คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
อืมม....
ขอเสนอมุมมองอีกด้านค่ะ
บ้านเราเอง...ปรกติก็ไม่ค่อยมีการพูดคุยกันนะคะ ประมาณว่า...เป็นคนพูดน้อย ไม่ช่างพูดกันน่ะค่ะ แทบจะเป็นว่าต่างคนต่างอยู่ ง่วนกับการทำภารกิจของตัวเองเท่านั้น บรรยากาศในบ้านส่วนใหญ่จะเงียบ จนเป็นความเคยชินของทุกคนในบ้านกันไปหมดแล้ว สงบสุขดีค่ะ
เราคิดเองว่า....น้องชายคุณ และน้องสะใภ้ อาจเป็นคนประเภทเดียวกันกับคนบ้านเราก็ได้ คือเงียบแบบปรกติวิสัย ไม่ใช่เงียบเพราะมีปัญหา หรือไม่พอใจน่ะค่ะ
อีกอย่าง....อาจเป็นเพราะไม่มีเรื่องที่จะเป็นหัวข้อสนทนาร่วมกันมังคะ ก็เลยยิ่งตันกันไปใหญ่ คือไม่รู้จะพูดคุยกันเรื่องอะไรดี
เอ....ไม่รู้จะตรงประเด็นมั้ยเนี่ย ????
ขอเสนอมุมมองอีกด้านค่ะ
บ้านเราเอง...ปรกติก็ไม่ค่อยมีการพูดคุยกันนะคะ ประมาณว่า...เป็นคนพูดน้อย ไม่ช่างพูดกันน่ะค่ะ แทบจะเป็นว่าต่างคนต่างอยู่ ง่วนกับการทำภารกิจของตัวเองเท่านั้น บรรยากาศในบ้านส่วนใหญ่จะเงียบ จนเป็นความเคยชินของทุกคนในบ้านกันไปหมดแล้ว สงบสุขดีค่ะ
เราคิดเองว่า....น้องชายคุณ และน้องสะใภ้ อาจเป็นคนประเภทเดียวกันกับคนบ้านเราก็ได้ คือเงียบแบบปรกติวิสัย ไม่ใช่เงียบเพราะมีปัญหา หรือไม่พอใจน่ะค่ะ
อีกอย่าง....อาจเป็นเพราะไม่มีเรื่องที่จะเป็นหัวข้อสนทนาร่วมกันมังคะ ก็เลยยิ่งตันกันไปใหญ่ คือไม่รู้จะพูดคุยกันเรื่องอะไรดี
เอ....ไม่รู้จะตรงประเด็นมั้ยเนี่ย ????
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
เป็นคนกลางนี่เหนื่อยนะคะ ถามใจตนเองว่าจะเป็น tuner ได้อีกนานแค่ไหน
คนเราโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว โดยเฉพาะฝ่ายน้องชาย-น้องสะใภ้ ถ้ายังเป็นตัวของตัวเองจัดระดับนั้น
บ้านที่พวกคุณอยู่ร่วมกัน จะมีบรรยากาศเป็นครอบครัวได้อย่างไร
เท่าที่ จขกท ได้พยายามมา ก็นับว่ามากแล้ว นับถือน้ำใจและความมี EQ ของคุณจริงๆ
เราเป็นน้องคนเล็ก ที่เคยอยู่ร่วมกับพี่ๆ ที่ไม่ mature เลย ในที่สุด..ก็ต้องยอมล่าถอย
คนเราโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว โดยเฉพาะฝ่ายน้องชาย-น้องสะใภ้ ถ้ายังเป็นตัวของตัวเองจัดระดับนั้น
บ้านที่พวกคุณอยู่ร่วมกัน จะมีบรรยากาศเป็นครอบครัวได้อย่างไร
เท่าที่ จขกท ได้พยายามมา ก็นับว่ามากแล้ว นับถือน้ำใจและความมี EQ ของคุณจริงๆ
เราเป็นน้องคนเล็ก ที่เคยอยู่ร่วมกับพี่ๆ ที่ไม่ mature เลย ในที่สุด..ก็ต้องยอมล่าถอย
