(แม้คืนทุนได้กำไรแล้วนิ)หุ้นINTUCH(พ่อAIS)ถูกซีดาร์เทขายออก10.3%(ไทยคมขายไม่ออก)ไทยคมเลยประกาศล้มละลาย เอ็มโฟน

( ไทยคมขายไม่ออก ) ไทยคมเลยประกาศล้มละลาย เอ็มโฟน ณ กัมพูชา( ผู้ให้บริการโครงข่ายบ้าน-มือถือ) (ยันไม่กระทบไทยคม)

ประเด็นหลัก


นายวุฒิ อัศวเสริมเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM แจ้งว่า บริษัท เชนนิงตันอินเวสเม้นท์ พีทีอี จำกัด (SHEN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และถือหุ้น 100% ในบริษัท เอ็มโฟน จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และโทรศัพย์ตามบ้านในประเทศกัมพูชา เข้าสู่กระบวนการล้มละลายตามกฎหมายกัมพูชา หลังไม่สามารถขายหุ้นทั้ง 100% ในเอ็มโฟนให้แก่ผู้ซื้อรายใหม่ได้ทันตามกำหนดภายในเดือน ม.ค.56
        
       โดยเงื่อนไขบังคับก่อนที่คู่สัญญาจะต้องดำเนินการเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ของเอ็มโฟน ไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จลงภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ได้ ทำให้ไม่สามารถขายหุ้นเอ็มโฟนให้แก่บริษัท อินท์ แมแนจเม้นท์ เซอร์วิสส์
       คอร์ปอเรชั่น จำกัด (INT) ได้ตามสัญญาก่อนหน้านี้ และฝ่ายบริหารของ SHEN มีข้อเสนอให้นำ เอ็มโฟน เข้าสู่กระบวนการล้มละลายตามกฎหมายของประเทศกัมพูชา

“การตัดสินใจของเชนนิงตันที่จะปิดกิจการของเอ็มโฟนจะไม่ส่งผลกระทบทางการเงิน อย่างมีสาระสำคัญต่องบการเงินรวมของไทยคม เพราะไทยคมได้ตั้งสำรองขาดทุนจากการด้อยค่าและสำรองค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้แล้วใน 9 เดือนแรกของปี 2555 อีกทั้งจะไม่ส่งผลกระทบต่องบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ที่มีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีผลกำไรเฉพาะกิจการถึง 609 ล้านบาท ใน 9 เดือนแรกของปี 2555 ที่ผ่านมา” นางศุภจี กล่าว


( แม้คืนทุนได้กำไรแล้วนิ ) หุ้นINTUCH(พ่อAIS)ถูกซีดาร์เทขายออก10.3%


นายสมประสงค์ บุญยะชัย กรรมการ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH แจ้งว่า บริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ INTUCH ได้ดำเนินการขายหุ้นบางส่วนที่ถืออยู่ในบริษัท เป็นจำนวน 330 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 10.3 ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท โดยขายให้แก่นักลงทุนไทยโดยประมาณในสัดส่วนร้อยละ 20 และบริษัทไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด
        
       สำหรับสัดส่วนที่เหลือของจำนวนหุ้นที่ขายภายหลังจากการขายหุ้นในครั้งนี้ เป็นผลให้ซีดาร์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท จำนวน 428,049,239 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13.3 ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท




______________________________


THCOM อ้างขายหุ้น “เอ็มโฟน” ไม่ทัน จนต้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย


บมจ.ไทยคม THCOM ปรับแผนนำบริษัท เอ็มโฟน จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และโทรศัพท์ตามบ้านในกัมพูชา เข้าสู่กระบวนการล้มละลายตามกฎหมายกัมพูชา จนต้องปลดคนงานกว่า 50 คน โดยไม่เหลียวแล หลังไม่สามารถขายหุ้นทั้ง 100% ในเอ็มโฟนให้แก่ผู้ซื้อรายใหม่ ได้ทันตามกำหนดภายในเดือน ม.ค.56
        
       นายวุฒิ อัศวเสริมเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM แจ้งว่า บริษัท เชนนิงตันอินเวสเม้นท์ พีทีอี จำกัด (SHEN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และถือหุ้น 100% ในบริษัท เอ็มโฟน จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และโทรศัพย์ตามบ้านในประเทศกัมพูชา เข้าสู่กระบวนการล้มละลายตามกฎหมายกัมพูชา หลังไม่สามารถขายหุ้นทั้ง 100% ในเอ็มโฟนให้แก่ผู้ซื้อรายใหม่ได้ทันตามกำหนดภายในเดือน ม.ค.56
        
