SP (Sundar Pichai) : สวัสดีครับทุกๆ ท่านยินดีต้อนรับเข้าสู่แถลงการเปิดตัวของ Chrome OS และผมหวังว่าคงไม่มีใครที่มาผิดงาน, งานเปิดตัวในวันนี้ไม่ใช่การพูดถึงเวอร์ชั่นเบต้าทดลองใช้แต่อย่างใด้ มันเป็นการเปิดตัวที่บ่งบอกว่า Chrome OS ใกล้ที่จะเสร็จสมบูรณ์แล้วและพวกเรื่อตื่นเต้นกับมันมากและมากพอที่จะจัดการแถลงข่าวให้กับมัน
Google Chrome คือพื้นฐานของทุกสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้ และผมมีความยินดีที่จะประกาศว่าแม้ว่าเราจะเพิ่งประกาศยอดผู้ใช้ของ Google Chrome ว่ามีจำนวนมากกว่า 30 ล้านรายไปหยกๆ แต่ทว่าเมื่อมาถึงวินาทีที่ผ่านมานี้ยอดผู้ใช้ Google Chrome นั้นทะลุเป้าไปกว่า 40 ล้านรายแล้ว สิ่งที่พวกเราเน้นในการพัฒนา Google Chrome ก็คือความเร็ว ความเรียบง่ายและความปลอดภัย, Google Chrome มีประสิทธิภาพความเร็วสูงกว่า IE8 ถึงกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ “อันหนึ่งช้า อันหนึ่งเร็ว” ทำให้ตัวเลือกของผู้ใช้นั้นไม่ต้องการการตัดสินใจที่ยากลำบากมากนัก (โคตรโม้เลย ( - -” ) - ผู้แปล) และเมื่อปีที่ผ่านมาพวกเราได้อัพเกรด Google Chrome ไปว่า 40 ครั้งซึ่งผู้ใช้มักจะไม่รู้ตัว โดยการอัพเกรดทั้งหมดนั้นจะเน้นไปที่เทคโนโลยี HTML 5 เกือบทั้งหมดเนื่องจากเราอยากเห็นการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมของเทคโนโลยีเว็บไซต์
และภายในปีหน้า Google Chrome จะมีสิ่งใหม่ๆ ที่สำคัญได้แก่
1. Google Chrome สำหรับเครื่อง Mac ที่จะเปิดตัวก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งก็ใกล้มากแล้ว 2. Google Chrome สำหรับ Linux ที่กลำงอยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย และเป็นที่มาของ Chrome OS ที่เรากำลังจะพูดถึงกันอยู่นี้ 3. Chrome Extension ที่กำลังจะเริ่มเปิดให้ใช้งาน และมีระบบอัพเดตอัตโนมัติ ซึ่งรายละเอียดจะติดตามมาในเร็วๆ นี้
และสิ่งที่พวกเราในกูเกิ้ลกำลังพยายามผลักดันอยู่นั้นคือเทคโนโลยี HTML5 พวกเราต้องการที่จะให้เทคโนโลยี Web Apps (โปรแกรมการทำงานที่อ้างอิงกับข้อมูลและการประมวลผลด้วยการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เช่นโปรแกรมต่างๆ บนสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone - ผู้แปล) มีการก้าวกระโดดและใช้งานได้จริงในการเข้าถึงทรัพยากรของระบบ ยกตัวอย่างเช่นกราฟฟิก เราต้องการที่จะให้ Web Apps นั้นสามารถเข้าถึงการทำงานของ GPU ได้โดยตรงหรือสามารถเข้าถึงไฟล์มัลติมีเดียอื่นๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบและสามารถทำงานแบบ Off line ได้ แน่นอนเรากำลังเก็บเกี่ยวพันธมิตรในการก้าวกระโดดของโทคโนโลยีในครั้งนี้
การเติบโตของคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กหรือ Net Book นั้นก็เป็นสิ่งที่น่าจับตาเช่นเดียวกัน แนวคิดการการทำคอมพิวเตอร์พกพาแบบเล็กสุด หรือบางสุดนั้นเป็นแนวคิดที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก มันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าการทำงานของ Web Apps นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในอนาคตนี้ แทนที่ของเดิมอย่าง Desktop Apps (โปรแกรมที่ใช้งานแบบเก่า – ผู้แปล) เนื่องจากว่าผู้ใช้ส่วนหใญ่ต่างพากันอพยพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงไปยังคอมพิวเตอร์จิ๋วที่พกพาและใช้งานได้ง่าย หรือแม้กระทั่งอพยพไปยังคอมพิวเตอร์พกพาขนาดจิ๋วอย่าง Tabket หรือเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟนผอมบางที่เชื่อมต่อทุกวินาทีกับเครือข่ายต่างๆ
พวกเราต้องการให้ Chrome OS. มีประสิทธิภาพและความเร็วในการทำงานแบบสุดโต่ง, มีการ Stand by อยุ่ตลอดเวลา และเมื่อพ่วงไปกับ Chrome (browser) แล้ว Chrome OS จะทำงานได้รวดเร็วไร้ที่ติเลยทีเดียว
ทุกๆ Application ที่รันบน Chrome OS นั้นจะเป็น Web Application ทั้งหมดโดยไร้ซึ่งเงาของ Native Applications แบบเดิมอยู่เลยแม้แต่โปรแกรมเดียว ดังนั้นมันจึงเหมือนกับโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ที่มีการปรับแต่งนิดๆ หน่อย และข้อมูลทั้งหมดที่อยู่บน Chrome OS จะถูกเก็บไว้บน Cloud Server ( Server เก็บข้อมูลเสมือนจริงที่ต้องการๆ เชื่อมต่ออินเตอร์เนตในการเข้าถึงข้อมูล – ผู้แปล) และนั่นคือตัวแปลที่สำคัญที่สุด พวกเราต้องการที่จะให้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในอนาคตมีแนวทางการทำงานในลักษณะที่ว่า ถ้าหากคุณเกิดทำเครื่องของคุณหาย คุณเพียงแค่ซื้อใหม่เท่าานั้น และมันก็ยังทำงานได้เหมือนเดิมอย่างไม่เปลี่ยนแปลงด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีของตัวผู้ใช้เองรและเมื่อทุกอย่างเป็น Web Apps เราก็จะสามารถทำสิ่งที่แตกต่างออกไปได้หลากหลาย ไม่มีระบบไหนๆ ที่มีการป้องกันข้อมูลอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ด้วย Chrome OS ผู้ใช้ไม่จำเป็นที่จะต้องยุ่งเกี่ยวกับทรัพยากรใดๆ ในระบบ (Sundar ใช้คำว่า no user install binaries ครับ ซึ่งแปลแบบลูกทุ่งๆ หน่อยก็คือเราจะไม่ต้องงลงโปรแกรมห่าเหวอะไรให้ไปทำร้ายหรือข้องเกี่ยวกับระบบเลย – ผู้แปล) และพวกเราจะสามารถเห็นสิ้งที่ผิดปกติได้รวดเร็วยิ่งกว่าที่เคยมีมา (อย่างเช่น ไวรัส มัลแวร์ หรือการผิดปกติทางระบบต่างๆ – ผู้แปล) โดยการทำงานบนระบบรักษาความปลอดถัยของโปรแกรมเว็บบราวเซอร์เพียงอย่างเดียว
แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือคุณไม่สามารถดาวน์โหลด Chrome OS มาเพื่อติดตั้งกับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ทุกเครื่อง คุณจำเป็นที่จะต้องซื้อใหม่เพื่อใช้งาน Chrome OS โดยเฉพาะซึ่งจะเริ่มจำหน่ายประมาณปลายปีหน้าก่อนช่วงหยุดยาว (ของฝรั่ง – ผู้แปล) และในขณะที่คอมพิวเตอร์พกพาอย่าง Net Book กำลังเป็นที่นิยมแต่พวกเราพบว่าบางเครื่องนั้นไม่สามารถใช้งานได้จริง ดังนั้นพวกเราจึงอยากที่จะทำ Netbook ขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาสักนิดที่พร้อมรองรับคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐาน (Full Size) และ Trackpads ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอีกหน่อย
