ประเด็นหลัก
*** เอไอเอส เผยทำตามกฎ
ขณะที่นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด กล่าวว่า สำหรับการคิดอัตราค่าบริการต่ำกว่านาทีละ 99 สตางค์นั้นทาง เอไอเอส ได้มีทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่แล้วและได้ทำตามกฎระเบียบตามที่ กสทช.กำหนดอย่างแน่นอน ซึ่งกรณีโปรโมชันอื่น ๆ บริษัทก็มีโปรโมชันให้ลูกค้าเพิ่มเติมซึ่งบางโปรโมชันก็มีอัตราค่าโทร.ต่ำกว่านาทีละ 99 สตางค์
"สิ่งที่เราทำคือมีทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการด้วยการเปลี่ยนแพ็กเกจหรือซื้อแพ็กเกจเสริมการเปลี่ยนโปรโมชันทันทีทันใดนั้นผู้ใช้บริการเป็นผู้เลือกซึ่งการปรับปรุงและการเปลี่ยนแปลงไม่มีผลกระทบต่อรายได้บริษัทแต่อย่างใด"
นอกจากนี้ เอไอเอส เตรียมแถลงวิชันปี 2013 เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5-7% แต่ เอไอเอส มีความเชื่อว่าโทรคมนาคมเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตเช่นเดียวกันเนื่องจากว่าปริมาณการใช้จำนวนดาต้า (ข้อมูล) ในปีนี้จะมีเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากมีผลมาจากการเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์
*** กสทช.ควรลดค่าไอซี
ขณะที่แหล่งข่าวจาก บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า กรณีที่ กสทช. ออกกฎระเบียบให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับลดอัตราค่าโทร.ให้ต่ำลงมานาทีละ 99 สตางค์ ประการแรก กสทช.ยังไม่ชัดเจนในประเด็นดังกล่าวเพราะการออกกฎค่าโทร.ให้ต่ำลงมาอยู่ที่นาทีละ 99 สตางค์ ประเด็นอยู่ที่ว่า กสทช.กำหนดค่า IC (Interconnection Charge) ในราคา 1 บาท แต่ กสทช.ออกกฎให้เอกชนคิดค่าโทร.นาทีต่ำกว่า 99 สตางค์ ซึ่งส่วนทางกับความเป็นจริง
อย่างไรก็ตามทาง ดีแทค ก็พยายามทำตามกรอบของ กสทช.ด้วยการออกแคมเปญคิดค่าโทร.ในระบบ ดีแทค ในส่วนของพรีเพด (ระบบเติมเงิน) นาทีละ 99 สตางค์ แต่เป็นในลักษณะโทร.สั้น คือ 1 นาที ซึ่งแคมเปญดังกล่าวต้องบอกว่าไม่ได้รับความนิยม และบริษัทมีแคมเปญโทร.ยาวคิดค่าโทร.นาทีแรกนาทีละ 2 บาท และ นาทีถัดไปนาทีละ 50 สตางค์
"ถ้า กสทช.สามารถปรับลดค่าไอซี ให้ต่ำกว่า 1 บาท บรรดาผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็จะสามารถทำตามกรอบที่ กสทช.กำหนดได้แต่ประเด็นใหญ่ของค่าไอซี คือ ผู้ประกอบการบางรายไม่ให้ความร่วมมือ ดังนั้น กสทช.ในฐานะผู้คุมกฎก็น่าจะแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ให้ทุกค่ายปรับลดค่าไอซีลงมาต่ำกว่า 1 บาท แต่มีผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือเพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้"
แม้ กสทช.จะออกกฎเหล็กคุมเข้มคิดค่าโทร.นาทีละ 99 สตางค์ แต่ดูท่าทีของบรรดาผู้ประกอบการค่ายมือถือแม้จะมีโปรโมชันตอบสนองให้กับ กสทช.จำนวน 99 สตางค์ก็จริง หากแต่การโทร.สั้นไม่ได้รับการยอมรับต่อตลาดมากเท่าใดนัก
ทางเดียวที่จะทำได้ คือ กสทช. ต้องแก้ปมประเด็นปัญหาค่าไอซี ที่คิดในอัตรา 1 บาท แต่ให้เอกชนปรับลดค่าบริการลงมาเหลือนาทีละ 99 สตางค์ ดูเหมือนจะสวนทางกับต้นทุนทางธุรกิจที่มีอยู่
หาก กสทช.ยังแก้ปมตรงนี้ไม่ได้เรื่องการกำหนดเพดานค่าโทร.ที่ 99 สตางค์ ดูเหมือนว่าจะเป็นประเด็นที่ต้องกล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง แม้เอกชนจะคิดค่าบริการค่าโทร.ให้ต่ำกว่า 99 สตางค์ก็จริงแต่ดูเหมือนว่าแคมเปญไม่ได้รับความนิยมเท่าใดนัก
___________________________________
ค่ายมือถือขบเหลี่ยมกสทช.