       โดยเงื่อนไขบังคับก่อนที่คู่สัญญาจะต้องดำเนินการเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ของเอ็มโฟน ไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จลงภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ได้ ทำให้ไม่สามารถขายหุ้นเอ็มโฟนให้แก่บริษัท อินท์ แมแนจเม้นท์ เซอร์วิสส์
       คอร์ปอเรชั่น จำกัด (INT) ได้ตามสัญญาก่อนหน้านี้ และฝ่ายบริหารของ SHEN มีข้อเสนอให้นำ เอ็มโฟน เข้าสู่กระบวนการล้มละลายตามกฎหมายของประเทศกัมพูชา
        
       ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของ THCOM เมื่อวันที่ 7 ม.ค. จึงมีมติเห็นชอบตามที่ฝ่าย บริหารของ SHEN เสนอ และได้รับแจ้งจาก SHEN แล้วว่า เอ็มโฟนได้ยื่นคำร้องต่อศาลในกรุงพนมเปญ เพื่อขอเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ตามกฎหมายของประเทศกัมพูชา
      
       THCOM ระบุอีกว่า การที่เอ็มโฟนยื่นคำร้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลายนี้ จะไม่ส่งผลกระทบทางการเงินอย่างมีสาระสำคัญ ต่องบการเงินรวมของบริษัท เพราะบริษัทได้ตั้ง สำรองขาดทุนจากการด้อยค่า และสำรองค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้แล้วใน 9 เดือนแรกของปี 55 อีกทั้งจะไม่ส่งผลกระทบต่องบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทด้วย
        
       อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือน พ.ย.ปี 55 THCOM ระบุว่า บริษัทจะขายหุ้นทั้งหมดในเอ็มโฟน ให้แก่ INT คิดเป็นมูลค่า 98.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาขาดทุนจากธุรกิจนี้ที่มีมาตลอด 3 ปี โดยมีเงื่อนไขบังคับก่อนที่จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ม.ค.56
        
       สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น THCOM ล่าสุด (10 ม.ค.) เปิดการซื้อขายที่ราคาหุ้นละ 24.70 บาท ลดลงจากวานนี้ที่ปิด 24.90 บาท หรือลดลง 0.20 บาท


http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000003460


__________________________



'ไทยคม'เผย'เอ็มโฟน'แจ้งขอปิดกิจการ ยันไม่กระทบรายได้

ไทยคมเผย เชนนิงตัน ตัดสินใจปิดกิจการของบริษัท เอ็มโฟน ในกัมพูชา ยันไม่ส่งผลกระทบต่อไทยคม ขณะที่เอ็มโฟนได้ยื่นขอเข้าสู่กระบวนการล้มละลายแล้ว เนื่องจากคู่สัญญาไม่สามารถดำเนินการตามเงื่อนไขได้ภายในเวลาที่กำหนด...

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริหาร ไทยคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท เชนนิงตัน อินเวสเม้นท์ส พีทีอี จำกัด ได้แจ้งต่อ ไทยคมว่าเชนนิงตันได้ตัดสินใจที่จะปิดกิจการของบริษัทเอ็มโฟน ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเชนนิงตันในประเทศกัมพูชา โดยเอ็มโฟนได้ยื่นขอเข้าสู่กระบวนการล้มละลายต่อหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องใน ประเทศกัมพูชาแล้ว

ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทย คม กล่าวต่อว่า ในสัญญาขายหุ้นที่เชนนิงตันได้ลงนามกับ บริษัท INT Management Services Corporation Limited เมื่อปลายปี 2555 มีเงื่อนไขที่คู่สัญญาจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 60 วัน นับแต่วันทำสัญญา แต่เนื่องจากคู่สัญญาไม่สามารถดำเนินการตามเงื่อนไขดังกล่าวได้ ภายในเวลาที่กำหนดคณะกรรมการของเชนนิงตัน จึงได้ตัดสินใจที่จะขอเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ซึ่งเชนนิงตันเห็นว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ทั้งนี้ เอ็มโฟนกำลังดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสม เพื่อให้การปิดกิจการเป็นไปโดยราบรื่นและมีผลกระทบน้อยที่สุด

“การตัดสินใจของเชนนิงตันที่จะปิดกิจการของเอ็มโฟนจะไม่ส่งผลกระทบทางการเงิน อย่างมีสาระสำคัญต่องบการเงินรวมของไทยคม เพราะไทยคมได้ตั้งสำรองขาดทุนจากการด้อยค่าและสำรองค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้แล้วใน 9 เดือนแรกของปี 2555 อีกทั้งจะไม่ส่งผลกระทบต่องบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ที่มีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีผลกำไรเฉพาะกิจการถึง 609 ล้านบาท ใน 9 เดือนแรกของปี 2555 ที่ผ่านมา” นางศุภจี กล่าว

ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยคม กล่าวอีกว่า ธุรกิจดาวเทียม ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ยังมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยกว่าร้อยละ 80 ของรายได้รวม มาจากธุรกิจในส่วนนี้ และในปี 2556 จะมีสัญญาที่ส่งเสริมให้ธุรกิจด้านดาวเทียมเติบโตขึ้นอีก เช่น เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ไทยคมได้บรรลุข้อตกลงกรอบข้อกำหนดการขายช่องสัญญาณไอพีสตาร์ในประเทศจีน (Framework Agreement) ความคืบหน้าในการทำสัญญาเพื่อขายช่องสัญญาณเพิ่มเติมให้กับทีโอที รวมถึงความคืบหน้าในการเจรจากับพันธมิตรในอินเดีย ไทยคมจึงคาดว่ารายได้จากธุรกิจดาวเทียมจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและ แข็งแกร่งในปี 2556

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนในการจัดส่งดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจรในปีนี้ โดยบริษัทสามารถปิดการขายล่วงหน้า สำหรับช่องสัญญาณบนดาวเทียมไทยคม 6 ได้แล้วมากกว่าเป้าหมายร้อยละ 30 ตั้งแต่ปีที่แล้ว นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนในการส่งดาวเทียมไทยคม 7 ในช่วงต้นปี 2557 ซึ่งดาวเทียมทั้ง 2 ดวงนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการให้บริการทั้งจำนวนช่องสัญญาณและ พื้นที่บริการเพิ่มเติม

“การที่ดาวเทียมไทยคม 6 สามารถปิดการขายล่วงหน้าได้มากกว่าร้อยละ 34 ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ในตอนแรกและเลยจุดคุ้มทุนของโครงการ ดาวเทียมไทยคม 6 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตด้านธุรกิจดาวเทียมที่แข็งแกร่ง ซึ่งในปี 2557 ที่จะจัดส่งดาวเทียมไทยคม 7 ขึ้นสู่วงโคจรเพิ่มเติม จะทำให้ไทยคมสามารถเพิ่มช่องสัญญาณเพื่อรองรับการให้บริการได้มากขึ้น” นางศุภจี กล่าว.

http://www.thairath.co.th/content/tech/319230


____________________



ซีดาร์ฯ ทิ้งหุ้น “ชินคอร์ป” กว่า 330 ล้านหุ้น กดราคาบนกระดานรูด 2.61%



       ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ เทขายหุ้น “ชิน คอร์ปอเรชั่น” จำนวน 330 ล้านหุ้น หรือ 10.3% คงเหลือถือหุ้นรวม 13.3% ล่าสุด ราคาหุ้นรูดเปิดการซื้อขายมา 65.25 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 2.61%
      
       นายสมประสงค์ บุญยะชัย กรรมการ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH แจ้งว่า บริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ INTUCH ได้ดำเนินการขายหุ้นบางส่วนที่ถืออยู่ในบริษัท เป็นจำนวน 330 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 10.3 ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท โดยขายให้แก่นักลงทุนไทยโดยประมาณในสัดส่วนร้อยละ 20 และบริษัทไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด
        
       สำหรับสัดส่วนที่เหลือของจำนวนหุ้นที่ขายภายหลังจากการขายหุ้นในครั้งนี้ เป็นผลให้ซีดาร์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท จำนวน 428,049,239 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13.3 ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท
        
       ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถตอบข้อซักถาม หรือข้อสงสัยที่อาจมีขึ้นได้จากผู้ถือหุ้นรายย่อย ประชาชน หรือผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ บริษัทจึงได้สอบถามไปยังบริษัท แอสเพน โฮลดิ้งส์ จำกัด (แอสเพน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อีกรายหนึ่งของบริษัทว่ามีความประสงค์ที่จะขายหุ้นของบริษัทที่แอสเพนถืออยู่ด้วยหรือไม่ ซึ่งทางแอสเพนได้แจ้งกลับมายังบริษัทว่า แอสเพนยังไม่มีแผนที่จะขายหุ้นของบริษัทในระยะเวลานี้ และแอสเพนยังมีความมั่นใจในธุรกิจ และผู้บริหารของบริษัท
        
       สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น INTUCH ล่าสุด เช้าวันที่ 10 ม.ค. เปิดการซื้อขายที่ 65.25 บาท ลดลง 1.75 บาท เปลี่ยนแปลง 2.61%


http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000003457

________________________


แรงขายกลุ่มชินคอร์ปฉุดหุ้นไทยดิ่งเหว ดัชนีร่วงลงหนักกว่า 17 จุด


แรงขายกลุ่มชินคอร์ป ฉุดดัชนีหุ้นไทยดิ่งลงหนักกว่า 17 จุด วอลุ่มกระฉูดกว่า 7 หมื่นล้านบาท
      
       ภาวะตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย ดัชนียังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อกว่า 10 จุด จากแรงขายอย่างหนัก โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่มสื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ โดยเมื่อเวลา 16.11 น. ดัชนีปรับลงไปอยู่ที่ระดับ 1,406.22 จุด ลดลง 17.24 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.21% มูลค่าการซื้อขาย 70,451.63 ล้านบาท


http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000003708
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่