"กรณ์" โต้ชาวเน็ตทันควัน เชื่อมี "คอมเมนต์จัดตั้ง" ด่าตัวเอง ปมรถคันแรก
หลังจากที่วานนี้ (7ม.ค.55) นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค "Korn Chatikavanij" ถึงนโยบายคืนภาษีรถคันแรกของรัฐบาล หลังจากนั้นมีกระแสทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก วันนี้ (8ธ.ค.) จึงโพสต์ข้อความตอบโต้ว่า
′รถคันแรก′ (อีกครั้ง)
ลองอ่านความเห็นที่ส่งเข้ามาถึงผมครับ...
" ไอ้ควายกุถามหน่อย บ้านมีรถกี่คันไอสัด
แล้วชาวบ้านเค้าอยากมีบ้าง มันไปหนักหัวพ่อหรอ
แล้วรถที่ติดตอนนี้ มันใช่รถคันแรกทั้งหมดหรือไม่
เอาสมองอันน้อยนิดคิดบ้างนะ
อย่าออกมาโชว์โง่ให้มาก
จะรถคันแรกหรือคันไหนๆมันก็ไม่เกี่ยว
ตอนนี้รถจะติดก็ต้องติด เพราะมันไม่ใช่สมัยก่อนแล้ว
รุ่นพ่อแม่ขี่ควายอ่ะ"
ในยุค digital นี้ นักการเมืองต้องอดทนมากเป็นพิเศษครับ! หลายการแสดงออกอย่างเช่นนี้จะเป็นลักษณะ ′จัดตั้ง′ ตามแนวของทีมงานเขา (ที่พูดอย่างนั้นเพราะจะมาเป็นชุดในเวลาเดียวกัน ข้อความเหมือนกัน ฯลฯ หลังจากที่มีการโจมตีแนวคิดผมในเว็บแดง) แต่หลายคนก็คิดอย่างนี้จริง
ที่แน่ๆผมไม่ได้ว่าคนซื้อรถ ดีใจด้วยอีกต่างหากที่ได้ลดภาษี แต่ผมวิจารณ์นโยบาย
ต่อคำท้าว่า ′คุณมีรถได้ ทำไมเรามีไม่ได้′ ขอตอบผู้ที่มีอารมณ์นี้ว่า คุณมีรถได้ครับ ไม่ได้มีใครว่าอะไร แต่คำถามต่อรัฐบาลคือ ทำไมรัฐบาลจึงให้เป็นภาระภาษีของผู้ที่ซื้อรถในอดีต หรือผู้ที่จะซื้อรถในอนาคต ที่จะเสียภาษีเพื่อบำรุงถนน พัฒนารถเมล์ ฯลฯ แต่เว้นให้กับผู้เข้าโครงการเท่านั้น
เพราะถ้าคิดว่าเป็นนโยบายที่ดี ทำไมไม่ลดภาษีให้ทุกคน ตลอดไป? คนซื้อรถปีหน้าเขาก็จะต้องเสียภาษี ในขณะที่ผู้เข้าร่วมโครงการปีนี้ไม่ต้องรับผิดชอบเลย อย่างนี้สองมาตรฐานหรือไม่?
และถ้าเรายึดหลักว่า ′มีได้กูก็ต้องมีได้′ แลัวสำหรับอีกสิบๆล้านคนที่ยังไม่มีรถ ตรรกะคือรัฐบาลควรมีนโยบายสนับสนุนให้ทุกคนมีรถหรือครับ ผมไม่คิดว่ามีประเทศไหนเขาคิดอย่างนั้น และถึงคิดก็ทำไม่ได้
ส่วนต่อคำถามเบื้องบนว่า รถติดเป็นเพราะ ′รถคันแรก′ อย่างเดียวหรือ ผมขอให้ทำใ้จให้กว้างและกลับไปอ่านบทความเดิมของผมอีกครั้ง ผมเขียนไว้ชัดว่า รถไม่ได้ติดเพราะเรื่องนี้เรื่องเดียว ส่วนใครมีรถกี่คันผมว่าประเด็นที่สำคัญคือ ๑. เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ๒. มีที่จอดรถของตัวเองหรือเปล่า หรือต้องจอดบนที่สาธารณะ และ ๓. ยังไงๆก็ขับได้ทีละคันเท่านั้นครับ
ส่วนที่พูดเชิงประชดว่า ถ้าไม่ชอบรถติดก็อย่าขับรถ ผมหวังว่านี่ไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงจากรัฐบาลนะครับ
มาพูดกันด้วยเหตุผลดีกันดีกว่า ผมมีข้อเสนอเยอะ แต่ต้องมีความเข้าใจครงกันก่อนว่า ′นโยบายสาธารณะ′ และ ′นโยบายประชานิยม′ นั้นต่างกันอย่างไร
"กรณ์" โต้ชาวเน็ตทันควัน เชื่อมี "คอมเมนต์จัดตั้ง" ด่าตัวเอง ปมรถคันแรก
หลังจากที่วานนี้ (7ม.ค.55) นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค "Korn Chatikavanij" ถึงนโยบายคืนภาษีรถคันแรกของรัฐบาล หลังจากนั้นมีกระแสทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก วันนี้ (8ธ.ค.) จึงโพสต์ข้อความตอบโต้ว่า
′รถคันแรก′ (อีกครั้ง)
ลองอ่านความเห็นที่ส่งเข้ามาถึงผมครับ...