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกสทช. ได้ออกกฎบังคับให้บรรดาผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่คิดค่าบริการโทร.ไม่เกินนาทีละ 99 สตางค์
มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2556 เมื่อย้อนรอยกลับไปพบว่า เป็นเพราะ กสทช.ต้องการควบคุมการกำหนดเพดานอัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ ปี 2555 ซึ่ง กสทช.ได้มีการประกาศเรื่องอัตราขั้นสูงนั้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2555 ที่ผ่านมาโดยกำหนดให้ผู้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เก็บค่าบริการได้ไม่เกินนาทีละ 99 สตางค์
ซึ่งหลังจากออกประกาศตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่ผ่านมา หากแต่ กสทช.ได้ทำการผ่อนผันให้กับบรรดาผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ถึงสิ้นปี 2555 และได้ประกาศชัดเจนว่าตั้งแต่ต้นปี 2556 เป็นต้นไปบรรดาผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องกำหนดค่าโทร.ไม่เกินกว่านาทีละ 99 สตางค์
*** กสทช.เข้มปีนี้ไม่มีค่าโทร.เกิน 99 สตางค์
ทั้งนี้นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช.ด้านการคุ้มคอรงผู้บริโภคและการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ได้ออกมาเปิดเผยในเรื่องนี้ว่า การคิดค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เกินกว่านาทีละ 99 สตางค์จะต้องไม่มีอีกต่อไป เนื่องจากเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้คือ ประกาศ กสทช. เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ. 2555
อย่างไรก็ตามหลัง กสทช.ผ่อนผันการกำหนดค่าโทร.สามารถเกินกำหนดได้ 99 สตางค์แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 การกำหนดอัตราค่าบริการการโทร.จะต้องไม่เกิน 99 สตางค์ต่อนาที ทั้งระบบเติมเงินและระบบแบบเก็บรายเดือน
*** ชี้ เอไอเอส-ดีแทค ขัดกฎหมาย
น.พ.ประวิทย์ ยังออกมายอมรับว่า จากการตรวจสอบการคิดอัตราค่าบริการภายหลังจากการตรวจสอบประกาศดังกล่าวพบว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 ราย คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ยังมีรายการส่งเสริมการขายหรือโปรโมชันที่ขัดต่อกฎหมาย ทั้งที่เป็นโปรโมชันเก่าและใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานภายในสำนักงาน กสทช. กำลังประสานงานกันเพื่อให้มีการบังคับให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นไปตามประกาศอย่างเคร่งครัดต่อไป
"ราคาค่าโทร.จะต้องต่ำกว่านาทีละ 99 สตางค์นับตั้งแต่ปีใหม่นี้ ไม่มีข้อยกเว้นแล้ว ดังนั้นหากพบว่ามีการฝ่าฝืนสามารถแจ้งมายัง กสทช. ได้เพราะจะได้มีหลักฐานสำหรับดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังอีกทางหนึ่ง "
