ชั้นประหยัด
1. การบินไทย เสิร์ฟเป็น snack box มี เบเกอรี่ น้ำส้ม น้ำเปล่าเป็นกระปุกในเซ็ท
และมี ชา-กาแฟ มะนาวฝาน น้ำส้ม ให้บริการตลอด ระยะห่างของแถว (Seat Pitch) กว้างกว่ามาตรฐานเครื่องการบินไทย
มีเครื่องบินขนาดกลาง-ใหญ่ให้เลือกตามใจชอบ ถ้าเส้นทางสำคัญก็ครบสูตรเลยตั้งแต่ ป้า A300-600, A330-300, B777 ยัน B747-400 เหลือแต่ A380 ที่ไม่ได้บินในประเทศนั่นแลครับ ....
2. ไทยสมายล์ (ชั้นประหยัด) เสิร์ฟเป็น smile pack มี ขนม 1 ชิ้น และน้ำดื่ม 1 ขวด จบข่าว ...... นอกนั้นก็ซื้อเพิ่มได้ตามอัธยาศัย
อารมณ์จะเหมือนกับนกแอร์ คือ มีน้ำดื่มและมีของว่างให้แล้วก็จบ นอกนั้นก็คือขายของ ที่นั่งจะคล้ายกับแอร์เอเชีย ระยะห่างแถวค่อนข้างแออัดพอๆ กัน A320 เหมือนกัน
ลองดูกระทู้นี้ประกอบกันได้ครับ http://www.hflight.net/forums/topic/10084-/

ชั้นนักธุรกิจ
1. การบินไทย เส้นทางหลัก ยังคงให้บริการอาหารร้อน เสิร์ฟเป็นถาดเต็มรูปแบบ ส่วนเส้นทางรองอาจเป็นแค่กลุ่มของว่างเท่านั้น
มีเครื่องดื่มก่อนออกเดินทาง และมีเครื่องดื่มอื่นๆ ให้บริการตามปกติ บนที่นั่งขนาดใหญ่ของชั้นนักธุรกิจ
2. ไทยสมายล์ (Smile Plus) เสิร์ฟเป็น ของว่างและเครื่องดื่ม พร้อมให้บริการเครื่องดื่มก่อนออกเดินทาง แต่ที่นั่งจะเป็นแบบชั้นประหยัดจัด 3-3 ใน 5 แถวแรกสุดของเครื่อง โดยเว้นที่นั่งตรงกลางให้ (มาตรฐานยุโรป) ลองดูกระทู้รีวิวนี้นะครับ คุณ Amakung ทำไว้ละเอียดมากๆ http://www.hflight.net/forums/topic/10583-/

เรื่องของสัตว์เลี้ยง
1. การบินไทย อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงโหลดใต้ท้องเครื่องได้ กรณีสัตว์เลี้ยง+กระเป๋าน้ำหนักรวมไม่เกิน 10 กิโลกรัม สามารถหิ้วขึ้นเครื่องบนเคบินไปนั่งกับผู้โดยสารได้โดยต้องไปติด Tag กระเป๋าและชำระค่าระวางตามปกติ
2. ไทยสมายล์ ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงโหลดใต้ท้องเครื่อง หรือขึ้นบนเคบิน ในทุกกรณี

นอกนั้น การบริการภาคพื้นเหมือนๆ กับการบินไทย
1. ได้ไมล์สะสมเหมือนกัน ชั้นประหยัดได้ 500 ไมล์ (เชียงใหม่-ภูเก็ต ได้ 738 ไมล์)
2. โหลดสัมภาระได้ 20 กิโลกรัม เลือกที่นั่งฟรี เปลี่ยนแปลงเที่ยวบินได้ตามเงื่อนไขของตั๋ว
3. พนักงานที่ให้บริการภาคพื้นก็คือการบินไทย รุ่นใหญ่นั่นเอง ..... (แต่อาจจมีช่องแยกออกไป)
4. ชั้นนักธุรกิจ โหลดสัมภาระได้ 30 กิโลกรัม เข้าใช้เล้าจน์ Royal Silk ได้ ถ้าเป็นสมาชิกบัตรทอง Star Alliance ก็เข้าเล้าจน์ได้ตามปกติ