เมื่อปี พ.ศ.2540 ประเทศไทยประสบกับปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจ
อย่างรุนแรง ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
สถาบันทางการเงินต้องปิดตัวเองและล้มกันอย่างระเนระนาด
รวมทั้งธุรกิจของเอกชนจำนวนมากก็ต้องปิดตัวเองดำเนินต่อไปไม่ได้
นักธุรกิจหลายคนต้องฆ่าตัวตาย เพราะหนี้สินล้นพ้นตัว
รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่ต้องประสบกับภาวะความเป็นอยู่ในชีวิต
ประจำวันอย่างแสนสาหัส เพราะไม่มีเงินทองจับจ่ายใช้สอย
การเงินการคลังของประเทศตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่
จนต้องไปกู้ยืมเงินจาก ไอเอ็มเอฟ มาใช้จ่าย ทำให้ต้องเป็นหนี้สิน
อย่างมหาศาล สร้างภาระให้รัฐบาลต่อๆมาต้องหาเงินหาทองมาใช้คืน
กันอย่างเลือดตาแทบกระเด็น
มีการลดค่าเงินบาท ซึ่งทำให้ไอ้คนที่หนีคุกไปอยู่ที่ดูไบ
ขณะนี้ร่ำรวยมหาศาลในพริบตา เพราะมี “อินไซด์เดอร์” แอบไปบอก
ล่วงหน้าในท่ามกลางความหายนะของนักธุรกิจรายอื่นๆ
เพราะไอ้คนหนีคุกมันดอดไปวื้อเงินดอลล่าร์กักตุนไว้ล่วงหน้า
แล้วมาเปลี่ยนเป็นเงินบาทไทยหลังจากมีการลดค่าแล้ว
ทำให้มันร่ำรวยขึ้นอย่างมหาศาลในพริบตา
ในท่ามกลางความหมดเนื้อหมดตัวของนักธุรกิจรายอื่นๆ
“อินไซด์เดอร์” ตัวนี้ก็ยังอยู่ และมีชีวิตอยู่ในแวดวง
ทางการเมืองในพรรคของไอ้คนหนีคุกตัวนั้น และกำลังเป็นตัวตั้งตัวตี
ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อช่วยเหลือไอ้คนหนีคุกตัวนี้ได้กลับ
บ้านอย่างไร้มลทินและได้เงินคืน
ความวิกฤตที่เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2540
รู้จักกันดีในชื่อที่เรียกกันว่า “วิกฤตต้มยำกุ้ง”
ซึ่งชื่อดังกล่าวนี้โดยเฉพาะคำว่า “ต้มยำกุ้ง” นั้น
เป็นชื่ออาหารชนิดหนึ่งที่รู้จักกันทั่วไปแม้ในหมู่ชาวต่างประเทศว่า
อร่อยสุดยอดไปกินอาหารไทยกันเมื่อไรเป็นต้องสั่งต้มยำกุ้งมากินด้วยเสมอ
แม้วิกฤตต้มยำกุ้งจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม แต่ในปี พ.ศ.2555
เป็นต้นมา ประเทศไทยก็ต้องประสบกับความวิกฤตครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งในครั้งนี้ดูจะหนักหนาสาหัสสากรรจ์ยิ่งกว่าที่ผ่านมา เพราะเป็นความ
วิกฤติที่ครบเครื่อง มิเฉพาะความวิกฤติทางเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ในปี
พ.ศ.2540 เท่านั้น แต่ลามไปถึงความวิกฤติทางเศรษฐกิจ ความวิกฤติ
ทางสังคม ความวิกฤติทางการเมือง ความวิกฤติทางความมั่นคงของ
ประเทศทุกด้าน อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน ภายใต้การบริหารงานของ
น้องสาวของไอ้คนหนีคุกตัวนั้น
ขอตั้งชื่อวิกฤตครั้งนี้ว่า “วิกฤตต้มยำปู”
เป็นวิกฤตที่ร้ายแรงกว่า “วิกฤตต้มยำกุ้ง”
เพราะเป็นความวิกฤติที่ครบเครื่องที่กำลังฉุดลากประเทศไทยไปสู่ความล่มจม
หายนะได้ทุกขณะตราบเท่าที่รัฐบาลชุดนี้ยังคงอยู่
