หัวกระทู้ก็แอบจั่วไว้แล้วนะ ว่าแอบหลงรักคนเขียน *O* หนังรักๆ กับผู้หญิงผมว่ามันมักเป็นของคู่กัน ผมจะสังเกตตัวเองในหลายๆ ครั้งแล้วเอามาอนุมานสรุปเองได้ว่า หนังรักๆ มักทำให้ผมเห็นอีกมุมของผู้หญิงที่ดูหนัง เห็นความน่ารักๆ เห็นความช่างจำนรรจา เห็นถึงการมองภาพในสายตาของผู้หญิง และอีกหลายๆ มุมที่จะเกิดในแต่ละโอกาส และในแต่หนังว่าเป็นเรื่องไหน อารมณ์ผู้หญิงที่ดูก็จะต่างกันไป มุมองแ่ต่ละครั้งก็จะต่างกันออกไป ผมชอบความรู้สึกแบบนี้จริงๆ ชอบที่ได้อ่านความคิดเหล่านั้นจากผู้หญิง และทำให้ผมอาจคิดไปเองได้ว่า พอผมอ่านผมจะเข้าใจผู้หญิงได้มากขึ้น
กระทู้นี้อาจไม่ได้เกี่ยวกับการพูดถึงหนังรัก โรแมนติก หวานฉ่ำ UpSide Down เรื่องนี้ โดยตรง แต่ผมตั้งขึ้นเพื่อแอบอ่านเพื่อฟังเสียงของผู้หญิงเหล่านั้นที่ไปดูหนังรักโรแมนติกแบบนี้ มันทำให้ผมได้เห็นอะไรๆ มากขึ้น และที่สำคัญมันทำให้ผมได้คิดบวกมากขึ้น แม้ว่าผู้หญิงบางคนในชีวิตผมที่ไปดูหนังรักโรแมนติกแล้วกลับมาบอกเลิกกับผม ผมก็เชื่อในท้ายที่สุดว่า เธอมีเหตุผลในการจากไปที่ผมควรให้เธอไป กับคนที่เธอไปดูหนังรักโรแมนติกเรื่องนั้นด้วย /ก็แค่ผมอาจไม่ว่างไปดูด้วยก็แค่นั้นเอง/
ลองอ่านดูครับ ผมขออนุญาต แปะ ลิงค์รีวิวนะครับ
http://ohnana.exteen.com/20130110/review-upside-down บางทีคุณๆ อาจหลงรักสิ่้งที่เธอเขียนแบบผมก็ได้นะครับ
**********----------------------------------------------------*****************************
กลับมารีวิวหนังอีกแล้ววว เย้ วันนี้ได้ไปดูหนังมาตั้งแต่วันแรกที่มันเข้า (ปกติไม่ใช่คนชอบดูหนังเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้อยากดูและมีจังหวะ เลยได้ไปดูเร็ว ฮ่าๆ) เรื่อง Upside Down หรือในชื่อภาษาไทย นิยามรักปฏิวัติสองโลก... ชอบชื่อเรื่องนะ ฟังดูยิ่งใหญ่มีพลังดี
ขอบอกก่อนว่าเรื่องนี้เราดู Trailer ก่อนไปดู และชอบพระเอก (Jim Sturgess) อยู่แล้วเป็นทุนเดิม ทำให้เราคาดหวังกับเรื่องนี้ค่อนข้างมากทีเดียว ดังนั้น ตอนที่เราไปดู ก็จะเต็มไปด้วยข้อมูลต่างๆ มากมาย และความคาดหวังเต็มกระเป๋า ขอบอกว่าพล็อตของมันโดนใจเรามากตั้งแต่ได้ดู Trailer ครั้งแรก
เรื่องราวของมันประมาณว่า ณ จุดๆ หนึ่งในจักรวาลที่กว้างใหญ่ มีสถานที่ซึ่งเป็นดวงดาวที่มีแรงโน้มถ่วง 2 ข้าง (double gravity) คือจากด้านล่างแบบปกติเหมือนโลกเรา แต่แทนที่บนท้องฟ้าจะเป็นท้องฟ้า กลับมีโลกอีกฝั่งซึ่งกลับหัวอยู่ข้างบน! ทั้งสองโลกนี้ไม่ถูกกัน โดยที่โลกข้างบนนั้นเป็นฝั่งที่มีอำนาจมากกว่า
และแน่นอน จากชื่อเรื่อง...เรื่องนี้เกี่ยวกับความรักค่ะ เป็นความรักของคนสองคนที่อยู่คนละฝั่งของแรงโน้มถ่วงนี่เอง
Trailer หนังค่ะ
"เฮ้ เธอชื่ออะไร?"
"ฉันคุยกับเธอไม่ได้..."
"ทำไมล่ะ?"
"ก็เธอมาจากโลกข้างล่าง..."