*** เอไอเอส เผยทำตามกฎ
ขณะที่นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด กล่าวว่า สำหรับการคิดอัตราค่าบริการต่ำกว่านาทีละ 99 สตางค์นั้นทาง เอไอเอส ได้มีทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่แล้วและได้ทำตามกฎระเบียบตามที่ กสทช.กำหนดอย่างแน่นอน ซึ่งกรณีโปรโมชันอื่น ๆ บริษัทก็มีโปรโมชันให้ลูกค้าเพิ่มเติมซึ่งบางโปรโมชันก็มีอัตราค่าโทร.ต่ำกว่านาทีละ 99 สตางค์
"สิ่งที่เราทำคือมีทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการด้วยการเปลี่ยนแพ็กเกจหรือซื้อแพ็กเกจเสริมการเปลี่ยนโปรโมชันทันทีทันใดนั้นผู้ใช้บริการเป็นผู้เลือกซึ่งการปรับปรุงและการเปลี่ยนแปลงไม่มีผลกระทบต่อรายได้บริษัทแต่อย่างใด"
นอกจากนี้ เอไอเอส เตรียมแถลงวิชันปี 2013 เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5-7% แต่ เอไอเอส มีความเชื่อว่าโทรคมนาคมเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตเช่นเดียวกันเนื่องจากว่าปริมาณการใช้จำนวนดาต้า (ข้อมูล) ในปีนี้จะมีเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากมีผลมาจากการเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์
อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าไปคลิกดูในหน้าเว็บ www.ais.co.th เกี่ยวกับแพ็กเกจแคมเปญ มีแคมเปญให้เลือกหลากหลายเช่น GSM Smart Mix and Match ค่าบริการรายเดือนสูงสุด 1,500 บาท โทร.ฟรี ต่อนาทีละสูงสุด 1,600 บาท และ คุยในเครือข่าย เอไอเอส 150 นาทีในราคา 100 บาท และ ยังมีแพ็กเกจใหม่คุยสะใจนาทีละ 50 สตางค์ ค่าบริการรายเดือน 350 บาท โทร.ทุกเครือข่าย 360 นาที อัตราค่าโทร.ทุกส่วนเกินทุกเครือข่าย 3 นาทีแรก 2.50 บาท และนาทีที่4 เป็นต้นไปนาทีละ 50 สตางค์ เป็นต้น
*** กสทช.ควรลดค่าไอซี
ขณะที่แหล่งข่าวจาก บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า กรณีที่ กสทช. ออกกฎระเบียบให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับลดอัตราค่าโทร.ให้ต่ำลงมานาทีละ 99 สตางค์ ประการแรก กสทช.ยังไม่ชัดเจนในประเด็นดังกล่าวเพราะการออกกฎค่าโทร.ให้ต่ำลงมาอยู่ที่นาทีละ 99 สตางค์ ประเด็นอยู่ที่ว่า กสทช.กำหนดค่า IC (Interconnection Charge) ในราคา 1 บาท แต่ กสทช.ออกกฎให้เอกชนคิดค่าโทร.นาทีต่ำกว่า 99 สตางค์ ซึ่งส่วนทางกับความเป็นจริง
อย่างไรก็ตามทาง ดีแทค ก็พยายามทำตามกรอบของ กสทช.ด้วยการออกแคมเปญคิดค่าโทร.ในระบบ ดีแทค ในส่วนของพรีเพด (ระบบเติมเงิน) นาทีละ 99 สตางค์ แต่เป็นในลักษณะโทร.สั้น คือ 1 นาที ซึ่งแคมเปญดังกล่าวต้องบอกว่าไม่ได้รับความนิยม และบริษัทมีแคมเปญโทร.ยาวคิดค่าโทร.นาทีแรกนาทีละ 2 บาท และ นาทีถัดไปนาทีละ 50 สตางค์
