สวัสดีทุกๆ ท่านค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอโทษ เพื่อนๆ พี่ทุกท่าน หากบางท่านคิดว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับผีผนันนะคะ แต่ตอนนี้มีเรื่องกลุ้มใจมาก เพราะไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร คือว่า รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งในบ่อนการพนันแถวชายแดนเมื่อปีที่แล้ว อายุประมาณ 30 ต้นๆ เล่นการพนันได้เสียครั้งละเป็นแสนๆ และไปทุกเสาร์-อาทิตย์ จนใครๆ ในที่นั้นรู้จักเป็นอย่างดี เรียกว่าเป็น "ขาใหญ่" เลยทีเดียว พอเริ่มรู้จักกันมากขึ้น ก็เริ่มมีการยืมเงินเพื่อเล่นต่อ เพราะเสีย จากยืมหลักหมื่น ก็เป็นหลักแสน จนถึงสูงสุดเกือบล้าน แต่เธอคนนี้ มีเครดิตดีมากๆ เพราะยืมวันเสาร์-อาทิตย์ พอกลับมา กทม ก็คืนเงินทันที ในวัน จันทร์หรืออังคาร ทำให้เราเริ่มไว้ใจว่า เธอมีเงินมากมายจริงๆ เพราะเสียทุกอาทิตย์ แต่ไม่ได้สนใจที่มาของเงินเลย เพราะลักษณะท่าทาง ผิวพรรณ ดูดีมาก เหมือนคนมีฐานะ ใส่เพชรเป็นเครื่องประดับติดตัวอยู่ตลอดเวลา และไม่มีอาการเสียดายเงินมากมาย อย่างที่ควรจะเป็น
ต่อมารู้จักกันมากขึ้น เราก็เริ่มรู้ว่า เธอเป็นเพียงพนักงานระดับปฏิบัติการของบริษัทฯ ใหญ่แห่งหนึ่ง มีรายได้เพียงด้านเดียวจากเงินเดือนประจำเพียงแค่ 30,000 บาท แต่ต้องผ่อนรถเดือนละ 10,000 กว่าบาท อาศัยบ้านของคนรู้จัก (ไม่ใช่ญาติ แต่เป็นเจ้านาย ที่สูงอายุของญาติห่างๆ ของสามี) ในย่านที่ดินราคาแพง แต่ทำให้ใครๆเข้าใจว่าเป็นบ้านของญาติที่เธอรอรับมรดก สรุปคือ ในโลกของความเป็นจริง ผู้หญิงคนนี้ ไม่มีอะไรเลย และไม่ใช่คนมีเงิน มีมรดก มีทรัพย์สิน อย่างที่เธอสร้างภาพ จึงทำให้เรามั่นใจว่า เธอคือนักพนัก และผีพนันได้เข้าสิงเธอแล้ว เพราะเวลาที่เธอเล่นได้เงินเป็นจำนวนมากๆ เธอก็ไม่หยุด และเล่นต่อจนเสียหมด ซึ่งบางครั้ง เงินที่เธอเคยเล่นพนันได้เป็นหลักล้าน แต่กลับบ้านด้วยเงินติดลบในกระเป๋าบ่อยครั้ง
ครั้งนึง เธอมายืมเงินเราอีก และสัญญาว่าจะใช้ให้เหมือนปกติ แต่คราวนี้ เราคาดคั้นถามว่าเอาเงินมาจากไหน และหากไม่บอกเรา เราจะเลิกคบ (เธอเล่นการพนันอยู่ในคาสิโนนั้นมานานแล้ว และมีประวัติชู้สาวกับพนักงานแจกไพ่ และใครๆ อีกมากมาย ทั้งที่มีสามี และลูกเล็ก อยู่บ้านจนไม่มีใครคบด้วย ซึ่งเราไม่ทราบเรื่องมาก่อน เพราะเพิ่งเข้ามาเล่นที่คาสิโนนี้ไม่นาน มาทราบทีหลังแต่ไม่สนใจ เพราะสงสารที่เธอเข้าบ่อนมาตั้งแต่ยังสาว