แค่คอนเซปต์นี้และภาพสวยๆ งามๆ ของสองโลก...และเพราะหน้าตาหล่อๆ ของคุณพระเอก อิๆ...ก็พอแล้วที่จะทำให้เราเสียเงินค่าตั๋วไปดูในโรงหนังอย่างไม่ลังเล ถึงจะมีหลายจุดที่ไม่ชอบเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เกิดจากการที่หนังมันสั้นไป (เราคุยกับเพื่อนแบบขำๆ ว่างบคงหมด เลยจบแค่นี้) แต่หนังก็มีคอนเซปต์หลายอย่างที่น่าสนใจ แอบมี symbol เล็กๆ ให้ได้ขบคิดด้วย เก๋เชียว ถือว่าดูได้เพลินๆ นะ
ดูแล้วคงจะเข้าใจ ว่าแรงโน้มถ่วงไม่ได้ทำให้คนเราตกหลุมรักใคร
ให้ 7/10 ค่ะ
จุดที่เราไม่ชอบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เช่น
1. ความไวของเรื่องแหละอย่างแรก เปิดเรื่องมาโดยที่ยังไม่ทำให้คนดูผูกพันกับตัวละครเลยก็รีบเริ่มซะแล้ว จริงๆ ถึงเรื่องจะสเกลใหญ่ขนาดนี้ แต่เวลาก็ไม่ได้น้อยขนาดนั้นนะ ตรงจุดนี้ เราให้ screenplay สอบตกเลยอ่ะ ถ้าจะรีบขนาดนี้ ไม่ต้องทำก็ได้ เสียดายหนัง (หรืองบจะหมดจริงๆ)
2. หนังมีการเปิดประเด็นหลายประเด็น ความเป็น dystopia ที่ขนานไปกับ utopia (ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่มันเป็นคำตรงข้ามกัน) คือโลกที่กันดารแร้นแค้นและต้องอยู่อย่างยากลำบาก กับโลกบนฟ้าที่งดงามดั่งสรวงสวรรค์ (นางเอกชื่ออีเด็นด้วย มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์อย่างชัดเจนมาก ถ้าเราต้องแต่งเรื่องนี้แล้วมีนางรอง เราจะให้ชื่ออีฟ) แต่กลับไม่ได้เล่นประเด็นนี้เท่าไหร่ น่าเสียดายมากจริงๆ ปกติแล้วทุกเรื่องแนวนี้ที่เราอ่าน มันจะต้องมีฉากปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ มีการต่อสู้และตกลงเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกทั้งสอง บลาๆๆ แต่เรื่องนี้กลับไม่มี แถมยังไม่ชัดเจนอีกด้วยว่าทำไมความรักของพระนางจึงเป็นเหตุให้โลกมันเปลี่ยนไปในตอนท้าย น่าเสียดายมากที่สุด เหมือนกับว่า พาคนดูลงเรือไปกลางมหาสมุทรแล้ว กลับถีบตกน้ำซะเฉยเลย
3.แอบ racist หรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ทำไมโลกข้างบนมีแต่คนขาว ในขณะที่ข้างล่างมีคนดำ อย่างว่าแหละ ความคิดพวกนี้มันฝังหัวในหนังฮอลลีวู้ดมานานแล้ว หรือบางทีเราอาจจะคิดมากไปเอง พูดถึงตัวละครคนผิวสีที่อยู่โลกข้างล่าง (รู้สึกจะชื่ออัลเบิร์ต) เรารู้สึกว่าตัวละครนี้ค่อนข้างแบน รวมถึงเพื่อนพระเอกอีกคนด้วย (รู้สึกจะชื่อทาโบล) คือออกมาฉากแรก เป็นฉากอารมณ์เลยด้วยซ้ำไป ซึ่งสำหรับคนดู มันไวไปจริงๆ นะ
4.ฉากจูบเยอะไป เหมือนพระนางไม่ค่อยได้คุยกัน จูบกันตลอดๆ ชิ นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คนดูไม่รู้สึกผูกพันก็ได้นะ
5.เราว่าหนังมีปัญหาเรื่อง genre นะ คือเป็นหนังรัก ที่คนชอบแนวรักอาจจะไม่เอ็นจอย และเป็นหนังไซไฟ ที่คนชอบไซไฟอาจจะยี้ กรณี genre ไม่ชัดเจนนี้ เคยทำให้ cloud atlas บึ้มมาแล้ว มารอดูกันว่าหนังทุนสร้างห้าสิบล้าน us dollar นี้จะบึ้มตามไปมั้ย (เราว่าน่าจะได้เสียงยี้จากนักวิจารณ์ไม่น้อยเลยทีเดียว ลำพังเราชอบหนังแนวนี้อยู่แล้ว เรายังว่ามันขาดๆ เกินๆ เลย)
