สวัสดีค่ะพี่น้องชาวโต๊ะเครื่องแป้ง เนื่องจากช่วงนี้ เรารู้สึกพอใจกับกับ skincare ที่ใช้อยู่เป็นอย่างมาก วันนี้เลยรู้สึกคึกคักอยากเขียนรีวิวกับเค้าดูบ้าง ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า เราเป็นคนมีลักษณะผิวที่แห้งและแพ้ง่าย ถ้าใครที่มีลักษณะผิวคล้ายเรา เราก็อยากจะแนะนำให้ลองใช้ตามค่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลง ขอเริ่มรีวิวเลยแล้วกันนะคะ
นี่คือ skincare ทั้งหมดที่จะรีวิวในวันนี้นะคะ
เริ่มจากตัวแรก Egyptian Magic ครีมครอบจักรวาล (เวอร์ไปมั๊ย)
ตัวนี้ปลาบปลื้มมากค่ะ ทาได้ตั้งแต่ผมจรดส้นเท้า เป็นครีมครอบจักรวาลจริงๆ ก่อนหน้าที่จะใช้ หน้าเราประสบปัญหาเป็น eczema ค่ะ ทั้งแห้ง ทั้งลอก มีผดเล็กๆ คันยุบคันยิบและแดงเป็นปื้นๆด้วย เพื่อนสาวเราก็แนะนำให้ใช้ตัวนี้ เราก็อิดออด เพราะเห็นว่าเนื้อหนักเกินไป กลัวใช้แล้วหน้าจะเห่อไปกันใหญ่ แต่ที่นี่ก็หนักใจกับหน้าตัวเองด้วย ทำไงก็ไม่ดีขึ้น แล้วประกอบกับไปอ่านรีวิว เค้าบอกว่าธรรมชาติ 100% ใส่แค่น้ำมันมะกอกกับส่วนประกอบที่เกี่ยวกับผึ้ง อ่านไปอ่านมา คิดในใจ สงสัยจะเอารังผึ้งทั้งรังมาปั่นรวมกับน้ำมันมะกอกละมั้ง (คิดได้เน๊อะ) อ่านมากๆเข้า ทนไม่ไหว เอาวะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เลยซื้อมาลอง ลองใช้แค่อาทิตย์เดียวเองค่ะ สิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้นกับหน้า หน้าเราดีขึ้นมาก ไม่แห้ง ไม่ลอก ผดยุบ หน้าที่แดงๆก็จางลง หน้าเนียนนุ่มขึ้นด้วย เราใช้เป็น night cream ค่ะ ตื่นเช้ามาหน้าเด้งทุกเช้าเลยเป็นปลื้มมมม และเราก็ได้ไปขอบคุณ คุณเพื่อนสาวเป็นการใหญ่ ที่แนะนำสิ่งดีๆมาให้เรา
อ้อ ล่าสุด น้องหมาของเราประสบปัญหาเป็นผื่นแพ้ค่ะ คันแดง ถลอกเลือดใหลซิบๆ เรานึกสนุกคิดเอาเองว่าเป็นครีมมหัศจรรย์ ไหนลองเอามาทาหมาซิ เผื่อจะหาย ปรากฎว่าหายจริงค่ะ โอ้ ชาบูๆ
ข้าน้อยขอคำนับ
เราให้คะแนน 10/10 เลยแล้วกันค่ะ ซื้อต่อแน่นอน และจะใช้ไปตลอดชีวิต
ตัวที่สองคือ Olay Regenerist Micro-Sculpting Serum สูตร Fragrance Free (ชื่อยาวได้อีกเน๊าะ)
ตัวนี้เราใช้ตาม Bubzbeauty บล๊อกเกอร์สาวแห่ง youtube เหตุผลที่ซื้อตามคือเราอยากหา serum ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวหน้าของเรา คือลดริ้วรอย ช่วยให้หน้ากระจ่างใส ไม่ผสมน้ำหอม และที่สำคัญต้องราคาย่อมเยา ก่อนหน้านี้เราใช้ Estee Lauder Advanced Night Repair Serum (นี่ก็ชื่อย๊าวยาว) ใช้ดีนะคะ เป็นปลื้ม แต่ว่าราคาแพงเกิ๊น ใช้ติดต่อกันสามขวดแล้วเริ่มรู้สึกว่าการเงินร่อยหรอ จึงต้องหาตัวช่วยเป็นของดีราคาถูก ก็ได้ Olay Regenerist ช่วยชีวิตไว้ค่ะ
