ก่อนที่่จะมาดำน้ำเคยไปเดินเขาที่คีนาบาลู และที่นั่นได้เห็นโฆษณาโลกใต้ทะเลของที่มาลาเซีย ยังคิดอยู่เคยว่า สวยจังเลย อยากไปจัง จากนั้นพอมาดำน้ำ "สิปาดัน" จึงเป็นที่ๆ หนึ่งที่หมายมั่นปั้นมือว่าต้องไปให้ได้
เราวางแผนกันมาข้ามปีกับทริปที่จะไปแหวกว่ายชมความงามใต้ทะเลที่สิปาดัน จนในทีสุด วันที่ 19 ต.ค 2555 เราก็ได้ไป การเดินทางไม่ค่อยลำบาก แต่ค่อนข้างเหนื่อยเพราะต้องนั่งเครื่องไปลงที่กัวลาลัมเปอร์ แล้วต่อเครื่องภายในประเทศเพื่อไปลงที่ตาเวา มันเพลียก็ตรงรอเครื่องบินนี่แหละค่ะ เพราะ delay เป็นชั่วโมงตลอด ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่รอ ดังนั้นแนะนำว่าถ้าจะจองตั๋วไปตาเวา ควรจองเพื่อเวลา delay ด้วยนะคะ และจากการที่เสียเวลารอเครื่องบินเป็นชั่วโมง ทำให้เราไปถึงตาเวาก็ค่ำแล้ว ไปถึงก็ขึ้นรถตู้ของ "Sipadan Water Village" ทีมารอรับ ก็นั่งรถเข้าไปในตัวเมืองก็เกือบชั่วโมง ไปถึงก็ตรงเข้าห้องนอนกันทันที เพราะเพลียมาก
รุ่งเช้าตื่นมาทานอาหารเช้าของโรงแรมที่พัก แล้วก็รอขึ้นรถตู้อีกครั้ง เพื่อเดินทางไปยังท่าเรือเซมโพนาเพื่อที่จะนั่งเรือไปเกาะมาบลูกัน ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมไปท่าเรือประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ แล้วก็ลงเรือมุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่รอคอย
ตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าไปที่พัก "Sipadan Water Village" บนเกาะมาบลู ไม่ต้องแปลกใจนะคะ ว่าทำไมอยู่บนเกาะมาบูล ต้องอธิบายก่อนว่า การมาดำน้ำที่เกาะสิปาดัน นักท่องเที่ยวต้องพักค้างคืนบนเกาะมาบลูที่จะมีรีสอร์ทรองรับอยู่ เพราะบนเกาะสิปาดัน ไม่อนุญาตให้มาพักค้างคืนได้ค่ะ ก็นั่งเรือกันอีกประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงเป้าหมายที่รอคอยมานาน
ถึงแล้วค่ะ "Sipadan Water Village"
ทันทีที่ขึ้นบนรีสอร์ทก็จะมีพนักงานตอนร้บทั้งหญิงและชายมายืนต้อนรับพร้อมกับคำพูดว่า
"สวัสดีครับ" หรือ "สวัสดีค่า"
ทำไมนะเหรอคะ
ก็ทั้งรีสอร์ทเป็นคนไทยเกือบทั้งหมดเลยค่า เลยไม่ได้คิดว่ามาเที่ยวต่างประเทศเลยนึกว่าอยู่บนเกาะบ้านเราซะอีก เดินไปทางไหนก็เจอแต่คนไทย แต่ดีเหมือนกันนะคะ พูดกันง่าย เข้าใจง่าย ไม่เหงาค่ะ 555
