ขอออกตัวก่อนว่าเป้นชาวนาอาชีพ ทำนาจริงๆ ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้จะไม่ได้ลงไปดำนาเองก็เถอะ
ก็แค่อยากจะบอกผู้ที่ไม่เข้าใจ หรือไม่มีความรู้อย่างเพียงพอว่า ความชื้นในข้าวเปลือก ก็คือน้ำในข้าวเปลือกนั่นเอง
ยกตัวอย่างง่ายๆ กางเกงยีนส์ ที่เพิ่งซักเสร็จ ถ้าคุณซักด้วยมือ บิดกางเกงยีนส์ของคุณด้วยมือ กางเกงของคุณก็จะค่อนข้างเปียก ที่นี้ คุณลองเอากางเกงยีนส์ตัวนี้ ไปชั่งน้ำหนัก ก็จะได้ประมาณ ซัก 3 กิโลกรัม
แต่ถ้าคุณซักกางเกงยีนส์ของคุณด้วยเครื่องซักผ้า ซึ่งเราทุกคนรู้กันดีอยู่ว่าเครื่องซักผ้า ค่อนข้างจะปั่นผ้าได้หมาดมากมาก เมื่อเครื่องซักผ้าปั่นผ้าได้หมากมากมาก แล้วคุณลองเอากางเกงยีนส์ของคุณไปชั่งน้ำหนักดู ก็จะได้ประมาณซัก 1 กิโลกรัม
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ในที่สุด เมื่อคุณตากกางเกงยีนส์ของคุณจนแห้ง พร้อมที่จะนำมาใส่ ไม่ว่ากางเกงยีนส์นั้น จะซํกด้วยมือ หรือเครื่องซักผ้า มันก็คือกางเกงยีนส์
เปรียบไปก็เหมือนข้าวเปลือก นี่คือเหตุผลที่ชาวนา ไม่แคร์ ไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญซักเท่าไหร่ กับความชื้น เพราะเมื่อความชื้นสูงมาก น้กหนักข้าวเปลือกก็จะมาก จำนวนตันสูง แต่จะถูกหักความชื้นสูงไปด้วย
แต่ถ้าความชื้นน้อย น้าหนักข้าวเปลือกก็จะน้อย แต่หักค่าความชื้นน้อยด้วย
ในการนำข้าวไปขาย ไม่ว่าที่ไหน โรงสีหรือท่าข้าว หรือแม้แต่มาซื้อถึงที่นา จำนำหรือไม่ จำเป็นจะต้องวัดค่าความชื้น เพื่อตีราคาที่แท้จริงของข้าวเปลือกออกมา ให้เป็นค่าความชื้นอยู่ที่ 15% ซึ่งเป็นค่าความชื้นกลาง
การหักค่าความชื้น ก็คือการหักน้ำที่ปนอยู่ในข้าวเปลือกนั่นเอง
ในใบประทวน ใบซื้อขาย อะไรก็ตามแต่ที่ฝ่ายผู้ซื้อข้าวเปลือกทำการตกลงกับชาวนา จะไม่มีการกล่าวถึงความชื้นเลย เพราะมันหักออกไปแล้ว ที่ซื้อขายกัน คือข้าวเปลือกจริงๆ มีน้ำ (ความชิ้น) ปนมาได้ไม่เกิน 15%
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ชาวนาอาชีพ
ว่าด้วยเรื่องของความชื้นในข้าวเปลือก
ก็แค่อยากจะบอกผู้ที่ไม่เข้าใจ หรือไม่มีความรู้อย่างเพียงพอว่า ความชื้นในข้าวเปลือก ก็คือน้ำในข้าวเปลือกนั่นเอง
ยกตัวอย่างง่ายๆ กางเกงยีนส์ ที่เพิ่งซักเสร็จ ถ้าคุณซักด้วยมือ บิดกางเกงยีนส์ของคุณด้วยมือ กางเกงของคุณก็จะค่อนข้างเปียก ที่นี้ คุณลองเอากางเกงยีนส์ตัวนี้ ไปชั่งน้ำหนัก ก็จะได้ประมาณ ซัก 3 กิโลกรัม
แต่ถ้าคุณซักกางเกงยีนส์ของคุณด้วยเครื่องซักผ้า ซึ่งเราทุกคนรู้กันดีอยู่ว่าเครื่องซักผ้า ค่อนข้างจะปั่นผ้าได้หมาดมากมาก เมื่อเครื่องซักผ้าปั่นผ้าได้หมากมากมาก แล้วคุณลองเอากางเกงยีนส์ของคุณไปชั่งน้ำหนักดู ก็จะได้ประมาณซัก 1 กิโลกรัม
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ในที่สุด เมื่อคุณตากกางเกงยีนส์ของคุณจนแห้ง พร้อมที่จะนำมาใส่ ไม่ว่ากางเกงยีนส์นั้น จะซํกด้วยมือ หรือเครื่องซักผ้า มันก็คือกางเกงยีนส์
เปรียบไปก็เหมือนข้าวเปลือก นี่คือเหตุผลที่ชาวนา ไม่แคร์ ไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญซักเท่าไหร่ กับความชื้น เพราะเมื่อความชื้นสูงมาก น้กหนักข้าวเปลือกก็จะมาก จำนวนตันสูง แต่จะถูกหักความชื้นสูงไปด้วย
แต่ถ้าความชื้นน้อย น้าหนักข้าวเปลือกก็จะน้อย แต่หักค่าความชื้นน้อยด้วย
ในการนำข้าวไปขาย ไม่ว่าที่ไหน โรงสีหรือท่าข้าว หรือแม้แต่มาซื้อถึงที่นา จำนำหรือไม่ จำเป็นจะต้องวัดค่าความชื้น เพื่อตีราคาที่แท้จริงของข้าวเปลือกออกมา ให้เป็นค่าความชื้นอยู่ที่ 15% ซึ่งเป็นค่าความชื้นกลาง
การหักค่าความชื้น ก็คือการหักน้ำที่ปนอยู่ในข้าวเปลือกนั่นเอง
ในใบประทวน ใบซื้อขาย อะไรก็ตามแต่ที่ฝ่ายผู้ซื้อข้าวเปลือกทำการตกลงกับชาวนา จะไม่มีการกล่าวถึงความชื้นเลย เพราะมันหักออกไปแล้ว ที่ซื้อขายกัน คือข้าวเปลือกจริงๆ มีน้ำ (ความชิ้น) ปนมาได้ไม่เกิน 15%
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ชาวนาอาชีพ