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ปัญหาชีวิต
น้องสะใภ้แต่งเข้าบ้าน ไม่ทักก่อน ไม่ค่อยคุย บรรยากาศบ้านเปลี่ยนไป ควรทำอย่างไรดี
ผ่านไปอีกครึ่งปี น้องชายแฟนแต่งงานและน้องสะใภ้เข้ามาที่บ้าน มาช่วยธุรกิจอีกแรง ปัญหามันเกิดขึ้นว่า พ่อตาแม่ยายเกษียณตัวเองไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัด ทิ้งธุรกิจให้ลูก ๆ ช่วยกันดูแล ก็เหลือกันสองครอบครัว ในบ้านเดียวกัน ตัวน้องสะใภ้เป็นคนเงียบมาก จะคุยก็ต่อเมื่อเราเริ่มคุยก่อน แรก ๆ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะยังไม่คุ้นเคยกัน ผมก็จะพยายามสร้างบรรยากาศของญาตพี่น้อง คือจะทักทายก่อนเสมอ(ทั้ง ๆ ที่ผมอาวุโสสุด) หลัง ๆ น้องชายแฟนก็ดูเหมือนเปลี่ยนไป จากที่คุยน้อยอยู่แล้วกลายเป็นเงียบ ไม่ทักทาย ไม่คุยเล่นใดๆ จนผมคิดว่ามันน่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น ก็เลยเรียกคุยเพื่อเคลียใจ สรุปได้ว่าน้องชายแฟน ไม่ค่อยพอใจแฟนผม(พี่สาวเขาเอง)ที่มักจะตำหนิเรื่องงานเวลาเขาทำพลาดเสมอ (เพราะในมุมเขาคิดว่ามันไม่ผิด) เลยคิดว่าการเงียบ ๆ ไปคือทางออก ส่วนตัวน้องสะใภ้แสดงตัวชัดเจนว่าเขาเป็นของเขาอย่างนี้ คือ เงียบ ๆ และจะไม่ทักใครก่อน ซึ่งเป็นอย่างนี้มาตลอดไม่เคยมีปัญหากับใคร แล้วถามผมกลับว่าพี่ ๆ ต้องการให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวตนหรือ ผมและแฟนก็บอกเขาว่า ไม่ได้ต้องการให้เปลี่ยน แต่มันควรต้องปรับตัว ให้บรรยากาศมันเป็นบ้าน ไม่ใช่ห้องเช่าที่มาแชร์ห้องครัว ห้องรับแขกกัน โดยไม่ได้สนใจความเป็นไปของกันและกันเลย ส่วนเรื่องน้องชายแฟนผมให้แฟนขอโทษและขอให้น้องเขายกโทษ (ซึ่งแฟนผมก็ไม่รู้ว่าขอโทษเรื่องอะไรแต่ก็ยอมขอโทษ) เพื่อเริ่มต้นกันใหม่ น้องชายก็โอเค ส่วนน้องสะใภ้ก็บอกว่าจะพยายามปรับตัว
ตอนนี้ผ่านมาเดือนกว่า สถานการณ์ ไม่ดีขึ้นเลยครับ ยังคงเงียบ เหมือนไม่รู้จักกัน น้องสะใภ้ก็ไม่เคยทักทายใด ๆ เหมือนเดิม ดูแย่กว่าเดิมตรงที่แฟนผมเริ่มหมดความอดทนและไม่อยากจะญาตดีด้วยแล้ว
ผมเองจริง ๆ ก็ไม่ถึงกับเดือดร้อนมากแค่อึดอัดนิดๆ แต่เพราะไม่อยากให้บ้านต้องเป็นอย่างนี้ ไม่อยากให้แฟนเกลียดน้องชายตัวเอง เพราะโดยพื้นฐานน้องชายแฟนและน้องสะใภ้ น่าจะเป็นคนดีทั้งคู่ พี่ ๆ เพื่อนๆ ใครมีคำแนะนำว่าผมควรจะทำอย่างไรดี ๆ เพื่อให้สถานการณ์มันดีขึ้น ผมขอขอบพระคุณล่วงหน้าเลยครับ และขอสวัสดีปีใหม่ ขอให้ความสุข ความเจริญ โชค ชัย เป็นของทุกท่านครับ ขอบคุณครับ