p1- Coach and his BFF Gnome Chompski. p2- Chompski loves Coach.
เมื่อเราไม่มี Zoey และ Francis ใน Left 4 Dead 2
Coach "This used to be a NICE neighborhood!" :: Coach วัย 44 ปี สูญเสียความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพด้วยอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า เขาจึงไปสมัครไปทำงานเป็นอาจารย์สอนวิชาสุขศึกษาและโค้ชนำทีมกีฬาในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน Savannah รัฐ Georgia, Coach เป็นชายผิวดำอ้วนท้วมอารมณ์ดีผู้ชื่นชอบ Chocolate และ Rock N\' Roll เป็นชีวิตจิตใจ โดยอย่างยิ่งเข้าเป็นแฟนเดนตายของวง Midnight Raiders, เขาสะสม CDs ของ Midnight Riders ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองจนไปถึงช่วงตกอับของวง เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เขาต้องอยู่ดูเมืองบ้านเกิดอันเป็นที่รักพินาศย่อยยับเพราะโรคระบาด
Nick, Nickolas "I have NOT come this far to die now." :: Nickolas, Nick ผีพนันอายุ 35 เดินทางทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อแสวงหาโชคลาฟและทรัพย์สินเงินทองผ่านการพนัน เขาเดินทางมายัง Savannah หวังว่าจะได้เจอแหล่งพนันแห่งใหม่แต่สิ่งที่เขาได้เจอกลับกลายเป็นฝูงผู้ติดเชื้อคลั่ง มารู้ตัวอีกทีนิคต้องฝืนตัวเองเข้าร่วมกับกลุ่มคนแปลกหน้าเพื่อเอาชีวิตรอด, Nick ไม่เคยไว้ใจใคร Trivia- แหวนของ Nick มีสัญลักษณ์ Chaos Stars แบบเดียวกับรอยสักที่ Francis มี
ใน Left 4 Dead 2 นี้มีส่วนที่มีความเป็นเนื้อเรื่องมากขึ้น การเชื่อมต่อเนื้อเรื่องในแต่ละ Campaign นั้นมีมากขึ้น ในขณะที่่ส่วนของการใบ้เนื้อเรื่องต่างๆตามสภาพแวดล้อมและ grafitti นั้นมีน้อยลง นับว่าเป็นข้อเสียเล็กๆน้อยๆอย่างนึง ถ้าไม่ได้ใส่ใจเนื้อเรื่องก็ข้ามไปได้เลย น่าเสียดายที่บางครั้งความคิดในการเล่าเรื่องสไตล์แบบเกม Portal หรือ Left 4 Dead ภาคแรกนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่ข้อเสียของมันคือการที่ผู้เล่นบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงเนื้อเรื่องได้ หรือยากที่จะเข้าถึง เพราะต้องคอยเก็บรายละเอียดหยิบย่อยของเนื้อเรื่องที่กระจัดกระจายเป็นจิ๊กซอว์อยู่ทั่วตัวเกมจนบางครั้งสำหรับคนที่ตั้งใจจะติดตามเสพเนื้อเรื่องอย่างจริงๆจังๆก็ทำให้เหนื่อยเอาอยู่เมื่อต้องมานั่งคุ้ยหาที่มาที่ไปของเนื้อเรื่อง ฟังทุกๆอย่่างในเกม อ่าน graffiti ทุกแห่งที่ผ่าน และค้นตัว file game เพื่อหาบทสนทนาที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องอีก
p1- Help Chomps now! Don\'t let a bro go! p2- We all know that you miss hot teen angst Zoey
Through The Blood and Boomer\'s Bile
สิ่งที่เห็นในการพัฒนาของ Left 4 Dead 2 ที่ต่างจากภาคแรกอย่างเห็นได้ชัดเลยคือการพัฒนาด้าน Visual ที่พัฒนาดีขึ้นมากๆ แสงเงาที่มีความถูกต้องมากขึ้น และซอมบี้ที่สามารถถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆเศษเนื้อได้ด้วยอาวุธต่างๆที่มีมาให้ในเกม ไม่ว่าจะเป็นการเอากระทะฟาดให้หัวขาด หรือกากเอาลูกซองยัดหน้าให้แหก หรือแม้กระทั่งลำไส้ที่ปลิวว่อนเคว้งบนท้องฟ้าอย่างสวยงามเมื่อโดนระเบิด และตัว model ของทั้ง infected และ special infected นั้นถูกทำขึ้นใหม่โดยที่แทบไม่ได้ใช้ resource จากของเก่าเลยแม้แต่น้อย ยกเว้น Special Infected บางตัวที่นำ Model เก่ามาดัดแปลงเฉยๆ ใน Left 4 Dead 2 นั้นยังได้มีการเพิ่มอาวุธใหม่ๆขึ้นมาเช่นปืนใหม่ๆที่เอาเข้าจริงๆแล้วไม่ได้ต่างจากปืนเก่าๆซักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่มากขึ้นสำหรับคนที่ชอบปืน(เช่น AK47) แต่จุดที่เด็ดที่สุดคืออาวุธพิเศษอย่าง Melee Weapon ที่ overpowered มากๆ ส่วนตัว balance ในส่วนนี้ยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่ความสนุกที่ได้รับจากการใช้ Melee weapon คงทำให้ลืมเรื่องความ Balance ไปเลย อาวุธใหม่ๆแปลกๆอย่าง Boomer\'s Bile ที่ทำหน้าที่คล้ายๆกับ pipebomb เพียงแต่เป้าหมายที่เปื้อนอ้วกนั้นสามารถเป็น Tank หรือ Witch ก็ได้ แล้วเหล่าฝูงซอมบี้:-)ก็จะไปรุมกระทืบเป้าหมายที่ถูกอ้วก น่าเสียดายที่คุณไม่สามารถเขวี้ยงใส่เพื่อนๆได้เหมือนกับ Molotov
อีกส่วนคือในส่วนของ Level Design ที่ทำได้ดีมากๆ จนมีความรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ Valve นั้นควรจะเอาใจใส่มาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว การออกแบบฉากที่ดูหลากหลายไม่ซ้ำซากและดูสมจริงยิ่งขึ้น ฉากในตอนกลางวัน ฉากพื้นที่เปิดกว้างที่มีรายละเอียดที่ดีเช่นเศษขยะ ซากศพ เต๊นต์ผู้ป่วย และอื่นๆ นอกจากความสวยงามแล้วยังมีลูกเล่นเล็กๆน้อยๆที่มีความคิดสร้างสรรค์อย่างฉาก Finale ของ Dead Center ที่ต้องค้นหาเชื้อเพลิงในฉากมาเติมให้รถ เพิ่มระดับความท้าทายและต้องการการเล่นที่เป็นทีมมากกว่าเก่า ทำให้เกมสนุกขึ้นมาก หรือฉากพายุกระหน่ำใน Hard Rain ที่มองอะไรแทบไม่เห็นและยากที่จะได้ยินเสียงเพื่อนร่วมทีมแม้กระทั่งพูดผ่าน Microphone แล้วเป็นอะไรที่สนุกสนานและท้าทายมากๆ โดยเฉพาะในส่วนของโหมด Realism ที่ตัวเกมจะทำให้ Zombie มีความทนทานมากขึ้น และไม่สามารถมองเห็น aura รอบตัวผู้เล่นได้อีกต่อไปโหมด Realism นี้เป็นสิ่งที่ทำให้คุณได้มีช่วงเวลาดีๆกับเพื่อนๆของคุณในวันหยุดสุดสัปดาห์หลังจากทำงานเหน็ดเหนื่อยหรือเที่ยวจนเมาก็ตาม เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากเมื่อเห็น Jockey เย่อหัวสหายรักของคุณหายเข้าไปในพายุฝน
แต่จุดที่แย่ที่สุดในประสบการณ์การเล่น Left 4 Dead 2 นั้นคือ AI ที่โง่กว่าภาคแรกมาก AI ภาคนี้จะทำทุกอย่างเพื่อถ่วงคุณ และนำพาคุณสู่ความตาย ที่น่าปวดใจมากที่สุดคือการถูก AI ยืนมองคุณตายอย่างช้าๆโดยที่ไม่ช่วยอะไรเลย ยังดีที่เพลงตอนตายภาคนี้ยังพอที่จะทำให้คุณขำหึๆได้บ้างเพื่อให้อารมณ์ของคุณเย็นลงหลังจากถูก AI หักหลังอย่างเลือดเย็น
ในเรื่องของเสียงภาคนี้ ส่วนตัวไม่ได้ลองแบบละเอียดแต่ Left 4 Dead 2 รองรับระบบเสียง 7.1 น่าเสียดายที่ไม่มีอุปกรณ์มาให้ทดสอบ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ประสบการณ์สังหารหมู่ซอมบี้ด้อยลงไปเมื่อเสียงประกอบและดนตรีต่างๆในเกมนี้เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ตั้งแต่เพลงเปิดฉาก The Parish ที่เป็น Blue จนไปถึงเพลงผ่านฉากที่สไตล์ Rock N\' Roll! เสียงของเหล่า Infected ต่างๆยังคงใช้ resource จากภาคเก่าอยู่บ้าง แต่ก็มีการเพิ่มเสียงใหม่ๆขึ้นมาและเพลงประกอบของแต่ละสถานะการณ์ที่หลากหลาย(ตาม event และตามฉาก)
p1- T-Bag Y\'all! p2- Chompski is not amused.
