หรือว่าหาไม่เจอ ถ้ามีแล้วก็ขออภัย
เอาเป็นว่าเอาข่าวน่าภูมิใจชาวไทยมาฝากนะครับ

เม-โม ยอดนักกอล์ฟ 2 พี่น้อง
ถึงเวลาที่พลัดพราก “น้องโม” กับ “น้องเม” แต่ก็ยังมีวันจะหวนคืน

ต้องยอมรับความเป็นจริงอย่างหนึ่งว่า “กอล์ฟเยาวชนหญิง” โดยเฉพาะสองพี่น้อง “จุฑานุกาล” เหมือนถูกโลกลืม เพราะไม่ค่อยได้รับความใส่ใจจากสมาคมฯ ที่ต้องรับผิดชอบเท่าที่ควรนัก ในขณะที่ “น้องโม” โมรียา จุฑานุกาล และ “น้องเม” เอรียา จุฑานุกาล ต่างสร้างผลงานและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาตลอดทั้งปี

จากการพาดหัวข่าวกับผลงานต่างๆ นานา เช่น การแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นรายการ วีเมนส์ เซาท์ แอตแลนติก อเมเจอร์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ 2012 หรือเดอะแซลลี่ แชมเปี้ยนชิพ ครั้งที่ 86 เป็นหนึ่งในรายการเมเจอร์ของนักกอล์ฟสมัครเล่นหญิง โดยโมรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสมัครเล่นมือ 4 ของโลก คว้าแชมป์ด้วยสกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ ส่วนเอรียา จุฑานุกาล น้องสาวมืออันดับ 9 ของโลก วันสุดท้ายทำอีเวนพาร์ คว้ารองแชมป์ด้วยสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ เมื่อเดือนมกราคม 55

“น้องโม” โมรียา และ “น้องเม” เอรียา จุฑานุกาล สองพี่น้องยอดนักกอล์ฟสมัครเล่นสาวไทย วัย 17 ปี และ 16 ปี ตามลำดับ ยังคงโชว์ความสามารถกระหึ่มแดนอเมริกา ด้วยการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ กับวงการกอล์ฟสมัครเล่นสหรัฐ เข้าชิงกันเองในรายการ “วีเมนส์ เวสเทิร์น เนชั่นแนล อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ ครั้งที่ 112” ที่รัฐมิชิแกน สร้างสถิติเป็นคู่พี่น้องคู่แรกที่ชิงกันเอง ซึ่งแชมป์ก็จะตกเป็นของนักกอล์ฟจากประเทศไทยอย่างแน่นอน

และสุดท้าย “น้องเม” เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวน้อยวัย 17 ปี จากประเทศไทย โชว์ฟอร์มผงาดก้องโลกอีกครั้ง เมื่อหวดคว้าแชมป์คัดเลือกเลดี้ส์ยูโรเปี้ยนทัวร์ (คิวสกูล) 2013 สเตจสุดท้าย ที่ราชอาณาจักรโมร็อกโก เมื่อวันจันทร์ที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา

จากผลงานคว้าแชมป์มากมายก่ายกอง บวกกับ “น้องเม” เอรียา จุฑานุกาล กลายเป็นมือ 1 ของตารางกอล์ฟเยาวชนโลกเป็นสมัยที่ 2 ทำให้สองพี่น้องชาวไทยได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในสหรัฐ จนตั้งฉายาให้ว่า “ไทยซิสเตอร์” ล่าสุดครอบครัวจุฑานุกาล อันประกอบไปด้วย โมรียา เอรียา และคุณพ่อสมบูรณ์ ได้เดินทางกลับมายังเมืองไทยเพื่อพักผ่อนหลังจบทัวร์นาเมนต์ ก่อนที่จะวางอนาคตต่อไปว่าในปี “มะเส็ง” 2556 จะทำอะไรกันบ้าง

คำถาม…ความรู้สึกที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศในฐานะนักกอล์ฟเยาวชนหญิงไทย