" ไอ้ควายกุถามหน่อย บ้านมีรถกี่คันไอสัด
แล้วชาวบ้านเค้าอยากมีบ้าง มันไปหนักหัวพ่อหรอ
แล้วรถที่ติดตอนนี้ มันใช่รถคันแรกทั้งหมดหรือไม่
เอาสมองอันน้อยนิดคิดบ้างนะ
อย่าออกมาโชว์โง่ให้มาก
จะรถคันแรกหรือคันไหนๆมันก็ไม่เกี่ยว
ตอนนี้รถจะติดก็ต้องติด เพราะมันไม่ใช่สมัยก่อนแล้ว
รุ่นพ่อแม่ขี่ควายอ่ะ"
ในยุค digital นี้ นักการเมืองต้องอดทนมากเป็นพิเศษครับ! หลายการแสดงออกอย่างเช่นนี้จะเป็นลักษณะ ′จัดตั้ง′ ตามแนวของทีมงานเขา (ที่พูดอย่างนั้นเพราะจะมาเป็นชุดในเวลาเดียวกัน ข้อความเหมือนกัน ฯลฯ หลังจากที่มีการโจมตีแนวคิดผมในเว็บแดง) แต่หลายคนก็คิดอย่างนี้จริง
ที่แน่ๆผมไม่ได้ว่าคนซื้อรถ ดีใจด้วยอีกต่างหากที่ได้ลดภาษี แต่ผมวิจารณ์นโยบาย
ต่อคำท้าว่า ′คุณมีรถได้ ทำไมเรามีไม่ได้′ ขอตอบผู้ที่มีอารมณ์นี้ว่า คุณมีรถได้ครับ ไม่ได้มีใครว่าอะไร แต่คำถามต่อรัฐบาลคือ ทำไมรัฐบาลจึงให้เป็นภาระภาษีของผู้ที่ซื้อรถในอดีต หรือผู้ที่จะซื้อรถในอนาคต ที่จะเสียภาษีเพื่อบำรุงถนน พัฒนารถเมล์ ฯลฯ แต่เว้นให้กับผู้เข้าโครงการเท่านั้น
เพราะถ้าคิดว่าเป็นนโยบายที่ดี ทำไมไม่ลดภาษีให้ทุกคน ตลอดไป? คนซื้อรถปีหน้าเขาก็จะต้องเสียภาษี ในขณะที่ผู้เข้าร่วมโครงการปีนี้ไม่ต้องรับผิดชอบเลย อย่างนี้สองมาตรฐานหรือไม่?
และถ้าเรายึดหลักว่า ′มีได้กูก็ต้องมีได้′ แลัวสำหรับอีกสิบๆล้านคนที่ยังไม่มีรถ ตรรกะคือรัฐบาลควรมีนโยบายสนับสนุนให้ทุกคนมีรถหรือครับ ผมไม่คิดว่ามีประเทศไหนเขาคิดอย่างนั้น และถึงคิดก็ทำไม่ได้
ส่วนต่อคำถามเบื้องบนว่า รถติดเป็นเพราะ ′รถคันแรก′ อย่างเดียวหรือ ผมขอให้ทำใ้จให้กว้างและกลับไปอ่านบทความเดิมของผมอีกครั้ง ผมเขียนไว้ชัดว่า รถไม่ได้ติดเพราะเรื่องนี้เรื่องเดียว ส่วนใครมีรถกี่คันผมว่าประเด็นที่สำคัญคือ ๑. เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ๒. มีที่จอดรถของตัวเองหรือเปล่า หรือต้องจอดบนที่สาธารณะ และ ๓. ยังไงๆก็ขับได้ทีละคันเท่านั้นครับ
ส่วนที่พูดเชิงประชดว่า ถ้าไม่ชอบรถติดก็อย่าขับรถ ผมหวังว่านี่ไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงจากรัฐบาลนะครับ
มาพูดกันด้วยเหตุผลดีกันดีกว่า ผมมีข้อเสนอเยอะ แต่ต้องมีความเข้าใจครงกันก่อนว่า ′นโยบายสาธารณะ′ และ ′นโยบายประชานิยม′ นั้นต่างกันอย่างไร