ถึงแม้ผู้เขียนจะถูกอกถูกใจกับหน้าตาและการใช้งานของ BlackBerry Curve 8520 อยู่ไม่น้อยเมื่อครั้งที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว หากแต่ก็ต้องรู้สึกผิดหวังเล็กๆ เมื่อเจ้ารุ่น 8520 กลับไม่มี 3G และGPS มาให้ใช้งานด้วย แต่แล้วมาปีนี้ RIM ก็ตัดสินใจคลอดทายาทรุ่นน้อง BlackBerry Curve 3G 9300 ออกมาเอาใจแฟนๆ แถมไม่ลืมที่จะใส่ 3G และGPS มาด้วย นอกจากคุณสมบัติการใช้งานแล้ว RIM ยังได้ปรับปรุงความเร็วของโปรเซสเซอร์ โดย Curve 3G รุ่นนี้มีความเร็วโปรเซสเซอร์ 624MHz และหน่วยความจำภายใน 256MB และถึงแม้ว่าหน้าตาภายนอกโดยรวมของมันจะดูไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก แต่อย่างไรก็ดี Curve 3G ตัวนี้ก็เหมาะที่จะเป็นโทรศัพท์สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนเริ่มต้น โดยเฉพาะราคาที่วางจำหน่ายในอเมริกาเพียงแค่ 79.99 เหรียญ พร้อมสัญญาใช้งานเป็นเวลาสองปี
หน้าตาและการออกแบบ
โดยรวมแล้วหน้าตาของ BlackBerry Curve 3G ตัวนี้ก็ยังให้ความรู้สึกที่คุ้นชินเหมือนรุ่นพี่ 8520 เป็นอย่างมาก เนื่องจากมิติของตัวเครื่องที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก มันยังคงสูง 4.3 นิ้ว กว้าง 2.4 นิ้ว หนา 0.6 นิ้ว และมีน้ำหนักประมาณ 3.6 ออนซ์ Curve 3G มีขนาดหน้าจอ 2.4 นิ้ว พร้อมปุ่มกดที่ด้านบน และขาดไม่ได้กับแป้นพิมพ์สำหรับขาแชทแบบ QWERTY
สิ่งที่เป็นข้อแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ จากตัวรุ่นพี่ก็คือ ตัว trackpad ที่ผู้เขียนรู้สึกว่ามันตอบสนองได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าเอามากๆ รวมถึงวัสดุที่ใช้ประกอบฝาหลังของตัวเครื่องในรุ่นนี้ก็ทำจากผิวยาง ซึ่งต่างจากรุ่นพี่ก่อนหน้าที่ทำจากวัสดุคนละชนิดกัน ซึ่งมันทำให้ไม่ลื่นหลุดมือ นิ่มนวลเมื่อสัมผัส และจับถือได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาด้วยจะประกอบไปด้วย สายอะแดปเตอร์, สาย USB,หูฟัง, แผ่นซีดีโปรแกรม และคู่มืออ้างอิง
คุณสมบัติน่าใช้
Curve 3G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS เวอร์ชั่น 5 ซึ่ง RIM อ้างว่ามันสามารถอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น 6.0 ที่เพิ่งคลอดออกมาใหม่ได้ โดยในเวอร์ชั่น 6.0 ได้มีการปรับปรุงหน้าตาโฮมกสรีน, การค้นหาต่างๆ, การเข้าถึงกล่องข้อความได้ง่ายขึ้น, เว็บเบราเซอร์ที่ปรับโฉมใหม่และอื่นๆ อีกมากมาย และขาดไม่ได้กับการใช้งานขั้นพื้นฐานอย่างลำโพง, การโทรออกด้วยเสียง, ประชุมสาย, โทรด่วน, ข้อความตัวอักษรและรูปภาพ รวมไปถึงโปรแกรมสนทนาหลากหลายอย่าง BlackBerry Messenger, AIM, ICQ, Yahoo, และWindows Live