อย่างไรก็ตาม Chrome OS นั้นก็คือ OS แบบ Open Source และระบบปฎิบัติการที่มีส่วนประกอบหลักของระบบปฏิบัติการ (Kernal) แบบ Linux เช่น Ubantu หรือ Moblin นั้นสามารถเข้าถึงChrome OS ได้ทันทีและถ้าหากคุณเป็นนักพัฒนาที่มี Netbook และไขขวงที่ถูกรุ่นคุณสามารถรัน Chrome OS ให้ทำงานได้ทันทีในวันนี้เลย และสารภาพตามตรงว่าผมอดทนรอไม่ไหวและอยากจะเห็นว่าเหล่านักพัฒนากำลังทำอะไรกับโค้ดของพวกเราในตอนนี้ (จบเล้วครับ หากการแปลครั้งนี้ไม่ถูกใจหรือผิดตกบกพร่องขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ)
เจาะลึก Chrome OS ผ่าน Chrome OS Event
2. Google Chrome สำหรับ Linux ที่กลำงอยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย และเป็นที่มาของ Chrome OS ที่เรากำลังจะพูดถึงกันอยู่นี้
3. Chrome Extension ที่กำลังจะเริ่มเปิดให้ใช้งาน และมีระบบอัพเดตอัตโนมัติ ซึ่งรายละเอียดจะติดตามมาในเร็วๆ นี้
และสิ่งที่พวกเราในกูเกิ้ลกำลังพยายามผลักดันอยู่นั้นคือเทคโนโลยี HTML5 พวกเราต้องการที่จะให้เทคโนโลยี Web Apps (โปรแกรมการทำงานที่อ้างอิงกับข้อมูลและการประมวลผลด้วยการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เช่นโปรแกรมต่างๆ บนสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone - ผู้แปล) มีการก้าวกระโดดและใช้งานได้จริงในการเข้าถึงทรัพยากรของระบบ ยกตัวอย่างเช่นกราฟฟิก เราต้องการที่จะให้ Web Apps นั้นสามารถเข้าถึงการทำงานของ GPU ได้โดยตรงหรือสามารถเข้าถึงไฟล์มัลติมีเดียอื่นๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบและสามารถทำงานแบบ Off line ได้ แน่นอนเรากำลังเก็บเกี่ยวพันธมิตรในการก้าวกระโดดของโทคโนโลยีในครั้งนี้
การเติบโตของคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กหรือ Net Book นั้นก็เป็นสิ่งที่น่าจับตาเช่นเดียวกัน แนวคิดการการทำคอมพิวเตอร์พกพาแบบเล็กสุด หรือบางสุดนั้นเป็นแนวคิดที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก มันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าการทำงานของ Web Apps นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในอนาคตนี้ แทนที่ของเดิมอย่าง Desktop Apps (โปรแกรมที่ใช้งานแบบเก่า – ผู้แปล) เนื่องจากว่าผู้ใช้ส่วนหใญ่ต่างพากันอพยพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงไปยังคอมพิวเตอร์จิ๋วที่พกพาและใช้งานได้ง่าย หรือแม้กระทั่งอพยพไปยังคอมพิวเตอร์พกพาขนาดจิ๋วอย่าง Tabket หรือเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟนผอมบางที่เชื่อมต่อทุกวินาทีกับเครือข่ายต่างๆ
และนั่นก็คือโมเดลการใช้งานแบบใหม่ของผู้ใช้ในวันนี้และเป็นที่มาของ Chrome OS.
