เอามาแชร์เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ติดติดบูโร แต่อยากมีบ้านครับ
เมื่อช่วงเมษา ที่ผ่านมา มีโครงการจะสร้างบ้านบนที่ดินที่ซื้อไว้ (ต่างจังหวัด)
ผมจึงเริ่มจากไปเช็คเครดิตตัวเอง ที่สาขา เจเอวินิว ใช้บัตรประชน กับเงิน 50 บาท รอรับได้เลย
ปรากฏว่ามีติดค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า เกือบ 3 หมื่น ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้ตกงานไปพักใหญ่ๆ
ทำให้งดจ่ายค่าโน่นนี่นั่นไปเยอะเลย แต่ก็ทยอยเคลียร์เมื่อมีงานทำ ไปจนคิดว่าหมดไปแล้ว
เลยโทรไปหาบริษัทเจ้าหนี้เพื่อต่อรองยอดปิดบัญชี ปรากฏว่าเจ้าหนี้ผมเรียกค่าปิดบัญชี 5 หมื่น ไม่ไหว ไม่ไหว
เจรจากันไปนับเดือนสุดท้ายจบที่ยอดที่ค้างอยู่จริงทั้งหมด เลยได้ปิดบัญชีในเดือนกรกฏา พร้อมเอกสารมา 1 ใบว่าไม่มีหนี้ค้างกันแล้ว
หลังจากนั้น ใช้เวลาตามต่อเรื่องโอนที่ดินที่ซื้อไว้ ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าทางที่ดินจะมารังวัดแบ่งแยกออกโฉนดให้เป็นที่เรียบร้อย
หมดค่าน้ำร้อนน้ำชาไปอีกหลายอยู่ ไม่งั้นคุณท่านจะมารังวัดให้กลางปี 56
ต่อมาใช้เวลาอีกเดือนครึ่งในการยื่นขออนุญาตก่อสร้างกับทางเทศบาล รอจนได้ใบอนุญาตก่อสร้าง ถึงมาเตรียมการเรื่องเอกสาร
ที่จะขอกู้กับทางธนาคาร ก่อนกู้ลองไปเช็คเครดิตตัวเองอีกครั้ง ปรากฏสถานะเป็นปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว เบาใจไปเปลาะนึง
กลางเดือนธันวาคม ได้เอกสารครบทุกอย่างจึงทำการไปยื่นกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยขอสินเชื่อ 1.05 ล้าน
(เนื่องจากเป็นครอบครัวเล็กๆ พ่อแม่ลูกน้อย 2 คน เลยขออยู่แบบนกน้อยทำรังแต่พอตัว) ราคาสร้างจริงอยู่ที่ 8 แสนกว่า
แต่เห็นแบงค์บอกว่าให้วงเงิน 85% เลยทำ BOQ มาใน 1.05 ล้าน กะว่าถ้าได้ 85% ก็ยังสร้างได้สบายๆ
รอตุ้มๆต่อมๆว่าจะมีปัญหาเรื่องบูโรมั๊ย คิดไปเรื่อยเปื่อย ถ้าไม่ผ่านจะทำไงดี จนวันที่ 9 มกรา (เมื่อวาน)
เสียงสวรรค์ก็มาจนได้ แบงค์โทรมาบอกว่าอนุมัติสินเชื่อแล้ว ให้ 1.05 ล้านเต็ม (งงเลยให้เต็มด้วย)
จากนี้ก็เตรียมตัวไปทำสัญญา......ฝันเป็นจริงซะที เฮ่อ
ก็ขอเป็นกำลังใจให้คนที่อยากมีบ้านแต่ติดปัญหาเครดิตบูโร
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ เคลียร์หนี้ทุกอย่างในบูโรให้หมด และลดรายจ่ายที่ต้องผ่อนบัตรต่างๆ ปิดได้ปิดไปก่อน
ต่อมาคือ หนี้ที่สร้างใหม่ควรจะขอวงเงินที่ไม่ตึงกับรายได้จนเกินไป ซึ่งจำทำให้แบงค์พิจารณาปล่อยง่ายขึ้น
ยังไงเดี๋ยวบ้านเสร็จแล้วจะมารีวิวให้ดูอีกทีนะครับ