โดยเฉพาะเป็นปูที่อาบฟอร์โมลีนเสียด้วย
ปีเศษที่ผ่านมาบ้านเมืองวิบัติเสียหายทุกด้านอย่างน่ากลัวอะไรบ้าง
และในปีใหม่ที่กำลังเริ่มต้นจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรนั้น จะได้หยิบนยกมาสาธยาย
ให้ได้ฟังกันต่อไป แม้กระทั่งโหรทุกสำนักก็ยังได้ออกมาทำนายทายทักตรงกัน
หมดว่า ในปีใหม่ พ.ศ.2556 นี้บ้านเมืองไทยตกอยู่ในสภาพอันตรายอย่างสุดๆ
คำทำนายของโหรเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่อาศัยหลักวิชาทาง
โหรศาสตร์ที่ถ่ายทอดออกมาให้ได้รู้ได้ฟังกัน
หลักวิชาที่ว่านี้มีเรื่องของดวงดาวบนท้องฟ้า
ซึ่งโยกย้ายเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งแห่งที่
โดยดาวแต่ละดวงที่มีชื่อและอิทธิพลกระทบต่อโลก
เคลื่อนย้ายไปอยู่ตรงไหนก็จะส่งผลกระทบถึงชีวิตบนโลก
ในรูปแบบและลักษณะที่แตกต่างกันไป
เป็นสถิติที่ปรากฎให้เห็นตรงกันหรือคล้ายคลึงกันได้เสมอ
ไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีหลักวิชา
ไม่เชื่อก็ไม่ควรลบหลู่อย่างที่มีผู้เตือนไว้
ที่ต้องยกเอาเรื่องของโหรมากล่าวในที่นี้ก็เพราะจากประสบการณ์
ที่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องของบ้านเมืองมาเป็นระยะเวลาพอสมควรทำ
ให้เห็นว่า ข้อเท็จจริงต่างๆที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในระยะเวลาใกล้ๆนี้
จนเกิดความปั่นป่วนวุ่ยวาย ฆ่าฟันกันเองในระหว่างคนไทยด้วยกันเองนั้น
ก็เป็นเพราะเรื่องของคนที่มีอำนาจ
ใช้อำนาจที่มีอยู่ไปในทิศทางของความไม่ถูกต้องชอบธรรม
เพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเป็นหลัก
ไม่คำนึงถึงส่วนรวมและประโยชน์ของสาธารณะ
เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้
และด้วยการยังคงอยู่ของข้อเท็จจริงดังกล่าว
ในช่วงปีที่ผ่านมา ย่อมต่อเนื่องมาถึงปีใหม่ที่กำลังเริ่มต้นอยู่ในขณะนี้
ปัญหาและความยุ่งยากวุ่นวายก็ย่อมติดพันตามกันมายากจะหลีกเลี่ยงได้
ในปีใหม่นี้เหตุการณ์ต่างๆจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาที่รุนแรงและอยู่
ในสภาพอันตรายอย่างสุดๆเหมือนการทำนายของโหร
โหรว่าไว้อย่างไร และการวิเคราะห์สถานการณ์จาก
สภาพการณ์ของข้อเท็จจริงที่ปรากฎเป็นรูปธรรมจับต้องได้ว่าจะเป็นอย่างไรนั้น
ขอนำมากล่าวในตอนต่อไปข้างหน้า
ตาโป๋เป่าปี่
http://www.naewna.com/politic/columnist/4830
อีกสักทีนะ คอลัมนิสต์ "แนวหน้า" อีกแล้ว
เอามาเทียบกับเจ้าสัวใหญ่ ซีพี เพื่อนๆ ว่าใครน่าเชื่อถือคะ
มีข่าวดีจริงๆ มาบอกค่ะ ..." ธนินท์ เจียรวนนท์" ชี้"ไทย"
ก้าวไกลสุดยอดอาเซียน .....มติชนออนไลน์
http://ppantip.com/topic/30023621
อ่าน "แนวหน้า" ทุกวัน จิตใจหดหู่ บ้านเมืองย่ำแย่
ไร้ทางแก้ไข ดีที่ขายไม่ค่อยดี เลยปลุกปั่นไม่ได้มาก
นี่ตือ "ข่าวดี" ที่ "คุณอดีตหัวหน้าเผ่า" เก็บมาบอกเกือบทุกวัน