ในการพัฒนา Chrome OS. พวกเรามุ่งเน้นไปที่สามสิ่ง ได้แก่ ความเร็ว ความเรียบง่าย และ ความปลอดภัย
พวกเราต้องการให้ Chrome OS. มีประสิทธิภาพและความเร็วในการทำงานแบบสุดโต่ง, มีการ Stand by อยุ่ตลอดเวลา และเมื่อพ่วงไปกับ Chrome (browser) แล้ว Chrome OS จะทำงานได้รวดเร็วไร้ที่ติเลยทีเดียว
( และต่อจากนั้นคือการเปิดวีดีโอเดโมที่สามารถชมได้ข้างล่างครับ )
มันดูเหมือนกับ Chrome (browser)ที่ใช้แต่ละ Tab แยกตามแต่ละ Application และเพิ่มเติมเมนู Apps Menu ขึ้นมา แต่อย่างที่ผมบอกไปแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของ UI แต่เราก็ยังจะคงแนวคิดในลักษณะเดิมไว้ด้วยการคงที่เมนูต่างๆ ให้คล้ายกับของเดิมและออกแบบให้มีการใช้ทรัพยาการของระบบให้น้อยที่สุด
ในเดโมจะมีการเล่นเกมหมารุกให้คุณได้ชม (อย่าลืมกดดูวีดีโอข้างล่างนะครับ – ผู้แปล) แม้ว่าเกมนั้นจะดูเหมือนเล่นบนโปรแกรมบราวเซอร์แต่ถ้าหากคุณกดขยายหน้าจอแบบ Full Screen แล้วล่ะก็คุณอาจจะลืมไปเลยว่าคุณอยู่บนการทำงานของบราวเซอร์ที่ว่า
และพวกเราต้องการที่จะให้คุณได้อ่านหนังสือได้ใน Chrome OS (ดูรูป) และการดูวีดีโอ Youtube นั้นทำได้ดีมากบน Chrome OS แม้ว่าคุณจะสลับ Tabs ไปทางไหนวีดีโอที่คุณกำลังชมอยู่นั้นก็ไม่ได้หยุดที่จะส่ข้อมูลเหมือนกับบราวเซอร์อื่นๆ และเมื่อคุณต่อกล้องถ่ายรูปเข้าไป Chrome OS ก็จะทำการเปิดไฟล์จากกล้องนั้นขึ้นมาด้วยหน้าต่างใหม่และคุณสามารถลากวางข้อมูล
ผ่านหน้าต่างที่ว่านั้นได้เลย แต่สำหรับไฟล์จากไมโครซอฟท์ที่พวกเขากำลังทำโปรแกรม Web Apps ใหม่ๆ ที่พร้อมรอฆ่า Chrome OS อยู่ (หัวเราะ) เช่นไฟล์ตาราง Excel มันจะเปิดและเสดงผลบน Office online แทน แต่สำหรับไฟล์อื่นๆ อย่างเช่น PDF นั้นจะสามารถเสดงได้ทันทีบน Chrome OS ( ตรงนี้ผมคิดว่า Sudar อาจต้องการจะพูดอ้อมๆ ให้ผู้ใช้หันมาใช้ Open Office กันแทน – ผู้แปล)
หลังจากนั้นไมค์ก็เปลี่ยนไปอยู่ที่ Mr. Matthew Papakipos Director of the HTML 5 Open Web Platform efforts xประจำโปรเจค Chrome (ทั้ง OS และ Browsers)
MP (Matthew Papakipos) : หากคุณตื่นเต้นกับเทคโนโลยีในวันนี้ของเราละก็ พวกเราเปิดให้ดู Code เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (Chrome OS เป็นฟรีแวร์ครับ – ผู้แปล) แนวทางการทำงานของพวกเรานั้นมีความต้องการที่จะให้ผู้ใช้มีความรู้สึกในการใช้งานคอมพิวเตอร์รื่นเริงเหมือนกับการนั่งดูโทรทัศน์ดังนั้น อุปกรณ์ที่ใช้ Chrome OS ทุกเครื่องจำเป็นที่จะต้องใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD เท่านั้น (Solid-state storage หรือ SSD ฮาร์ดดิสก์แบบใหม่ที่มีความเร็วและราคาสูง – ผู้แปล)
