สวัสดีปีใหม่สมาชิกทุกท่านครับ หลังจากที่ห่างหายจากพันทิพไปนานพอควร เพิ่งจะได้เข้าโพสแบ่งปันประสบการณ์อีก


ซึ่งปีนี้ผมเองก็ตั้งใจว่าจะเข้ามาแบ่งปันประสบการณ์กับสมาชิกพันทิพบ่อยมากขึ้น เพราะผมเองเป็นคนที่ชอบไปเที่ยว

ถ่ายรูป แล้วก็ไม่ลืมที่จะบอกต่อหรือเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้ฟังได้รับรู้ จีงหวังว่ากระทู้ของผมคงจะมีประโยชน์กับ

เพื่อนๆสมาชิกไม่มากก็น้อย

สำหรับกระทู้แรกของปีนี้ ผมขอแบ่งปันประสบการณ์ของทริปแรกของปีนี้ของผมแล้วกันครับ

ทริปแรกปีนี้เกิดขึ้นเพราะอยากจะตามล่านางพญาเสือโคร่งอีกซักครั้ง หลังจากที่เคยตามล่ามาแล้วถึงสองครั้ง

ครั้งแรกที่ขุนช่างเคี่ยนนั้นเรียกได้ว่าประทับใจมากครับ เพราะขณะที่ไปนั้นนางพญาเสือโคร่งเบ่งบานเต็มที่เลยทีเดียว

ทำให้ผมตั้งมั่นว่าปีต่อมาจะต้องมาตามล่าอีกครั้งให้ได้ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดครั้งที่สองครับ


ครั้งแรกที่สองนั้นผมได้กลับไปที่เดิมครับ แต่ปรากฎว่าครั้งนี้ผิดหวังแบบสนิทเลย ไม่พบว่าบานแม้ซักดอก


ดังนั้นปีนี้ผมจึงตั้งใจจะกลับไปตามล่าหานางพญาเสือโคร่งหรือที่เรามักจะเรียกว่าซากุระเมืองไทยอีกครั้ง โดยที่ทริปนี้

ภารกิจของเราได้เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง(จากเบื้องบน) ว่าอยากไปนอนที่ไหนก็ได้ที่มีน้ำล้อมรอบ ขอแบบเงียบสงบด้วย

ซึ่งพอผมได้โจทย์มาแบบนี้จังหวัดที่ผมนึกออกเลยนั่นก็คือ เชียงใหม่

และเป้าหมายทริปนี้ของเราก็คือ ดอยอ่างขางและเขื่อนัดสมบูรณ์ชลครับ

ทริปนี้เช่นเคยครับ ผมได้นั่งรถทัวร์ขึ้นไปที่เชียงใหม่ จากนั้นก็ขับรถเช่ายังจุดหมายของเราทันทีครับ

โดยแผนของผมสำหรับทริปนี้ มีดังนี้ครับ

วันแรก
ขับรถขึ้นดอยอ่างขาง เที่ยวสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง พักที่อ่างขางวิลล่า

วันที่สอง
ขับรถขึ้นไปเที่ยวชมจุดชมวิวบ้านขอบด้ง ชมไร่สตรอเบอรี่ และจุดชมวิวบ้านนอแล จากนั้นก็ขับรถมุ่งหน้าเขื่อนัด

สมบูรณ์ชล พักเรือนแพ อ.วิช

ส่วนหลังจากนั้นผมจะประเมินสถานการณ์อีกทีครับ ว่าจะยังไงกับชีวิตต่อดี ฮ่าๆๆๆ



ระหว่างทางขับรถไปสู่ดอยอ่างขาง เริ่มเห็นแววดีละครับ




ระยะเวลาจากเชียงใหม่มายังดอยอ่างขางนั้น ผมเองขับมาเรื่อยๆไม่ได้รีบร้อนอะไรก็ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครับ

โดยขับมาทาง อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.เชียงดาว อ.ไชยปราการ

แผนที่
http://www.angkhangstation.com/public/img/Map.jpg

พอไปถึงปุ๊บก็ไม่รีรอ เช็คอินเข้าที่พักคืนแรกของเราคืนนี้ก่อนเลยครับ คืนนี้ที่อ่างขางวิลล่า







พอได้พักผ่อนเพื่อผ่อนคลายความล้าจากการขับรถแล้วนั้น เราก็ไปเที่ยวกันต่อที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางครับ

ภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางนั้น สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะ

เป็นไม้ผล ผัก ไม้ดอก เมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขาในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ





















หลังจากที่ใช้เวลาในการถ่ายรูปและเที่ยวภายในสถานีเกษตรมาพอสมควร ก็เริ่มหิวละครับ เย็นนี้ผมจะไปทานอาหารที่