จากวิกฤติต้มยำกุ้ง สู่วิกฤติต้มยำปู(1)......กวนใจให้สะอาด ...ตาโป๋เป่าปี่ ...แนวหน้าออนไลน์
อย่างรุนแรง ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
สถาบันทางการเงินต้องปิดตัวเองและล้มกันอย่างระเนระนาด
รวมทั้งธุรกิจของเอกชนจำนวนมากก็ต้องปิดตัวเองดำเนินต่อไปไม่ได้
นักธุรกิจหลายคนต้องฆ่าตัวตาย เพราะหนี้สินล้นพ้นตัว
รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่ต้องประสบกับภาวะความเป็นอยู่ในชีวิต
ประจำวันอย่างแสนสาหัส เพราะไม่มีเงินทองจับจ่ายใช้สอย
การเงินการคลังของประเทศตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่
จนต้องไปกู้ยืมเงินจาก ไอเอ็มเอฟ มาใช้จ่าย ทำให้ต้องเป็นหนี้สิน
อย่างมหาศาล สร้างภาระให้รัฐบาลต่อๆมาต้องหาเงินหาทองมาใช้คืน
กันอย่างเลือดตาแทบกระเด็น
มีการลดค่าเงินบาท ซึ่งทำให้ไอ้คนที่หนีคุกไปอยู่ที่ดูไบ
ขณะนี้ร่ำรวยมหาศาลในพริบตา เพราะมี “อินไซด์เดอร์” แอบไปบอก
ล่วงหน้าในท่ามกลางความหายนะของนักธุรกิจรายอื่นๆ
เพราะไอ้คนหนีคุกมันดอดไปวื้อเงินดอลล่าร์กักตุนไว้ล่วงหน้า
แล้วมาเปลี่ยนเป็นเงินบาทไทยหลังจากมีการลดค่าแล้ว
ทำให้มันร่ำรวยขึ้นอย่างมหาศาลในพริบตา
ในท่ามกลางความหมดเนื้อหมดตัวของนักธุรกิจรายอื่นๆ
“อินไซด์เดอร์” ตัวนี้ก็ยังอยู่ และมีชีวิตอยู่ในแวดวง
ทางการเมืองในพรรคของไอ้คนหนีคุกตัวนั้น และกำลังเป็นตัวตั้งตัวตี
ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อช่วยเหลือไอ้คนหนีคุกตัวนี้ได้กลับ
บ้านอย่างไร้มลทินและได้เงินคืน
ความวิกฤตที่เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2540
รู้จักกันดีในชื่อที่เรียกกันว่า “วิกฤตต้มยำกุ้ง”
ซึ่งชื่อดังกล่าวนี้โดยเฉพาะคำว่า “ต้มยำกุ้ง” นั้น
เป็นชื่ออาหารชนิดหนึ่งที่รู้จักกันทั่วไปแม้ในหมู่ชาวต่างประเทศว่า
อร่อยสุดยอดไปกินอาหารไทยกันเมื่อไรเป็นต้องสั่งต้มยำกุ้งมากินด้วยเสมอ
แม้วิกฤตต้มยำกุ้งจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม แต่ในปี พ.ศ.2555
เป็นต้นมา ประเทศไทยก็ต้องประสบกับความวิกฤตครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งในครั้งนี้ดูจะหนักหนาสาหัสสากรรจ์ยิ่งกว่าที่ผ่านมา เพราะเป็นความ
วิกฤติที่ครบเครื่อง มิเฉพาะความวิกฤติทางเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ในปี
พ.ศ.2540 เท่านั้น แต่ลามไปถึงความวิกฤติทางเศรษฐกิจ ความวิกฤติ
ทางสังคม ความวิกฤติทางการเมือง ความวิกฤติทางความมั่นคงของ
ประเทศทุกด้าน อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน ภายใต้การบริหารงานของ
น้องสาวของไอ้คนหนีคุกตัวนั้น
ขอตั้งชื่อวิกฤตครั้งนี้ว่า “วิกฤตต้มยำปู”
เป็นวิกฤตที่ร้ายแรงกว่า “วิกฤตต้มยำกุ้ง”
เพราะเป็นความวิกฤติที่ครบเครื่องที่กำลังฉุดลากประเทศไทยไปสู่ความล่มจม
หายนะได้ทุกขณะตราบเท่าที่รัฐบาลชุดนี้ยังคงอยู่