Multi-Prayers Left 4 Dead 2 ยังคงไว้ซึ่งโหมด Versus แบบ Classic และโหมดใหม่คือ Scavenger ที่นำ concept ของ Finale ฉาก Crash Course มาดัดแปลงนั่นคือเปลี่ยนจากจิ้มปุ่มปั่นไฟมาเป็นการเดินหาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นโหมดที่สนุกๆมากถึงแม้บางครั้งจะรู้สึกเหมือนกับว่าฝ่าย Infected นั้นได้เปรียบกว่าเพราะช่วง Spawn ที่ค่อนข้างถี่และความโหดของ Special Infected ตัวใหม่ Charger, Spitter และ Jockey จอมเย่อ
ระบบการเชื่อมต่อผู้เล่นหลายคนใน Left 4 Dead 2 นี้ยังไม่มีอะไรต่างจากภาคแรกเท่าไหร่นอกจากเพิ่ม Server Browser ในตัวเกมที่ดีมากขึ้นที่อนุญาติให้คุณปรับแต่ง filter ต่างๆได้มากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ดีเท่ากับ server browser แบบ classic ที่คุณเรียกจาก console ด้วยคำสั่ง serverbrowser อยู่ดี นี่จึงทำให้เป็นข้อด้อยที่ Valve พลาดไปเล็กน้อย และบางครั้งยังพบปัญหา match making ที่แย่ทำให้เกิดอาการ lag อย่างมากในบางครั้ง
p1- Mustachio you lil\' f*cker. p2- Hard Rain used HARD. It\'s super effective.
FINALE
What\'s Good - มุขตลกประปรายที่ถูกใส่ไว้ในตัวเกม, Reference เจ๋งๆอย่างหนัง Duke of Hazard หรือมุข Youtube, บทพูดน่าสนใจ โดยเฉพาะของ Coach - Minigame ในฉาก Dark Carnival - Characater ของฝั่ง survivor แต่ละคนทำออกมาได้ดี ยกเว้น Rochelle ที่ยังจืดๆไปบ้าง - level design ที่เจ๋งและสร้างสรรค์ โดยเฉพาะช่วง Crescendo และ Finale ของแต่ละฉากทำออกมาได้ดีมากๆ - อาวุธ Melee ที่ใช้งานได้สนุกมาก ถึงแม้จะ overpowered ไปบ้างก็ตามที - เพลงประกอบที่เจ๋ง โดยเฉพาะ track จาก Midnight Riders และ Jonathan Coulton - Jockey จอมเย่อ - Gnome Chompski! - ตัวตลกซอมบี้ ตัวตลกแห่งปี 2009 - แทบไม่มี Glitches เพี้ยนๆแบบที่ภาคแรกมีเลย Teh Suck - AI ไร้ประโยชน์ เป็นอะไรไม่ได้มากไปกว่าตัวถ่วงและฆาตกรเลือดเย็น - Random Crash ที่เกิดบน OS บางระบบอย่าง Windows Vista และ 7 - ตัวเกมยังคงคลุมเครือในส่วนของเนื้อเรื่อง หวังว่า Left 4 Dead 3 เราจะได้รู้อะไรๆมากกว่านี้ - หลายสิ่งหลายอย่างควรจะมีตั้งแต่ภาคแรกแล้ว บางคนอาจจะรู้สึกไม่คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปซักเท่าไหร่เทียบกับประสบการณ์ที่ เพิ่มจากภาคแรกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น Duh Left 4 Dead 2 เป็นเกมที่ดี แต่เชื้อว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตามมันก็ยังพอคุ้มค่าเงินบ้าง โดยเฉพาะเมื่อเล่นกับเพื่อนๆ หากคุณมีสหายครบขาก็แนะนำให้ซื้อเป็นเซ็ททันทีเลย *- บางคนอาจจะไม่ทราบ แต่ Left 4 Dead เป็นหนึ่งในเกมที่มีผู้เล่นผู้หญิงเล่นเยอะมาก หากคุณมีแฟนและอยากให้เธอสนใจในงานอดิเรกอย่างการเล่นเกมของคุณ นี่คือโอกาส
I HATE ZOMBIES, Left 4 Dead 2 REVIEW
p1- Coach and his BFF Gnome Chompski.
