เราเป็นคนเชียงใหม่ เข้าใจว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประเพณีการปล่อยโคมลอย
ตั้งแต่เด็กๆ โคมลอยจะปล่อยเฉพาะเทศกาลลอยกระทงเท่านั้น
ส่วนมากไม่ได้มีขายทั่วไป ต้องทำกันเอง และไม่ได้ปล่อยกันพร่ำเพรื่อเลย

เดี๋ยวนี้... ไม่รู้เพราะอะไร ทำให้การปล่อยโคมลอยแพร่หลาย และเกร่อกันมาก
อาจจะเพราะงานของธุดงคสถานแห่งหนึ่งหรือปล่าว ที่ปล่อยโคมลอยพร้อมๆ กัน หลายร้อย หลายพันอัน
ถ่ายรูปออกมาสวยงามมาก เราเข้าใจว่าช่วยเรื่องการท่องเที่ยวด้วย
แต่สิ่งที่ตามมา โคมลอยกลายเป็นสัญลักษณ์ของการลอยเคราะห์ สะเดาะเคราะห์ไปแล้ว
ซึ่งไม่รู้ว่าคนเดี๋ยวนี้ มีเคราะห์กันมากมายขนาดไหน ถึงต้องการสะเดาะเคราะห์กันทุกเทศกาลทุกสถานที่
คุณเชื่อจริงๆเหรอ ว่าแค่ปล่อยโคมลอย แล้วชีวิตจะดีขึ้น
หรือเพราะมันสวยๆ เก๋ๆ ถ่ายรูปอวดชาวบ้านกันไป

โคมลอยจากที่หาซื้อยาก ก็เป็๋นของหาซื้อง่าย มีหลายสี หลายลาย ตามกระแส ช่วงก่อนก็ลายหมีแพนด้า เดี๋ยวนี้ต้องแองกี้เบิร์ด 555
ปล่อยกันทุกเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ ลอยกระทง วัีนพระ แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ปล่อยกันได้ทุกวัน
ปล่อยกันทุกสถานที่ ที่บ้าน ในเมือง บนถนน ภูเขา ทะเล
เวลาเทศกาลทีไร มองไปบนฟ้า มีแต่โคมลอยๆๆๆๆๆ

เข้าใจว่าปล่อยแล้วสบายใจ แต่คุณรู้ไหม เคราะห์ที่คุณลอยออกไป มันจะเป็นยังไงต่อ มันไปตกอยู่กับใคร
บางคนปล่อยไม่เป็นไฟไหม้ ไล่กระทืบดับไฟทันก็ดีไป บางอันตกลงพื้นก่อนจะไหม้หมด ตกบ้านใครก็ซวยไป
ไหนจะขยะ ไหนจะมลพิษ ไหนจะทรัพยากรที่เสียไปโดยไม่มีประโยชน์
เมื่อวานขับรถเส้นซุปเปอร์ มีซากโคมลอยหลายสิบอันบนถนน
เชื่อว่า บ้านใครกว้างๆ ต้องเคยมีโคมลอยตกลงมาแน่นอน

เคยเห็นกับตา คนปล่อยโคมลอยช่วงลอยกระทงแถวสะพานริมน้ำปิง แล้วมีลมนิดๆ โคมลอย ลอยเข้าไปในคอนโดเฉยเลย
ข้อดีข้อเดียวที่เราเห็นตอนนี้นะ คนทำโคมลอย กับคนขายมีรายได้ (เดี๋ยวนี้ข้างถนนก็มีขาย)
เดี๋ยวนี้เห็นใครปล่อยโคมลอยถ่ายรูปลงเฟสบุ๊ค อยากจะกดdislike ซัก 100 ครั้ง 5555+

ลองพูดคุยแลกเปลี่ยนกันดูนะคะ
เราก็อยากรู้ ว่าคนที่ชอบปล่อย เค้าคิดกันยังไง
เผื่อเราจะเข้าใจมากขึ้น

ปล. เคยปล่อยเดี๋ยวนี้เลิกแล้ว