[Review] Upside Down หนังรักฟอร์มยักษ์ กับแรงโน้มถ่วงที่ไม่ได้ทำให้คนเราตกหลุมรัก <--อ่านรีวิวนี้แล้วหลงรักคนเขียน
กระทู้นี้อาจไม่ได้เกี่ยวกับการพูดถึงหนังรัก โรแมนติก หวานฉ่ำ UpSide Down เรื่องนี้ โดยตรง แต่ผมตั้งขึ้นเพื่อแอบอ่านเพื่อฟังเสียงของผู้หญิงเหล่านั้นที่ไปดูหนังรักโรแมนติกแบบนี้ มันทำให้ผมได้เห็นอะไรๆ มากขึ้น และที่สำคัญมันทำให้ผมได้คิดบวกมากขึ้น แม้ว่าผู้หญิงบางคนในชีวิตผมที่ไปดูหนังรักโรแมนติกแล้วกลับมาบอกเลิกกับผม ผมก็เชื่อในท้ายที่สุดว่า เธอมีเหตุผลในการจากไปที่ผมควรให้เธอไป กับคนที่เธอไปดูหนังรักโรแมนติกเรื่องนั้นด้วย /ก็แค่ผมอาจไม่ว่างไปดูด้วยก็แค่นั้นเอง/
ลองอ่านดูครับ ผมขออนุญาต แปะ ลิงค์รีวิวนะครับ http://ohnana.exteen.com/20130110/review-upside-down บางทีคุณๆ อาจหลงรักสิ่้งที่เธอเขียนแบบผมก็ได้นะครับ
**********----------------------------------------------------*****************************
กลับมารีวิวหนังอีกแล้ววว เย้ วันนี้ได้ไปดูหนังมาตั้งแต่วันแรกที่มันเข้า (ปกติไม่ใช่คนชอบดูหนังเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้อยากดูและมีจังหวะ เลยได้ไปดูเร็ว ฮ่าๆ) เรื่อง Upside Down หรือในชื่อภาษาไทย นิยามรักปฏิวัติสองโลก... ชอบชื่อเรื่องนะ ฟังดูยิ่งใหญ่มีพลังดี
ขอบอกก่อนว่าเรื่องนี้เราดู Trailer ก่อนไปดู และชอบพระเอก (Jim Sturgess) อยู่แล้วเป็นทุนเดิม ทำให้เราคาดหวังกับเรื่องนี้ค่อนข้างมากทีเดียว ดังนั้น ตอนที่เราไปดู ก็จะเต็มไปด้วยข้อมูลต่างๆ มากมาย และความคาดหวังเต็มกระเป๋า ขอบอกว่าพล็อตของมันโดนใจเรามากตั้งแต่ได้ดู Trailer ครั้งแรก
เรื่องราวของมันประมาณว่า ณ จุดๆ หนึ่งในจักรวาลที่กว้างใหญ่ มีสถานที่ซึ่งเป็นดวงดาวที่มีแรงโน้มถ่วง 2 ข้าง (double gravity) คือจากด้านล่างแบบปกติเหมือนโลกเรา แต่แทนที่บนท้องฟ้าจะเป็นท้องฟ้า กลับมีโลกอีกฝั่งซึ่งกลับหัวอยู่ข้างบน! ทั้งสองโลกนี้ไม่ถูกกัน โดยที่โลกข้างบนนั้นเป็นฝั่งที่มีอำนาจมากกว่า
และแน่นอน จากชื่อเรื่อง...เรื่องนี้เกี่ยวกับความรักค่ะ เป็นความรักของคนสองคนที่อยู่คนละฝั่งของแรงโน้มถ่วงนี่เอง
Trailer หนังค่ะ
"เฮ้ เธอชื่ออะไร?"
"ฉันคุยกับเธอไม่ได้..."
"ทำไมล่ะ?"
"ก็เธอมาจากโลกข้างล่าง..."
แค่คอนเซปต์นี้และภาพสวยๆ งามๆ ของสองโลก...และเพราะหน้าตาหล่อๆ ของคุณพระเอก อิๆ...ก็พอแล้วที่จะทำให้เราเสียเงินค่าตั๋วไปดูในโรงหนังอย่างไม่ลังเล ถึงจะมีหลายจุดที่ไม่ชอบเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เกิดจากการที่หนังมันสั้นไป (เราคุยกับเพื่อนแบบขำๆ ว่างบคงหมด เลยจบแค่นี้) แต่หนังก็มีคอนเซปต์หลายอย่างที่น่าสนใจ แอบมี symbol เล็กๆ ให้ได้ขบคิดด้วย เก๋เชียว ถือว่าดูได้เพลินๆ นะ
ดูแล้วคงจะเข้าใจ ว่าแรงโน้มถ่วงไม่ได้ทำให้คนเราตกหลุมรักใคร
ให้ 7/10 ค่ะ
จุดที่เราไม่ชอบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้