p2- Chompski loves Coach.
เมื่อเราไม่มี Zoey และ Francis ใน Left 4 Dead 2
Coach "This used to be a NICE neighborhood!"
:: Coach วัย 44 ปี สูญเสียความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพด้วยอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า เขาจึงไปสมัครไปทำงานเป็นอาจารย์สอนวิชาสุขศึกษาและโค้ชนำทีมกีฬาในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน Savannah รัฐ Georgia, Coach เป็นชายผิวดำอ้วนท้วมอารมณ์ดีผู้ชื่นชอบ Chocolate และ Rock N\' Roll เป็นชีวิตจิตใจ โดยอย่างยิ่งเข้าเป็นแฟนเดนตายของวง Midnight Raiders, เขาสะสม CDs ของ Midnight Riders ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองจนไปถึงช่วงตกอับของวง เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เขาต้องอยู่ดูเมืองบ้านเกิดอันเป็นที่รักพินาศย่อยยับเพราะโรคระบาด
Nick, Nickolas "I have NOT come this far to die now."
:: Nickolas, Nick ผีพนันอายุ 35 เดินทางทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อแสวงหาโชคลาฟและทรัพย์สินเงินทองผ่านการพนัน เขาเดินทางมายัง Savannah หวังว่าจะได้เจอแหล่งพนันแห่งใหม่แต่สิ่งที่เขาได้เจอกลับกลายเป็นฝูงผู้ติดเชื้อคลั่ง มารู้ตัวอีกทีนิคต้องฝืนตัวเองเข้าร่วมกับกลุ่มคนแปลกหน้าเพื่อเอาชีวิตรอด, Nick ไม่เคยไว้ใจใคร
Trivia- แหวนของ Nick มีสัญลักษณ์ Chaos Stars แบบเดียวกับรอยสักที่ Francis มี
Ellis, Grease Monkey "Indestructable."
:: Ellis ช่างยนต์หนุ่มวัย 23 ปีเกิดที่ Savannah รัฐ Georgia เชื่อว่าเขาเกิดมากับพรสวรรค์เกี่ยวกับเครื่องยนต์และเขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ, Ellis เชื่อว่าการที่ได้ทำงานที่รัก, เที่ยวกับเพื่อน และแวะไปทานมื้อค่ำกับหม่ามี้ในวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นอะไรที่วิเศษที่สุดแล้ว แต่ Zombie Apocalypse ก็ได้พรากทุกๆสิ่งจากเขาไป
Rochelle, "My name\'s Rochelle. I produce a news show."
:: Rochelle ด้วยวัย 29 ปี เธอเป็น producer ระดับล่างของสำนักงานข่าวยักษ์ใหญ่แห่งนึงใน Cleaveland รัฐ Ohio งานของเธอไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำงานแปลเอกสารและชงกาแฟใน office ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปในวันที่เชื้อโรคแพร่เข้ามาในเมืองและทุกๆคนพากันป่วยจึงทำให้เธอได้พักงานถาวร แต่เธอก็ยังไม่ละทิ้งงานในฝัน เป้าหมายของเธอคือการควงปืนและรอดจาก Zombie Apocalypse เพื่อเขียนรายงานข่าวชิ้นสำคัญนี้
นอกจากเหล่า Survivors ใหม่ๆนั้น ยังมี Special Infected ใหม่ๆและ Uncommon Common Infected อีก เช่น Jockey จอมเย่อ, Jockey มีความสามารถในการกระโดดเย่อใส่หน้าผู้เคราะห์ร้ายและลากออกจากกลุ่มเพื่อนๆ หรือ Spitter ที่พ่นสารพิษอันตราย และอื่นๆอีก, Uncommon Common Infected คืออะไร? คือพวก Infected ธรรมดาที่มีคุณสมบัติพิเศษเช่น ซอมบี้ตัวตลกจะดึงดูดซอมบี้ตัวอื่นๆด้วยเสียงฝีเท้าที่น่ารำคาญ(ตัวตลกซอมบี้ใส่รองเท้ามีเสียง)
p2- Groin shot baby!
