วมกันสร้างธรรมาภิบาลต่อสังคม ด้วยการถอนโฆษณา หรือหยุดชำระค่าโฆษณาเป็นการชั่วคราว, ภายใน 1 สัปดาห์ต่อจากนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เราจะเริ่มรณรงค์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ด้วยมาตรการต่อต้านทางสังคม โดยการประกาศงดชมรายการข่าว และละครทางช่อง3 รวมถึงลดการบริโภคสินค้าและผลิตภัณฑ์ ที่โฆษณาผ่านทางช่อง3 3.ให้กำลังใจทีมงาน "เหนือเมฆ2"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ผู้ชุมนุมดำเนินกิจกรรมต่างๆอยู่นั้น นายบริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ได้ลงมาจากอาคารมาลีนนท์เพื่อรับหนังสือแถลงการณ์พร้อมกับกล่าวชี้แจงว่า สาเหตุที่ช่อง 3 ยุติการการออกอากาศละคร “เหนือเมฆ2” เป็นไปตามที่ตนได้แถลงไปว่า เราได้พิจารณาว่าละครเรื่องนี้มีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสม ซึ่งหากเราบอกถึงเรื่องราวที่ม่เหมาะสมไปก็จำนำไปสู่ประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ หรือส่งผลกระทบต่อสถานีได้ ซึ่งการเซ็นเซอร์เราทำมาตลอด สำหรับละครเรื่องนี้ก็เช่นกันซึ่งผู้บริหารเห็นแล้วว่าไม่เหมาะสม
ขณะเดียวกันระหว่างที่นายบริสุทธิ์ กำลังกล่าวชี้แจง ผู้ชุมนุมบางส่วนไม่พอใจโดยเนื้อหาที่กล่าวนั้นเป็นเนื้อหาเก่าที่ได้ชี้แจงไปแล้ว โดยผู้ชุมนุมบางส่วนได้ตะโกนโต้แย้ง อาทิ “อย่าโกหกคนดูเลยดีกว่า” “ช่อง3 รู้สึกผิดบ้างไหม ที่ทำต่อผู้ชม” “ช่อง3ห่วงเรื่องสัมปทานมากกว่าความถูกต้องของสื่อใช่หรือไม่” ก่อนที่ผู้นำการชุมนุมจะเข้ามาชี้แจงไกล่เกลี่ย โดยนายบริสุทธิ์ ชี้แจงต่อว่า เรื่องที่เป็นผลกระทบต่อการออกอากาศของสถานีเราก็ต้องระมัดระวัง ส่วนเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการสอบสัมปทานของช่อง ซึ่งสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง มีอะไรที่เห็นว่าผิดระเบียบผิดกฎหมายที่ควบคุม เราก็ต้องระมัดระวังตรงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากิจกรรมต่างๆของผู้ชุมนุมได้ดำเนินไปอย่างสงบเรียบร้อย ก่อนแยกย้ายกันกลับไปในเวลา 11.00น.
นายบริสุทธิ์เปิดเผยภายหลังอีกว่า กรณีที่กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสทช.) จะเรียกทางช่อง 3 ไปชี้แจง รวมทั้งนำเทปที่ถูกตัดออกไปตรวจสอบนั้น ตอนนี้ยังไม่มีการทำหนังสือมาถึงสถานี ซึ่งหากมีหนังสือมาจริงก็คงจะมีการชี้แจงที่ไม่ต่างจากเดิมที่เคยได้ชี้แจงไป และจากนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ยืนยันว่าจะไม่นำละคร “เหนือเมฆ2” กลับมาออกอากาศอีก
ขณะเดียวกันเฟซบุ๊ก เนชั่นสุดสัปดาห์ NationWeekend ได้โฟสต์ความเห็นของนายเทพชัย หย่อง กรรมการบริหารเครือเนชั่น ความว่า "ผู้บริหารช่อง 3 คงกำลังภาวนาให้ควันหลงจาก 'เหนือเมฆ 2' ผ่านพ้นไปให้เร็วที่สุด เพื่อทุกอย่างจะได้กลับไปสู่ภาวะปกติ เหมือนกับที่เรื่องทุจริตอื้อฉาวที่โยงใยถึงนักเล่าข่าวชื่อดังของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ เงียบหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น.."