ระบบปฎิบัติการที่มีการใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันนั้นมีขอบเขตการจัดการเฉกเช่นเดียวกับผู้ใช้ พวกมันอ้าโอกาศให้แก้ไขไฟล์ เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าหรืออื่นๆ แน่นอนหนทางเหล่านั้นเป็นสิ่งที่โปรแกรมเถี่อน (ไวรัส มัลแวร์) กระทำกับระบบของผู้ใช้อยู่บ่อยๆ แต่กับ Chrome OS ทุกๆ โปรแกรม (Apps) นั้นจะเป็น web app ที่ทำงานด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่แตกต่าง ทุกๆ โปรแกรมที่ส่ออาการไม่สู้ดีจะถูกตัดทิ้งจากระบบในทันทีถ้าหากมันทำการรุกรานนอกขอบเขตที่ตั้งค่าเอาไว้ เช่นการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าของไฟล์หรืออื่นๆ ที่ดูแล้วเป็นอันตราย และในการทำการแต่ละ Tabs ของ Chrome OS นั้นจะมีการรักษาความปลอดภัยที่แยกย่อยกันไปในแต่ละ Tabs
SP : ต่อไปนี้คือการเปิดทางเลือกให้กับผู้ใช้ ในตอนนี้พวกเรายังไม่ก้าวเข้าสู่การพัฒนาส่วนแบ่งตลาดมากนัก เนื่องจาก “ของ” ของเรายังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี แต่อย่างไรก็ตามเราก็ได้ก้าวเข้าสู่ขั้นตอนธุรกิจนิดหน่อยอย่างที่เห็นก็คือ Chrome OS จะสนับสนุนเพียงแค่ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD และ WiFi cards ที่เฉพาะเจาะจงบางชิ้นเท่านั้น
แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือคุณไม่สามารถดาวน์โหลด Chrome OS มาเพื่อติดตั้งกับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ทุกเครื่อง คุณจำเป็นที่จะต้องซื้อใหม่เพื่อใช้งาน Chrome OS โดยเฉพาะซึ่งจะเริ่มจำหน่ายประมาณปลายปีหน้าก่อนช่วงหยุดยาว (ของฝรั่ง – ผู้แปล) และในขณะที่คอมพิวเตอร์พกพาอย่าง Net Book กำลังเป็นที่นิยมแต่พวกเราพบว่าบางเครื่องนั้นไม่สามารถใช้งานได้จริง ดังนั้นพวกเราจึงอยากที่จะทำ Netbook ขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาสักนิดที่พร้อมรองรับคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐาน (Full Size) และ Trackpads ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอีกหน่อย
อย่างไรก็ตาม Chrome OS นั้นก็คือ OS แบบ Open Source และระบบปฎิบัติการที่มีส่วนประกอบหลักของระบบปฏิบัติการ (Kernal) แบบ Linux เช่น Ubantu หรือ Moblin นั้นสามารถเข้าถึงChrome OS ได้ทันทีและถ้าหากคุณเป็นนักพัฒนาที่มี Netbook และไขขวงที่ถูกรุ่นคุณสามารถรัน Chrome OS ให้ทำงานได้ทันทีในวันนี้เลย และสารภาพตามตรงว่าผมอดทนรอไม่ไหวและอยากจะเห็นว่าเหล่านักพัฒนากำลังทำอะไรกับโค้ดของพวกเราในตอนนี้ (จบเล้วครับ หากการแปลครั้งนี้ไม่ถูกใจหรือผิดตกบกพร่องขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ)
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