เราให้คะแนน 9/10 หักคะแนนตรงที่เหมือนเค้าจะผสมสีหรืออะไรไม่รู้ คล้าย glitter และเมื่อเนื้อเซรั่มแห้งก็ให้ความรู้สึกแปลกๆบนผิว ถามว่าซื้อต่อมั๊ย ถ้ายังไม่เจอตัวไหนก็ดีกว่าและราคาพอๆกันก็จะซื้อต่อค่ะ
ตัวที่สาม Eucerin Q10 Anti-Wrinkle Sensitive Skin Cream
ตัวนี้ใช้มานานหลายกระปุกแล้ว เราใช้เป็น Moisturizer ทาตอนกลางวันค่ะ เนื้อครีมอาจจะหนักเกินไปสำหรับคนหน้ามัน แต่ไม่หนักเหมือน Egyptian Magic นะคะ คือให้ความชุ่มชื่น แต่ไม่ทำให้หน้ามันวาว ทาแป้งทับแล้วเรียบเนียนดี ไม่อุดตัน ไม้แพ้ค่ะ ตัวนี้ตอบโจทย์ตรงที่เราแค่อยากได้ตัวให้ความชุ่มชื่นกับผิว ใช้แล้วต้องไม่อุดตัน สิวไม่ขึ้น ไม่แพ้
ให้คะแนน 10/10 เพราะไม่ว่าจะปันใจไปให้ตัวอื่น ยังไงๆก็ต้องกลับมาตายรังทุกที ซื้อต่อแน่ๆยิ่งกว่าแช่แป้ง
ตัวที่สี่ ครีมกันแดดของ Solar Protection
ตัวนี้เพื่อนสาวที่เป็นพยาบาลแนะนำให้ใช้ค่ะ เป็น physical sunscreen เนื้อครีมสีขาว เนื้อนุ่มนิ่ม ใช้ดีไม่แพ้ คือเราเป็นคนที่แพ้ครีมกันแดดทุกชนิด อะไรที่เค้าว่าดี เราก็ซื้อตาม พอเอามาใช้ กลับทำให้แพ้ซะงั้น มีครั้งนึง เราใช้ครีมกันแดดตัวนึง Neu______ ตอนแรกทาตัว ก็เอ๊ะ ดีเน๊าะ ตอนไปว่ายน้ำกับเพื่อน ก็เลยลองเอามาทาหน้า เรากรี๊สสสสสเลยค่ะ ไม่ใช่ชอบนะ แต่แสบหน้ามาก เหมือนโดนน้ำกรด ไม่ทราบว่ามีเพื่อนๆคนไหนเคยมีอาการแพ้ครีมกันแดดเหมือนเรามั่งมั๊ย หลังจากนั้นก็ขยาดครีมกันแดดเรื่อยมา จนมารู้ตัวอีกทีกระเต็มหน้าเลยค่ะพี่น้อง ก็ได้ Solar Protection นี่แหล่ะช่วยชีวิตไว้
ให้คะแนน 10/10 ชอบมาก นี่ใช้หมดมาหลายหลอดแล้วค่ะ ซื้อต่อแน่นอน
ตัวที่ห้า Estee Lauder Perfectly Clean
อันนี้ต้องขอบอกก่อนว่า จริงๆแล้วเราเป็นคนไม่ชอบ skin care ที่ผสมน้ำหอม แต่ว่าโฟมล้างหน้าตัวนี้ถือเป็นโฟมล้างหน้าที่ผสมน้ำหอมที่เราขาดไม่ด้ายยยยยย เคยเปลี่ยนไปใช้แบบอื่นยี่ห้ออื่นมาหลายครั้งหลายครา แต่ก็ต้องกลับมาใช้ตัวนี้ เพราะเป็นโฟมล้างหน้าที่ล้างหน้าได้สะอาดเกลี้ยงเกลามาก เราเป็นคนไม่ชอบใช้ Cleanser หรือ Toner ใดใดทั้งสิ้น เพราะใช้ทีไรแล้วก็แพ้ เราเลยต้องล้างหน้าด้วยโฟมอย่างเดียว โฟมตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเยี่ยม และยิ่งถ้าใช้คู่กับแปรงขัดหน้าด้วยแล้วล่ะก็ เลิศ!