ไม่มีสังคมดีๆ ไม่มีเพื่อน และเธอสัญญาว่าเธอจะไม่มีพฤติกรรมแบบนั้นอีก) เธอจึงยอมสารภาพว่า เธอทำงานในตำแหน่งด้านการเงิน และเป็นที่ไว้วางใจของเจ้านายมากๆๆๆ จนถึงขนาดเจ้านายเอาสมุดบัญชีเงินฝากส่วนตัว ทุกเล่มมาเก็บไว้ที่เธอ เพื่อให้เธอทำธุรกรรมเมื่อได้รับคำสั่ง ซึ่งบัญชีเหล่านั้นมีการหมุนเวียนของเงินเป็นจำนวนเยอะ หลักร้อยล้าน เพราะเล่นหุ้น สิ่งที่เธอทำคือ ปลอมแปลงลายเซ็นต์เจ้านาย โดยการตัดเศษหลักแสน ซึ่งหากไม่สังเกตุ จะไม่สามารถรู้ได้เลย (บางครั้งเป็นล้าน หากนายมีเงินเป็นหลักร้อยล้านนานๆ) แล้วไปเบิกเงินที่ธนาคาร ซึ่ง พนง. ธนาคารเมื่อเห็นเธอ ก็จะไม่มีคำถาม เพราะเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่การเงิน ของบริษัทฯ นี้ และเป็นตัวแทนบริษัทฯ ในการติดต่อกับธนาคารอยู่แล้ว แม้ในบางครั้ง เธอปลอมแปลงเอกสารแล้ว ให้ messenger ของบริษัทฯ ไปเบิกเงิน เมื่อธนาคารเห็นว่า ลายเซ็นต์ไม่เหมือน หรือแตกต่าง ก็จะโทรฯ หาเธอ และเธอก็จะเป็นผู้รับรองลายเซ็นต์นั้น ทางโทรศัพท์ ซึ่งเงินทั้งหมดเท่าที่เรานับย้อนหลังจากที่รู้จักกับเรา มันคงจะไม่ต่ำกว่า 5 ล้าน แล้วก่อนหน้าเราหล่ะ เราไม่อยากคิดเลย...
หลังจากที่เรารู้เรื่องนี้ เราตกใจมากกกกก จนทำไรไม่ถูก เราถามตัวเองตลอดว่า เป็นคนทำให้เค้าต้องทำแย่ๆ แบบนี้หรือเปล่า หรือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เค้าต้องทำร้ายตัวเอง และทำร้ายคนอื่นแบบนี้ จนเราต้องไปพบจิตแพทย์ และหลังจากนั้น เราตัดสินใจว่าจะไม่ให้เค้ายืมเงินอีก ไม่ใช่เป็นเพราะ กลัวเค้าไม่มีคืน แต่ไม่อยากให้เค้าทำผิดกฏหมาย ผิดต่อเจ้านายที่แสนจะดีกับเค้าและครอบครัวของเค้าตลอดการทำงานสิบกว่าปีที่ผ่านมาของเค้า
แต่เราก็ใจอ่อนที่เจอหน้าเค้าอีก วันต่อมาเค้าเล่นเสียจนหมดตัว (เหมือนทุกครั้ง) เค้าบอกว่าขอยืมเงินเราไป 100,000 เพื่อไปไถ่สร้อยทองที่แม่ให้ไว้ก่อนเสีย มันเป็นสมบัติชิ้นเดียวของเค้าที่พ่อแม่ให้ไว้ (พ่อแม่ และพี่ชายตายหมดบ้าน) และสัญญากับว่า เค้าจะกลับตัว จะเลิกเล่นการพนันเด็ดขาด จะอยู่ดูแลลูกเล็ก และไม่ยักยอกเงินนายอีกเป็นอันขาด เราจึงให้ยืมอีกครั้ง และบอกว่า ให้ผ่อนใช้ก็ได้ เราสงสารว่า ลูกเค้ายังเล็ก และตัวเค้าก็ติดการพนันงอมแงม (เราเองก็เล่นได้ เยอะมากในวันนั้น) จึงคิดว่าเงินนี้ หากเค้าไม่คืน ก็ถือว่าเราเอาเงินที่ได้จากการพนัน ทำบุญสงเคราะห์ คนที่เค้ากลับตัวกลับใจก็แล้วกัน