นอกจากนี้ Curve 3G ยังรองรับการใช้งานอีเมลล์แบบเต็มขั้น ด้วยการเชื่อมต่ออีเมลล์ภายในองค์กรของคุณผ่านทาง BlackBerry Enterprise server ให้เข้ากับโปรแกรมอีเมลล์อื่นๆ อย่าง Microsoft Exchange, IBM Lotus Domino หรือจะตั้งค่าการเชื่อมต่ออีเมลล์ส่วนตัวแบบ POP3 หรือIMAP4 อย่างง่ายดาย จากผู้ให้บริการอีเมลล์ที่ได้รับความนิยม Gmail และYahoo Mail
ด้านการบันทึกรายชื่อสมุดโทรศัพท์ ก็ยังคงอาศัยพื้นที่การจัดเก็บจากหน่วยความจำภายในและซิมการ์ดซึ่งรองรับการบันทึกได้ถึง 250 รายชื่อ โดยแต่ละรายชื่อสามารถป้อนหมายเลขโทรศัพท์, ที่อยู่อีเมลล์, ที่อยู่บ้าน นอกจากนี้ยังสามารถตั้งกลุ่มโทรศัพท์, แสดงรูปขณะโทรเข้า และตั้งเสียงริงโทนเฉพาะรายได้อีกด้วย แถมไม่ลืมนัดหมายที่ต้องทำด้วยเครื่องมืออย่าง ปฏิทิน, รายการที่ต้องทำ, สมุดบันทึก, เครื่องอัดเสียง และเครื่องคิดเลข
บทวิจารณ์
ถึงแม้หน้าตาของมันจะเหมือนกับรุ่นพี่ แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือ Curve 3G ได้ใส่การใช้งาน GPS/A-GPS (ระบบบอกตำแหน่งบนพื้นผิวโลกจากดาวเทียม), 3G และWi-Fi มาให้ครบครัน รวมถึง Bluetooth ที่รองรับการ A2DP แถมยังครอบคลุมการใช้งานด้านไฟล์เอกสารทั้ง Office, Corel WordPerfect และPDF ที่ไม่ว่าจะเปิดดูหรือแก้ไขก็ทำได้สะดวกบนโทรศัพท์ หรือหากจะดาวน์โหลดเครื่องมือเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดจาก BlackBerry App World ได้ตามความต้องการ โดยตัวเครื่องมีขนาดหน่วยความจำภายใน 256MB แต่สามารถใส่การ์ดความจำเสริมภายนอก microSD card เพิ่มได้ถึง 16GB
หรือถ้าหากทำงานหนักมาทั้งวัน Curve 3G ก็สามารถช่วยคุณผ่อนคลายความเครียดได้เล็กๆ น้อยๆ ด้วยออฟชั่นความบันเทิงที่มีมาให้พร้อมสรรพ ตัวเครื่องรองรับการเล่นเพลงทั้งไฟล์ MP3, WMA, AAC และMIDI รองรับไฟล์วีดีโอ MPEG4, WMV, H.263 และH.264 ขาดไม่ได้กับการถ่ายรูปด้วยกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซลที่ติดตั้งอยู่ด้านหลัง ซึ่งเป็นความละเอียดมาตรฐานกล้องในซีรีส์ 8500 และพิเศษด้วยสามารถในการซูมภาพได้ไกลถึง 5 เท่าพร้อมกล้องวีดีโอเพื่อเพิ่มความบันเทิงมากยิ่งขึ้น
(รูปภาพที่ได้จากล้อง BlackBerry Curve 3G 9300)
ซึ่งเมื่อผู้เขียนได้ทดลองถ่ายรูปเป็นตัวอย่าง ก็ต้องพบกับความผิดหวัง เนื่องจากคุณภาพของไฟล์รูปที่ได้ไม่ค่อยดีนัก ถึงแม้จะถ่ายในบริเวณที่มีแสงน้อยแต่รูปที่ได้กลับมืดกว่าที่เราคิดไว้มาก จึงทำให้ไฟล์รูปที่ได้นั้นทั้งพร่ามัวและสีสันไม่สดใส
ด้านประสิทธิภาพ
ผู้เขียนได้ทำการทดสอบโดยใช้คลื่นความถี่ (GSM850/900/1800/1900 GPRS/EDGE/UMTS 1700/2100) ภายใต้เครือข่าย T-Mobile ในอเมริกา ซึ่งก็ค่อนข้างที่จะประทับใจในเรื่องคุณภาพของการโทร ที่ให้เสียงสดใสชัดเจน ถึงแม้จะมีเสียงรบกวนก็ตามที คุณภาพของเสียงที่ได้ก็ค่อนข้างเป็นธรรมชาติซึ่งใกล้เคียงกับการใช้งานจากโทรศัพท์บ้าน และเมื่อเปิดใช้งานลำโพงก็ไม่เห็นถึงความแตกต่างกันมากนัก ตบท้ายด้วยการทดสอบร่วมกับบลูทูธก็ไม่พบกับปัญหาใดๆ
และเมื่อใช้เครือข่าย 3G จากT-Mobile ทดสอบก็พบว่ามันให้สัญญาณที่แรงพอสมควร ผู้เขียนได้ทำการทดสอบด้วยการโหลดหน้าเว็บไซต์ CNET แบบเต็มหน้าใช้เวลาประมาณ 40 วินาที และทดลองโหลดหน้าเว็บ CNN และBBC เวอร์ชั่นมือถือก็พบว่าใช้เวลาเพียง 15 วินาทีเท่านั้น และด้วยความเร็วโปรเซสเซอร์ที่ให้มา 624Mhz ก็ทำให้ผู้เขียนรู้สึกได้ถึงความคล่องตัวในการทำงาน และลื่นไหลเมื่อคลิกเข้าแอพพลิเคชั่น โดยใช้เวลาไม่ถึงนาที
ย้อนมาที่เรื่องของการเล่นเพลงที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกตื่นตาตื่นใจเอามากๆ โดยเฉพาะคุณภาพเสียงที่เปิดฟังจากลำโพงจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี และด้วยความที่โทรศัพท์ใช้หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร เราจึงขอสนับสนุนให้ผู้ใช้รับฟังเพลงผ่านหูฟังมากกว่าจะเปิดด้วยลำโพงเพื่ออรรถรสที่ดีกว่า และพิเศษอย่างยิ่งกับปุ่ม media player ที่อยู่ด้านบนของตัวเครื่องที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการเล่นเพลงได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องปลดล๊อคโทรศัพท์ก่อน
Curve 3G ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1,150 มิลลิแอมป์ จึงทำให้สนทนาต่อเนื่องได้ถึง 4.5 ชั่วโมง และรอรับสายได้ยาวนานถึง 19 วัน
สรุปข้อดี : เป็นสมาร์ทโฟนที่มีขนาดกระชับ, การตอบสนองของ trackpad และปุ่มต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ดี และครบครันการใช้งานด้วย Wi-Fi, stereo Bluetooth, GPS, 3G และกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
สรุปข้อเสีย : Curve 3G รุ่นนี้ถือได้ว่าแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นพี่สักเท่าไหร่, คุณภาพของรูปที่ได้ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ค่อยดีนัก
ส่งท้าย : ถึงแม้ว่าผู้เขียนจะรู้สึกผิดหวังที่ Curve 3G ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก แต่ก็ยังดีที่ RIM ได้ใส่ลูกเล่นอย่าง 3G และGPS มาทดแทน ซึ่งก็เหมาะสำหรับผู้ใช้มือใหม่ที่เริ่มหันมาสนใจสมาร์ทโฟน
ที่มา : http://reviews.cnet.com/smartphones/rim-blackberry-curve-3g/4505-6452_7-34147005.html?tag=rvwBody
ทักทาย BlackBerry Curve 3G 9300 ก่อนเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ
ถึงแม้ผู้เขียนจะถูกอกถูกใจกับหน้าตาและการใช้งานของ BlackBerry Curve 8520 อยู่ไม่น้อยเมื่อครั้งที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว หากแต่ก็ต้องรู้สึกผิดหวังเล็กๆ เมื่อเจ้ารุ่น 8520 กลับไม่มี 3G และGPS มาให้ใช้งานด้วย แต่แล้วมาปีนี้ RIM ก็ตัดสินใจคลอดทายาทรุ่นน้อง BlackBerry Curve 3G 9300 ออกมาเอาใจแฟนๆ แถมไม่ลืมที่จะใส่ 3G และGPS มาด้วย นอกจากคุณสมบัติการใช้งานแล้ว RIM ยังได้ปรับปรุงความเร็วของโปรเซสเซอร์ โดย Curve 3G รุ่นนี้มีความเร็วโปรเซสเซอร์ 624MHz และหน่วยความจำภายใน 256MB และถึงแม้ว่าหน้าตาภายนอกโดยรวมของมันจะดูไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก แต่อย่างไรก็ดี Curve 3G ตัวนี้ก็เหมาะที่จะเป็นโทรศัพท์สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนเริ่มต้น โดยเฉพาะราคาที่วางจำหน่ายในอเมริกาเพียงแค่ 79.99 เหรียญ พร้อมสัญญาใช้งานเป็นเวลาสองปี
หน้าตาและการออกแบบ
โดยรวมแล้วหน้าตาของ BlackBerry Curve 3G ตัวนี้ก็ยังให้ความรู้สึกที่คุ้นชินเหมือนรุ่นพี่ 8520 เป็นอย่างมาก เนื่องจากมิติของตัวเครื่องที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก มันยังคงสูง 4.3 นิ้ว กว้าง 2.4 นิ้ว หนา 0.6 นิ้ว และมีน้ำหนักประมาณ 3.6 ออนซ์ Curve 3G มีขนาดหน้าจอ 2.4 นิ้ว พร้อมปุ่มกดที่ด้านบน และขาดไม่ได้กับแป้นพิมพ์สำหรับขาแชทแบบ QWERTY
สิ่งที่เป็นข้อแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ จากตัวรุ่นพี่ก็คือ ตัว trackpad ที่ผู้เขียนรู้สึกว่ามันตอบสนองได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าเอามากๆ รวมถึงวัสดุที่ใช้ประกอบฝาหลังของตัวเครื่องในรุ่นนี้ก็ทำจากผิวยาง ซึ่งต่างจากรุ่นพี่ก่อนหน้าที่ทำจากวัสดุคนละชนิดกัน ซึ่งมันทำให้ไม่ลื่นหลุดมือ นิ่มนวลเมื่อสัมผัส และจับถือได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาด้วยจะประกอบไปด้วย สายอะแดปเตอร์, สาย USB,หูฟัง, แผ่นซีดีโปรแกรม และคู่มืออ้างอิง
คุณสมบัติน่าใช้
Curve 3G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS เวอร์ชั่น 5 ซึ่ง RIM อ้างว่ามันสามารถอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น 6.0 ที่เพิ่งคลอดออกมาใหม่ได้ โดยในเวอร์ชั่น 6.0 ได้มีการปรับปรุงหน้าตาโฮมกสรีน, การค้นหาต่างๆ, การเข้าถึงกล่องข้อความได้ง่ายขึ้น, เว็บเบราเซอร์ที่ปรับโฉมใหม่และอื่นๆ อีกมากมาย และขาดไม่ได้กับการใช้งานขั้นพื้นฐานอย่างลำโพง, การโทรออกด้วยเสียง, ประชุมสาย, โทรด่วน, ข้อความตัวอักษรและรูปภาพ รวมไปถึงโปรแกรมสนทนาหลากหลายอย่าง BlackBerry Messenger, AIM, ICQ, Yahoo, และWindows Live
นอกจากนี้ Curve 3G ยังรองรับการใช้งานอีเมลล์แบบเต็มขั้น ด้วยการเชื่อมต่ออีเมลล์ภายในองค์กรของคุณผ่านทาง BlackBerry Enterprise server ให้เข้ากับโปรแกรมอีเมลล์อื่นๆ อย่าง Microsoft Exchange, IBM Lotus Domino หรือจะตั้งค่าการเชื่อมต่ออีเมลล์ส่วนตัวแบบ POP3 หรือIMAP4 อย่างง่ายดาย จากผู้ให้บริการอีเมลล์ที่ได้รับความนิยม Gmail และYahoo Mail
ด้านการบันทึกรายชื่อสมุดโทรศัพท์ ก็ยังคงอาศัยพื้นที่การจัดเก็บจากหน่วยความจำภายในและซิมการ์ดซึ่งรองรับการบันทึกได้ถึง 250 รายชื่อ โดยแต่ละรายชื่อสามารถป้อนหมายเลขโทรศัพท์, ที่อยู่อีเมลล์, ที่อยู่บ้าน นอกจากนี้ยังสามารถตั้งกลุ่มโทรศัพท์, แสดงรูปขณะโทรเข้า และตั้งเสียงริงโทนเฉพาะรายได้อีกด้วย แถมไม่ลืมนัดหมายที่ต้องทำด้วยเครื่องมืออย่าง ปฏิทิน, รายการที่ต้องทำ, สมุดบันทึก, เครื่องอัดเสียง และเครื่องคิดเลข
บทวิจารณ์
ถึงแม้หน้าตาของมันจะเหมือนกับรุ่นพี่ แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือ Curve 3G ได้ใส่การใช้งาน GPS/A-GPS (ระบบบอกตำแหน่งบนพื้นผิวโลกจากดาวเทียม), 3G และWi-Fi มาให้ครบครัน รวมถึง Bluetooth ที่รองรับการ A2DP แถมยังครอบคลุมการใช้งานด้านไฟล์เอกสารทั้ง Office, Corel WordPerfect และPDF ที่ไม่ว่าจะเปิดดูหรือแก้ไขก็ทำได้สะดวกบนโทรศัพท์ หรือหากจะดาวน์โหลดเครื่องมือเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดจาก BlackBerry App World ได้ตามความต้องการ โดยตัวเครื่องมีขนาดหน่วยความจำภายใน 256MB แต่สามารถใส่การ์ดความจำเสริมภายนอก microSD card เพิ่มได้ถึง 16GB
หรือถ้าหากทำงานหนักมาทั้งวัน Curve 3G ก็สามารถช่วยคุณผ่อนคลายความเครียดได้เล็กๆ น้อยๆ ด้วยออฟชั่นความบันเทิงที่มีมาให้พร้อมสรรพ ตัวเครื่องรองรับการเล่นเพลงทั้งไฟล์ MP3, WMA, AAC และMIDI รองรับไฟล์วีดีโอ MPEG4, WMV, H.263 และH.264 ขาดไม่ได้กับการถ่ายรูปด้วยกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซลที่ติดตั้งอยู่ด้านหลัง ซึ่งเป็นความละเอียดมาตรฐานกล้องในซีรีส์ 8500 และพิเศษด้วยสามารถในการซูมภาพได้ไกลถึง 5 เท่าพร้อมกล้องวีดีโอเพื่อเพิ่มความบันเทิงมากยิ่งขึ้น
(รูปภาพที่ได้จากล้อง BlackBerry Curve 3G 9300)
ซึ่งเมื่อผู้เขียนได้ทดลองถ่ายรูปเป็นตัวอย่าง ก็ต้องพบกับความผิดหวัง เนื่องจากคุณภาพของไฟล์รูปที่ได้ไม่ค่อยดีนัก ถึงแม้จะถ่ายในบริเวณที่มีแสงน้อยแต่รูปที่ได้กลับมืดกว่าที่เราคิดไว้มาก จึงทำให้ไฟล์รูปที่ได้นั้นทั้งพร่ามัวและสีสันไม่สดใส
ด้านประสิทธิภาพ
ผู้เขียนได้ทำการทดสอบโดยใช้คลื่นความถี่ (GSM850/900/1800/1900 GPRS/EDGE/UMTS 1700/2100) ภายใต้เครือข่าย T-Mobile ในอเมริกา ซึ่งก็ค่อนข้างที่จะประทับใจในเรื่องคุณภาพของการโทร ที่ให้เสียงสดใสชัดเจน ถึงแม้จะมีเสียงรบกวนก็ตามที คุณภาพของเสียงที่ได้ก็ค่อนข้างเป็นธรรมชาติซึ่งใกล้เคียงกับการใช้งานจากโทรศัพท์บ้าน และเมื่อเปิดใช้งานลำโพงก็ไม่เห็นถึงความแตกต่างกันมากนัก ตบท้ายด้วยการทดสอบร่วมกับบลูทูธก็ไม่พบกับปัญหาใดๆ
และเมื่อใช้เครือข่าย 3G จากT-Mobile ทดสอบก็พบว่ามันให้สัญญาณที่แรงพอสมควร ผู้เขียนได้ทำการทดสอบด้วยการโหลดหน้าเว็บไซต์ CNET แบบเต็มหน้าใช้เวลาประมาณ 40 วินาที และทดลองโหลดหน้าเว็บ CNN และBBC เวอร์ชั่นมือถือก็พบว่าใช้เวลาเพียง 15 วินาทีเท่านั้น และด้วยความเร็วโปรเซสเซอร์ที่ให้มา 624Mhz ก็ทำให้ผู้เขียนรู้สึกได้ถึงความคล่องตัวในการทำงาน และลื่นไหลเมื่อคลิกเข้าแอพพลิเคชั่น โดยใช้เวลาไม่ถึงนาที
ย้อนมาที่เรื่องของการเล่นเพลงที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกตื่นตาตื่นใจเอามากๆ โดยเฉพาะคุณภาพเสียงที่เปิดฟังจากลำโพงจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี และด้วยความที่โทรศัพท์ใช้หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร เราจึงขอสนับสนุนให้ผู้ใช้รับฟังเพลงผ่านหูฟังมากกว่าจะเปิดด้วยลำโพงเพื่ออรรถรสที่ดีกว่า และพิเศษอย่างยิ่งกับปุ่ม media player ที่อยู่ด้านบนของตัวเครื่องที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการเล่นเพลงได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องปลดล๊อคโทรศัพท์ก่อน
Curve 3G ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1,150 มิลลิแอมป์ จึงทำให้สนทนาต่อเนื่องได้ถึง 4.5 ชั่วโมง และรอรับสายได้ยาวนานถึง 19 วัน
สรุปข้อดี : เป็นสมาร์ทโฟนที่มีขนาดกระชับ, การตอบสนองของ trackpad และปุ่มต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ดี และครบครันการใช้งานด้วย Wi-Fi, stereo Bluetooth, GPS, 3G และกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
สรุปข้อเสีย : Curve 3G รุ่นนี้ถือได้ว่าแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นพี่สักเท่าไหร่, คุณภาพของรูปที่ได้ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ค่อยดีนัก
ส่งท้าย : ถึงแม้ว่าผู้เขียนจะรู้สึกผิดหวังที่ Curve 3G ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก แต่ก็ยังดีที่ RIM ได้ใส่ลูกเล่นอย่าง 3G และGPS มาทดแทน ซึ่งก็เหมาะสำหรับผู้ใช้มือใหม่ที่เริ่มหันมาสนใจสมาร์ทโฟน
ที่มา : http://reviews.cnet.com/smartphones/rim-blackberry-curve-3g/4505-6452_7-34147005.html?tag=rvwBody