Share ประสบการณ์ ติดเครดิตบูโร ยื่นกู้สร้างบ้าน.......ผ่านแล้ว
เมื่อช่วงเมษา ที่ผ่านมา มีโครงการจะสร้างบ้านบนที่ดินที่ซื้อไว้ (ต่างจังหวัด)
ผมจึงเริ่มจากไปเช็คเครดิตตัวเอง ที่สาขา เจเอวินิว ใช้บัตรประชน กับเงิน 50 บาท รอรับได้เลย
ปรากฏว่ามีติดค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า เกือบ 3 หมื่น ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้ตกงานไปพักใหญ่ๆ
ทำให้งดจ่ายค่าโน่นนี่นั่นไปเยอะเลย แต่ก็ทยอยเคลียร์เมื่อมีงานทำ ไปจนคิดว่าหมดไปแล้ว
เลยโทรไปหาบริษัทเจ้าหนี้เพื่อต่อรองยอดปิดบัญชี ปรากฏว่าเจ้าหนี้ผมเรียกค่าปิดบัญชี 5 หมื่น ไม่ไหว ไม่ไหว
เจรจากันไปนับเดือนสุดท้ายจบที่ยอดที่ค้างอยู่จริงทั้งหมด เลยได้ปิดบัญชีในเดือนกรกฏา พร้อมเอกสารมา 1 ใบว่าไม่มีหนี้ค้างกันแล้ว
หลังจากนั้น ใช้เวลาตามต่อเรื่องโอนที่ดินที่ซื้อไว้ ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าทางที่ดินจะมารังวัดแบ่งแยกออกโฉนดให้เป็นที่เรียบร้อย
หมดค่าน้ำร้อนน้ำชาไปอีกหลายอยู่ ไม่งั้นคุณท่านจะมารังวัดให้กลางปี 56
ต่อมาใช้เวลาอีกเดือนครึ่งในการยื่นขออนุญาตก่อสร้างกับทางเทศบาล รอจนได้ใบอนุญาตก่อสร้าง ถึงมาเตรียมการเรื่องเอกสาร
ที่จะขอกู้กับทางธนาคาร ก่อนกู้ลองไปเช็คเครดิตตัวเองอีกครั้ง ปรากฏสถานะเป็นปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว เบาใจไปเปลาะนึง
กลางเดือนธันวาคม ได้เอกสารครบทุกอย่างจึงทำการไปยื่นกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยขอสินเชื่อ 1.05 ล้าน
(เนื่องจากเป็นครอบครัวเล็กๆ พ่อแม่ลูกน้อย 2 คน เลยขออยู่แบบนกน้อยทำรังแต่พอตัว) ราคาสร้างจริงอยู่ที่ 8 แสนกว่า
แต่เห็นแบงค์บอกว่าให้วงเงิน 85% เลยทำ BOQ มาใน 1.05 ล้าน กะว่าถ้าได้ 85% ก็ยังสร้างได้สบายๆ
รอตุ้มๆต่อมๆว่าจะมีปัญหาเรื่องบูโรมั๊ย คิดไปเรื่อยเปื่อย ถ้าไม่ผ่านจะทำไงดี จนวันที่ 9 มกรา (เมื่อวาน)
เสียงสวรรค์ก็มาจนได้ แบงค์โทรมาบอกว่าอนุมัติสินเชื่อแล้ว ให้ 1.05 ล้านเต็ม (งงเลยให้เต็มด้วย)
จากนี้ก็เตรียมตัวไปทำสัญญา......ฝันเป็นจริงซะที เฮ่อ
ก็ขอเป็นกำลังใจให้คนที่อยากมีบ้านแต่ติดปัญหาเครดิตบูโร
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ เคลียร์หนี้ทุกอย่างในบูโรให้หมด และลดรายจ่ายที่ต้องผ่อนบัตรต่างๆ ปิดได้ปิดไปก่อน
ต่อมาคือ หนี้ที่สร้างใหม่ควรจะขอวงเงินที่ไม่ตึงกับรายได้จนเกินไป ซึ่งจำทำให้แบงค์พิจารณาปล่อยง่ายขึ้น
ยังไงเดี๋ยวบ้านเสร็จแล้วจะมารีวิวให้ดูอีกทีนะครับ