จากวิกฤติต้มยำกุ้ง สู่วิกฤติต้มยำปู(1)......กวนใจให้สะอาด ...ตาโป๋เป่าปี่ ...แนวหน้าออนไลน์

กระทู้สนทนา
เมื่อปี  พ.ศ.2540  ประเทศไทยประสบกับปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจ
อย่างรุนแรง  ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล  พล.อ.ชวลิต  ยงใจยุทธ  
สถาบันทางการเงินต้องปิดตัวเองและล้มกันอย่างระเนระนาด  
รวมทั้งธุรกิจของเอกชนจำนวนมากก็ต้องปิดตัวเองดำเนินต่อไปไม่ได้  
นักธุรกิจหลายคนต้องฆ่าตัวตาย  เพราะหนี้สินล้นพ้นตัว  
รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่ต้องประสบกับภาวะความเป็นอยู่ในชีวิต
ประจำวันอย่างแสนสาหัส  เพราะไม่มีเงินทองจับจ่ายใช้สอย
                การเงินการคลังของประเทศตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่  
จนต้องไปกู้ยืมเงินจาก  ไอเอ็มเอฟ  มาใช้จ่าย  ทำให้ต้องเป็นหนี้สิน
อย่างมหาศาล  สร้างภาระให้รัฐบาลต่อๆมาต้องหาเงินหาทองมาใช้คืน
กันอย่างเลือดตาแทบกระเด็น
                มีการลดค่าเงินบาท  ซึ่งทำให้ไอ้คนที่หนีคุกไปอยู่ที่ดูไบ
ขณะนี้ร่ำรวยมหาศาลในพริบตา  เพราะมี  “อินไซด์เดอร์”  แอบไปบอก
ล่วงหน้าในท่ามกลางความหายนะของนักธุรกิจรายอื่นๆ  
เพราะไอ้คนหนีคุกมันดอดไปวื้อเงินดอลล่าร์กักตุนไว้ล่วงหน้า  
แล้วมาเปลี่ยนเป็นเงินบาทไทยหลังจากมีการลดค่าแล้ว  
ทำให้มันร่ำรวยขึ้นอย่างมหาศาลในพริบตา  
ในท่ามกลางความหมดเนื้อหมดตัวของนักธุรกิจรายอื่นๆ
                “อินไซด์เดอร์”  ตัวนี้ก็ยังอยู่  และมีชีวิตอยู่ในแวดวง
ทางการเมืองในพรรคของไอ้คนหนีคุกตัวนั้น  และกำลังเป็นตัวตั้งตัวตี
ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้  เพื่อช่วยเหลือไอ้คนหนีคุกตัวนี้ได้กลับ
บ้านอย่างไร้มลทินและได้เงินคืน
                ความวิกฤตที่เกิดขึ้นเมื่อปี  พ.ศ.2540  
รู้จักกันดีในชื่อที่เรียกกันว่า  “วิกฤตต้มยำกุ้ง”  
ซึ่งชื่อดังกล่าวนี้โดยเฉพาะคำว่า  “ต้มยำกุ้ง”  นั้น  
เป็นชื่ออาหารชนิดหนึ่งที่รู้จักกันทั่วไปแม้ในหมู่ชาวต่างประเทศว่า  
อร่อยสุดยอดไปกินอาหารไทยกันเมื่อไรเป็นต้องสั่งต้มยำกุ้งมากินด้วยเสมอ
                แม้วิกฤตต้มยำกุ้งจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม  แต่ในปี  พ.ศ.2555  
เป็นต้นมา  ประเทศไทยก็ต้องประสบกับความวิกฤตครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง  
ซึ่งในครั้งนี้ดูจะหนักหนาสาหัสสากรรจ์ยิ่งกว่าที่ผ่านมา  เพราะเป็นความ
วิกฤติที่ครบเครื่อง  มิเฉพาะความวิกฤติทางเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ในปี  
พ.ศ.2540  เท่านั้น  แต่ลามไปถึงความวิกฤติทางเศรษฐกิจ  ความวิกฤติ
ทางสังคม  ความวิกฤติทางการเมือง  ความวิกฤติทางความมั่นคงของ
ประเทศทุกด้าน  อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน   ภายใต้การบริหารงานของ
น้องสาวของไอ้คนหนีคุกตัวนั้น
                ขอตั้งชื่อวิกฤตครั้งนี้ว่า  “วิกฤตต้มยำปู”
          เป็นวิกฤตที่ร้ายแรงกว่า  “วิกฤตต้มยำกุ้ง”  
เพราะเป็นความวิกฤติที่ครบเครื่องที่กำลังฉุดลากประเทศไทยไปสู่ความล่มจม
หายนะได้ทุกขณะตราบเท่าที่รัฐบาลชุดนี้ยังคงอยู่
                โดยเฉพาะเป็นปูที่อาบฟอร์โมลีนเสียด้วย
                ปีเศษที่ผ่านมาบ้านเมืองวิบัติเสียหายทุกด้านอย่างน่ากลัวอะไรบ้าง  
และในปีใหม่ที่กำลังเริ่มต้นจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรนั้น  จะได้หยิบนยกมาสาธยาย
ให้ได้ฟังกันต่อไป  แม้กระทั่งโหรทุกสำนักก็ยังได้ออกมาทำนายทายทักตรงกัน
หมดว่า  ในปีใหม่  พ.ศ.2556  นี้บ้านเมืองไทยตกอยู่ในสภาพอันตรายอย่างสุดๆ
                
คำทำนายของโหรเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่อาศัยหลักวิชาทาง
โหรศาสตร์ที่ถ่ายทอดออกมาให้ได้รู้ได้ฟังกัน
หลักวิชาที่ว่านี้มีเรื่องของดวงดาวบนท้องฟ้า  
ซึ่งโยกย้ายเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งแห่งที่  
โดยดาวแต่ละดวงที่มีชื่อและอิทธิพลกระทบต่อโลก  
เคลื่อนย้ายไปอยู่ตรงไหนก็จะส่งผลกระทบถึงชีวิตบนโลก
ในรูปแบบและลักษณะที่แตกต่างกันไป
เป็นสถิติที่ปรากฎให้เห็นตรงกันหรือคล้ายคลึงกันได้เสมอ
                ไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีหลักวิชา
                ไม่เชื่อก็ไม่ควรลบหลู่อย่างที่มีผู้เตือนไว้
                
ที่ต้องยกเอาเรื่องของโหรมากล่าวในที่นี้ก็เพราะจากประสบการณ์
ที่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องของบ้านเมืองมาเป็นระยะเวลาพอสมควรทำ
ให้เห็นว่า  ข้อเท็จจริงต่างๆที่เกิดขึ้น  โดยเฉพาะในระยะเวลาใกล้ๆนี้  
จนเกิดความปั่นป่วนวุ่ยวาย  ฆ่าฟันกันเองในระหว่างคนไทยด้วยกันเองนั้น  
ก็เป็นเพราะเรื่องของคนที่มีอำนาจ  
ใช้อำนาจที่มีอยู่ไปในทิศทางของความไม่ถูกต้องชอบธรรม  
เพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเป็นหลัก  
ไม่คำนึงถึงส่วนรวมและประโยชน์ของสาธารณะ
                เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้
                และด้วยการยังคงอยู่ของข้อเท็จจริงดังกล่าว
ในช่วงปีที่ผ่านมา  ย่อมต่อเนื่องมาถึงปีใหม่ที่กำลังเริ่มต้นอยู่ในขณะนี้  
ปัญหาและความยุ่งยากวุ่นวายก็ย่อมติดพันตามกันมายากจะหลีกเลี่ยงได้  
ในปีใหม่นี้เหตุการณ์ต่างๆจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาที่รุนแรงและอยู่
ในสภาพอันตรายอย่างสุดๆเหมือนการทำนายของโหร
                โหรว่าไว้อย่างไร  และการวิเคราะห์สถานการณ์จาก
สภาพการณ์ของข้อเท็จจริงที่ปรากฎเป็นรูปธรรมจับต้องได้ว่าจะเป็นอย่างไรนั้น
ขอนำมากล่าวในตอนต่อไปข้างหน้า

ตาโป๋เป่าปี่

http://www.naewna.com/politic/columnist/4830

อีกสักทีนะ  คอลัมนิสต์ "แนวหน้า"  อีกแล้ว  
เอามาเทียบกับเจ้าสัวใหญ่  ซีพี  เพื่อนๆ ว่าใครน่าเชื่อถือคะ

มีข่าวดีจริงๆ มาบอกค่ะ ..." ธนินท์ เจียรวนนท์" ชี้"ไทย"
ก้าวไกลสุดยอดอาเซียน .....มติชนออนไลน์
http://ppantip.com/topic/30023621

อ่าน "แนวหน้า" ทุกวัน  จิตใจหดหู่  บ้านเมืองย่ำแย่
ไร้ทางแก้ไข  ดีที่ขายไม่ค่อยดี  เลยปลุกปั่นไม่ได้มาก
นี่ตือ "ข่าวดี"  ที่ "คุณอดีตหัวหน้าเผ่า"  เก็บมาบอกเกือบทุกวัน


สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่