ให้คะแนน 10/10 เราใช้โฟมตัวนี้นับเวลาแล้วก็น่าจะ 5 ปี เพราะฉนั้นไม่ต้องนับแล้วว่าใช้ไปกี่หลอด เพราะนับไม่ถ้วน ซื้อต่อไปจนกว่าเค้าจะเลิกผลิต
ตัวที่หก SK II ตัวดังของห้องแป้งงงงง
น้ำ Pitera Essence ตัวนี้ถือว่าช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้จริงค่ะ แต่สำหรับเรา ใช้กับหน้าไม่ได้ เพราะใช้ทีไรแล้วสิวขึ้น เพื่อนๆคงจะสงสัยใช้มั๊ย แล้วจะรีวิวทำบ้าอะไร ก็เราเอามาใช้กับคอไงคะ คือซื้อมาซะขวดบะเหิ่มขนาดนี้ เสียดายไงคะ เราก็ดัดแปลงไปใช้ที่คอ หน้าอก มือ แขน ปรากฎว่าทุกส่วนที่เราใช้ ขาวกระจ่างใสดีค่ะ ยกเว้นที่หน้า แต่เอ..จะว่าไป อันที่จริงตอนใช้ หน้ากระจ่างใสขึ้นนิดนึงนะ แต่ว่ายังใสไม่ถึงไหนก็นำพาสิวมาด้วยนี่ซิ เสียดายมากที่ใช้กับหน้าเราไม่ได้ อิจฉาคนที่ใช้เจ้านี่แล้วwork จังเลย ฮือๆ T____T
ให้คะแนน 8/10 ด้วยความที่ไม่ work กับหน้าเรา และด้วยราคาที่เรียกว่าไฮโซเป็นอย่างมาก เราคงไม่ซื้อต่อแล้วค่ะ
เย้..ตัวสุดท้ายแล้ว แปรงขัดหน้าไฟฟ้า Clarisonic
ตัวนี้ขอนำเสนอเลยค่ะ แนะนำมากๆ อย่างที่เราบอกไว้เมื่อข้างต้น คือเราไม่สามารถที่จะหา Toner หรือ Cleanser ที่ใช้แล้วไม่แพ้ได้ เราจึงต้องทำความสะอาดหน้าให้เกลี้ยงเกลาในขั้นเดียว คือตอนล้างหน้าเท่านั้น เจ้านี่ช่วยชีวิตเราไว้อีกแล้วค่ะพี่น้อง มีหัวแปรงให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ คือ Acne, Deep Pore, Delicate, Normal และ Body brush ในรูปอันที่ติดอยู่กับตัวแปรงคือ Deep Pore อันบนที่วางไว้ข้างๆตัวแปรงคือ Delicate และ อันล่างคือ Body brush ค่ะ ตอนแรกที่เราจะซื้อมาใช้ก็ตัดสินใจอยู่นานมาก เพราะราคาโฮโซสุดๆ เรียกว่ากัดฟันซื้อกันเลยทีเดียว ตอนที่เราซื้อจริงๆมี Normal brush แถมมาด้วย แต่เรายกให้แม่ไปแล้ว เราเริ่มต้นใช้แปรงนี้จากหัวแปรงแบบ Delicate ค่ะ เพราะเราเป็นโรคกลัวเครื่องมืออะไรแบบนี้อ่ะค่ะ กลัวว่ามันจะรุนแรงกับหน้าเราเกินไป แต่คนขายเค้าก็บอกไว้ว่ามันอ่อนโยนมากๆ ใช้ได้ทุกวัน เรารู้สึกชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยนะ รู้สึกว่าหน้าสะอาดกว่าล้างแบบธรรมดามากๆ และไม่ได้รู้สึกว่าผิวหน้าโดนทำร้ายแต่อย่างใด อ่อนโยนจริงอย่างที่เค้าว่า นี่เราใช้มา 2 ปีกว่าแล้ว ช่วงหล้งเค้าออกหัวแปรง Acne กับ Deep Pore มาขาย เราเห็นว่าหนังหน้าเรามันด้านแปรงแล้ว ประกอบกับหัวแปลงที่ใช้อยู่มันเริ่มเก่า เลยลองซื้อแบบ Deep Pore มาใช้ ก็รู้สึกสะอาดดีค่ะ รูขุมขนสะอาดขึ้นนิดนึงมั๊ง คริ คริ