"ถ้า กสทช.สามารถปรับลดค่าไอซี ให้ต่ำกว่า 1 บาท บรรดาผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็จะสามารถทำตามกรอบที่ กสทช.กำหนดได้แต่ประเด็นใหญ่ของค่าไอซี คือ ผู้ประกอบการบางรายไม่ให้ความร่วมมือ ดังนั้น กสทช.ในฐานะผู้คุมกฎก็น่าจะแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ให้ทุกค่ายปรับลดค่าไอซีลงมาต่ำกว่า 1 บาท แต่มีผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือเพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้"
แม้ กสทช.จะออกกฎเหล็กคุมเข้มคิดค่าโทร.นาทีละ 99 สตางค์ แต่ดูท่าทีของบรรดาผู้ประกอบการค่ายมือถือแม้จะมีโปรโมชันตอบสนองให้กับ กสทช.จำนวน 99 สตางค์ก็จริง หากแต่การโทร.สั้นไม่ได้รับการยอมรับต่อตลาดมากเท่าใดนัก
ทางเดียวที่จะทำได้ คือ กสทช. ต้องแก้ปมประเด็นปัญหาค่าไอซี ที่คิดในอัตรา 1 บาท แต่ให้เอกชนปรับลดค่าบริการลงมาเหลือนาทีละ 99 สตางค์ ดูเหมือนจะสวนทางกับต้นทุนทางธุรกิจที่มีอยู่
หาก กสทช.ยังแก้ปมตรงนี้ไม่ได้เรื่องการกำหนดเพดานค่าโทร.ที่ 99 สตางค์ ดูเหมือนว่าจะเป็นประเด็นที่ต้องกล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง แม้เอกชนจะคิดค่าบริการค่าโทร.ให้ต่ำกว่า 99 สตางค์ก็จริงแต่ดูเหมือนว่าแคมเปญไม่ได้รับความนิยมเท่าใดนัก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=162237:2013-01-04-09-29-50&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491
วันนี้ งด ทำ สรุป!! โทรคมนาคมและการสือสารที่เหลือ ประจำวัน 08/01/2555 ( เหตุข้อจำกัด 4 เรื่องต่อวัน )
เพราะเนื้อข่าวมากจริงวันนี้ ( แต่ให้ 4 ข่าวเต็มครับ ) ข่าวที่เหลือ UP ผ่าน ช่องทางอื่นแทนครับ
(เหมือนทำไม่ได้นาที99สตางค์)AISบอกต้องให้ลูกค้าเปลื่ยนเองเรามีPROให้//DTACต้องลดค่าICนาทีละ99สตางค์คนโทรยาวไม่คุ้ม
*** เอไอเอส เผยทำตามกฎ
ขณะที่นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด กล่าวว่า สำหรับการคิดอัตราค่าบริการต่ำกว่านาทีละ 99 สตางค์นั้นทาง เอไอเอส ได้มีทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่แล้วและได้ทำตามกฎระเบียบตามที่ กสทช.กำหนดอย่างแน่นอน ซึ่งกรณีโปรโมชันอื่น ๆ บริษัทก็มีโปรโมชันให้ลูกค้าเพิ่มเติมซึ่งบางโปรโมชันก็มีอัตราค่าโทร.ต่ำกว่านาทีละ 99 สตางค์
"สิ่งที่เราทำคือมีทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการด้วยการเปลี่ยนแพ็กเกจหรือซื้อแพ็กเกจเสริมการเปลี่ยนโปรโมชันทันทีทันใดนั้นผู้ใช้บริการเป็นผู้เลือกซึ่งการปรับปรุงและการเปลี่ยนแปลงไม่มีผลกระทบต่อรายได้บริษัทแต่อย่างใด"