น้องโม : อย่างแรกก็ยอมรับว่า รู้สึกภูมิใจมากที่ได้ปักธงชาติไทยในสนามแข่งขันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่อยู่ในใจเสมอหลังการคว้าแชมป์ คือเรามาในฐานะตัวแทนของประเทศไทย

น้องเม : ส่วนตัวก็รู้สึกตื้นตันใจไม่น้อยกับผลงานที่เกิดขึ้น โดยส่วนหนึ่งของความสำเร็จก็มาจากความรู้สึกที่ตนเองลงสนามในฐานะนักกอล์ฟ หญิงของไทย ที่อยากสร้างชื่อเสียงกลับมาสู่ประเทศให้ได้มากที่สุด

คำถาม…สิ่งที่คิดว่าเป็นอุปสรรคในการแข่งขันที่สหรัฐอเมริกา

น้องโม : ช่วงแรกก็ต้องบอกว่า มีปัญหามากในเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม เนื่องจากสภาพอากาศ ภาษา รวมไปถึงระยะเวลาที่ต่างกัน ส่งผลให้เราจำเป็นต้องพยายามคุ้นเคยกับทุกสิ่งรอบตัวให้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ยิ่งจุดหมายของเราคือการคว้าแชมป์มันทำให้เราทั้งคู่ต้องเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา

น้องเม : จากที่ได้ประสบการณ์ที่ดีในการเข้าแข่งขันเมื่อฤดูกาลก่อน จึงทำให้รู้ว่าเราควรจะปรับตัวอย่างไรในการลงสนามแข่งขันแต่ละแมตช์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเวลาในแต่ละรัฐ เพราะบางครั้งที่เราไปแข่งขันในรัฐที่มีเวลาต่างกันมากจะทำให้กระทบถึงเวลาพักผ่อน แต่สำหรับฤดูกาลนี้ปรับตัวได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คำถาม…ความพร้อมล่าสุดก่อนเทิร์นโปรเข้าร่วมการแข่งขัน “แอลพีจีเอ ทัวร์”

น้องโม : ตอนนี้ “โม” อายุ 18 ก็เรียกได้ว่ามีความมั่นใจในระดับหนึ่ง หลังจากที่พิสูจน์ด้วยชัยชนะหลายรายการ แต่ส่วนตัวยังคิดว่าต้องหาประสบการณ์เพิ่มเติมอีก นอกจากนั้นแล้วก็อยากลงสนามในรายการของโปรให้มากขึ้น เพื่อดูผลงานก่อนที่จะตัดสินใจเทิร์นโปร

น้องเม : จากหลายๆ ทัวร์นาเมนต์ที่เราทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมก็ส่งผลให้เรามีความมั่นใจขึ้นมาก แต่เวลานี้ “เม” ยังมีอายุแค่ 17 คิดว่าตนเองยังไม่พร้อมในสนามระดับอาชีพ ยิ่งได้มีประสบการณ์ลงแข่งในสนามอาชีพมาแล้วบ้าง ทำให้ยังเห็นจุดอ่อนของตนเองอยู่มาก คิดว่ายังต้องใช้เวลาเรียนรู้เพื่อปรับตัวก่อนเทิร์นโปร

นอกจากการพูดคุยกับ น้องโม และน้องเม แล้วทีมข่าวยังได้สอบถามถึงการวางแผนในอนาคตให้กับลูกสาวของคุณพ่อสมบูรณ์ จุฑานุกาล ด้วย

คำถาม…คุณพ่อวางเป้าหมายในปี 2013 ไว้อย่างไร

คุณพ่อสมบูรณ์ : เป้าหมายตอนนี้แบ่งเป็น 2 อย่างด้วยกัน คือ น้องโม ขยับขึ้นมาเล่นกอล์ฟอาชีพอย่างเต็มตัว ก็ต้องมองว่าจะต้องทำอะไรบ้างมากขึ้น ยิ่งการหาสปอนเซอร์ให้กับน้องโม คงจะต้องเหนื่อยแน่นอน เพราะมีค่าใช้จ่ายเยอะต่อปี ต้องวางว่าจะแข่งขันกี่รายการและไปที่ไหนบ้าง สปอนเซอร์ตอนนี้มีอยู่ตัวเดียวที่เป็นหลักคือ เอสซีจี ส่วนรายยิบย่อยก็มีบ้างแต่คงไม่พอ จึงต้องให้ทางไอเอ็มจีช่วยหาสปอนเซอร์และพูดตกลงเงื่อนไขกัน