จากนั้นเขาก็ให้เราไปนั่งฟังอธิบายเกี่ยวก้บกฎ ระเบียบ และข้อปฏิบัติต่างๆ กันสักพัก ก่อนจะปล่อยเข้าที่พักเพื่อเตรียมตัวไปดำน้ำ Dive แรก แต่เรื่องดำน้ำจะมาเล่าให้ฟังในตอนต่อไปนะคะ ในวันแรกเราจึงไม่ค่อยมีเวลาเดินเล่นสักเท่าไหร่ เพราะกว่าจะดำน้ำเสร็จ ครบ 2 Dive ก็เย็นย่ำ เพลียแล้วค่ะ การสำรวจจึงเริ่มในวันรุ่งขึ้น
จริงๆ แล้วใน 2 วันแรกที่ต้องดำน้ำไม่ค่อยได้มีเวลาเดินเล่นเท่าไหร่ เพราะต้องไปดำน้ำ Dive ตอนเช้าประมาณ 8.30 น. แต่ติดทีว่าเป็นคนชอบถ่ายรูป จึงตื่นแต่เช้าเพื่อมารอแสงอาทิตย์ ก็เก็บภาพก่อนที่จะไปทานอาหารเช้า
รุ่งอรุณที่ Sipadan Water Village
พยายามเดินหามุมสวยๆ กับเวลาที่มีอยู่น้อยนิด
พยายามหาแสงอาทิตย์ที่กำลังฉายแสงอ่อน ๆ
ซึ่งบางทีก็ต้องหามุมสูงๆ ช่วย
เนื่องจากอยู่บนเกาะ ไม่มีเวลาเดินมาก ก็เลยอาจได้มุมเดิมๆ บ้าง
เช้าๆ วันดำน้ำก็มีเวลาเก็บรูปไม่ค่อยนานนัก ก็เลยได้รูปไม่เยอะ ก็ต้องมาอาศัยตอนเย็น แต่ไม่รู้คิดไปเองหรือเป็นเพราะฝีมือไม่ถึง จึงรู้สึกว่าแสงเย็นที่นี่ไม่ค่อยสวยเลย
เดินกลับมาจากดำน้ำเห็นแสงยังพอมีอยู่
พยายามเดินให้ทันกับแสง แต่ก็ไม่ค่อยจะได้
เลยกลับมาที่ห้องก็ได้มาอีกมุม
อันนี้วิวจากหน้าต่างห้องพัก
นี้ก็ระเบียงห้องพัก
สรุปได้ว่าในวันที่ดำน้ำจะไม่ค่อยมีเวลาถ่ายรูปหรือเดินหามุมมากนัก จนวันสุดท้ายที่ไม่ต้องดำน้ำ จึงมีเวลาเดินเล่นรอบๆ เกาะมากขึ้น บนเกาะมาบลูมีรีสอร์ทอื่นๆ อยู่ด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปเที่ยวเล่นหรือถ่ายรูปได้ตามสบาย
ลงมาเดินเล่นบนเกาะ
เลยเจอ 2 นางแบบ พร้อมกับเสียคุ้กกี้ By Patcharaporn (คุ้กกี้ทำเองค่ะ) เป็นค่าจ้างไป 1 ถุง
แล้วเดินเล่นไปรีสอร์ทข้างๆ
นั่งรอแสงสวยๆ
แล้วก็เดินเล่นรอบๆ เกาะ
ยังมีแรงเหลือเลยเดินไปอีกฝั่งของเกาะ
ก็มีคนอื่นมีแรงเหลือมาเดินเล่นนั่งเล่นเหมือนกัน
ทะเลเนี่ยมองมุมไหน เวลาไหน มันก็สวย
วันสุดท้ายมีเวลาเลยได้มีโอกาสเดินเล่น แต่ก็เดินดูเวลาเพราะถ้ามืดแล้วต้องรีบออกจากเกาะกลับขึ้นที่พัก เพราะจะค่อนข้างมืด จริงๆ แล้วบนเกาะเขาบอกมีที่ให้เดินเล่นอีก แต่เป็นเพราะนั้่งรอแสงมั่ง เดินหามุมบ้าง จึงไม่ได้เดินทั่วเกาะอย่างคนอื่นเขา แต่แค่นี้ก็ขอบอกว่าสวยมากค่ะ และขอแนะนำสำหรับคู่รักที่ต้องการฮันนีมูนนะคะ รับรองค่ะว่าที่นี่ไม่ผิดหวังค่ะ
คนยังไม่มีคู่ก็มาได้นะคะ ไม่ผิดหวังเช่นกันค่ะ รับรอง
แล้วเดี๋ยวเจอกันใหม่ตอนที่ 2 นะคะ คราวนี้จะพาไปชมโลกใต้น้ำกันบ้างค่ะ