ให้คะแนน 10/10 ชอบมาก จะใช้ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจ๊ง ถึงเจ๊งแล้วก็จะซื้อใหม่ค่ะ
รีวิวเสร็จซักที คริ คริ หวังว่ารีวิวของเราจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวห้องแป้งไม่มากก็น้อยนะคะ ถ้าเพื่อนๆมีอะไรอยากจะแนะนำเราก็น้อมรับนะคะ อยากให้ช่วยติชม และถ้าเรามีอะไรดีๆ เราจะมานำเสนออีกเรื่อยๆค่ะ
[CR] รีวิว Skincare ที่ใช้อยู่แล้วชอบมาก (มือใหม่ เขียนรีวิวครั้งแรกในชีวิต)
นี่คือ skincare ทั้งหมดที่จะรีวิวในวันนี้นะคะ
เริ่มจากตัวแรก Egyptian Magic ครีมครอบจักรวาล (เวอร์ไปมั๊ย)
ตัวนี้ปลาบปลื้มมากค่ะ ทาได้ตั้งแต่ผมจรดส้นเท้า เป็นครีมครอบจักรวาลจริงๆ ก่อนหน้าที่จะใช้ หน้าเราประสบปัญหาเป็น eczema ค่ะ ทั้งแห้ง ทั้งลอก มีผดเล็กๆ คันยุบคันยิบและแดงเป็นปื้นๆด้วย เพื่อนสาวเราก็แนะนำให้ใช้ตัวนี้ เราก็อิดออด เพราะเห็นว่าเนื้อหนักเกินไป กลัวใช้แล้วหน้าจะเห่อไปกันใหญ่ แต่ที่นี่ก็หนักใจกับหน้าตัวเองด้วย ทำไงก็ไม่ดีขึ้น แล้วประกอบกับไปอ่านรีวิว เค้าบอกว่าธรรมชาติ 100% ใส่แค่น้ำมันมะกอกกับส่วนประกอบที่เกี่ยวกับผึ้ง อ่านไปอ่านมา คิดในใจ สงสัยจะเอารังผึ้งทั้งรังมาปั่นรวมกับน้ำมันมะกอกละมั้ง (คิดได้เน๊อะ) อ่านมากๆเข้า ทนไม่ไหว เอาวะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เลยซื้อมาลอง ลองใช้แค่อาทิตย์เดียวเองค่ะ สิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้นกับหน้า หน้าเราดีขึ้นมาก ไม่แห้ง ไม่ลอก ผดยุบ หน้าที่แดงๆก็จางลง หน้าเนียนนุ่มขึ้นด้วย เราใช้เป็น night cream ค่ะ ตื่นเช้ามาหน้าเด้งทุกเช้าเลยเป็นปลื้มมมม และเราก็ได้ไปขอบคุณ คุณเพื่อนสาวเป็นการใหญ่ ที่แนะนำสิ่งดีๆมาให้เรา
อ้อ ล่าสุด น้องหมาของเราประสบปัญหาเป็นผื่นแพ้ค่ะ คันแดง ถลอกเลือดใหลซิบๆ เรานึกสนุกคิดเอาเองว่าเป็นครีมมหัศจรรย์ ไหนลองเอามาทาหมาซิ เผื่อจะหาย ปรากฎว่าหายจริงค่ะ โอ้ ชาบูๆ
เราให้คะแนน 10/10 เลยแล้วกันค่ะ ซื้อต่อแน่นอน และจะใช้ไปตลอดชีวิต
ตัวที่สองคือ Olay Regenerist Micro-Sculpting Serum สูตร Fragrance Free (ชื่อยาวได้อีกเน๊าะ)
ตัวนี้เราใช้ตาม Bubzbeauty บล๊อกเกอร์สาวแห่ง youtube เหตุผลที่ซื้อตามคือเราอยากหา serum ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวหน้าของเรา คือลดริ้วรอย ช่วยให้หน้ากระจ่างใส ไม่ผสมน้ำหอม และที่สำคัญต้องราคาย่อมเยา ก่อนหน้านี้เราใช้ Estee Lauder Advanced Night Repair Serum (นี่ก็ชื่อย๊าวยาว) ใช้ดีนะคะ เป็นปลื้ม แต่ว่าราคาแพงเกิ๊น ใช้ติดต่อกันสามขวดแล้วเริ่มรู้สึกว่าการเงินร่อยหรอ จึงต้องหาตัวช่วยเป็นของดีราคาถูก ก็ได้ Olay Regenerist ช่วยชีวิตไว้ค่ะ