The Aftermath
เนื้อเรื่องจากภาคแรกเกิดขึ้นในช่วงสองสัปดาห์หลังการติดเชื้อ CEDA ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อีกต่อไปจึงต้องขอความร่วมมือจากกองทัพมาช่วยลี้ภัยผู้คนและกำจัดผู้ติดเชื้อที่เกินความควบคุม, ผู้รอดชีวิต 4 คนใน Pennsylvania ต่อสู้เอาตัวรอดเพื่อไปยังจุด Evac จุดสุดท้าย และเดินทางขึ้นเหนือไปยัง Candy Mountain, ในภาคสอง หนึ่งสัปดาห์หลังจากภาคแรก สามสัปดาห์หลังจากการติดเชื้อ ผู้รอดชีวิตใน Georgia 4 คนต้องต่อสู้เพื่อเดินทางไปยังขบวน Evac ทางใต้
ใน Left 4 Dead 2 นี้มีส่วนที่มีความเป็นเนื้อเรื่องมากขึ้น การเชื่อมต่อเนื้อเรื่องในแต่ละ Campaign นั้นมีมากขึ้น ในขณะที่่ส่วนของการใบ้เนื้อเรื่องต่างๆตามสภาพแวดล้อมและ grafitti นั้นมีน้อยลง นับว่าเป็นข้อเสียเล็กๆน้อยๆอย่างนึง ถ้าไม่ได้ใส่ใจเนื้อเรื่องก็ข้ามไปได้เลย น่าเสียดายที่บางครั้งความคิดในการเล่าเรื่องสไตล์แบบเกม Portal หรือ Left 4 Dead ภาคแรกนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่ข้อเสียของมันคือการที่ผู้เล่นบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงเนื้อเรื่องได้ หรือยากที่จะเข้าถึง เพราะต้องคอยเก็บรายละเอียดหยิบย่อยของเนื้อเรื่องที่กระจัดกระจายเป็นจิ๊กซอว์อยู่ทั่วตัวเกมจนบางครั้งสำหรับคนที่ตั้งใจจะติดตามเสพเนื้อเรื่องอย่างจริงๆจังๆก็ทำให้เหนื่อยเอาอยู่เมื่อต้องมานั่งคุ้ยหาที่มาที่ไปของเนื้อเรื่อง ฟังทุกๆอย่่างในเกม อ่าน graffiti ทุกแห่งที่ผ่าน และค้นตัว file game เพื่อหาบทสนทนาที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องอีก
p2- We all know that you miss hot teen angst Zoey
Through The Blood and Boomer\'s Bile
สิ่งที่เห็นในการพัฒนาของ Left 4 Dead 2 ที่ต่างจากภาคแรกอย่างเห็นได้ชัดเลยคือการพัฒนาด้าน Visual ที่พัฒนาดีขึ้นมากๆ แสงเงาที่มีความถูกต้องมากขึ้น และซอมบี้ที่สามารถถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆเศษเนื้อได้ด้วยอาวุธต่างๆที่มีมาให้ในเกม ไม่ว่าจะเป็นการเอากระทะฟาดให้หัวขาด หรือกากเอาลูกซองยัดหน้าให้แหก หรือแม้กระทั่งลำไส้ที่ปลิวว่อนเคว้งบนท้องฟ้าอย่างสวยงามเมื่อโดนระเบิด และตัว model ของทั้ง infected และ special infected นั้นถูกทำขึ้นใหม่โดยที่แทบไม่ได้ใช้ resource จากของเก่าเลยแม้แต่น้อย ยกเว้น Special Infected บางตัวที่นำ Model เก่ามาดัดแปลงเฉยๆ ใน Left 4 Dead 2 นั้นยังได้มีการเพิ่มอาวุธใหม่ๆขึ้นมาเช่นปืนใหม่ๆที่เอาเข้าจริงๆแล้วไม่ได้ต่างจากปืนเก่าๆซักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่มากขึ้นสำหรับคนที่ชอบปืน(เช่น AK47) แต่จุดที่เด็ดที่สุดคืออาวุธพิเศษอย่าง Melee Weapon ที่ overpowered มากๆ ส่วนตัว balance