เมื่อปีที่แล้ว. เราได้ optimus 3d มาใหม่ค่ะ
ด้วยความเห่อ ปนรู้ตัวว่าใช้ของไม่ระวัง คิดฟิล์มโฟ... ไม่กี่วัน รอยเพียบ เลยอยากหาฟิล์มดีๆ มาติด  ซึ่งก็ทำให้ได้พบกับความรู้สึกอินดี้มาก  เพราะหาแทบจะไม่ๆด้. ที่พึ่งถัดไปเลยเป็นอีเบย์ค่ะ
ระหว่างนั้นก็เสิร์ชจนได้รู้จักฟิล์มตระกูล invisible shield ว่าถึกมาก  เลยคิดว่า. ... นี่แหละ ฟิล์มที่สร้างมาเพื่อชั้น !!!

แต่เห็นราคาแล้วเหวอค่ะ จะแพงไปไหน  ไม่เห็นมีต่ำพันเลยซักเจ้า ก็เสิร์ชไปเรื่อย รับราคาไม่ได้ไปเรื่อย ขนมาเจอเจ้านี้ โม้ด้วยวีิดิโอดูน่าสน. เลยจะดมาด้วยค่าตัวรวมค่าส่งประมาณ9 เหรียญ
ปีกว่าๆที่ติดมา ให้โทรศัพท์อยู่ร่วมกับพวงกุญแจ  ปากกา กลิ้งไปกลิ้งมาในกระเป๋ารวมกับทุกสรรพสิ่ง. ปรากฏว่ามีแค่รอยขนแมวที่แทบต้องหาองศามองค่ะ เริดมาก แต่สิ่งที่ทำให้ฟิล์ม"ไป"ก็คือ "เคส" มือถือนี่แหละค่ะ กินขอบฟิล์มซะเสียสภาพ เลยต้องเปลี่ยนใหม่
เราขอสรุปความเห็นเป็นข้อๆสำหรับฟิล์มยี่ห้อนี้เลยนะคะ ไม่รู้จะแยกดีแยกเสียยังไง
1. ใช้ความเข้มแข็งของใจสูงมากเวลาติดเพราะ ต้องใช้น้ำค่ะ โชลมชุ่มๆ ใจตุ๊มๆต่อมๆตลอดเวลาที่ติด แห้งไปก็เลื่อนยาก ชุ่มไปน้ำก็นองออกมา หัวใจจะวาย
2. ลอกฟิล์มเดิมออกอังแสง. ที่เค้าว่าฟิล์มพวกนี้ใช้ไปนานๆจะเหลือง เราว่าไม่เหลืองนะ (เครื่องที่มีมันสีดำค่ะ เลยตอบได้ตอนลอกแล้ว)
3. ลักษณะฟิล์มจะนิ่มๆค่ะ ด้านที่ติดจอจะหนืดเล็กน้อย เป็นฟิล์มใส มีรอยนิ้วมือมันๆบ้าง แต่ลูบออกง่าย ถูกางเกงก็ใสละ คราบมันๆหลุดง่ายค่ะ
4. ทัช เราว่าตัวฟิล์มจะหนืดนิดๆเมื้อเทียบกับฟิล์มใสที่เป็นแผ่นแข็งๆ
5. ใช้แล้วจะเกิดข้อจำกัดในการเลือกเคสค่ะ เคสนิ่มๆที่ขยับใกล้ๆขอบฟิ์มคือตัวอันตราย แล้วก็ตัวฟิล์มเองจะค่อนข้างหนา ดังนั้นเวลาซื้อเคส ต้องลองก่อนค่ะ ไม่งั้นจะปวดใจเหมือนเรา ที่ใช้ได้แค่ปีเดียวต้องลอกออก. เครื่องHTC ของแฟน ซื้อพร้อมกัน ติดพร้อมกัน ตอนนี้ยังใสกิ๊ก ที่ทางจะใช้ได้อีกยาวๆ

ถ้าใครคุ้นเคยกับebay อยู่แล้ว ก็ลองดูได้ค่ะ เราว่าคุณภาพเมื่อเทียบกับราคาแล้ว แสนจะคุ้ม
ปัจจุบัน น้องOp เราติดฟิล์มยี่ห้อนี้ลงไปใหม่เหมือนเดิม แล้วเราก็สั่งมาสำหรับ iPhone5 อีกเครื่องแล้ว เหลือแค่ทำใจติดตั้ง ซึ่งตอนนี้ทั้งเียดายฟิล์มเดิมอยู่ แล้วก็ ยังอยู่ในช่วงถนอมน้องiอยู่อ่ะค่ะ