เราให้คะแนน 9/10 หักคะแนนตรงที่เหมือนเค้าจะผสมสีหรืออะไรไม่รู้ คล้าย glitter และเมื่อเนื้อเซรั่มแห้งก็ให้ความรู้สึกแปลกๆบนผิว ถามว่าซื้อต่อมั๊ย ถ้ายังไม่เจอตัวไหนก็ดีกว่าและราคาพอๆกันก็จะซื้อต่อค่ะ
ตัวที่สาม Eucerin Q10 Anti-Wrinkle Sensitive Skin Cream
ตัวนี้ใช้มานานหลายกระปุกแล้ว เราใช้เป็น Moisturizer ทาตอนกลางวันค่ะ เนื้อครีมอาจจะหนักเกินไปสำหรับคนหน้ามัน แต่ไม่หนักเหมือน Egyptian Magic นะคะ คือให้ความชุ่มชื่น แต่ไม่ทำให้หน้ามันวาว ทาแป้งทับแล้วเรียบเนียนดี ไม่อุดตัน ไม้แพ้ค่ะ ตัวนี้ตอบโจทย์ตรงที่เราแค่อยากได้ตัวให้ความชุ่มชื่นกับผิว ใช้แล้วต้องไม่อุดตัน สิวไม่ขึ้น ไม่แพ้
ให้คะแนน 10/10 เพราะไม่ว่าจะปันใจไปให้ตัวอื่น ยังไงๆก็ต้องกลับมาตายรังทุกที ซื้อต่อแน่ๆยิ่งกว่าแช่แป้ง
ตัวที่สี่ ครีมกันแดดของ Solar Protection
ตัวนี้เพื่อนสาวที่เป็นพยาบาลแนะนำให้ใช้ค่ะ เป็น physical sunscreen เนื้อครีมสีขาว เนื้อนุ่มนิ่ม ใช้ดีไม่แพ้ คือเราเป็นคนที่แพ้ครีมกันแดดทุกชนิด อะไรที่เค้าว่าดี เราก็ซื้อตาม พอเอามาใช้ กลับทำให้แพ้ซะงั้น มีครั้งนึง เราใช้ครีมกันแดดตัวนึง Neu______ ตอนแรกทาตัว ก็เอ๊ะ ดีเน๊าะ ตอนไปว่ายน้ำกับเพื่อน ก็เลยลองเอามาทาหน้า เรากรี๊สสสสสเลยค่ะ ไม่ใช่ชอบนะ แต่แสบหน้ามาก เหมือนโดนน้ำกรด ไม่ทราบว่ามีเพื่อนๆคนไหนเคยมีอาการแพ้ครีมกันแดดเหมือนเรามั่งมั๊ย หลังจากนั้นก็ขยาดครีมกันแดดเรื่อยมา จนมารู้ตัวอีกทีกระเต็มหน้าเลยค่ะพี่น้อง ก็ได้ Solar Protection นี่แหล่ะช่วยชีวิตไว้
ให้คะแนน 10/10 ชอบมาก นี่ใช้หมดมาหลายหลอดแล้วค่ะ ซื้อต่อแน่นอน
ตัวที่ห้า Estee Lauder Perfectly Clean
อันนี้ต้องขอบอกก่อนว่า จริงๆแล้วเราเป็นคนไม่ชอบ skin care ที่ผสมน้ำหอม แต่ว่าโฟมล้างหน้าตัวนี้ถือเป็นโฟมล้างหน้าที่ผสมน้ำหอมที่เราขาดไม่ด้ายยยยยย เคยเปลี่ยนไปใช้แบบอื่นยี่ห้ออื่นมาหลายครั้งหลายครา แต่ก็ต้องกลับมาใช้ตัวนี้ เพราะเป็นโฟมล้างหน้าที่ล้างหน้าได้สะอาดเกลี้ยงเกลามาก เราเป็นคนไม่ชอบใช้ Cleanser หรือ Toner ใดใดทั้งสิ้น เพราะใช้ทีไรแล้วก็แพ้ เราเลยต้องล้างหน้าด้วยโฟมอย่างเดียว โฟมตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเยี่ยม และยิ่งถ้าใช้คู่กับแปรงขัดหน้าด้วยแล้วล่ะก็ เลิศ!