นอกจากนี้ เอไอเอส เตรียมแถลงวิชันปี 2013 เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5-7% แต่ เอไอเอส มีความเชื่อว่าโทรคมนาคมเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตเช่นเดียวกันเนื่องจากว่าปริมาณการใช้จำนวนดาต้า (ข้อมูล) ในปีนี้จะมีเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากมีผลมาจากการเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์
*** กสทช.ควรลดค่าไอซี
ขณะที่แหล่งข่าวจาก บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า กรณีที่ กสทช. ออกกฎระเบียบให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับลดอัตราค่าโทร.ให้ต่ำลงมานาทีละ 99 สตางค์ ประการแรก กสทช.ยังไม่ชัดเจนในประเด็นดังกล่าวเพราะการออกกฎค่าโทร.ให้ต่ำลงมาอยู่ที่นาทีละ 99 สตางค์ ประเด็นอยู่ที่ว่า กสทช.กำหนดค่า IC (Interconnection Charge) ในราคา 1 บาท แต่ กสทช.ออกกฎให้เอกชนคิดค่าโทร.นาทีต่ำกว่า 99 สตางค์ ซึ่งส่วนทางกับความเป็นจริง
อย่างไรก็ตามทาง ดีแทค ก็พยายามทำตามกรอบของ กสทช.ด้วยการออกแคมเปญคิดค่าโทร.ในระบบ ดีแทค ในส่วนของพรีเพด (ระบบเติมเงิน) นาทีละ 99 สตางค์ แต่เป็นในลักษณะโทร.สั้น คือ 1 นาที ซึ่งแคมเปญดังกล่าวต้องบอกว่าไม่ได้รับความนิยม และบริษัทมีแคมเปญโทร.ยาวคิดค่าโทร.นาทีแรกนาทีละ 2 บาท และ นาทีถัดไปนาทีละ 50 สตางค์
"ถ้า กสทช.สามารถปรับลดค่าไอซี ให้ต่ำกว่า 1 บาท บรรดาผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็จะสามารถทำตามกรอบที่ กสทช.กำหนดได้แต่ประเด็นใหญ่ของค่าไอซี คือ ผู้ประกอบการบางรายไม่ให้ความร่วมมือ ดังนั้น กสทช.ในฐานะผู้คุมกฎก็น่าจะแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ให้ทุกค่ายปรับลดค่าไอซีลงมาต่ำกว่า 1 บาท แต่มีผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือเพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้"
แม้ กสทช.จะออกกฎเหล็กคุมเข้มคิดค่าโทร.นาทีละ 99 สตางค์ แต่ดูท่าทีของบรรดาผู้ประกอบการค่ายมือถือแม้จะมีโปรโมชันตอบสนองให้กับ กสทช.จำนวน 99 สตางค์ก็จริง หากแต่การโทร.สั้นไม่ได้รับการยอมรับต่อตลาดมากเท่าใดนัก
ทางเดียวที่จะทำได้ คือ กสทช. ต้องแก้ปมประเด็นปัญหาค่าไอซี ที่คิดในอัตรา 1 บาท แต่ให้เอกชนปรับลดค่าบริการลงมาเหลือนาทีละ 99 สตางค์ ดูเหมือนจะสวนทางกับต้นทุนทางธุรกิจที่มีอยู่
หาก กสทช.ยังแก้ปมตรงนี้ไม่ได้เรื่องการกำหนดเพดานค่าโทร.ที่ 99 สตางค์ ดูเหมือนว่าจะเป็นประเด็นที่ต้องกล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง แม้เอกชนจะคิดค่าบริการค่าโทร.ให้ต่ำกว่า 99 สตางค์ก็จริงแต่ดูเหมือนว่าแคมเปญไม่ได้รับความนิยมเท่าใดนัก
___________________________________
ค่ายมือถือขบเหลี่ยมกสทช.
