หากประเทศไทย ไม่มีชายไทยชื่อ ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นอย่างไร?

ผมติดตามเรื่องราวต่างๆมาโดยตลอด และอยาดนำเสนอมุมมองของผมที่มีต่อ ทักษิณ ชินวัตร ให้เพื่อนสมาชิกได้สนทนาปราศรัยกันในกรอบของรัฐธรรมนูญ ปี 40

ประเด็นของผมคือ "หากประเทศไทย ไม่มีชายไทยชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร "

ทักษิณ ชินวัตร ลูกชายนายเลิศ ตอนเด็กๆลำบาก ช่วยพ่อแม่ขายของ ช่วยครอบครัวทำงานทุกอย่าง ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เป็นเด็กดี มีความไฝ่รู้ สอบได้ที่ 1 มาตลอด   เราหยุดไว้ตรงนี้ก่อน. ตรงนี้ผมขอถามว่า ไครบ้างที่ไม่อยากมีลูกแบบนี้ ไครบ้างที่อยากมีลูกไม่ตั้งใจศึกษา ไครที่อยากมีลูกเกีียจคร้านการงาน ( เดี๋ยวก็จะมีคนมาบอกว่า มันเกี่ยวไรกัน ? )

ทักษิณ สอบติดโรงเรียนเตรียมทหาร เหล่าตำรวจ และสอบไล่ได้คะแนนเป็นที่ 1 ของรุ่น ( ตรงนี้ไครไม่ชอบบ้าง คนเป็นพ่อแม่ย่อมภาคภูมิใจ หรือมีบางท่านบอกว่าโกงข้อสอบหรือ? )

ทักษิณทำหน้าที่ตำรวจและทำธุรกิจไปด้วย หลายอย่างแบบลองผิดลองถูก แต่ส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จ จนเป็นหนี้สิน จนต้องลาออกจากราชการ  ( ตรงนี้เราควรด่าหรือยกย่อง? หากเทียบกับนักการเมืองหรือข้าราชการบางคน เป็นหนี้สิน แต่พอสิ้นปี หนี้หาย )  ผมมองว่า นั่นหมายถึง ทักษิณ รู้ว่าต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่และหนี้สินก้อนนั้น ด้วยกำลังความสามารถของตน

ทักษิณทบทวนตนเองอย่างหนักและตั้งบริษัทเกี่ยวกับระบบโทรคมนาคม จนนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ และได้ดำเนินโครงการดาวเทียมไทยคม
ซึ่งเป็นระบบการสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ   ตรงนี้ผมมองว่า ยอดเยี่ยมในการตัดสินใจต่างๆ ทำให้เทคโนโลยีมีความทันสมัย การศึกษาทางไกลต่างๆเริ่มแต่นั้นมา จากที่มือถือเป็นสมบัติของคนรวยศักดินา แต่ตอนนี้ชาวบ้านก็มีสิทธิ์ในมือถือนั้น ลูกคนจนก็มีมือถือโทรหาทางบ้านได้ในขณะศึกษา ไม่ต้องเขียนจดหมาย หรือโทรเลขเหมือนแต่ก่อน ซึ่งช้าและไม่ทันสมัย

ต่อมา  พลตรีจำลอง ศรีเมือง ( ตอนนั้นจำลองโด่งดังมาก จนคาราบาวได้แต่งเพลงให้ฟรี 1 เพลง ) ได้ชักชวนทักษิณ เข้าสู่การเมือง ( ตอนนั้นทักษิณร่ำรวยมหาศาลแล้วจากธุรกิจ ) ทักษิณรับหน้าที่หลายตำแหน่งในหลายรัฐบาล เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ วิเคราะห์จุดเด่นจุดด้อยมาตลอด ( ตรงนี้ดีไหม ? ) จนได้ตั้งพรรคการเมืองของตัวเองขึ้น และได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศชาติไทยแลนด์ ( ตรงนี้หากจะด่าก็ให้ด่าจำลอง เพราะทักษิณรวยแล้วสบายแล้ว แต่ดันไปชวนมาเอง )

การดำเนินงานทางการเมือง เป็นไปด้วยความเรียบง่ายต่อพี่น้องประชาชน นโยบายต่างๆล้วนจับต้องได้ ลงถึงมือประชาชนจริงๆ ซึ่งต่างกับรุ่นก่อนๆ ถือเป็นการ Revolution ทางการเมืองเลยก็ว่าได้