แต่มันไม่เป็นอย่างที่เราคิด เค้าเอาเงินก้อนนั้นไปเล่นต่อ และหมดในอีกไม่ถึง ครึ่งชม. และก็กลับมาเป็นนักเล่นอีกเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราจึงตัดสินใจเลิกคบเด็ดขาด (เค้าคืนเงินเราครบเต็มจำนวนแล้ว ในไม่กี่วันถัดมา) แต่ความรู้สึกแย่ๆ ที่ตัวเรารู้เรื่องที่เค้าทำผิด มันติดอยูในความคิด สลัดไม่หลุด ทุกครั้งที่เรารู้ว่าเค้าเสียเงินเยอะมากๆ เราก็รู้สึกตัวเองแย่มากๆ ที่รู้ว่าเงินที่เค้ายักยอกมาจากเจ้านาย ซึ่งนายเค้าก็คงหามาด้วยความยากลำบาก ถูกเค้าถลุงในบ่อนอีกมากมาย รวมถึงเราเสียใจที่เราไม่สามารถช่วยเค้าให้หลุดพ้นจากการพนันได้ และหลังจากที่เราเลิกคบ เค้าก็กลับไปเอาเด็กแจกไพ่ ไปนอนด้วยและมีข่าวฉาวโฉ่อีก
ถ้าคุณเป็นเรา คุณจะทำอย่างไรดี ระหว่าง ช่างมัน กรรมใคร กรรมมัน หรือว่า....
ปล. จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เรา "หยุด" เล่นการพนัน เด็ดขาด เพราะกลัวว่า วันนึง เราจะเป็นแบบเค้า เราจะสูญเสียทุกๆอย่างในชีวิตไป แบบที่เค้ากำลังจะเป็น...(หรืออาจจะไม่เป็นไร..ถ้านายไม่รู้..และเราก็เชื่อว่า นายไม่มีวันรู้ เพราะไว้ใจเค้ามาก และยอดเงินในบัญชีก็เช็คไม่ได้ ถ้าไม่ได้ดูสมุดคู่ฝากทุกวัน....เฮ่อ..กรรม)
รู้เรื่องเพื่อนยักยอกเงินเจ้านายเป็นล้านๆ ไปเล่นการพนัน แต่สับสนไม่รู้ต้องทำยังไงดี ระหว่างนิ่งเฉย กับบอกนาย
ก่อนอื่นต้องขอโทษ เพื่อนๆ พี่ทุกท่าน หากบางท่านคิดว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับผีผนันนะคะ แต่ตอนนี้มีเรื่องกลุ้มใจมาก เพราะไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร คือว่า รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งในบ่อนการพนันแถวชายแดนเมื่อปีที่แล้ว อายุประมาณ 30 ต้นๆ เล่นการพนันได้เสียครั้งละเป็นแสนๆ และไปทุกเสาร์-อาทิตย์ จนใครๆ ในที่นั้นรู้จักเป็นอย่างดี เรียกว่าเป็น "ขาใหญ่" เลยทีเดียว พอเริ่มรู้จักกันมากขึ้น ก็เริ่มมีการยืมเงินเพื่อเล่นต่อ เพราะเสีย จากยืมหลักหมื่น ก็เป็นหลักแสน จนถึงสูงสุดเกือบล้าน แต่เธอคนนี้ มีเครดิตดีมากๆ เพราะยืมวันเสาร์-อาทิตย์ พอกลับมา กทม ก็คืนเงินทันที ในวัน จันทร์หรืออังคาร ทำให้เราเริ่มไว้ใจว่า เธอมีเงินมากมายจริงๆ เพราะเสียทุกอาทิตย์ แต่ไม่ได้สนใจที่มาของเงินเลย เพราะลักษณะท่าทาง ผิวพรรณ ดูดีมาก เหมือนคนมีฐานะ ใส่เพชรเป็นเครื่องประดับติดตัวอยู่ตลอดเวลา และไม่มีอาการเสียดายเงินมากมาย อย่างที่ควรจะเป็น
ต่อมารู้จักกันมากขึ้น เราก็เริ่มรู้ว่า เธอเป็นเพียงพนักงานระดับปฏิบัติการของบริษัทฯ ใหญ่แห่งหนึ่ง มีรายได้เพียงด้านเดียวจากเงินเดือนประจำเพียงแค่ 30,000 บาท แต่ต้องผ่อนรถเดือนละ 10,000 กว่าบาท อาศัยบ้านของคนรู้จัก (ไม่ใช่ญาติ แต่เป็นเจ้านาย ที่สูงอายุของญาติห่างๆ ของสามี) ในย่านที่ดินราคาแพง แต่ทำให้ใครๆเข้าใจว่าเป็นบ้านของญาติที่เธอรอรับมรดก สรุปคือ ในโลกของความเป็นจริง ผู้หญิงคนนี้ ไม่มีอะไรเลย และไม่ใช่คนมีเงิน มีมรดก มีทรัพย์สิน อย่างที่เธอสร้างภาพ จึงทำให้เรามั่นใจว่า เธอคือนักพนัก และผีพนันได้เข้าสิงเธอแล้ว เพราะเวลาที่เธอเล่นได้เงินเป็นจำนวนมากๆ เธอก็ไม่หยุด และเล่นต่อจนเสียหมด ซึ่งบางครั้ง เงินที่เธอเคยเล่นพนันได้เป็นหลักล้าน แต่กลับบ้านด้วยเงินติดลบในกระเป๋าบ่อยครั้ง
ครั้งนึง เธอมายืมเงินเราอีก และสัญญาว่าจะใช้ให้เหมือนปกติ แต่คราวนี้ เราคาดคั้นถามว่าเอาเงินมาจากไหน และหากไม่บอกเรา เราจะเลิกคบ (เธอเล่นการพนันอยู่ในคาสิโนนั้นมานานแล้ว และมีประวัติชู้สาวกับพนักงานแจกไพ่ และใครๆ อีกมากมาย ทั้งที่มีสามี และลูกเล็ก อยู่บ้านจนไม่มีใครคบด้วย ซึ่งเราไม่ทราบเรื่องมาก่อน เพราะเพิ่งเข้ามาเล่นที่คาสิโนนี้ไม่นาน มาทราบทีหลังแต่ไม่สนใจ เพราะสงสารที่เธอเข้าบ่อนมาตั้งแต่ยังสาว ไม่มีสังคมดีๆ ไม่มีเพื่อน และเธอสัญญาว่าเธอจะไม่มีพฤติกรรมแบบนั้นอีก) เธอจึงยอมสารภาพว่า เธอทำงานในตำแหน่งด้านการเงิน และเป็นที่ไว้วางใจของเจ้านายมากๆๆๆ จนถึงขนาดเจ้านายเอาสมุดบัญชีเงินฝากส่วนตัว ทุกเล่มมาเก็บไว้ที่เธอ เพื่อให้เธอทำธุรกรรมเมื่อได้รับคำสั่ง ซึ่งบัญชีเหล่านั้นมีการหมุนเวียนของเงินเป็นจำนวนเยอะ หลักร้อยล้าน เพราะเล่นหุ้น สิ่งที่เธอทำคือ ปลอมแปลงลายเซ็นต์เจ้านาย โดยการตัดเศษหลักแสน ซึ่งหากไม่สังเกตุ จะไม่สามารถรู้ได้เลย (บางครั้งเป็นล้าน หากนายมีเงินเป็นหลักร้อยล้านนานๆ) แล้วไปเบิกเงินที่ธนาคาร ซึ่ง พนง. ธนาคารเมื่อเห็นเธอ ก็จะไม่มีคำถาม เพราะเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่การเงิน ของบริษัทฯ นี้ และเป็นตัวแทนบริษัทฯ ในการติดต่อกับธนาคารอยู่แล้ว แม้ในบางครั้ง เธอปลอมแปลงเอกสารแล้ว ให้ messenger ของบริษัทฯ ไปเบิกเงิน เมื่อธนาคารเห็นว่า ลายเซ็นต์ไม่เหมือน หรือแตกต่าง ก็จะโทรฯ หาเธอ และเธอก็จะเป็นผู้รับรองลายเซ็นต์นั้น ทางโทรศัพท์ ซึ่งเงินทั้งหมดเท่าที่เรานับย้อนหลังจากที่รู้จักกับเรา มันคงจะไม่ต่ำกว่า 5 ล้าน แล้วก่อนหน้าเราหล่ะ เราไม่อยากคิดเลย...
หลังจากที่เรารู้เรื่องนี้ เราตกใจมากกกกก จนทำไรไม่ถูก เราถามตัวเองตลอดว่า เป็นคนทำให้เค้าต้องทำแย่ๆ แบบนี้หรือเปล่า หรือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เค้าต้องทำร้ายตัวเอง และทำร้ายคนอื่นแบบนี้ จนเราต้องไปพบจิตแพทย์ และหลังจากนั้น เราตัดสินใจว่าจะไม่ให้เค้ายืมเงินอีก ไม่ใช่เป็นเพราะ กลัวเค้าไม่มีคืน แต่ไม่อยากให้เค้าทำผิดกฏหมาย ผิดต่อเจ้านายที่แสนจะดีกับเค้าและครอบครัวของเค้าตลอดการทำงานสิบกว่าปีที่ผ่านมาของเค้า
แต่เราก็ใจอ่อนที่เจอหน้าเค้าอีก วันต่อมาเค้าเล่นเสียจนหมดตัว (เหมือนทุกครั้ง) เค้าบอกว่าขอยืมเงินเราไป 100,000 เพื่อไปไถ่สร้อยทองที่แม่ให้ไว้ก่อนเสีย มันเป็นสมบัติชิ้นเดียวของเค้าที่พ่อแม่ให้ไว้ (พ่อแม่ และพี่ชายตายหมดบ้าน) และสัญญากับว่า เค้าจะกลับตัว จะเลิกเล่นการพนันเด็ดขาด จะอยู่ดูแลลูกเล็ก และไม่ยักยอกเงินนายอีกเป็นอันขาด เราจึงให้ยืมอีกครั้ง และบอกว่า ให้ผ่อนใช้ก็ได้ เราสงสารว่า ลูกเค้ายังเล็ก และตัวเค้าก็ติดการพนันงอมแงม (เราเองก็เล่นได้ เยอะมากในวันนั้น) จึงคิดว่าเงินนี้ หากเค้าไม่คืน ก็ถือว่าเราเอาเงินที่ได้จากการพนัน ทำบุญสงเคราะห์ คนที่เค้ากลับตัวกลับใจก็แล้วกัน
แต่มันไม่เป็นอย่างที่เราคิด เค้าเอาเงินก้อนนั้นไปเล่นต่อ และหมดในอีกไม่ถึง ครึ่งชม. และก็กลับมาเป็นนักเล่นอีกเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราจึงตัดสินใจเลิกคบเด็ดขาด (เค้าคืนเงินเราครบเต็มจำนวนแล้ว ในไม่กี่วันถัดมา) แต่ความรู้สึกแย่ๆ ที่ตัวเรารู้เรื่องที่เค้าทำผิด มันติดอยูในความคิด สลัดไม่หลุด ทุกครั้งที่เรารู้ว่าเค้าเสียเงินเยอะมากๆ เราก็รู้สึกตัวเองแย่มากๆ ที่รู้ว่าเงินที่เค้ายักยอกมาจากเจ้านาย ซึ่งนายเค้าก็คงหามาด้วยความยากลำบาก ถูกเค้าถลุงในบ่อนอีกมากมาย รวมถึงเราเสียใจที่เราไม่สามารถช่วยเค้าให้หลุดพ้นจากการพนันได้ และหลังจากที่เราเลิกคบ เค้าก็กลับไปเอาเด็กแจกไพ่ ไปนอนด้วยและมีข่าวฉาวโฉ่อีก
ถ้าคุณเป็นเรา คุณจะทำอย่างไรดี ระหว่าง ช่างมัน กรรมใคร กรรมมัน หรือว่า....
ปล. จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เรา "หยุด" เล่นการพนัน เด็ดขาด เพราะกลัวว่า วันนึง เราจะเป็นแบบเค้า เราจะสูญเสียทุกๆอย่างในชีวิตไป แบบที่เค้ากำลังจะเป็น...(หรืออาจจะไม่เป็นไร..ถ้านายไม่รู้..และเราก็เชื่อว่า นายไม่มีวันรู้ เพราะไว้ใจเค้ามาก และยอดเงินในบัญชีก็เช็คไม่ได้ ถ้าไม่ได้ดูสมุดคู่ฝากทุกวัน....เฮ่อ..กรรม)