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกสทช. ได้ออกกฎบังคับให้บรรดาผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่คิดค่าบริการโทร.ไม่เกินนาทีละ 99 สตางค์
มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2556 เมื่อย้อนรอยกลับไปพบว่า เป็นเพราะ กสทช.ต้องการควบคุมการกำหนดเพดานอัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ ปี 2555 ซึ่ง กสทช.ได้มีการประกาศเรื่องอัตราขั้นสูงนั้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2555 ที่ผ่านมาโดยกำหนดให้ผู้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เก็บค่าบริการได้ไม่เกินนาทีละ 99 สตางค์
ซึ่งหลังจากออกประกาศตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่ผ่านมา หากแต่ กสทช.ได้ทำการผ่อนผันให้กับบรรดาผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ถึงสิ้นปี 2555 และได้ประกาศชัดเจนว่าตั้งแต่ต้นปี 2556 เป็นต้นไปบรรดาผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องกำหนดค่าโทร.ไม่เกินกว่านาทีละ 99 สตางค์
*** กสทช.เข้มปีนี้ไม่มีค่าโทร.เกิน 99 สตางค์
ทั้งนี้นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช.ด้านการคุ้มคอรงผู้บริโภคและการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ได้ออกมาเปิดเผยในเรื่องนี้ว่า การคิดค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เกินกว่านาทีละ 99 สตางค์จะต้องไม่มีอีกต่อไป เนื่องจากเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้คือ ประกาศ กสทช. เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ. 2555
อย่างไรก็ตามหลัง กสทช.ผ่อนผันการกำหนดค่าโทร.สามารถเกินกำหนดได้ 99 สตางค์แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 การกำหนดอัตราค่าบริการการโทร.จะต้องไม่เกิน 99 สตางค์ต่อนาที ทั้งระบบเติมเงินและระบบแบบเก็บรายเดือน
*** ชี้ เอไอเอส-ดีแทค ขัดกฎหมาย
น.พ.ประวิทย์ ยังออกมายอมรับว่า จากการตรวจสอบการคิดอัตราค่าบริการภายหลังจากการตรวจสอบประกาศดังกล่าวพบว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 ราย คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ยังมีรายการส่งเสริมการขายหรือโปรโมชันที่ขัดต่อกฎหมาย ทั้งที่เป็นโปรโมชันเก่าและใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานภายในสำนักงาน กสทช. กำลังประสานงานกันเพื่อให้มีการบังคับให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นไปตามประกาศอย่างเคร่งครัดต่อไป
"ราคาค่าโทร.จะต้องต่ำกว่านาทีละ 99 สตางค์นับตั้งแต่ปีใหม่นี้ ไม่มีข้อยกเว้นแล้ว ดังนั้นหากพบว่ามีการฝ่าฝืนสามารถแจ้งมายัง กสทช. ได้เพราะจะได้มีหลักฐานสำหรับดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังอีกทางหนึ่ง "
*** เอไอเอส เผยทำตามกฎ
ขณะที่นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด กล่าวว่า สำหรับการคิดอัตราค่าบริการต่ำกว่านาทีละ 99 สตางค์นั้นทาง เอไอเอส ได้มีทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่แล้วและได้ทำตามกฎระเบียบตามที่ กสทช.กำหนดอย่างแน่นอน ซึ่งกรณีโปรโมชันอื่น ๆ บริษัทก็มีโปรโมชันให้ลูกค้าเพิ่มเติมซึ่งบางโปรโมชันก็มีอัตราค่าโทร.ต่ำกว่านาทีละ 99 สตางค์
"สิ่งที่เราทำคือมีทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการด้วยการเปลี่ยนแพ็กเกจหรือซื้อแพ็กเกจเสริมการเปลี่ยนโปรโมชันทันทีทันใดนั้นผู้ใช้บริการเป็นผู้เลือกซึ่งการปรับปรุงและการเปลี่ยนแปลงไม่มีผลกระทบต่อรายได้บริษัทแต่อย่างใด"