ทักษิณปฎิวัติและปฎิรูประบบต่างๆในประเทศให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน คือ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่  ในขณะเดียวกัน ผลประโยชน์ใต้ดินต่างๆซึ่งมีมูลค่ามากมายมหาศาลที่เป็นประโยชน์โดยตรงของชนชั้นกลาง พ่อค้า และศักดินาต่างๆ เริ่มสั่นคลอน การจัดสรรทรัพยากรเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรม  จนทำให้คนกลุ่มนี้ ออกมาขับไล่รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ด้วยข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง เทียบได้กับที่กล่าวหาปรีดีเลยก็ว่าได้

พลตรีจำลองคนเดิม ที่เคยชวนทักษิณให้มาสู่การเมืองก็ไล่ทักษิณด้วย ( ตลกหรือเปล่า )

ทักษิณหาทางคืนสู่อำนาจ แต่โดนบีบทุกทาง โดยกลุ่มรัฐประหาร (คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ) และพรรคพวกรวมถึงองค์กรอิสระที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งต่างๆ

ระบบการเมืองแบบเก่าเริ่มกลับมา นโยบายเดิมของทักษิณโดนโจมตีจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่มีอันจะกินอย่างกว้างขวาง

ทักษิณ ชิงจังหวะเสมอและบัญชาการอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง มีอำนาจทางการเมืองอย่างแท้จริงอยู่เสมอจากหัวใจของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย

ทักษิณทำให้กลุ่มอำนาจเก่า ต้องเอ่ยชื่ออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และคอยหาคำต่างๆด่าอยู่ทุกวันเช่นกัน นับแต่ปี 2549

   ดังนั้น หากประเทศชาติไทยแลนด์ ไม่มี ทักษิณ  ประเทศชาติไทยแลนด์ จะไม่มี
1.ไม่มีพรรคไทยรักไทย มาทัดทานอำนาจเก่าคร่ำครึของพรรคประชาธิปัตย์
2.การ Revolution ไม่เกิด
3.ไม่มีดาวเทียมไทยคม และต้องเช่าจากต่างประเทศ หรือมีกลุ่มอำนาจเก่าดำเนินกิจการนี้เสียเอง คนจนอาจจะยังต้องส่งจดหมายเพื่อติดต่อสื่อสาร
4.การศึกษาไทยไม่เจริญก้าวหน้า ไม่มี โครงการส่งคนไปต่างประเทศ ( เดี๋ยวจะมีคนเอาทุนหลวงมาอ้างอีก )
5.ยาเสพติดแพร่ระบาดหนักทุกหย่อมหญ้า
6.มีการใช้อำนาจของราชการเกินหน้าที่ ( ข้อนี้เป็นการรัดเข็มขัดในสมัยทักษิณ มีการโยกย้ายกันเป็นว่าเล่น )
7.ไม่มีปรากฎการณ์ประชาชนสวมเสื้อเหลืองกันอย่างมากมายในวันที่ 5 ธันวาคม
8.ประชาชนจะไม่รู้เลยว่า คนดี มีพฤติกรรมเช่นไร ทั้งปลอมแปลงเอกสาร ทั้งเอารัดเอาเปรียบในการทำหน้าที่
9.โครงการเข้าถึงระบบสาธารณสุขของไทยยังไม่เกิด ไครมีเงินก็ได้รักษา ไครจนก็ตาย
10.การส่งเสริมให้ประชาชนมีความไฝ่รู้ไฝ่เรียน จะไม่มีเลย ( เราจะสังเกตุได้จากวิทยุนายกพบประชาชน )
11.ความเป็นกันเองและการซื้อใจที่มีต่อประชาชนจะหาไม่ได้
12 ไม่มี OTOP  ( เดี๋ยวจะมีคนเอาโครงการหลวงมาอ้างอีก )
13 ไม่มีการฟื้นฟูสภาพหนีสินของประชาชนผู้เป็นลูกหนี้

เอาเท่านี้ก่อน  รู้สึกไม่ค่อยสบาย  นอนน้อย...
ต้องไปหาหมอก่อน  ค่ายาก็คงแพง เพราะไม่มีนโยบาย 30 บาทแล้ว ..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่