เพิ่งเล่นจบไปเมื่อวานครับ จบที่ Lv. 31 แบบธรรมดา
แรกๆ ไม่ได้จะตั้งใจเล่นจนจบหรอกครับ
กะเล่นเก็บ level ไปเรื่อยๆ เล่นไปเล่นมาอ้าว! จบซะงั้น
--------[เม้าท์เนื้อเรื่อง - มี spoiled นะจ๊ะ]---------เนื้อเรื่องมันสั้นมากกกก ไอ้เราก็คิดว่ามันต้องมีซับซ้อนซ่อนเงื่อนกว่านั้น
แบบว่า Diablo คงไม่ตายในทีเดียว คงแค่ช่วย Leah ออกมาก่อน
จากนั้นก็ต้องตามไปฆ่า Diablo อีก ไม่คิดว่าโพล่ออกมาฉากเดียว
แล้วตายเลยแบบนี้ เนื้อเรื่องมันตรงๆ มากกกก ถ้าเล่นเอาเนื้อเรื่อง
ผมว่ามันไม่สนุกเลยหละ (ใครจะด่าผมก็ช่าง แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ)
เล่น Final 7-8-9 หรือ Final 10 ยังสนุกกว่าเลย (เนื้อเรื่อง)
คือ คำว่าสนุกไม่สนุกของผมมันจะดูที่อรรถรสที่ได้จากเกมในส่วนของเนื้อเรื่อง
เช่น อารมณ์ตัวละครที่ส่งบทกัน ความสมเหตุสมผลของเหตุการณ์
อารมณ์ที่เกมมันส่งต่อมาถึงตัวผู้เล่น สิ่งต่างๆ เหล่านี้มันคือความสนุก(บันเทิง)
ถึงแม้จะดำเนินเรื่องไปแบบตรงๆ เหมือนดูหนัง แต่ถ้ามันมีอรรถรสพวกนี้
เกมมันก็สนุกครับ แต่กับ Diablo ... สำหรับผม ถ้าให้พูดตรงๆ เนื้อเรื่องธรรมดามากกกก
ผมใช้เวลาเล่น Diablo 3 จนจบ คือ 19 ชั่วโมงก็จบหละ
(เล่นวันละเฉลี่ย 1-2 ชั่วโมง)
ตอนเล่น Final ผมใช้เวลาเล่นอย่างต่ำก็ 30 ชั่วโมง ไม่ได้เล่นเก็บ lv. นะ
เวลาผมเล่นเกม RPG ผมชอบเล่นเก็บเนื้อเรื่อง เหมือนเราอ่านหนังสืออะ
ชอบที่จะรู้เรื่องราวในเกมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ส่วน lv. ก็ทำไว้ไม่ให้โดนศัตรูตบตายก็แค่นั้น
ความรู้สึกหลังเล่นเกมจบ... นั่งอึ้งไปพักนึง
มีความคิดพุดขึ้นมาในใจว่า... แล้วตูจะทำไรต่อ??
ความรู้สึกมันเหมือนกับว่า มันไปไม่ถึงจุดสุดยอด
ค้างๆ คาๆ อยู่ยั่งงั้นอะ เหมือนอารมณ์ค้างอะเข้าใจกันมะ
แล้วก็คิดต่อว่า เอาว่ะ!....ไหนๆ ก็เสียเงินซื้อมาตั้ง 2,150 (แบบกล่อง)
ลองเล่นแบบ Nightmare ไปซักรอบหละกัน เอาให้ตัวละครมัน lv. 60 ไปเลย
พยายามหาเรื่องเล่นเกมนี้สุดฤิทธิ์อะ จะได้คุ้มกับเงินสองพันที่เสียไป
พอได้มาลองเล่น Mode Nightmare หลังจากจบแบบ Normal ไปแล้ว
ก็เข้าใจเลยว่าโหมดนี้มีไว้ทำไม....มันสำหรับคนที่เล่นจบไปแล้วรอบหนึ่งดีๆ นี่เอง
Monster กระจอกๆ ใน Act แรกด่านแรก ยังตบทีเลือดลดไปเกือบๆ ครึ่งหลอด
ถ้าเป็นแบบคนเล่นหน้าใหม่สดๆ มาโหมดนี้แต่แรก คงก้าวไปไม่เกิน 2 ก้าวกลับบ้านเกิดแน่
เลยเริ่มเข้าใจสิ่งที่คนพูดกันว่า Diablo คือ เกม Online ... ออ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง (เดี๋ยวเม้าท์ต่อ)
--------[เม้าท์เรื่องเกม play (รูปแบบการเล่น)]---------พูดถึงรูปแบบการเล่น ด้วยนิสัยผม ผมเป็นคนเล่นเกมโดยเน้นไปที่เนื้อเรื่องของเกมครับ
ส่วนรูปแบบการเล่นเอาให้ไม่น่าเบื่อแบบ Ninja อะไรซักอย่างไม่อยากจำ (เกม PS2) เป็นใช้ได้
สมัยตอนเล่น Final ใครมาคุยเรื่อง item ชิ้นโน้นเจ๋ง +int +dex +มากมาย
ตีอาวุธได้ของเทพมา , ตัวละคร up level ไปเท่าโน้นเท่านี้ .... อยากจะบอกว่าผมไม่สนครับ
ช่วงที่ Ragnarok ฮิตๆ ผมก็ไม่สนใจจะเล่น เคยโดนบังคับเล่นทีนึงก็เล่นแบบขอไปที 2 วันเบื่อ
มาถึง Diablo 3 มันต้องพูดเป็นสองส่วน เพราะเกมนี้ จริงๆ แล้วมันคือ
"เกมออนไลน์ที่มีเนื้อเรื่อง(ธรรมดาๆ)ดีๆ นี่เอง"
A.1 ส่วนแรกจะเป็น รูปแบบการเล่นของระบบเกม ไม่ว่าจะเป็นการ up level ตัวละครเอย
การที่ตัวละครจะได้ skill แต่ละอย่างๆ มาเอย, การหาของ-การตีอาวุธเอย หรือแม้แต่วิธีการเล่น
...สำหรับผม ผมว่ามันก็ธรรมดาครับ...
รูปแบบพวกนี้คุณสามารถเห็นได้จากเกมอื่นๆ ทั่วๆ ไปในท้องตลาด ไม่มีอะไรแปลกใหม่
แต่มันก็เป็นเสน่ห์ของ Diablo อะนะ ภาคก่อนๆ มันก็มีระบบแบบเนี่ย
** เกมที่ผมเล่นแล้วรู้สึกจำฝังใจว่า ระบบการเล่นมันสนุกมากๆ คือ "OKAMI" ครับ เป็นเกม PS2
เป็นเกมที่มีรูปแบบการเล่น การต่อสู้ การเก็บ skill ที่แปลกไม่เหมือนใคร
แถมเนื้อเรื่องก็สนุกด้วย ขนาดตัวละครไม่มีบทพูด (มีพูด...แต่พูดไม่เป็นภาษา งุงิงุงิไรไม่รู้)
ยังสามารถส่งความรู้สึกและอารมณ์ของตัวละครได้ดีกว่าเกมที่มีบทพูดเป็นฉากๆ ซะอีก
เป็นเกมเดียวที่เล่นแล้วไม่อยากให้จบเลยอะ เนื้อเรื่องมันน่าติดตามมากๆ
มันสนุกอะ มีตลก มีเศร้า มีน่าตื่นเต้น ถึงจะเป็นเนื้อเรื่องแบบตรงๆ ไม่เปิดกว้างงงงงเหมือน Skyrim
แต่มันสนุกครับ อย่างที่บอกอรรถรสมันมีครบ ไม่อยากพูดเยอะ เดี๋ยวกลบเรื่อง Diablo ไปหมด 555+ **
A.2 ส่วนที่สองจะเป็น รูปแบบการเล่น online อันนี้แหละที่ผมรู้สึกว่าเป็นจุดที่ทำให้เกมนี้สนุก
เกมนี้ไม่มีระบบ PVP แบบ Rag ที่ยกพวกตีกัน ที่ต่างฝ่ายต่างก็ต้องหาไม้หน้าสามแรงๆ เทพๆ
สำหรับไปยกพวกตีกัน แต่เกมนี้มีระบบเล่น CO-OP คือ สามารถดึงคนอื่นมาช่วยเราได้
จริงๆ ระบบ co-op มันก็มีในเกมออนไลน์สมัยนี้อะนะ เห็นเยอะแยะไป ก็ไม่ถือว่าใหม่อะไร
ที่เด่นจริงๆ ของเกมนี้คือ AUCTION HOUSE (ทั้งแบบ GOLD และ Real Money)
ขนาดผมไม่ชอบเล่นเกมแนวเกมออนไลน์นะ ผมยังชอบระบบนี้เลย ผมว่ามันสะดวก และ เข้าท่ามากๆ
อย่างตอนที่ผมเล่นเกมนี้รอบแรก เวลาเริ่มรู้สึกว่าสู้กับ monster ลำบากหละ
ผมก็จะมาหาของใส่ตัวละครที่เหมาะๆ กับตัวละครเราหน่อย จากใน Auction House นี่แหละ
ผมสามารถขอซื้อของ +int สูงๆ (ผมเล่น wizard อะ) ได้ในราคาแค่ 200-300 Gold แค่นั้นเอง
ซึ่งมันได้ราคาและของที่ดีกว่าไปซื้อกับพ่อค้าในเกมซะอีก (ดีกว่าหลายเท่าเลย)
ผมว่ามันเป็นระบบที่เอื้ออำนวยดีมากๆ การหาของ เปรียบเทียบของ ทำได้ดีทีเดียว
ผมเคยเล่น Rag และเกมออนไลน์อื่นๆ เวลาผู้เล่นจะเอาของมาขายมันจะเป็นแบบขายใครขายมัน
ตาดีได้ตาร้ายเสีย เหมือนเราวิ่งหาของในห้างสรรพสินค้าในแต่ละร้านๆ เองอะ .... เหนื่อย
แต่ระบบ Auction House มันจะเป็น center ให้ ที่ผู้ซื้อและผู้ขายมารวมกัน
ผู้ซื้อสามารถเลือกของที่มีราคาที่ยุติธรรมได้อย่างง่ายดาย ขนาดผมโง่ๆ แบบนี้ยังหาของใส่ตัวละครได้เลย
อย่างน้อยที่สุด ผู้เล่นที่ไม่สนใจเล่นหลายๆ รอบก็สามารถมาหาของดีๆ ใส่ได้ ทำให้เกมจบอย่างราบรื่น
เรื่องการ co-op ที่มีเข้ามาก็ช่วยเสริมให้เกมนี้มีการเล่นที่สนุกไปอีกแบบ จะช่วยกันทำ quest ก็ได้
จะช่วยหาของหาเงินก็ได้ ช่วยเก็บ level ก็ได้ ... ถึงมันจะไม่เด่น ไม่แปลกใหม่ แต่ผมว่า
"มันก็เข้าท่าดีไปอีกแบบ" ... แถมเกมนี้เป็นแบบจ่ายเงินครั้งเดียว ออนไลน์ไปทั้งชีวิต
คือไม่ต้องมาเสียค่าชั่วโมงอะไรบ้าๆ บอๆ อีก ของเทพๆ ก็หาได้จากในเกมไม่ต้องไปเสียเงินซื้อ
ทำให้ในอนาคตถ้า Bizzard ออก event ใหม่ๆ มาเราก็พร้อมสนุก มันส์ ไปกับมันได้เลย
พูดถึง auction house ยังไม่จบ เมื่อกี้พูดถึงส่วนของ AH แบบ Gold ไป
แล้วแบบ Real Money มีไว้ทำไม? ... มีไว้สำหรับคนที่ไม่ชอบรอ อยากได้ของเทพๆ ไวๆ
อย่างถ้าจะซื้อของใน Gold คุณก็ต้องเล่นเกม สะสมทองไปซักระยะให้มีเงินพอจะมาซื้อของ
บางคนบ้านรวย หรือ มีเหตุผลส่วนตัวอย่างอื่น ไม่อยากเสียเวลามานั่งปั๊มทองแบบนั้น
ใช้เงินจริงซื้อไปเลย ก็ได้ของเทพๆ มาใส่เหมือนกัน ... สำหรับผม ผมว่าผมเอาไว้หาเงินดีกว่า 555+
ผมชอบ Auction House ที่มีระบบ Real Money ก็ตรงนี้แหละ หุหุ
ซึ่งถ้า Diablo 3 ขาดระบบ Auction House ไปมันจะเป็นเกมที่ "กาก" มากครับ
ระบบนี้เหมือนระบบชูโรงให้กับเกมนี้เลยก็ว่าได้ ผมเองขนาดไม่ใช่ gamer ขาโหดยังชอบระบบนี้เลย
ความสนุกของ Diablo 3 มันมาจากการได้ปฏิสัมพันธ์กับคนจริงๆ ที่มาซื้อขายของกันแบบมีระบบที่ยุติธรรม
โดยที่อำนาจเป็นของผู้ซื้อ และเป็นไปตามกลไกตลาด คืออย่างเกมออนไลน์อื่นๆ มันจะเป็นแบบตั้งใครตั้งมัน
ถามว่ามันเป็นตามกลไกตลาดไหม ก็ใช่ครับ เป็นกลไกลตลาด แต่เป็นแบบไม่มีระบบมาควบคุม
แต่ระบบ Auction House มันจะเหมือนมีระบบมาควบคุมให้การซื้อขายเป็นไปอย่างสะดวก ง่าย และเป็นธรรมมากขึ้น
เพราะเกมออนไลน์มันก็คือสังคมออนไลน์ดีๆ นี่เอง ถ้าปล่อยให้คนตั้งเอง ราคามันก็สูงๆ ต่ำๆ (ใน AH ก็มีเหมือนกัน)
มันก็ไปตกที่คนซื้อว่าต้องวิ่งหาของเอง ตาดีได้ตาร้ายเสีย แต่พอมีระบบกลางเข้ามา การหาของก็ง่าย
การเปรียบเทียบราคาก็ง่าย ของไหนที่แพงเกินจริงเราก็ไม่เอา ไปหาของอื่นที่ให้ราคาสมเหตุสมผลกว่า
**เพิ่มเติม**รูปแบบการเล่นของตัวเกมเองก็เหมือนกัน ต้องมองเป็นภาพรวมครับ เพราะระบบที่ทำให้ผมรู้สึกสนุกคือ Auction House ส่วนเรื่องอื่นๆ
ผมมองว่ามันก็ไม่ต่างจากเกมอื่นหรอก ตัวผมเองเพิ่งเล่นอีกรอบในโหมด Nightmare ไม่ต้องไปถึง interno หรอกก็รับรู้ได้ว่ามันสนุก
สนุกในที่นี้หมายถึงการที่เราได้ใช้ประโยชน์จาก Auction House และ CO-OP อย่างเต็มที่ ไม่ใช่จาก feature ใด feature หนึ่ง
เช่นกัน ถ้าเกมนี้ขาด Feature ใด Feature หนึ่งไป มันจะกลายเป็นไม่สนุกไปในทันที
โหมดต่างๆ ที่ทำขึ้นมา มันก็แค่ทำให้ศัตรูโจมตีแรงขึ้นอีดขึ้น item แปลกๆ เทพๆ ที่หล่นจาก monster มากขึ้น ซึ่งพวกเนี่ยสำหรับผม
ผมว่ามันไม่แปลกครับ เกมไหนๆ มันก็มีรูปแบบการเล่นแบบนี้กันทั้งนั้น แต่ที่มันทำให้ Diablo 3 สนุกมันคือการรวมเอา AH + CO-OP + รูปแบบการเล่นทั่วไป เข้าไว้ด้วยกัน
คำว่ารูปแบบการเล่น มันคือ innovation ของเกมนั้นๆ ว่ามีรูปแบบการเล่นแบบไหน ซึ่ง diablo 3 นอกจาก AH แล้วก็ธรรมดาๆ
แต่ผู้ผลิตเกมสามารถผสมผสานมันได้อย่างลงตัว จนเราเรียกมันได้ว่า...มันเป็นเกมที่สนุกเกมหนึ่ง
ทั้งหมดที่พูดมาเนี่ยแหละคือเสน่ห์ของเกมนี้ . Diablo 3
--------- [เม้าท์เรื่องภาพและเสียง]-----------
พูดถึงเรื่องภาพและเสียง ไม่ต้องพูดมากมั้ง ... ธรรมดาครับ Graphic ไม่มีโดดเด่น
ใครที่คาดหวังจะมาเห็น graphic งามๆ ฝันไปเถอะ ไม่ใช่เกมนี้ครับ
เครื่องธรรมดาๆ ราคาหมื่นกว่าบาทสมัยนี้ก็เล่นได้สบายๆ ครับ งานนี้ GTX680, 7990 (ออกมายังแหะ 555+)
เก็บเข้ากล่องไปเลย Onboard AMD HD6550 ก็เอาอยู่ ไม่ได้ต้องการเครื่องแรงขนาดนั้น
ซึ่งจริงๆ เรื่องภาพและเสียงสำหรับผม ผมว่ามันก็มีส่วนที่ทำให้เกมสนุกด้วยในระดับหนึ่ง (แต่ไม่ทั้งหมด)
อย่างตัวผม เป็นคนชอบเกมที่เนื้อเรื่อง ฉะนั้นเรื่องของภาพ ไม่ว่าจะเป็นฉากในเกม, CG Cut-scene ฯ
ล้วนแต่ส่งผลต่ออรรถรสในเกมนั้นๆ ด้วย เหมือนเราดูหนังที่นอกจากเนื้อเรื่องที่สนุกแล้วฉากและ CG ก็ต้องเข้ากับระดับของมันด้วย
เกมก็เหมือนกัน เพราะนั่นมันก็เป็นหนึ่งในหลายๆ อรรถรสที่ตัวเกมจะส่งต่อไปถึงตัวผู้เล่น
Diablo 3 ก็ทำออกมาได้พองามครับ ไม่น่าเกลียดจนเกินไป ถึงแม้ in-game graphic จะไม่เลิศเหมือน
เกมดังๆ สมัยนี้ที่ใช้ DirectX 11 แบบเต็มสูบ แต่มันก็ทำได้ดีในระดับไม่ให้ความสนุกลดลง
ตรงกันข้ามกับบางเกม อัด DX11 มาเต็มสูบ แต่หาความสนุกได้เพียงน้อยนิด (ไม่อยากพูดถึง เดี๋ยวโดนแฟนคลับโจมตี)
*****[สรุปๆ]******
คะแนนเต็ม 10 ผมให้ ตามหัวข้อมีดังนี้
เนื้อเรื่อง : 5.9 คะแนน
(จริงๆ จะให้ -5 ซะด้วยซ้ำ รอมาตั้งนานทำเนื้อเรื่องได้แค่เนี๊ย
555+ โหดไปปะ .... ให้ซัก 5.9 คะแนนก็เกินพอหละ)
รูปแบบการเล่น : 8 คะแนน
(แบ่งเป็นแบบระบบพื้นฐานให้ 6 คะแนน แบบออนไลน์ co-op และ Auction House ให้ 8.5 คะแนน
หารมามันได้ 7.25 ปัดขึ้นให้เป็น 8 คะแนนหละกันอะ)
ภาพและเสียง : 7 คะแนน
(เนื่องจากเกมนี้ใช้เวลา production มานานครับ เรื่อง DX11 ไม่ต้องพูดถึง DX9.0C ก็เหลือเฟือสำหรับเกมนี้
ปีนี้มันเป็นปี 2012 ถึงแม้เรื่องภาพและเสียงจะไม่สำคัญเท่าระบบเกมและเนื้อเรื่อง แต่มันก็ควรจะตามๆ ยุคบ้าง
ไม่ใช่ภาพมายังกับ Super Mario แบบนั้มันก็เกินไป เลยให้แค่ 7 ครับ)
**เพิ่มเติม** (ลืมเขียนสรุปภาพรวมๆ ของเกมนี้ให้)
ถามว่าเกมนี้สนุกไหม....สนุกครับ ขนาดผมไม่ใช่คอเกมออนไลน์ยังรู้สึกสนุกเลย อย่างที่บอกว่าเกมแต่ละเกมมันมีอรรถรสหลายด้าน
Diablo 3 ก็เช่นกัน ถ้ามองด้านเนื้อเรื่อง กับ Graphic & Sound มันคงเป็นเกมที่ไม่มีอะไรโดดเด่นมาก แต่ถ้ามองภาพรวมมันถึงจะสมกับราคา 2 พันบาท
โดยมีข้อแม้ว่า คุณจะต้องเป็นพวกชอบเล่นกับคนอื่น อาจจะไม่ต้องถึงขนาด co-op แต่ชอบซื้อชอบขายกับคนจริงๆ นั่นแหละคุณถึงจะสนุกกับ diablo
แต่ถ้าเป็นพวกชอบเล่นคนเดียวเงียบๆ เก็บ lv. ไป หาของเทพๆ ในเกมใส่เอง ... 2 พันบาทอาจจะไม่คุ้มกับคุณ
เพราะนี่คือเกมออนไลน์ในคราบออฟไลน์ดีๆ นี่เอง เมื่อมันออนไลน์คุณจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น มันถึงจะสนุก
[จบครับ]
ปล. มาจากความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามครับผม
-------------------------------------------------------------------
รายชื่อผู้ที่ได้ทำการจัดส่ง Diablo 3 : Guest Pass ได้แก่
-------------------------------------------------------------------
1. คุณ fattyman (จัดส่งแล้ว)
2. คุณ dragon9125 - ในความเห็นที่ 3 (จัดส่งแล้ว)
3. คุณ DCP - ในความเห็นที่ 4 (จัดส่งแล้ว)
-------------------------------------------------------------------
รายชื่อผู้ที่ได้ทำการจัดส่ง Diablo 3 : Guest Pass ได้แก่ (รอบสอง)
-------------------------------------------------------------------
1. คุณ sompong - ในความเห็นที่ 10 (จัดส่งแล้ว)
2. คุณ เถ้าลอย - ในความเห็นที่ 13 (จัดส่งแล้ว)
ครบหมดแล้วนะครับสำหรับ Diablo 3 Guest Pass
เพิ่งเล่น Diablo 3 จบ มีเรื่องมาเม้าท์มอย :D ....มี SPOILED นะจ๊ะ
แรกๆ ไม่ได้จะตั้งใจเล่นจนจบหรอกครับ
กะเล่นเก็บ level ไปเรื่อยๆ เล่นไปเล่นมาอ้าว! จบซะงั้น
--------[เม้าท์เนื้อเรื่อง - มี spoiled นะจ๊ะ]---------
เนื้อเรื่องมันสั้นมากกกก ไอ้เราก็คิดว่ามันต้องมีซับซ้อนซ่อนเงื่อนกว่านั้น
แบบว่า Diablo คงไม่ตายในทีเดียว คงแค่ช่วย Leah ออกมาก่อน
จากนั้นก็ต้องตามไปฆ่า Diablo อีก ไม่คิดว่าโพล่ออกมาฉากเดียว
แล้วตายเลยแบบนี้ เนื้อเรื่องมันตรงๆ มากกกก ถ้าเล่นเอาเนื้อเรื่อง
ผมว่ามันไม่สนุกเลยหละ (ใครจะด่าผมก็ช่าง แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ)
เล่น Final 7-8-9 หรือ Final 10 ยังสนุกกว่าเลย (เนื้อเรื่อง)
คือ คำว่าสนุกไม่สนุกของผมมันจะดูที่อรรถรสที่ได้จากเกมในส่วนของเนื้อเรื่อง
เช่น อารมณ์ตัวละครที่ส่งบทกัน ความสมเหตุสมผลของเหตุการณ์
อารมณ์ที่เกมมันส่งต่อมาถึงตัวผู้เล่น สิ่งต่างๆ เหล่านี้มันคือความสนุก(บันเทิง)
ถึงแม้จะดำเนินเรื่องไปแบบตรงๆ เหมือนดูหนัง แต่ถ้ามันมีอรรถรสพวกนี้
เกมมันก็สนุกครับ แต่กับ Diablo ... สำหรับผม ถ้าให้พูดตรงๆ เนื้อเรื่องธรรมดามากกกก
ผมใช้เวลาเล่น Diablo 3 จนจบ คือ 19 ชั่วโมงก็จบหละ
(เล่นวันละเฉลี่ย 1-2 ชั่วโมง)
ตอนเล่น Final ผมใช้เวลาเล่นอย่างต่ำก็ 30 ชั่วโมง ไม่ได้เล่นเก็บ lv. นะ
เวลาผมเล่นเกม RPG ผมชอบเล่นเก็บเนื้อเรื่อง เหมือนเราอ่านหนังสืออะ
ชอบที่จะรู้เรื่องราวในเกมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ส่วน lv. ก็ทำไว้ไม่ให้โดนศัตรูตบตายก็แค่นั้น
ความรู้สึกหลังเล่นเกมจบ... นั่งอึ้งไปพักนึง
มีความคิดพุดขึ้นมาในใจว่า... แล้วตูจะทำไรต่อ??
ความรู้สึกมันเหมือนกับว่า มันไปไม่ถึงจุดสุดยอด
ค้างๆ คาๆ อยู่ยั่งงั้นอะ เหมือนอารมณ์ค้างอะเข้าใจกันมะ
แล้วก็คิดต่อว่า เอาว่ะ!....ไหนๆ ก็เสียเงินซื้อมาตั้ง 2,150 (แบบกล่อง)
ลองเล่นแบบ Nightmare ไปซักรอบหละกัน เอาให้ตัวละครมัน lv. 60 ไปเลย
พยายามหาเรื่องเล่นเกมนี้สุดฤิทธิ์อะ จะได้คุ้มกับเงินสองพันที่เสียไป
พอได้มาลองเล่น Mode Nightmare หลังจากจบแบบ Normal ไปแล้ว
ก็เข้าใจเลยว่าโหมดนี้มีไว้ทำไม....มันสำหรับคนที่เล่นจบไปแล้วรอบหนึ่งดีๆ นี่เอง
Monster กระจอกๆ ใน Act แรกด่านแรก ยังตบทีเลือดลดไปเกือบๆ ครึ่งหลอด
ถ้าเป็นแบบคนเล่นหน้าใหม่สดๆ มาโหมดนี้แต่แรก คงก้าวไปไม่เกิน 2 ก้าวกลับบ้านเกิดแน่
เลยเริ่มเข้าใจสิ่งที่คนพูดกันว่า Diablo คือ เกม Online ... ออ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง (เดี๋ยวเม้าท์ต่อ)
--------[เม้าท์เรื่องเกม play (รูปแบบการเล่น)]---------
พูดถึงรูปแบบการเล่น ด้วยนิสัยผม ผมเป็นคนเล่นเกมโดยเน้นไปที่เนื้อเรื่องของเกมครับ
ส่วนรูปแบบการเล่นเอาให้ไม่น่าเบื่อแบบ Ninja อะไรซักอย่างไม่อยากจำ (เกม PS2) เป็นใช้ได้
สมัยตอนเล่น Final ใครมาคุยเรื่อง item ชิ้นโน้นเจ๋ง +int +dex +มากมาย
ตีอาวุธได้ของเทพมา , ตัวละคร up level ไปเท่าโน้นเท่านี้ .... อยากจะบอกว่าผมไม่สนครับ
ช่วงที่ Ragnarok ฮิตๆ ผมก็ไม่สนใจจะเล่น เคยโดนบังคับเล่นทีนึงก็เล่นแบบขอไปที 2 วันเบื่อ
มาถึง Diablo 3 มันต้องพูดเป็นสองส่วน เพราะเกมนี้ จริงๆ แล้วมันคือ
"เกมออนไลน์ที่มีเนื้อเรื่อง(ธรรมดาๆ)ดีๆ นี่เอง"
A.1 ส่วนแรกจะเป็น รูปแบบการเล่นของระบบเกม ไม่ว่าจะเป็นการ up level ตัวละครเอย
การที่ตัวละครจะได้ skill แต่ละอย่างๆ มาเอย, การหาของ-การตีอาวุธเอย หรือแม้แต่วิธีการเล่น
...สำหรับผม ผมว่ามันก็ธรรมดาครับ...
รูปแบบพวกนี้คุณสามารถเห็นได้จากเกมอื่นๆ ทั่วๆ ไปในท้องตลาด ไม่มีอะไรแปลกใหม่
แต่มันก็เป็นเสน่ห์ของ Diablo อะนะ ภาคก่อนๆ มันก็มีระบบแบบเนี่ย
** เกมที่ผมเล่นแล้วรู้สึกจำฝังใจว่า ระบบการเล่นมันสนุกมากๆ คือ "OKAMI" ครับ เป็นเกม PS2
เป็นเกมที่มีรูปแบบการเล่น การต่อสู้ การเก็บ skill ที่แปลกไม่เหมือนใคร
แถมเนื้อเรื่องก็สนุกด้วย ขนาดตัวละครไม่มีบทพูด (มีพูด...แต่พูดไม่เป็นภาษา งุงิงุงิไรไม่รู้)
ยังสามารถส่งความรู้สึกและอารมณ์ของตัวละครได้ดีกว่าเกมที่มีบทพูดเป็นฉากๆ ซะอีก
เป็นเกมเดียวที่เล่นแล้วไม่อยากให้จบเลยอะ เนื้อเรื่องมันน่าติดตามมากๆ
มันสนุกอะ มีตลก มีเศร้า มีน่าตื่นเต้น ถึงจะเป็นเนื้อเรื่องแบบตรงๆ ไม่เปิดกว้างงงงงเหมือน Skyrim
แต่มันสนุกครับ อย่างที่บอกอรรถรสมันมีครบ ไม่อยากพูดเยอะ เดี๋ยวกลบเรื่อง Diablo ไปหมด 555+ **
A.2 ส่วนที่สองจะเป็น รูปแบบการเล่น online อันนี้แหละที่ผมรู้สึกว่าเป็นจุดที่ทำให้เกมนี้สนุก
เกมนี้ไม่มีระบบ PVP แบบ Rag ที่ยกพวกตีกัน ที่ต่างฝ่ายต่างก็ต้องหาไม้หน้าสามแรงๆ เทพๆ
สำหรับไปยกพวกตีกัน แต่เกมนี้มีระบบเล่น CO-OP คือ สามารถดึงคนอื่นมาช่วยเราได้
จริงๆ ระบบ co-op มันก็มีในเกมออนไลน์สมัยนี้อะนะ เห็นเยอะแยะไป ก็ไม่ถือว่าใหม่อะไร
ที่เด่นจริงๆ ของเกมนี้คือ AUCTION HOUSE (ทั้งแบบ GOLD และ Real Money)
ขนาดผมไม่ชอบเล่นเกมแนวเกมออนไลน์นะ ผมยังชอบระบบนี้เลย ผมว่ามันสะดวก และ เข้าท่ามากๆ
อย่างตอนที่ผมเล่นเกมนี้รอบแรก เวลาเริ่มรู้สึกว่าสู้กับ monster ลำบากหละ
ผมก็จะมาหาของใส่ตัวละครที่เหมาะๆ กับตัวละครเราหน่อย จากใน Auction House นี่แหละ
ผมสามารถขอซื้อของ +int สูงๆ (ผมเล่น wizard อะ) ได้ในราคาแค่ 200-300 Gold แค่นั้นเอง
ซึ่งมันได้ราคาและของที่ดีกว่าไปซื้อกับพ่อค้าในเกมซะอีก (ดีกว่าหลายเท่าเลย)
ผมว่ามันเป็นระบบที่เอื้ออำนวยดีมากๆ การหาของ เปรียบเทียบของ ทำได้ดีทีเดียว
ผมเคยเล่น Rag และเกมออนไลน์อื่นๆ เวลาผู้เล่นจะเอาของมาขายมันจะเป็นแบบขายใครขายมัน
ตาดีได้ตาร้ายเสีย เหมือนเราวิ่งหาของในห้างสรรพสินค้าในแต่ละร้านๆ เองอะ .... เหนื่อย
แต่ระบบ Auction House มันจะเป็น center ให้ ที่ผู้ซื้อและผู้ขายมารวมกัน
ผู้ซื้อสามารถเลือกของที่มีราคาที่ยุติธรรมได้อย่างง่ายดาย ขนาดผมโง่ๆ แบบนี้ยังหาของใส่ตัวละครได้เลย
อย่างน้อยที่สุด ผู้เล่นที่ไม่สนใจเล่นหลายๆ รอบก็สามารถมาหาของดีๆ ใส่ได้ ทำให้เกมจบอย่างราบรื่น
เรื่องการ co-op ที่มีเข้ามาก็ช่วยเสริมให้เกมนี้มีการเล่นที่สนุกไปอีกแบบ จะช่วยกันทำ quest ก็ได้
จะช่วยหาของหาเงินก็ได้ ช่วยเก็บ level ก็ได้ ... ถึงมันจะไม่เด่น ไม่แปลกใหม่ แต่ผมว่า
"มันก็เข้าท่าดีไปอีกแบบ" ... แถมเกมนี้เป็นแบบจ่ายเงินครั้งเดียว ออนไลน์ไปทั้งชีวิต
คือไม่ต้องมาเสียค่าชั่วโมงอะไรบ้าๆ บอๆ อีก ของเทพๆ ก็หาได้จากในเกมไม่ต้องไปเสียเงินซื้อ
ทำให้ในอนาคตถ้า Bizzard ออก event ใหม่ๆ มาเราก็พร้อมสนุก มันส์ ไปกับมันได้เลย
พูดถึง auction house ยังไม่จบ เมื่อกี้พูดถึงส่วนของ AH แบบ Gold ไป
แล้วแบบ Real Money มีไว้ทำไม? ... มีไว้สำหรับคนที่ไม่ชอบรอ อยากได้ของเทพๆ ไวๆ
อย่างถ้าจะซื้อของใน Gold คุณก็ต้องเล่นเกม สะสมทองไปซักระยะให้มีเงินพอจะมาซื้อของ
บางคนบ้านรวย หรือ มีเหตุผลส่วนตัวอย่างอื่น ไม่อยากเสียเวลามานั่งปั๊มทองแบบนั้น
ใช้เงินจริงซื้อไปเลย ก็ได้ของเทพๆ มาใส่เหมือนกัน ... สำหรับผม ผมว่าผมเอาไว้หาเงินดีกว่า 555+
ผมชอบ Auction House ที่มีระบบ Real Money ก็ตรงนี้แหละ หุหุ
ซึ่งถ้า Diablo 3 ขาดระบบ Auction House ไปมันจะเป็นเกมที่ "กาก" มากครับ
ระบบนี้เหมือนระบบชูโรงให้กับเกมนี้เลยก็ว่าได้ ผมเองขนาดไม่ใช่ gamer ขาโหดยังชอบระบบนี้เลย
ความสนุกของ Diablo 3 มันมาจากการได้ปฏิสัมพันธ์กับคนจริงๆ ที่มาซื้อขายของกันแบบมีระบบที่ยุติธรรม
โดยที่อำนาจเป็นของผู้ซื้อ และเป็นไปตามกลไกตลาด คืออย่างเกมออนไลน์อื่นๆ มันจะเป็นแบบตั้งใครตั้งมัน
ถามว่ามันเป็นตามกลไกตลาดไหม ก็ใช่ครับ เป็นกลไกลตลาด แต่เป็นแบบไม่มีระบบมาควบคุม
แต่ระบบ Auction House มันจะเหมือนมีระบบมาควบคุมให้การซื้อขายเป็นไปอย่างสะดวก ง่าย และเป็นธรรมมากขึ้น
เพราะเกมออนไลน์มันก็คือสังคมออนไลน์ดีๆ นี่เอง ถ้าปล่อยให้คนตั้งเอง ราคามันก็สูงๆ ต่ำๆ (ใน AH ก็มีเหมือนกัน)
มันก็ไปตกที่คนซื้อว่าต้องวิ่งหาของเอง ตาดีได้ตาร้ายเสีย แต่พอมีระบบกลางเข้ามา การหาของก็ง่าย
การเปรียบเทียบราคาก็ง่าย ของไหนที่แพงเกินจริงเราก็ไม่เอา ไปหาของอื่นที่ให้ราคาสมเหตุสมผลกว่า
**เพิ่มเติม**รูปแบบการเล่นของตัวเกมเองก็เหมือนกัน ต้องมองเป็นภาพรวมครับ เพราะระบบที่ทำให้ผมรู้สึกสนุกคือ Auction House ส่วนเรื่องอื่นๆ
ผมมองว่ามันก็ไม่ต่างจากเกมอื่นหรอก ตัวผมเองเพิ่งเล่นอีกรอบในโหมด Nightmare ไม่ต้องไปถึง interno หรอกก็รับรู้ได้ว่ามันสนุก
สนุกในที่นี้หมายถึงการที่เราได้ใช้ประโยชน์จาก Auction House และ CO-OP อย่างเต็มที่ ไม่ใช่จาก feature ใด feature หนึ่ง
เช่นกัน ถ้าเกมนี้ขาด Feature ใด Feature หนึ่งไป มันจะกลายเป็นไม่สนุกไปในทันที
โหมดต่างๆ ที่ทำขึ้นมา มันก็แค่ทำให้ศัตรูโจมตีแรงขึ้นอีดขึ้น item แปลกๆ เทพๆ ที่หล่นจาก monster มากขึ้น ซึ่งพวกเนี่ยสำหรับผม
ผมว่ามันไม่แปลกครับ เกมไหนๆ มันก็มีรูปแบบการเล่นแบบนี้กันทั้งนั้น แต่ที่มันทำให้ Diablo 3 สนุกมันคือการรวมเอา AH + CO-OP + รูปแบบการเล่นทั่วไป เข้าไว้ด้วยกัน
คำว่ารูปแบบการเล่น มันคือ innovation ของเกมนั้นๆ ว่ามีรูปแบบการเล่นแบบไหน ซึ่ง diablo 3 นอกจาก AH แล้วก็ธรรมดาๆ
แต่ผู้ผลิตเกมสามารถผสมผสานมันได้อย่างลงตัว จนเราเรียกมันได้ว่า...มันเป็นเกมที่สนุกเกมหนึ่ง
ทั้งหมดที่พูดมาเนี่ยแหละคือเสน่ห์ของเกมนี้ . Diablo 3
--------- [เม้าท์เรื่องภาพและเสียง]-----------
พูดถึงเรื่องภาพและเสียง ไม่ต้องพูดมากมั้ง ... ธรรมดาครับ Graphic ไม่มีโดดเด่น
ใครที่คาดหวังจะมาเห็น graphic งามๆ ฝันไปเถอะ ไม่ใช่เกมนี้ครับ
เครื่องธรรมดาๆ ราคาหมื่นกว่าบาทสมัยนี้ก็เล่นได้สบายๆ ครับ งานนี้ GTX680, 7990 (ออกมายังแหะ 555+)
เก็บเข้ากล่องไปเลย Onboard AMD HD6550 ก็เอาอยู่ ไม่ได้ต้องการเครื่องแรงขนาดนั้น
ซึ่งจริงๆ เรื่องภาพและเสียงสำหรับผม ผมว่ามันก็มีส่วนที่ทำให้เกมสนุกด้วยในระดับหนึ่ง (แต่ไม่ทั้งหมด)