ในส่วนนี้ยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่ความสนุกที่ได้รับจากการใช้ Melee weapon คงทำให้ลืมเรื่องความ Balance ไปเลย อาวุธใหม่ๆแปลกๆอย่าง Boomer\'s Bile ที่ทำหน้าที่คล้ายๆกับ pipebomb เพียงแต่เป้าหมายที่เปื้อนอ้วกนั้นสามารถเป็น Tank หรือ Witch ก็ได้ แล้วเหล่าฝูงซอมบี้:-)ก็จะไปรุมกระทืบเป้าหมายที่ถูกอ้วก น่าเสียดายที่คุณไม่สามารถเขวี้ยงใส่เพื่อนๆได้เหมือนกับ Molotov
อีกส่วนคือในส่วนของ Level Design ที่ทำได้ดีมากๆ จนมีความรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ Valve นั้นควรจะเอาใจใส่มาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว การออกแบบฉากที่ดูหลากหลายไม่ซ้ำซากและดูสมจริงยิ่งขึ้น ฉากในตอนกลางวัน ฉากพื้นที่เปิดกว้างที่มีรายละเอียดที่ดีเช่นเศษขยะ ซากศพ เต๊นต์ผู้ป่วย และอื่นๆ นอกจากความสวยงามแล้วยังมีลูกเล่นเล็กๆน้อยๆที่มีความคิดสร้างสรรค์อย่างฉาก Finale ของ Dead Center ที่ต้องค้นหาเชื้อเพลิงในฉากมาเติมให้รถ เพิ่มระดับความท้าทายและต้องการการเล่นที่เป็นทีมมากกว่าเก่า ทำให้เกมสนุกขึ้นมาก หรือฉากพายุกระหน่ำใน Hard Rain ที่มองอะไรแทบไม่เห็นและยากที่จะได้ยินเสียงเพื่อนร่วมทีมแม้กระทั่งพูดผ่าน Microphone แล้วเป็นอะไรที่สนุกสนานและท้าทายมากๆ โดยเฉพาะในส่วนของโหมด Realism ที่ตัวเกมจะทำให้ Zombie มีความทนทานมากขึ้น และไม่สามารถมองเห็น aura รอบตัวผู้เล่นได้อีกต่อไปโหมด Realism นี้เป็นสิ่งที่ทำให้คุณได้มีช่วงเวลาดีๆกับเพื่อนๆของคุณในวันหยุดสุดสัปดาห์หลังจากทำงานเหน็ดเหนื่อยหรือเที่ยวจนเมาก็ตาม เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากเมื่อเห็น Jockey เย่อหัวสหายรักของคุณหายเข้าไปในพายุฝน
แต่จุดที่แย่ที่สุดในประสบการณ์การเล่น Left 4 Dead 2 นั้นคือ AI ที่โง่กว่าภาคแรกมาก AI ภาคนี้จะทำทุกอย่างเพื่อถ่วงคุณ และนำพาคุณสู่ความตาย ที่น่าปวดใจมากที่สุดคือการถูก AI ยืนมองคุณตายอย่างช้าๆโดยที่ไม่ช่วยอะไรเลย ยังดีที่เพลงตอนตายภาคนี้ยังพอที่จะทำให้คุณขำหึๆได้บ้างเพื่อให้อารมณ์ของคุณเย็นลงหลังจากถูก AI หักหลังอย่างเลือดเย็น
ในเรื่องของเสียงภาคนี้ ส่วนตัวไม่ได้ลองแบบละเอียดแต่ Left 4 Dead 2 รองรับระบบเสียง 7.1 น่าเสียดายที่ไม่มีอุปกรณ์มาให้ทดสอบ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ประสบการณ์สังหารหมู่ซอมบี้ด้อยลงไปเมื่อเสียงประกอบและดนตรีต่างๆในเกมนี้เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ตั้งแต่เพลงเปิดฉาก The Parish ที่เป็น Blue จนไปถึงเพลงผ่านฉากที่สไตล์ Rock N\' Roll! เสียงของเหล่า Infected ต่างๆยังคงใช้ resource จากภาคเก่าอยู่บ้าง แต่ก็มีการเพิ่มเสียงใหม่ๆขึ้นมาและเพลงประกอบของแต่ละสถานะการณ์ที่หลากหลาย(ตาม event และตามฉาก)
p2- Chompski is not amused.