พร้อมกันนี้ตั้งแต่เวลา 13.00น.ของวันที่ 13 ม.ค.นี้สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้จัดเสวนาเรื่อง"ถก!!เหนือเมฆ 2" ที่ห้องประชุมคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
'ฉัตรชัย-สินจัย'เดินทางกลับไทยแล้ว
ทางด้านนายฉัตรชัย เปล่งพานิช และนางสินจัย เปล่งพานิช ผู้จัด และนักแสดงนำของละครเรื่อง "เหนือเมฆ 2" พร้อมครอบครัว รวมทั้งนายปริญ สุภารัตน์ พระเอกของละครเรื่องนี้ ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองไทยตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา ทั้งหมดมีใบหน้าสดใสและรอยยิ้ม เพราะได้ไปพักผ่อนทั้งกายและใจอย่างเต็มอิ่ม
ที่มา :
http://www.komchadluek.net/detail/20130113/149284/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%873%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%862.html#.UPKvbB1VSbs
---------------------------
Siam Shinsengumi
สรุปข่าวเหนือเมฆ 13-1-2556 (กระแสนี้จะอยู่ได้อีกกี่วัน?)
------------------------------
บุกช่อง3จี้แจง'ถอดเหนือเมฆ2' : 'คนในโลกออนไลน์' สวมหน้ากากขาว บุกช่อง 3 ทวงถาม 'ถอดเหนือเมฆ2' ทำไม จี้ให้แจงภายใน 1 อาทิตย์ 'ฉัตรชัย-สินจัย'เดินทางกลับไทยแล้ว
เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 13ม.ค.2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม “รณรงค์แบนช่อง3 กรณีถอดละครเหนือเมฆ 2 สนองคำสั่งนักการเมือง” ประมาณ 200 คน ได้มาชุมนุมที่หน้าอาคารมาลีนนท์ช่อง 3 จากกรณีสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ระงับออกอากาศละคร “เหนือเมฆ 2” โดยผู้ชุมนุมได้แต่งกายด้วยเสื้อสีขาว และส่วนใหญ่สวมหน้ากากสีขาวปกปิดใบหน้า พร้อมกับมีการชูแผ่นป้ายกระดาษให้กำลังใจทีมงานละคร “เหนือเมฆ2” และคัดค้านการถอดละครดังกล่าว
เจ้าของนามแฝงในโซเชียลมีเดีย “แอดมินจ่าสมิง” ซึ่งเป็นชายวัยประมาณ 40 ปี ไม่ประสงค์แสดงชื่อ-นามสกุลจริง ได้นำอ่านแถลงการณ์ มีเนื้อหาว่า กิจกรรมครั้งนี้สะท้อนว่าสิทธิเสรีภาพของสื่อกำลังถูกริดรอน การออกมาครั้งนี้ไม่ได้โจมตีช่อง 3 โดยตรง โดยหลังจากที่สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 ได้ออกมาชี้แจง ถึงเหตุผลในการระงับละคร “เหนือเมฆ2” เนื่องจากมีเนื้อหาที่จะส่งผลกระทบกับความมั่นคงของประเทศ เข้าข่ายผิดมาตรา37 แห่งพ.ร.บ. ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2551
หากพิจารณาจากเนื้อหาของละครที่มุ่งเน้นเปิดโปงพฤติกรรมนักโกงเมืองในคราบนักการเมือง ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยรณรงค์ในการสร้างความมั่นคงต่อประเทศในทางอ้อม การชี้แจงของทางช่อง 3 จึงกลายเป็นเหตุผลที่ขัดแย้งกับเนื้อหาที่เกิดขึ้น และทำให้ประชาชนยอมรับไม่ได้ในเรื่องความโปร่งใส จากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น จึงทำให้เกิดการรวมตัวกันบนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก ภายใต้ชื่อกลุ่ม กลุ่ม “รณรงค์แบนช่อง3 กรณีถอดละครเหนือเมฆ 2 สนองคำสั่งนักการเมือง”
สำหรับกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ ได้แก่ 1.เพื่อเปิดประเด็น “อำนาจมืดบางอย่างกำลังคุกคาม และริดรอนสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน” ซึ่งเป็นการกระทำที่ “เข้าข่ายผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคล และสื่อมวลชนมาตรา 45,46,47
2.เพื่อเปิดประเด็น “การขาดจริยธรรม และธรรมภิบาลของช่อง3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” ได้แก่ การชี้แจงของช่อง3 เข้าข่ายปกปิดบิดเบือนข้อเท็จจริง ขาดความโปร่งใสต่อสาธารณชน,เรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ,กลต. และสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประกาศปรับลดระดับเรื่องธรรมาภิบาลช่อง3 (BEC) สู่ระดับต่ำสุด จนกว่าเหตุการณ์เรื่องนี้จะเกิดความโปร่งใสต่อสาธารณชน , เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ที่ได้ซื้อเวลาในการโฆษณา ผ่านทางช่อง3 ร่วมกันสร้างธรรมาภิบาลต่อสังคม ด้วยการถอนโฆษณา หรือหยุดชำระค่าโฆษณาเป็นการชั่วคราว, ภายใน 1 สัปดาห์ต่อจากนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เราจะเริ่มรณรงค์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ด้วยมาตรการต่อต้านทางสังคม โดยการประกาศงดชมรายการข่าว และละครทางช่อง3 รวมถึงลดการบริโภคสินค้าและผลิตภัณฑ์ ที่โฆษณาผ่านทางช่อง3 3.