ให้คะแนน 10/10 เราใช้โฟมตัวนี้นับเวลาแล้วก็น่าจะ 5 ปี เพราะฉนั้นไม่ต้องนับแล้วว่าใช้ไปกี่หลอด เพราะนับไม่ถ้วน ซื้อต่อไปจนกว่าเค้าจะเลิกผลิต
ตัวที่หก SK II ตัวดังของห้องแป้งงงงง
น้ำ Pitera Essence ตัวนี้ถือว่าช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้จริงค่ะ แต่สำหรับเรา ใช้กับหน้าไม่ได้ เพราะใช้ทีไรแล้วสิวขึ้น เพื่อนๆคงจะสงสัยใช้มั๊ย แล้วจะรีวิวทำบ้าอะไร ก็เราเอามาใช้กับคอไงคะ คือซื้อมาซะขวดบะเหิ่มขนาดนี้ เสียดายไงคะ เราก็ดัดแปลงไปใช้ที่คอ หน้าอก มือ แขน ปรากฎว่าทุกส่วนที่เราใช้ ขาวกระจ่างใสดีค่ะ ยกเว้นที่หน้า แต่เอ..จะว่าไป อันที่จริงตอนใช้ หน้ากระจ่างใสขึ้นนิดนึงนะ แต่ว่ายังใสไม่ถึงไหนก็นำพาสิวมาด้วยนี่ซิ เสียดายมากที่ใช้กับหน้าเราไม่ได้ อิจฉาคนที่ใช้เจ้านี่แล้วwork จังเลย ฮือๆ T____T
ให้คะแนน 8/10 ด้วยความที่ไม่ work กับหน้าเรา และด้วยราคาที่เรียกว่าไฮโซเป็นอย่างมาก เราคงไม่ซื้อต่อแล้วค่ะ
เย้..ตัวสุดท้ายแล้ว แปรงขัดหน้าไฟฟ้า Clarisonic
ตัวนี้ขอนำเสนอเลยค่ะ แนะนำมากๆ อย่างที่เราบอกไว้เมื่อข้างต้น คือเราไม่สามารถที่จะหา Toner หรือ Cleanser ที่ใช้แล้วไม่แพ้ได้ เราจึงต้องทำความสะอาดหน้าให้เกลี้ยงเกลาในขั้นเดียว คือตอนล้างหน้าเท่านั้น เจ้านี่ช่วยชีวิตเราไว้อีกแล้วค่ะพี่น้อง มีหัวแปรงให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ คือ Acne, Deep Pore, Delicate, Normal และ Body brush ในรูปอันที่ติดอยู่กับตัวแปรงคือ Deep Pore อันบนที่วางไว้ข้างๆตัวแปรงคือ Delicate และ อันล่างคือ Body brush ค่ะ ตอนแรกที่เราจะซื้อมาใช้ก็ตัดสินใจอยู่นานมาก เพราะราคาโฮโซสุดๆ เรียกว่ากัดฟันซื้อกันเลยทีเดียว ตอนที่เราซื้อจริงๆมี Normal brush แถมมาด้วย แต่เรายกให้แม่ไปแล้ว เราเริ่มต้นใช้แปรงนี้จากหัวแปรงแบบ Delicate ค่ะ เพราะเราเป็นโรคกลัวเครื่องมืออะไรแบบนี้อ่ะค่ะ กลัวว่ามันจะรุนแรงกับหน้าเราเกินไป แต่คนขายเค้าก็บอกไว้ว่ามันอ่อนโยนมากๆ ใช้ได้ทุกวัน เรารู้สึกชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยนะ รู้สึกว่าหน้าสะอาดกว่าล้างแบบธรรมดามากๆ และไม่ได้รู้สึกว่าผิวหน้าโดนทำร้ายแต่อย่างใด อ่อนโยนจริงอย่างที่เค้าว่า นี่เราใช้มา 2 ปีกว่าแล้ว ช่วงหล้งเค้าออกหัวแปรง Acne กับ Deep Pore มาขาย เราเห็นว่าหนังหน้าเรามันด้านแปรงแล้ว ประกอบกับหัวแปลงที่ใช้อยู่มันเริ่มเก่า เลยลองซื้อแบบ Deep Pore มาใช้ ก็รู้สึกสะอาดดีค่ะ รูขุมขนสะอาดขึ้นนิดนึงมั๊ง คริ คริ
ให้คะแนน 10/10 ชอบมาก จะใช้ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจ๊ง ถึงเจ๊งแล้วก็จะซื้อใหม่ค่ะ