Multi-Prayers
Left 4 Dead 2 ยังคงไว้ซึ่งโหมด Versus แบบ Classic และโหมดใหม่คือ Scavenger ที่นำ concept ของ Finale ฉาก Crash Course มาดัดแปลงนั่นคือเปลี่ยนจากจิ้มปุ่มปั่นไฟมาเป็นการเดินหาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นโหมดที่สนุกๆมากถึงแม้บางครั้งจะรู้สึกเหมือนกับว่าฝ่าย Infected นั้นได้เปรียบกว่าเพราะช่วง Spawn ที่ค่อนข้างถี่และความโหดของ Special Infected ตัวใหม่ Charger, Spitter และ Jockey จอมเย่อ
ระบบการเชื่อมต่อผู้เล่นหลายคนใน Left 4 Dead 2 นี้ยังไม่มีอะไรต่างจากภาคแรกเท่าไหร่นอกจากเพิ่ม Server Browser ในตัวเกมที่ดีมากขึ้นที่อนุญาติให้คุณปรับแต่ง filter ต่างๆได้มากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ดีเท่ากับ server browser แบบ classic ที่คุณเรียกจาก console ด้วยคำสั่ง serverbrowser อยู่ดี นี่จึงทำให้เป็นข้อด้อยที่ Valve พลาดไปเล็กน้อย และบางครั้งยังพบปัญหา match making ที่แย่ทำให้เกิดอาการ lag อย่างมากในบางครั้ง
p2- Hard Rain used HARD. It\'s super effective.
FINALE
What\'s Good
แก้ไขข้อความเมื่อ
- มุขตลกประปรายที่ถูกใส่ไว้ในตัวเกม, Reference เจ๋งๆอย่างหนัง Duke of Hazard หรือมุข Youtube, บทพูดน่าสนใจ โดยเฉพาะของ Coach
- Minigame ในฉาก Dark Carnival
- Characater ของฝั่ง survivor แต่ละคนทำออกมาได้ดี ยกเว้น Rochelle ที่ยังจืดๆไปบ้าง
- level design ที่เจ๋งและสร้างสรรค์ โดยเฉพาะช่วง Crescendo และ Finale ของแต่ละฉากทำออกมาได้ดีมากๆ
- อาวุธ Melee ที่ใช้งานได้สนุกมาก ถึงแม้จะ overpowered ไปบ้างก็ตามที
- เพลงประกอบที่เจ๋ง โดยเฉพาะ track จาก Midnight Riders และ Jonathan Coulton
- Jockey จอมเย่อ
- Gnome Chompski!
- ตัวตลกซอมบี้ ตัวตลกแห่งปี 2009
- แทบไม่มี Glitches เพี้ยนๆแบบที่ภาคแรกมีเลย
Teh Suck
- AI ไร้ประโยชน์ เป็นอะไรไม่ได้มากไปกว่าตัวถ่วงและฆาตกรเลือดเย็น
- Random Crash ที่เกิดบน OS บางระบบอย่าง Windows Vista และ 7
- ตัวเกมยังคงคลุมเครือในส่วนของเนื้อเรื่อง หวังว่า Left 4 Dead 3 เราจะได้รู้อะไรๆมากกว่านี้
- หลายสิ่งหลายอย่างควรจะมีตั้งแต่ภาคแรกแล้ว บางคนอาจจะรู้สึกไม่คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปซักเท่าไหร่เทียบกับประสบการณ์ที่ เพิ่มจากภาคแรกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
Duh
Left 4 Dead 2 เป็นเกมที่ดี แต่เชื้อว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตามมันก็ยังพอคุ้มค่าเงินบ้าง โดยเฉพาะเมื่อเล่นกับเพื่อนๆ หากคุณมีสหายครบขาก็แนะนำให้ซื้อเป็นเซ็ททันทีเลย
*- บางคนอาจจะไม่ทราบ แต่ Left 4 Dead เป็นหนึ่งในเกมที่มีผู้เล่นผู้หญิงเล่นเยอะมาก หากคุณมีแฟนและอยากให้เธอสนใจในงานอดิเรกอย่างการเล่นเกมของคุณ นี่คือโอกาส
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