ห้องอาหารของอ่างขาง เมาเท่นวิว รีสอร์ท เหตุผลเพราะว่ารูปนี้ครับ เป็นรูปที่มองจากสถานีเกษตรเข้าไปจะเห็นร้าน

อาหารของรีสอร์ทแห่งนี้ ดูท่าแล้วบรรยากาศน่าจะดี เลยขอลองหน่อยครับ





รูปนี้ก็เป็นวิวที่มองจากร้านอาหารครับ สำหรับอาหารผมไม่ได้ถ่ายมาแบตหมดพอดี เลยได้ภาพนี้มาเป็นภาพสุดท้าย

ของวันนี้ครับ สำหรับรสชาติอาหารผมว่าใช้ได้เลยครับ อร่อยดี ส่วนราคาเมื่อเทียบกับปริมาณแล้วถือว่าไม่แพงเลยครับ

ผมให้ผ่านครับสำหรับร้านอาหารร้านนี้




......



หลังจากคืนแรกผ่านไป รุ่งเช้าผมตื่นตั้งแต่ตีห้าครับ เพื่อจะขับรถไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ.จุดชมวิว บ้านขอบด้ง อากาศ

เช้าที่ผมไปอยู่ที่ 8 องศาเซลเซียสครับ อากาศหนาวกำลังดีเลยทีเดียว

อ่อ!! ลืมบอกไปที่นี่เป็นสวรรค์ของนักดิ่มเลยก็ว่าได้ เพราะเบียร์กระป๋องนี่ ดิ่มตอนเย็นๆหรือเช้าๆ นี่ไม่ต้องแช่เย็นเลย

ครับ เพราะมันจะเย็นด้วยอากาศอยู่แล้ว




สำหรับ ณ.จุดชมวิว ที่บ้านขอบด้งนี้ ฝีมือไม่ถึงเลยไม่ได้ภาพพระอาทิตย์ขึ้นสวยอย่างคนอื่นเค้า แต่ได้อะไรก็ไม่รู้ข้าง

ทางมาแทน ฮ่าๆๆๆ



ถ่ายพระอาทิตย์ไม่ได้ เพราะพื้นที่มุมดีๆถูกจองไปหมด เลยหมั่นไส้แอบยิงพวกที่อยู่แนวหน้าซะเลย นี่แน่ะ!!





หลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว เราก็ไปกันที่ฐานทัพไทย บริเวณชายแดนไทย-พม่า ณ.บ้านนอแลกันต่อเลยครับ คน

แยะเช่นเคย เลยได้ภาพมาแค่นี้








หลังจากชมวิวทัศนียภาพบริเวณฐานทัพไทยไปแล้ว ก็ได้เวลาไปตามรอย ณเดชกับยาย่ากันแล้วล่ะครับ นั่นคือ ไร่สตรอ

เบอรี่นั่นเอง!!



เริ่มจากหน้าตรง กันก่อน



หันซ้าย



หันขวา





















หลังจากที่ดิ่มด่ำกับบรรยากาศของไร่สตรอเบอรี่กันอย่างเต็มที่ อิ่มทั้งบรรยากาศทั้งสตรอเบอรี่สดๆ ยอมรับว่าสตรอเบอ

รี่สด อร่อยจริงๆครับ ขนาดยังไม่สุกดี กัดเข้าไปชุ่มปากมากๆ แถมรสชาติยังหวานอีกซะด้วย

พวกเราก็เดินทางไปยังจุดหมายที่สองครับ นั่นคือ เขื่อนัดสมบูรณ์ชล


เขื่อนัดสมบูรณ์ชลนั้นตั้งอยู่ อุทยานแห่งชาติศรีลานนา อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ครับ หากเราเดินทางจากตัวเมือง

เชียงใหม่จะใช้เวลาประมาณ 1.30 แต่ครั้งนี้ผมมาจากอ่างขางก็จะได้เวลา 2.30 โดยประมาณครับ

ที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อจะเข้ามาพักที่เรือนแพ ที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำครับ ซึ่งการที่เราจะเข้าที่พักได้นั้นจะต้องเสีย

ค่าเข้าอุทยานและเสียค่าเรือหางยาวให้เค้าไปส่งที่เรือนแพด้วยครับ

เรือนแพในเขื่อนัดนั้นมีหลายเจ้าครับ แล้วแต่ชอบ แต่ครั้งนี้ผมใช้บริการของเรือนแพ อ.วิช ครับ สำหรับบรรยากาศ

เราไปดูกันเลยดีกว่าครับ








ระหว่างทางกลับเหลือบไปเห็นทุ่งสีเหลืองสวยงามดูสะดุดตา เลยจัดการจอดรถแล้วลงไปถ่ายรูปซักหน่อยครับ







จบแล้วครับสำหรับทริปนี้ ยังไงก็ขอขอบคุณที่ติดตามชมนะครับ แล้วเจอกันใหม่สำหรับทริปหน้าของผม

ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบบ..