ขอประเดิมพันทิปโฉมใหม่ ด้วยบทความเกี่ยวกับ ละครดีๆ ในความคิดของคนคนหนึ่ง
เคยคิดไว้ว่าถ้ามีละครดีๆ ออกมาเยอะๆ อาจจะมีส่วนช่วยให้บ้านเมืองดีขึ้นกว่านี้บ้าง
เพราะละครเป็นหนึ่งในสื่อที่เข้าถึงคนหมู่มากได้ดีที่สุด
ละครดีๆ ในที่นี้หมายถึงละครที่สอดแทรกคุณธรรม สอนให้เป็นคนดี แบบที่ไม่ยัดเยียดเกินไป
และที่สำคัญคือต้องสนุก เพราะคนจะดูละครก็เพราะมันสนุก เพราะความบันเทิงเป็นหลัก
ส่วนเรื่องคุณธรรมที่สอดแทรกเข้าไปนั้น เป็นผลในทางอ้อม
และที่บอกว่าต้องมีออกมาเยอะๆ เพราะเป็นปกติของมนุษย์ที่ถ้าเจออะไรซ้ำๆ บ่อยๆ
ก็จะซึมซับเข้าไปได้เองทั้งในด้านดีและไม่ดี
ทีนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวบุคคลแล้วว่าจะสามารถแยกแยะได้หรือไม่ว่าสิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี
และหลังจากแยกแยะแล้วจะนำไปปฎิบัติหรือไม่ นั่นก็เป็นอีกเรื่องนึง
ไม่ได้บอกว่าถ้ามีละครดี แล้วจะมีคนดีมากชึ้น หรือถ้ามีละครน้ำเน่า ก็จะมีคนน้ำเน่ามากขึ้น
มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เพียงแค่ถ้ามีละครแบบไหนออกมาเยอะ คนก็จะผ่านหู ผ่านตาแบบนั้นเยอะ
เหมือนมันมีตัวอย่างให้เห็นอยู่บ่อยๆ มันก็จะซึมซับเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
(และโดยไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด ไม่ถูกสั่งสอน) แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนด้วย
ดังนั้นในการสร้างละครคุณภาพดีที่สนุก และสอดแทรกคุณธรรม เป็นเรื่องยากทีเดียว
แค่ทำให้สนุก คนดูเยอะๆ ก็ยากแล้ว และยังต้องเป็นละครคุณธรรมที่สนุกอีก ยิ่งยากเข้าไปใหญ่
บทความนี้เขียนขึ้นหลังจากเกิดปรากฎการณ์เกี่ยวกับละครที่คิดว่าเป็นละครคุณภาพดีเรื่องหนึ่ง
นั่นคือเรื่อง เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์
ละครเรื่องนี้ ผมเองก็ไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่ แต่ก็พอจะรู้บ้างว่าเป็นละครคุณธรรมเรื่องหนึ่งที่ศรัทธาต่อการทำความดี ต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชั่น
ส่วนจะสนุกมั้ย อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
แต่ที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้นั่นคือ ละครถูกแบน ไม่ได้ถูกแบนจากคนดู แต่ถูกแบนจากสถานีที่ออกอากาศเอง
โดยทางสถานีแจ้งเพียงว่า มีเนื้อหาไม่เหมาะสม แค่นั้น
ไม่เหมาะสมอย่างไร ไม่มีการชี้แจงอะไรเพิ่มเติม ปล่อยให้คิดกันเอาเอง
แต่มีเสียงร่ำลือว่าผู้ที่แบนจริงๆ นั้นไม่ใช่ทางสถานี แต่เป็นใบสั่งจากรัฐบาล!
รัฐบาลแบนจริงหรือ แบนทำไม เพราะอะไร บ้างก็ว่าละครมีเนื้อหากระทบกระเทียบรัฐบาล มีเนื้อหาใกล้เคียงความจริง
บ้างก็ว่ามีบทละครแทงใจดำ บ้างก็ว่าร้อนตัว กลัวคนรู้ กลัวคนคิดได้ ฯลฯ
แต่ถ้าเป็นใบสั่งจากรัฐบาลจริง ผมว่ามันเป็นเรื่องตลกทีเดียวที่ตัวแทนของประเทศชาติมาให้ความสำคัญกับการแบนละครเรื่องหนึ่ง
ละคร ยังไงมันก็เป็นละคร เป็นสื่อบันเทิงอย่างหนึ่ง ที่อาจจะมีการ... เอ๊ะ! หรือว่า ที่เค้าลือกันจะเป็นเรื่องจริง!
ประเด็นที่เขียนบทความนี้ขึ้นมาคือการสร้างละครคุณภาพดีขึ้นมาเรื่องหนึ่ง (ที่อาจจะมีส่วนช่วยให้บ้านเมืองมีคุณธรรมขึ้นมาบ้าง)
ว่าเป็นเรื่องยากแล้ว แต่พอสร้างขึ้นมาแล้วกลับมาถูกแบนแบบไม่มีคำชี้แจงแบบนี้
การที่จะมีผู้สร้างละครคุณภาพดีขึ้นมาอีกคงเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก
แต่การที่เกิดกระแสกับเรื่องเหนือเมฆ 2 แบบนี้ จะว่าไปก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน
นั่นคือเป็นเรื่องให้คนหันมาฉุกคิดกันมากขึ้นว่าเพราะอะไร ทำไมถึงถูกแบน
และกระแสจากเรื่องนี้ก็จะมีคนสนใจ จากคนที่ไม่เคยดูก็จะหามาดูกันมากขึ้นว่ามันเป็นอย่างไร
ก็ถือว่าเป็นการโปรโมทละครคุณภาพดีเรื่องหนึ่งที่ดีทีเดียว
ปล. กระแสของเหนือเมฆ 2 ก่อนที่จะถูกแบน ผมว่ามันยังสู้เรื่อง คู่เดือด ไม่ได้เลย ตอนที่มีประโยคเด็ดว่า
หน้าที่ของข้าราชการ คือ ต้องรับใช้ประชาชน
"ละครดี ๆ" ในความคิดของคนคนหนึ่ง
เคยคิดไว้ว่าถ้ามีละครดีๆ ออกมาเยอะๆ อาจจะมีส่วนช่วยให้บ้านเมืองดีขึ้นกว่านี้บ้าง
เพราะละครเป็นหนึ่งในสื่อที่เข้าถึงคนหมู่มากได้ดีที่สุด
ละครดีๆ ในที่นี้หมายถึงละครที่สอดแทรกคุณธรรม สอนให้เป็นคนดี แบบที่ไม่ยัดเยียดเกินไป
และที่สำคัญคือต้องสนุก เพราะคนจะดูละครก็เพราะมันสนุก เพราะความบันเทิงเป็นหลัก
ส่วนเรื่องคุณธรรมที่สอดแทรกเข้าไปนั้น เป็นผลในทางอ้อม
และที่บอกว่าต้องมีออกมาเยอะๆ เพราะเป็นปกติของมนุษย์ที่ถ้าเจออะไรซ้ำๆ บ่อยๆ
ก็จะซึมซับเข้าไปได้เองทั้งในด้านดีและไม่ดี
ทีนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวบุคคลแล้วว่าจะสามารถแยกแยะได้หรือไม่ว่าสิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี
และหลังจากแยกแยะแล้วจะนำไปปฎิบัติหรือไม่ นั่นก็เป็นอีกเรื่องนึง
ไม่ได้บอกว่าถ้ามีละครดี แล้วจะมีคนดีมากชึ้น หรือถ้ามีละครน้ำเน่า ก็จะมีคนน้ำเน่ามากขึ้น
มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เพียงแค่ถ้ามีละครแบบไหนออกมาเยอะ คนก็จะผ่านหู ผ่านตาแบบนั้นเยอะ
เหมือนมันมีตัวอย่างให้เห็นอยู่บ่อยๆ มันก็จะซึมซับเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
(และโดยไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด ไม่ถูกสั่งสอน) แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนด้วย
ดังนั้นในการสร้างละครคุณภาพดีที่สนุก และสอดแทรกคุณธรรม เป็นเรื่องยากทีเดียว
แค่ทำให้สนุก คนดูเยอะๆ ก็ยากแล้ว และยังต้องเป็นละครคุณธรรมที่สนุกอีก ยิ่งยากเข้าไปใหญ่
บทความนี้เขียนขึ้นหลังจากเกิดปรากฎการณ์เกี่ยวกับละครที่คิดว่าเป็นละครคุณภาพดีเรื่องหนึ่ง
นั่นคือเรื่อง เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์
ละครเรื่องนี้ ผมเองก็ไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่ แต่ก็พอจะรู้บ้างว่าเป็นละครคุณธรรมเรื่องหนึ่งที่ศรัทธาต่อการทำความดี ต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชั่น
ส่วนจะสนุกมั้ย อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
แต่ที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้นั่นคือ ละครถูกแบน ไม่ได้ถูกแบนจากคนดู แต่ถูกแบนจากสถานีที่ออกอากาศเอง
โดยทางสถานีแจ้งเพียงว่า มีเนื้อหาไม่เหมาะสม แค่นั้น
ไม่เหมาะสมอย่างไร ไม่มีการชี้แจงอะไรเพิ่มเติม ปล่อยให้คิดกันเอาเอง
แต่มีเสียงร่ำลือว่าผู้ที่แบนจริงๆ นั้นไม่ใช่ทางสถานี แต่เป็นใบสั่งจากรัฐบาล!
รัฐบาลแบนจริงหรือ แบนทำไม เพราะอะไร บ้างก็ว่าละครมีเนื้อหากระทบกระเทียบรัฐบาล มีเนื้อหาใกล้เคียงความจริง
บ้างก็ว่ามีบทละครแทงใจดำ บ้างก็ว่าร้อนตัว กลัวคนรู้ กลัวคนคิดได้ ฯลฯ
แต่ถ้าเป็นใบสั่งจากรัฐบาลจริง ผมว่ามันเป็นเรื่องตลกทีเดียวที่ตัวแทนของประเทศชาติมาให้ความสำคัญกับการแบนละครเรื่องหนึ่ง
ละคร ยังไงมันก็เป็นละคร เป็นสื่อบันเทิงอย่างหนึ่ง ที่อาจจะมีการ... เอ๊ะ! หรือว่า ที่เค้าลือกันจะเป็นเรื่องจริง!
ประเด็นที่เขียนบทความนี้ขึ้นมาคือการสร้างละครคุณภาพดีขึ้นมาเรื่องหนึ่ง (ที่อาจจะมีส่วนช่วยให้บ้านเมืองมีคุณธรรมขึ้นมาบ้าง)
ว่าเป็นเรื่องยากแล้ว แต่พอสร้างขึ้นมาแล้วกลับมาถูกแบนแบบไม่มีคำชี้แจงแบบนี้
การที่จะมีผู้สร้างละครคุณภาพดีขึ้นมาอีกคงเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก
แต่การที่เกิดกระแสกับเรื่องเหนือเมฆ 2 แบบนี้ จะว่าไปก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน
นั่นคือเป็นเรื่องให้คนหันมาฉุกคิดกันมากขึ้นว่าเพราะอะไร ทำไมถึงถูกแบน
และกระแสจากเรื่องนี้ก็จะมีคนสนใจ จากคนที่ไม่เคยดูก็จะหามาดูกันมากขึ้นว่ามันเป็นอย่างไร
ก็ถือว่าเป็นการโปรโมทละครคุณภาพดีเรื่องหนึ่งที่ดีทีเดียว
ปล. กระแสของเหนือเมฆ 2 ก่อนที่จะถูกแบน ผมว่ามันยังสู้เรื่อง คู่เดือด ไม่ได้เลย ตอนที่มีประโยคเด็ดว่า
หน้าที่ของข้าราชการ คือ ต้องรับใช้ประชาชน