สำหรับทาง “น้องเม” เอรียา จุฑานุกาล อาจจะต้องเดินทางแข่งขันในยุโรปมากขึ้น สำหรับตำแหน่งมือ 1 ของโลกในระดับเยาวชนก็ต้องรักษาให้ได้ในปีท้ายสุด โดยทาง น้องเม อาจจะให้คุณแม่ดูแล ส่วนผมก็ต้องไปดูแลน้องโมแทน มันถึงเวลาที่ต้องแยกทางกันจริงๆ ทั้งครอบครัว

คำถาม…เคล็ดลับความสำเร็จที่เกิดขึ้น

คุณพ่อสมบูรณ์ : เหนือสิ่งใดเราจำเป็นต้องวางแผนตั้งแต่ที่เขาเริ่มเล่น และวางแผนอนาคตเพื่อก้าวเข้าสู่เส้นทางนักกอล์ฟอาชีพ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความพยายามและความอดทน โดยเฉพาะการฝึกซ้อมที่ปัจจุบัน น้องโม และน้องเม เรียกได้ว่าแทบไม่มีวันหยุดเฉลี่ยแล้วซ้อมวันละ 5-6 ชั่วโมง ซึ่งทั้งสองคนมีความตั้งใจที่จะเป็นนักกอล์ฟอาชีพมากและทางครอบครัวได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งผลงานในฤดูกาล 2011-12 นั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ชีวิตนักกอล์ฟในแอลพีจีเอทัวร์ และพวกเรารู้ดีว่าโจทย์ต่อจากนี้จะยิ่งเข้มข้นและยากขึ้นกว่าเดิม แต่ด้วยความมุ่งมั่นของน้องโม และน้องเม ผมเชื่อว่าพวกเขาจะก้าวข้ามอุปสรรคทั้งหลายไปได้เช่นกัน

ในขณะที่สองพี่น้อง “น้องโม-น้องเม” ต่างก็บอกว่าใจหายเหมือนกัน เพราะเชื่อว่าวันเวลานี้จะมาถึงเมื่อพี่สาวต้องเดินทางก้าวไปแข่งขันอาชีพเต็มตัวเมื่อครบ 18 ปี ส่วนน้องเมก็ต้องเล่นสมัครเล่นต่อไป จากพ่อ แม่ ลูก 4 คนที่เดินทางไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ก็ต้องมาแยกจากทั้งคู่ สิ่งที่เคยสุขร่วมกันมันหายไป มันน่าใจหาย แต่ถึงอย่างไรการพลัดพรากจากกัน อาจจะเป็นแรงผลักดันให้สองพี่น้องจุฑานุกาล มีความแข็งแกร่งมากขึ้น

ในปี 2013 จะเป็นบทพิสูจน์ชัดเจนว่า น้องโมรียา จุฑานุกาล ที่ก้าวบนถนนเส้นทางอาชีพครั้งแรกจะประสบความสำเร็จเหมือนกับพี่ๆ หรือเหมือนที่เล่นสมัครเล่นหรือไม่ และน้องเม เอรียา จุฑานุกาล จะยังรักษาความคงเส้นคงวาในระดับสมัครเล่นของตัวเองได้ถาวรเหมือนกับ 2 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ ซึ่งผู้เขียนมีความมั่นใจอย่างยิ่งว่า สองพี่น้องตระกูลจุฑานุกาลจะไม่ทำให้ประชาชนคนไทย และแฟนคลับตัวจริงผิดหวังแน่นอน



ที่มา
http://www.banmuang.co.th/