นอกจากนี้ เอไอเอส เตรียมแถลงวิชันปี 2013 เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5-7% แต่ เอไอเอส มีความเชื่อว่าโทรคมนาคมเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตเช่นเดียวกันเนื่องจากว่าปริมาณการใช้จำนวนดาต้า (ข้อมูล) ในปีนี้จะมีเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากมีผลมาจากการเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์
อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าไปคลิกดูในหน้าเว็บ www.ais.co.th เกี่ยวกับแพ็กเกจแคมเปญ มีแคมเปญให้เลือกหลากหลายเช่น GSM Smart Mix and Match ค่าบริการรายเดือนสูงสุด 1,500 บาท โทร.ฟรี ต่อนาทีละสูงสุด 1,600 บาท และ คุยในเครือข่าย เอไอเอส 150 นาทีในราคา 100 บาท และ ยังมีแพ็กเกจใหม่คุยสะใจนาทีละ 50 สตางค์ ค่าบริการรายเดือน 350 บาท โทร.ทุกเครือข่าย 360 นาที อัตราค่าโทร.ทุกส่วนเกินทุกเครือข่าย 3 นาทีแรก 2.50 บาท และนาทีที่4 เป็นต้นไปนาทีละ 50 สตางค์ เป็นต้น
*** กสทช.ควรลดค่าไอซี
ขณะที่แหล่งข่าวจาก บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า กรณีที่ กสทช. ออกกฎระเบียบให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับลดอัตราค่าโทร.ให้ต่ำลงมานาทีละ 99 สตางค์ ประการแรก กสทช.ยังไม่ชัดเจนในประเด็นดังกล่าวเพราะการออกกฎค่าโทร.ให้ต่ำลงมาอยู่ที่นาทีละ 99 สตางค์ ประเด็นอยู่ที่ว่า กสทช.กำหนดค่า IC (Interconnection Charge) ในราคา 1 บาท แต่ กสทช.ออกกฎให้เอกชนคิดค่าโทร.นาทีต่ำกว่า 99 สตางค์ ซึ่งส่วนทางกับความเป็นจริง
อย่างไรก็ตามทาง ดีแทค ก็พยายามทำตามกรอบของ กสทช.ด้วยการออกแคมเปญคิดค่าโทร.ในระบบ ดีแทค ในส่วนของพรีเพด (ระบบเติมเงิน) นาทีละ 99 สตางค์ แต่เป็นในลักษณะโทร.สั้น คือ 1 นาที ซึ่งแคมเปญดังกล่าวต้องบอกว่าไม่ได้รับความนิยม และบริษัทมีแคมเปญโทร.ยาวคิดค่าโทร.นาทีแรกนาทีละ 2 บาท และ นาทีถัดไปนาทีละ 50 สตางค์
"ถ้า กสทช.สามารถปรับลดค่าไอซี ให้ต่ำกว่า 1 บาท บรรดาผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็จะสามารถทำตามกรอบที่ กสทช.กำหนดได้แต่ประเด็นใหญ่ของค่าไอซี คือ ผู้ประกอบการบางรายไม่ให้ความร่วมมือ ดังนั้น กสทช.ในฐานะผู้คุมกฎก็น่าจะแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ให้ทุกค่ายปรับลดค่าไอซีลงมาต่ำกว่า 1 บาท แต่มีผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือเพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้"
แม้ กสทช.จะออกกฎเหล็กคุมเข้มคิดค่าโทร.นาทีละ 99 สตางค์ แต่ดูท่าทีของบรรดาผู้ประกอบการค่ายมือถือแม้จะมีโปรโมชันตอบสนองให้กับ กสทช.จำนวน 99 สตางค์ก็จริง หากแต่การโทร.สั้นไม่ได้รับการยอมรับต่อตลาดมากเท่าใดนัก
ทางเดียวที่จะทำได้ คือ กสทช. ต้องแก้ปมประเด็นปัญหาค่าไอซี ที่คิดในอัตรา 1 บาท แต่ให้เอกชนปรับลดค่าบริการลงมาเหลือนาทีละ 99 สตางค์ ดูเหมือนจะสวนทางกับต้นทุนทางธุรกิจที่มีอยู่
หาก กสทช.ยังแก้ปมตรงนี้ไม่ได้เรื่องการกำหนดเพดานค่าโทร.ที่ 99 สตางค์ ดูเหมือนว่าจะเป็นประเด็นที่ต้องกล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง แม้เอกชนจะคิดค่าบริการค่าโทร.ให้ต่ำกว่า 99 สตางค์ก็จริงแต่ดูเหมือนว่าแคมเปญไม่ได้รับความนิยมเท่าใดนัก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=162237:2013-01-04-09-29-50&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491
วันนี้ งด ทำ สรุป!! โทรคมนาคมและการสือสารที่เหลือ ประจำวัน 08/01/2555 ( เหตุข้อจำกัด 4 เรื่องต่อวัน )
เพราะเนื้อข่าวมากจริงวันนี้ ( แต่ให้ 4 ข่าวเต็มครับ ) ข่าวที่เหลือ UP ผ่าน ช่องทางอื่นแทนครับ