โดยเฉพาะเป็นปูที่อาบฟอร์โมลีนเสียด้วย
ปีเศษที่ผ่านมาบ้านเมืองวิบัติเสียหายทุกด้านอย่างน่ากลัวอะไรบ้าง
และในปีใหม่ที่กำลังเริ่มต้นจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรนั้น จะได้หยิบนยกมาสาธยาย
ให้ได้ฟังกันต่อไป แม้กระทั่งโหรทุกสำนักก็ยังได้ออกมาทำนายทายทักตรงกัน
หมดว่า ในปีใหม่ พ.ศ.2556 นี้บ้านเมืองไทยตกอยู่ในสภาพอันตรายอย่างสุดๆ
คำทำนายของโหรเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่อาศัยหลักวิชาทาง
โหรศาสตร์ที่ถ่ายทอดออกมาให้ได้รู้ได้ฟังกัน
หลักวิชาที่ว่านี้มีเรื่องของดวงดาวบนท้องฟ้า
ซึ่งโยกย้ายเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งแห่งที่
โดยดาวแต่ละดวงที่มีชื่อและอิทธิพลกระทบต่อโลก
เคลื่อนย้ายไปอยู่ตรงไหนก็จะส่งผลกระทบถึงชีวิตบนโลก
ในรูปแบบและลักษณะที่แตกต่างกันไป
เป็นสถิติที่ปรากฎให้เห็นตรงกันหรือคล้ายคลึงกันได้เสมอ
ไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีหลักวิชา
ไม่เชื่อก็ไม่ควรลบหลู่อย่างที่มีผู้เตือนไว้
ที่ต้องยกเอาเรื่องของโหรมากล่าวในที่นี้ก็เพราะจากประสบการณ์
ที่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องของบ้านเมืองมาเป็นระยะเวลาพอสมควรทำ
ให้เห็นว่า ข้อเท็จจริงต่างๆที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในระยะเวลาใกล้ๆนี้
จนเกิดความปั่นป่วนวุ่ยวาย ฆ่าฟันกันเองในระหว่างคนไทยด้วยกันเองนั้น
ก็เป็นเพราะเรื่องของคนที่มีอำนาจ
ใช้อำนาจที่มีอยู่ไปในทิศทางของความไม่ถูกต้องชอบธรรม
เพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเป็นหลัก
ไม่คำนึงถึงส่วนรวมและประโยชน์ของสาธารณะ
เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้
และด้วยการยังคงอยู่ของข้อเท็จจริงดังกล่าว
ในช่วงปีที่ผ่านมา ย่อมต่อเนื่องมาถึงปีใหม่ที่กำลังเริ่มต้นอยู่ในขณะนี้
ปัญหาและความยุ่งยากวุ่นวายก็ย่อมติดพันตามกันมายากจะหลีกเลี่ยงได้
ในปีใหม่นี้เหตุการณ์ต่างๆจึงมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาที่รุนแรงและอยู่
ในสภาพอันตรายอย่างสุดๆเหมือนการทำนายของโหร
โหรว่าไว้อย่างไร และการวิเคราะห์สถานการณ์จาก
สภาพการณ์ของข้อเท็จจริงที่ปรากฎเป็นรูปธรรมจับต้องได้ว่าจะเป็นอย่างไรนั้น
ขอนำมากล่าวในตอนต่อไปข้างหน้า
ตาโป๋เป่าปี่
http://www.naewna.com/politic/columnist/4830
อีกสักทีนะ คอลัมนิสต์ "แนวหน้า" อีกแล้ว
เอามาเทียบกับเจ้าสัวใหญ่ ซีพี เพื่อนๆ ว่าใครน่าเชื่อถือคะ
มีข่าวดีจริงๆ มาบอกค่ะ ..." ธนินท์ เจียรวนนท์" ชี้"ไทย"
ก้าวไกลสุดยอดอาเซียน .....มติชนออนไลน์
http://ppantip.com/topic/30023621
อ่าน "แนวหน้า" ทุกวัน จิตใจหดหู่ บ้านเมืองย่ำแย่
ไร้ทางแก้ไข ดีที่ขายไม่ค่อยดี เลยปลุกปั่นไม่ได้มาก
นี่ตือ "ข่าวดี" ที่ "คุณอดีตหัวหน้าเผ่า" เก็บมาบอกเกือบทุกวัน