ให้กำลังใจทีมงาน "เหนือเมฆ2"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ผู้ชุมนุมดำเนินกิจกรรมต่างๆอยู่นั้น นายบริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ได้ลงมาจากอาคารมาลีนนท์เพื่อรับหนังสือแถลงการณ์พร้อมกับกล่าวชี้แจงว่า สาเหตุที่ช่อง 3 ยุติการการออกอากาศละคร “เหนือเมฆ2” เป็นไปตามที่ตนได้แถลงไปว่า เราได้พิจารณาว่าละครเรื่องนี้มีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสม ซึ่งหากเราบอกถึงเรื่องราวที่ม่เหมาะสมไปก็จำนำไปสู่ประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ หรือส่งผลกระทบต่อสถานีได้ ซึ่งการเซ็นเซอร์เราทำมาตลอด สำหรับละครเรื่องนี้ก็เช่นกันซึ่งผู้บริหารเห็นแล้วว่าไม่เหมาะสม
ขณะเดียวกันระหว่างที่นายบริสุทธิ์ กำลังกล่าวชี้แจง ผู้ชุมนุมบางส่วนไม่พอใจโดยเนื้อหาที่กล่าวนั้นเป็นเนื้อหาเก่าที่ได้ชี้แจงไปแล้ว โดยผู้ชุมนุมบางส่วนได้ตะโกนโต้แย้ง อาทิ “อย่าโกหกคนดูเลยดีกว่า” “ช่อง3 รู้สึกผิดบ้างไหม ที่ทำต่อผู้ชม” “ช่อง3ห่วงเรื่องสัมปทานมากกว่าความถูกต้องของสื่อใช่หรือไม่” ก่อนที่ผู้นำการชุมนุมจะเข้ามาชี้แจงไกล่เกลี่ย โดยนายบริสุทธิ์ ชี้แจงต่อว่า เรื่องที่เป็นผลกระทบต่อการออกอากาศของสถานีเราก็ต้องระมัดระวัง ส่วนเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการสอบสัมปทานของช่อง ซึ่งสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง มีอะไรที่เห็นว่าผิดระเบียบผิดกฎหมายที่ควบคุม เราก็ต้องระมัดระวังตรงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากิจกรรมต่างๆของผู้ชุมนุมได้ดำเนินไปอย่างสงบเรียบร้อย ก่อนแยกย้ายกันกลับไปในเวลา 11.00น.
นายบริสุทธิ์เปิดเผยภายหลังอีกว่า กรณีที่กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสทช.) จะเรียกทางช่อง 3 ไปชี้แจง รวมทั้งนำเทปที่ถูกตัดออกไปตรวจสอบนั้น ตอนนี้ยังไม่มีการทำหนังสือมาถึงสถานี ซึ่งหากมีหนังสือมาจริงก็คงจะมีการชี้แจงที่ไม่ต่างจากเดิมที่เคยได้ชี้แจงไป และจากนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ยืนยันว่าจะไม่นำละคร “เหนือเมฆ2” กลับมาออกอากาศอีก
ขณะเดียวกันเฟซบุ๊ก เนชั่นสุดสัปดาห์ NationWeekend ได้โฟสต์ความเห็นของนายเทพชัย หย่อง กรรมการบริหารเครือเนชั่น ความว่า "ผู้บริหารช่อง 3 คงกำลังภาวนาให้ควันหลงจาก 'เหนือเมฆ 2' ผ่านพ้นไปให้เร็วที่สุด เพื่อทุกอย่างจะได้กลับไปสู่ภาวะปกติ เหมือนกับที่เรื่องทุจริตอื้อฉาวที่โยงใยถึงนักเล่าข่าวชื่อดังของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ เงียบหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น.."
พร้อมกันนี้ตั้งแต่เวลา 13.00น.ของวันที่ 13 ม.ค.นี้สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้จัดเสวนาเรื่อง"ถก!!เหนือเมฆ 2" ที่ห้องประชุมคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
'ฉัตรชัย-สินจัย'เดินทางกลับไทยแล้ว
ทางด้านนายฉัตรชัย เปล่งพานิช และนางสินจัย เปล่งพานิช ผู้จัด และนักแสดงนำของละครเรื่อง "เหนือเมฆ 2" พร้อมครอบครัว รวมทั้งนายปริญ สุภารัตน์ พระเอกของละครเรื่องนี้ ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองไทยตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา ทั้งหมดมีใบหน้าสดใสและรอยยิ้ม เพราะได้ไปพักผ่อนทั้งกายและใจอย่างเต็มอิ่ม
ที่มา :
http://www.komchadluek.net/detail/20130113/149284/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%873%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%862.html#.UPKvbB1VSbs
---------------------------
Siam Shinsengumi