Location : Sipadan Water Village ,Malaysia
Date: 19-23 Oct 2012
ฟ้าสวย น้ำใส ที่สิปาดัน #ตอนที่ 1 Sipadan Water Village
เราวางแผนกันมาข้ามปีกับทริปที่จะไปแหวกว่ายชมความงามใต้ทะเลที่สิปาดัน จนในทีสุด วันที่ 19 ต.ค 2555 เราก็ได้ไป การเดินทางไม่ค่อยลำบาก แต่ค่อนข้างเหนื่อยเพราะต้องนั่งเครื่องไปลงที่กัวลาลัมเปอร์ แล้วต่อเครื่องภายในประเทศเพื่อไปลงที่ตาเวา มันเพลียก็ตรงรอเครื่องบินนี่แหละค่ะ เพราะ delay เป็นชั่วโมงตลอด ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่รอ ดังนั้นแนะนำว่าถ้าจะจองตั๋วไปตาเวา ควรจองเพื่อเวลา delay ด้วยนะคะ และจากการที่เสียเวลารอเครื่องบินเป็นชั่วโมง ทำให้เราไปถึงตาเวาก็ค่ำแล้ว ไปถึงก็ขึ้นรถตู้ของ "Sipadan Water Village" ทีมารอรับ ก็นั่งรถเข้าไปในตัวเมืองก็เกือบชั่วโมง ไปถึงก็ตรงเข้าห้องนอนกันทันที เพราะเพลียมาก
รุ่งเช้าตื่นมาทานอาหารเช้าของโรงแรมที่พัก แล้วก็รอขึ้นรถตู้อีกครั้ง เพื่อเดินทางไปยังท่าเรือเซมโพนาเพื่อที่จะนั่งเรือไปเกาะมาบลูกัน ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมไปท่าเรือประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ แล้วก็ลงเรือมุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่รอคอย
ตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าไปที่พัก "Sipadan Water Village" บนเกาะมาบลู ไม่ต้องแปลกใจนะคะ ว่าทำไมอยู่บนเกาะมาบูล ต้องอธิบายก่อนว่า การมาดำน้ำที่เกาะสิปาดัน นักท่องเที่ยวต้องพักค้างคืนบนเกาะมาบลูที่จะมีรีสอร์ทรองรับอยู่ เพราะบนเกาะสิปาดัน ไม่อนุญาตให้มาพักค้างคืนได้ค่ะ ก็นั่งเรือกันอีกประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงเป้าหมายที่รอคอยมานาน
ถึงแล้วค่ะ "Sipadan Water Village"
ทันทีที่ขึ้นบนรีสอร์ทก็จะมีพนักงานตอนร้บทั้งหญิงและชายมายืนต้อนรับพร้อมกับคำพูดว่า
"สวัสดีครับ" หรือ "สวัสดีค่า"
ทำไมนะเหรอคะ
ก็ทั้งรีสอร์ทเป็นคนไทยเกือบทั้งหมดเลยค่า เลยไม่ได้คิดว่ามาเที่ยวต่างประเทศเลยนึกว่าอยู่บนเกาะบ้านเราซะอีก เดินไปทางไหนก็เจอแต่คนไทย แต่ดีเหมือนกันนะคะ พูดกันง่าย เข้าใจง่าย ไม่เหงาค่ะ 555
จากนั้นเขาก็ให้เราไปนั่งฟังอธิบายเกี่ยวก้บกฎ ระเบียบ และข้อปฏิบัติต่างๆ กันสักพัก ก่อนจะปล่อยเข้าที่พักเพื่อเตรียมตัวไปดำน้ำ Dive แรก แต่เรื่องดำน้ำจะมาเล่าให้ฟังในตอนต่อไปนะคะ ในวันแรกเราจึงไม่ค่อยมีเวลาเดินเล่นสักเท่าไหร่ เพราะกว่าจะดำน้ำเสร็จ ครบ 2 Dive ก็เย็นย่ำ เพลียแล้วค่ะ การสำรวจจึงเริ่มในวันรุ่งขึ้น
จริงๆ แล้วใน 2 วันแรกที่ต้องดำน้ำไม่ค่อยได้มีเวลาเดินเล่นเท่าไหร่ เพราะต้องไปดำน้ำ Dive ตอนเช้าประมาณ 8.30 น. แต่ติดทีว่าเป็นคนชอบถ่ายรูป จึงตื่นแต่เช้าเพื่อมารอแสงอาทิตย์ ก็เก็บภาพก่อนที่จะไปทานอาหารเช้า
รุ่งอรุณที่ Sipadan Water Village
พยายามเดินหามุมสวยๆ กับเวลาที่มีอยู่น้อยนิด
พยายามหาแสงอาทิตย์ที่กำลังฉายแสงอ่อน ๆ
ซึ่งบางทีก็ต้องหามุมสูงๆ ช่วย
เนื่องจากอยู่บนเกาะ ไม่มีเวลาเดินมาก ก็เลยอาจได้มุมเดิมๆ บ้าง
เช้าๆ วันดำน้ำก็มีเวลาเก็บรูปไม่ค่อยนานนัก ก็เลยได้รูปไม่เยอะ ก็ต้องมาอาศัยตอนเย็น แต่ไม่รู้คิดไปเองหรือเป็นเพราะฝีมือไม่ถึง จึงรู้สึกว่าแสงเย็นที่นี่ไม่ค่อยสวยเลย
เดินกลับมาจากดำน้ำเห็นแสงยังพอมีอยู่
พยายามเดินให้ทันกับแสง แต่ก็ไม่ค่อยจะได้
เลยกลับมาที่ห้องก็ได้มาอีกมุม
อันนี้วิวจากหน้าต่างห้องพัก
นี้ก็ระเบียงห้องพัก
สรุปได้ว่าในวันที่ดำน้ำจะไม่ค่อยมีเวลาถ่ายรูปหรือเดินหามุมมากนัก จนวันสุดท้ายที่ไม่ต้องดำน้ำ จึงมีเวลาเดินเล่นรอบๆ เกาะมากขึ้น บนเกาะมาบลูมีรีสอร์ทอื่นๆ อยู่ด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปเที่ยวเล่นหรือถ่ายรูปได้ตามสบาย
ลงมาเดินเล่นบนเกาะ
เลยเจอ 2 นางแบบ พร้อมกับเสียคุ้กกี้ By Patcharaporn (คุ้กกี้ทำเองค่ะ) เป็นค่าจ้างไป 1 ถุง
แล้วเดินเล่นไปรีสอร์ทข้างๆ
นั่งรอแสงสวยๆ
แล้วก็เดินเล่นรอบๆ เกาะ
ยังมีแรงเหลือเลยเดินไปอีกฝั่งของเกาะ
ก็มีคนอื่นมีแรงเหลือมาเดินเล่นนั่งเล่นเหมือนกัน
ทะเลเนี่ยมองมุมไหน เวลาไหน มันก็สวย
วันสุดท้ายมีเวลาเลยได้มีโอกาสเดินเล่น แต่ก็เดินดูเวลาเพราะถ้ามืดแล้วต้องรีบออกจากเกาะกลับขึ้นที่พัก เพราะจะค่อนข้างมืด จริงๆ แล้วบนเกาะเขาบอกมีที่ให้เดินเล่นอีก แต่เป็นเพราะนั้่งรอแสงมั่ง เดินหามุมบ้าง จึงไม่ได้เดินทั่วเกาะอย่างคนอื่นเขา แต่แค่นี้ก็ขอบอกว่าสวยมากค่ะ และขอแนะนำสำหรับคู่รักที่ต้องการฮันนีมูนนะคะ รับรองค่ะว่าที่นี่ไม่ผิดหวังค่ะ
คนยังไม่มีคู่ก็มาได้นะคะ ไม่ผิดหวังเช่นกันค่ะ รับรอง
แล้วเดี๋ยวเจอกันใหม่ตอนที่ 2 นะคะ คราวนี้จะพาไปชมโลกใต้น้ำกันบ้างค่ะ
Location : Sipadan Water Village ,Malaysia
Date: 19-23 Oct 2012