อย่างตัวผม เป็นคนชอบเกมที่เนื้อเรื่อง ฉะนั้นเรื่องของภาพ ไม่ว่าจะเป็นฉากในเกม, CG Cut-scene ฯ
ล้วนแต่ส่งผลต่ออรรถรสในเกมนั้นๆ ด้วย เหมือนเราดูหนังที่นอกจากเนื้อเรื่องที่สนุกแล้วฉากและ CG ก็ต้องเข้ากับระดับของมันด้วย
เกมก็เหมือนกัน เพราะนั่นมันก็เป็นหนึ่งในหลายๆ อรรถรสที่ตัวเกมจะส่งต่อไปถึงตัวผู้เล่น
Diablo 3 ก็ทำออกมาได้พองามครับ ไม่น่าเกลียดจนเกินไป ถึงแม้ in-game graphic จะไม่เลิศเหมือน
เกมดังๆ สมัยนี้ที่ใช้ DirectX 11 แบบเต็มสูบ แต่มันก็ทำได้ดีในระดับไม่ให้ความสนุกลดลง
ตรงกันข้ามกับบางเกม อัด DX11 มาเต็มสูบ แต่หาความสนุกได้เพียงน้อยนิด (ไม่อยากพูดถึง เดี๋ยวโดนแฟนคลับโจมตี)
*****[สรุปๆ]******
คะแนนเต็ม 10 ผมให้ ตามหัวข้อมีดังนี้
เนื้อเรื่อง : 5.9 คะแนน
(จริงๆ จะให้ -5 ซะด้วยซ้ำ รอมาตั้งนานทำเนื้อเรื่องได้แค่เนี๊ย
555+ โหดไปปะ .... ให้ซัก 5.9 คะแนนก็เกินพอหละ)
รูปแบบการเล่น : 8 คะแนน
(แบ่งเป็นแบบระบบพื้นฐานให้ 6 คะแนน แบบออนไลน์ co-op และ Auction House ให้ 8.5 คะแนน
หารมามันได้ 7.25 ปัดขึ้นให้เป็น 8 คะแนนหละกันอะ)
ภาพและเสียง : 7 คะแนน
(เนื่องจากเกมนี้ใช้เวลา production มานานครับ เรื่อง DX11 ไม่ต้องพูดถึง DX9.0C ก็เหลือเฟือสำหรับเกมนี้
ปีนี้มันเป็นปี 2012 ถึงแม้เรื่องภาพและเสียงจะไม่สำคัญเท่าระบบเกมและเนื้อเรื่อง แต่มันก็ควรจะตามๆ ยุคบ้าง
ไม่ใช่ภาพมายังกับ Super Mario แบบนั้มันก็เกินไป เลยให้แค่ 7 ครับ)
**เพิ่มเติม** (ลืมเขียนสรุปภาพรวมๆ ของเกมนี้ให้)
ถามว่าเกมนี้สนุกไหม....สนุกครับ ขนาดผมไม่ใช่คอเกมออนไลน์ยังรู้สึกสนุกเลย อย่างที่บอกว่าเกมแต่ละเกมมันมีอรรถรสหลายด้าน
Diablo 3 ก็เช่นกัน ถ้ามองด้านเนื้อเรื่อง กับ Graphic & Sound มันคงเป็นเกมที่ไม่มีอะไรโดดเด่นมาก แต่ถ้ามองภาพรวมมันถึงจะสมกับราคา 2 พันบาท
โดยมีข้อแม้ว่า คุณจะต้องเป็นพวกชอบเล่นกับคนอื่น อาจจะไม่ต้องถึงขนาด co-op แต่ชอบซื้อชอบขายกับคนจริงๆ นั่นแหละคุณถึงจะสนุกกับ diablo
แต่ถ้าเป็นพวกชอบเล่นคนเดียวเงียบๆ เก็บ lv. ไป หาของเทพๆ ในเกมใส่เอง ... 2 พันบาทอาจจะไม่คุ้มกับคุณ
เพราะนี่คือเกมออนไลน์ในคราบออฟไลน์ดีๆ นี่เอง เมื่อมันออนไลน์คุณจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น มันถึงจะสนุก
[จบครับ]
ปล. มาจากความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามครับผม
-------------------------------------------------------------------
รายชื่อผู้ที่ได้ทำการจัดส่ง Diablo 3 : Guest Pass ได้แก่
-------------------------------------------------------------------
1. คุณ fattyman (จัดส่งแล้ว)
2. คุณ dragon9125 - ในความเห็นที่ 3 (จัดส่งแล้ว)
3. คุณ DCP - ในความเห็นที่ 4 (จัดส่งแล้ว)
-------------------------------------------------------------------
รายชื่อผู้ที่ได้ทำการจัดส่ง Diablo 3 : Guest Pass ได้แก่ (รอบสอง)
-------------------------------------------------------------------
1. คุณ sompong - ในความเห็นที่ 10 (จัดส่งแล้ว)
2. คุณ เถ้าลอย - ในความเห็นที่ 13 (จัดส่งแล้ว)
ครบหมดแล้วนะครับสำหรับ Diablo 3 Guest Pass