...เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องราวสมัยเรียนเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว... (แค่อยากจะบ่นหรือระบายเท่านั้น ไม่มีสาระใดๆ)
*********************************************************************************
...นับตั้งแต่เกิดมา ชีวิตวันเด็ก - วัยรุ่น - วัยเรียน เคยจีบคนอื่นอยู่ 3 ครั้ง แต่เชื่อไหม ทั้งๆที่ใครต่อใครก็ว่าเราเป็นผู้ชายที่โรแมนติกโคตรๆ
เพื่อนสาวมากมายที่เห็น มักหลงใหลในความโรแมนติกสุดๆที่ผมทำให้กับคนที่ผมแอบชอบเสมอ
แต่แล้ว... ความโรแมนติกเหล่านั้น ไม่เคยทำให้ผมสมหวังกับคำว่า "รัก" เลยแม้แต่ครั้งเดียว
(ย้อนเวลากลับไป)...ตอนนี้ผมก็อายุ 18 ปีแล้ว แต่ผมไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีคู่ ไม่เคยรู้จักว่าความอบอุ่นของคนเป็นแฟนกันในวัยเรียน ความรักเล็กๆที่ไม่ถึงกับเสียหายอะไร มันเป็นอย่างไง เวลาที่คนรักโทรหากันมันเป็นอย่างไง หรือเวลาที่เราสองคนไปดูหนังด้วยกันมันเป็นอย่างไง
บางครั้งผมก็น้อยใจตัวเอง และก็สงสัยว่า ทำไม? ....
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ผมเรียนอยู่ปี3 (ปวช.3) เหมือนอะไรดลใจให้ผมรู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ผมแอบชอบเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว
แต่เห็นเขาเดินกับผู้หญิงทุกวันเป็นเวลา 1 ปีเต็มๆ ก็เลยคิดว่าคงมีแฟนแล้ว หรือคิดว่าเขาเป็นผู้ชายแท้ๆ
จึงไม่เคยคิดที่จะจีบ หรือจะสารภาพว่าแอบชอบเขาเลย
สมัยนั้นเว็บไซด์ยอดฮิตคือ Hi5 เราได้รู้จักกันโดยบังเอิญ ผมก็เลยรู้ว่าจริงๆแล้วเขาก็เป็นชาว Y เหมือนกัน หลังจากที่ผมได้คุยกับเขาประมาณ 3 อาทิตย์ ผมก็ตัดสินใจที่จะบอกเขาทันทีว่าผมแอบชอบเขามานาน แต่ไม่เคยกล้าที่จะจีบเขาเลย
ตอนแรกผมก็กลัวๆไม่กล้าจะที่จะบอกออกไป เพราะกลัวเราจะไม่ได้คุยกันอีก
แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เขากลับพูดว่า "ถ้าชอบก็จีบสิ" แบบนี้ก็เข้าทางสิ...
เราคุยโทรศัพท์กันทุกคืน หลังเที่ยงคืน ถึงตีสาม ทุกวัน พอนาฬิกาเที่ยงคืนปุ๊บผมจะต้องโทรหาเขาทันที
ถ้าเลยเวลาไปสัก 2 นาทีผมยังไม่โทรไป เขาก็จะโทรมาตามให้ผมโทรหาเขา
เราคุยกันอยู่อย่างนี้ประมาณเดือนหนึ่ง ผมก็ได้รู้ความจริงจากปากเพื่อนๆ และคนรู้จักมากมาย
(ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีใครรู้ว่าเราคุยกัน มีเพียงเพื่อนสนิทของผมประมาณ 6 คนเท่านั้น และเพื่อนเขาอีก 4 คน)
....ความจริงนั้นมันทำให้ผมใจไม่ดีเมื่อผมรู้ว่า "เขามีแฟนอยู่แล้ว" และมีตั้งแต่ก่อนจะรู้จักกับผมเมื่อหลายเดือนก่อนแล้วด้วย
ตอนนั้นผมช็อคมาก รู้สึกว่าตัวเองเป้นมือที่สาม รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี แต่ว่า.. ผมก็ทำเรื่องเลวร้ายลงไป ด้วยการไม่ไปจากเขา
เรายังคงคบกัน และคุยกันเหมือนเดิมตลอด ทั้งๆที่ผมรู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว
หลังจากนั้นไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ เมื่อมีคนมา่กมายรู้เรื่องของผมกับเขา (ไม่รู้ว่ารู้กันได้ไง คงมีใครสักคนคุยต่อๆกัน)
แฟนเขารู้เรื่อง แต่ว่า้แฟนเขาเป็นคนเงียบๆ และเป็นคนอารมณ์เย็นมากๆ ผมกับแฟนเขาเราไม่เคยมีเรื่องอะไรกันเลย
ไม่เคยมาตีเพื่อแย่งแฟนกัน แต่ก็เหมือนเขาจะคุยๆกันส่วนตัวเรื่องของเรา ประมาณว่าให้เขากับผมเลิกกัน
จนวันหนึ่ง เขาก็ส่งข้อความมาขอบอกเลิก ขอให้เราเลิกกัน เพราะเขาเกรงใจแฟนเขา
ตอนนั้นผมเสียใจจนร้องไห้ออกมา ต่อหน้าเพื่อนๆสนิท ทุกคนก็เข้าใจแล้วปลอบใจผมกัน
แต่ด้วยความรักที่ผมมีแต่เขา มันไม่ทำให้ผมไปจากเขา แต่ผมไม่ได้ไปเจอกับเขาตรงๆ
ทุกเย็นเขาต้องไปขึ้นรถประจำเพื่อกลับบ้าน ผมก็มักจะแอบตามไป แอบดูอยู่ห่างๆ จนกว่ารถประจำจะห่างสายตาไป
.... แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เขาก็มาเห็นว่าผมแอบดูเขาอยู่ วันนั้นไม่รู้เกิดอะไรขึ้น เขามาขึ้นรถประจำไม่ทันเวลา
รถประจำเคลื่อนที่ออกไปอีกจุดหนึ่งเพื่อไปรับเด็กที่โรงเรียนอื่น เขาจึงมาขอให้ผมพาเขาไปส่งที่นั่น เพื่อขึ้นรถประจำ
(ผมมีเรื่องมอเตอร์ไซด์ประจำตัว) ผมก็ยินดีที่จะไปส่ง ระหว่างทางที่ไปผมได้แต่แอบมองเขาผ่านกระจกส่องหลัง
และในระหว่างที่รถของผมกำลังวิ่งไป โดยมีเขาซ้อนอยู่ข้างหลัง เขาก็จับที่เอวผม แล้วก็ซบหลังผมจนถึที่หมาย...
เมื่อเขาลงจากรถ ก่อนที่เขาจะเดินจากไป เขาจับมือผมขึ้นไปกุ้มไว้สักพัก แล้วก็ปล่อย...
.... เหมือนทุกอย่างจะจบลงด้วยดี แต่ไม่ ... ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร ทำไมผมกับเขาถึงยังได้เจอ ได้คุย ได้อยู่กันตามลำพัง
เป็นประจำ
.... อยู่มาวันหนึ่ง วันนั้นเป็นวันที่โรงเรียนเลิืกเร็ว เวลาบ่ายๆ เขาไปเที่ยวบ้านเพื่อนโดยเขาจะพาผมไปด้วย
ในบ้านหลังนั้นมีผม เขา และเพื่อนสนิทเขาอีก 1 คน (เพื่อนสนิทเขาเป็นทอม และสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก)
ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไร ผมคิดแค่ว่าผมได้อยู่กับเขาลำพัง มันช่างมีความสุข
และนี่เหมือนเป็นโอกาส หรือสิ่งที่ผมรอคอยมาหลายปี ผมได้นอนที่ตักอุ่นๆของเขา เขาก็ลูบหัวผมเบาๆ
ช่วงเวลาตอนนั้นมันช่างมีความสุข และเป้นช่วงเวลาที่ผมไม่อยากให้มันหมดไปจริงๆ
.... และแล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นมาอีก เมื่อเขาชวนผมออกไปเล่นที่ห้องข้างๆ เราอยู่ในห้องเงียบๆนั้นแค่สองคน
ไม่มีแม้แต่ยุงหรือแมลงวันมารบกวน ทุกอย่างมันเงียบสงบ และผมรู้สึกมีความสุขมากที่ได้อยู่กับเขาเพียงลำพัง
แต่แล้ว... เราก็มีอะไรกันในตอนนั้น โดยเขาเป็นคนเริ่มก่อน ... และเมื่อจบวันนั้นทุกอย่างก็เขาสู๋สภาวะปกติ
ปกติเหมือนวันที่เรายังคบกันอยู่ โดยไม่มีใครรู้ (รู้สึกตัวเองเลวที่ไปยุ่งกับคนมีเจ้าของ แต่ก็รักเขามากจนยอมเลว คิดว่าหลายๆคนคงเข้าใจอารมณ์นี้)
.... และวันตัดสินอนาคตของเราทั้ง 3 คนก็มาถึง (ผม เขา และแฟนของเขา) วันนี้เป็นวันที่ 18 พฤศจิกายน จำ พ.ศ. ไม่ได้
เพราะมันเป็น "วันเกิด" ของเขาพอดี
(Y) อีกไม่เท่าไร..เรื่องร้ายๆก็จะจบ แต่ก็ไม่จบ (ภาค1)
*********************************************************************************
...นับตั้งแต่เกิดมา ชีวิตวันเด็ก - วัยรุ่น - วัยเรียน เคยจีบคนอื่นอยู่ 3 ครั้ง แต่เชื่อไหม ทั้งๆที่ใครต่อใครก็ว่าเราเป็นผู้ชายที่โรแมนติกโคตรๆ
เพื่อนสาวมากมายที่เห็น มักหลงใหลในความโรแมนติกสุดๆที่ผมทำให้กับคนที่ผมแอบชอบเสมอ
แต่แล้ว... ความโรแมนติกเหล่านั้น ไม่เคยทำให้ผมสมหวังกับคำว่า "รัก" เลยแม้แต่ครั้งเดียว
(ย้อนเวลากลับไป)...ตอนนี้ผมก็อายุ 18 ปีแล้ว แต่ผมไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีคู่ ไม่เคยรู้จักว่าความอบอุ่นของคนเป็นแฟนกันในวัยเรียน ความรักเล็กๆที่ไม่ถึงกับเสียหายอะไร มันเป็นอย่างไง เวลาที่คนรักโทรหากันมันเป็นอย่างไง หรือเวลาที่เราสองคนไปดูหนังด้วยกันมันเป็นอย่างไง
บางครั้งผมก็น้อยใจตัวเอง และก็สงสัยว่า ทำไม? ....
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ผมเรียนอยู่ปี3 (ปวช.3) เหมือนอะไรดลใจให้ผมรู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ผมแอบชอบเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว
แต่เห็นเขาเดินกับผู้หญิงทุกวันเป็นเวลา 1 ปีเต็มๆ ก็เลยคิดว่าคงมีแฟนแล้ว หรือคิดว่าเขาเป็นผู้ชายแท้ๆ
จึงไม่เคยคิดที่จะจีบ หรือจะสารภาพว่าแอบชอบเขาเลย
สมัยนั้นเว็บไซด์ยอดฮิตคือ Hi5 เราได้รู้จักกันโดยบังเอิญ ผมก็เลยรู้ว่าจริงๆแล้วเขาก็เป็นชาว Y เหมือนกัน หลังจากที่ผมได้คุยกับเขาประมาณ 3 อาทิตย์ ผมก็ตัดสินใจที่จะบอกเขาทันทีว่าผมแอบชอบเขามานาน แต่ไม่เคยกล้าที่จะจีบเขาเลย
ตอนแรกผมก็กลัวๆไม่กล้าจะที่จะบอกออกไป เพราะกลัวเราจะไม่ได้คุยกันอีก
แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เขากลับพูดว่า "ถ้าชอบก็จีบสิ" แบบนี้ก็เข้าทางสิ...
เราคุยโทรศัพท์กันทุกคืน หลังเที่ยงคืน ถึงตีสาม ทุกวัน พอนาฬิกาเที่ยงคืนปุ๊บผมจะต้องโทรหาเขาทันที
ถ้าเลยเวลาไปสัก 2 นาทีผมยังไม่โทรไป เขาก็จะโทรมาตามให้ผมโทรหาเขา
เราคุยกันอยู่อย่างนี้ประมาณเดือนหนึ่ง ผมก็ได้รู้ความจริงจากปากเพื่อนๆ และคนรู้จักมากมาย
(ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีใครรู้ว่าเราคุยกัน มีเพียงเพื่อนสนิทของผมประมาณ 6 คนเท่านั้น และเพื่อนเขาอีก 4 คน)
....ความจริงนั้นมันทำให้ผมใจไม่ดีเมื่อผมรู้ว่า "เขามีแฟนอยู่แล้ว" และมีตั้งแต่ก่อนจะรู้จักกับผมเมื่อหลายเดือนก่อนแล้วด้วย
ตอนนั้นผมช็อคมาก รู้สึกว่าตัวเองเป้นมือที่สาม รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี แต่ว่า.. ผมก็ทำเรื่องเลวร้ายลงไป ด้วยการไม่ไปจากเขา
เรายังคงคบกัน และคุยกันเหมือนเดิมตลอด ทั้งๆที่ผมรู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว
หลังจากนั้นไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ เมื่อมีคนมา่กมายรู้เรื่องของผมกับเขา (ไม่รู้ว่ารู้กันได้ไง คงมีใครสักคนคุยต่อๆกัน)
แฟนเขารู้เรื่อง แต่ว่า้แฟนเขาเป็นคนเงียบๆ และเป็นคนอารมณ์เย็นมากๆ ผมกับแฟนเขาเราไม่เคยมีเรื่องอะไรกันเลย
ไม่เคยมาตีเพื่อแย่งแฟนกัน แต่ก็เหมือนเขาจะคุยๆกันส่วนตัวเรื่องของเรา ประมาณว่าให้เขากับผมเลิกกัน
จนวันหนึ่ง เขาก็ส่งข้อความมาขอบอกเลิก ขอให้เราเลิกกัน เพราะเขาเกรงใจแฟนเขา
ตอนนั้นผมเสียใจจนร้องไห้ออกมา ต่อหน้าเพื่อนๆสนิท ทุกคนก็เข้าใจแล้วปลอบใจผมกัน
แต่ด้วยความรักที่ผมมีแต่เขา มันไม่ทำให้ผมไปจากเขา แต่ผมไม่ได้ไปเจอกับเขาตรงๆ
ทุกเย็นเขาต้องไปขึ้นรถประจำเพื่อกลับบ้าน ผมก็มักจะแอบตามไป แอบดูอยู่ห่างๆ จนกว่ารถประจำจะห่างสายตาไป
.... แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เขาก็มาเห็นว่าผมแอบดูเขาอยู่ วันนั้นไม่รู้เกิดอะไรขึ้น เขามาขึ้นรถประจำไม่ทันเวลา
รถประจำเคลื่อนที่ออกไปอีกจุดหนึ่งเพื่อไปรับเด็กที่โรงเรียนอื่น เขาจึงมาขอให้ผมพาเขาไปส่งที่นั่น เพื่อขึ้นรถประจำ
(ผมมีเรื่องมอเตอร์ไซด์ประจำตัว) ผมก็ยินดีที่จะไปส่ง ระหว่างทางที่ไปผมได้แต่แอบมองเขาผ่านกระจกส่องหลัง
และในระหว่างที่รถของผมกำลังวิ่งไป โดยมีเขาซ้อนอยู่ข้างหลัง เขาก็จับที่เอวผม แล้วก็ซบหลังผมจนถึที่หมาย...
เมื่อเขาลงจากรถ ก่อนที่เขาจะเดินจากไป เขาจับมือผมขึ้นไปกุ้มไว้สักพัก แล้วก็ปล่อย...
.... เหมือนทุกอย่างจะจบลงด้วยดี แต่ไม่ ... ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร ทำไมผมกับเขาถึงยังได้เจอ ได้คุย ได้อยู่กันตามลำพัง
เป็นประจำ
.... อยู่มาวันหนึ่ง วันนั้นเป็นวันที่โรงเรียนเลิืกเร็ว เวลาบ่ายๆ เขาไปเที่ยวบ้านเพื่อนโดยเขาจะพาผมไปด้วย
ในบ้านหลังนั้นมีผม เขา และเพื่อนสนิทเขาอีก 1 คน (เพื่อนสนิทเขาเป็นทอม และสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก)
ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไร ผมคิดแค่ว่าผมได้อยู่กับเขาลำพัง มันช่างมีความสุข
และนี่เหมือนเป็นโอกาส หรือสิ่งที่ผมรอคอยมาหลายปี ผมได้นอนที่ตักอุ่นๆของเขา เขาก็ลูบหัวผมเบาๆ
ช่วงเวลาตอนนั้นมันช่างมีความสุข และเป้นช่วงเวลาที่ผมไม่อยากให้มันหมดไปจริงๆ
.... และแล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นมาอีก เมื่อเขาชวนผมออกไปเล่นที่ห้องข้างๆ เราอยู่ในห้องเงียบๆนั้นแค่สองคน
ไม่มีแม้แต่ยุงหรือแมลงวันมารบกวน ทุกอย่างมันเงียบสงบ และผมรู้สึกมีความสุขมากที่ได้อยู่กับเขาเพียงลำพัง
แต่แล้ว... เราก็มีอะไรกันในตอนนั้น โดยเขาเป็นคนเริ่มก่อน ... และเมื่อจบวันนั้นทุกอย่างก็เขาสู๋สภาวะปกติ
ปกติเหมือนวันที่เรายังคบกันอยู่ โดยไม่มีใครรู้ (รู้สึกตัวเองเลวที่ไปยุ่งกับคนมีเจ้าของ แต่ก็รักเขามากจนยอมเลว คิดว่าหลายๆคนคงเข้าใจอารมณ์นี้)
.... และวันตัดสินอนาคตของเราทั้ง 3 คนก็มาถึง (ผม เขา และแฟนของเขา) วันนี้เป็นวันที่ 18 พฤศจิกายน จำ พ.ศ. ไม่ได้
เพราะมันเป็น "วันเกิด" ของเขาพอดี