ส่วนที่ได้รับการแก้ไขอีกอย่างในฤดูกาลนี้ก็คือในส่วนของผู้รักษาประตูครับ ในฤดูกาลนี้ผู้รักษาประตูสามารถออกมาตัดบอลนอกเขตโทษได้แล้ว (ตัว 3D Match แบบ Official ในฤดูกาลก่อนทำไม่ได้นะเออ ต้องนั่ง Fix เอาเอง) บ่อยครั้งที่เราจะได้มีโอกาสเห็นการออกมาตัดบอลด้วยลูกโหม่งหรือสาดยาวออกไปให้พ้นๆโดยผู้รักษาประตูเมื่อบอลหลุดผ่านแนวหลังเข้ามา มันเป็นอะไรที่เยี่ยมมากมายเลยทีเดียว
สำหรับผู้รักษาประตูในฤดูกาลนี้จัดได้ว่าไว้ใจได้มาก ไม่มีอีกแล้วกับลูกหลุดมือลอดขารอดแขน (ยกเว้นจะโดนอัดหนักๆด้วยนักเตะประเภทขาโหด) อย่างไรก็ตาม มีเรื่องควรระวังอยู่อย่างหนึ่งครับ สิ่งนั้นก็คือ...
ผู้รักษาประตูสามารถโดนใบเหลืองแดงได้แล้ว!!
ในบางจังหวะครับที่แนวรุกลากบอลบุกตะลุยผ่านเข้ามาดวลเดี่ยวหรือจังหวะที่พยายามวิ่งไปรับบอลจ่ายทะลุช่อง ก็เช่นตามหลักความจริงครับ ผู้รักษาประตูจำเป็นต้องพุ่งออกมาตัดบอล ถ้าเป็นในฤดูกาลก่อน จังหวะ 50/50 นั้นมักจะเสร็จผู้รักษาประตูแน่ๆแบบ 100% แต่ในฤดูกาลนี้ไม่ใช่อีกแล้วครับ ผู้เล่นตัวรุกชั้นอ๋องบางคนสามารถที่จะกระชากบอลหลบผู้รักษาประตูหรือจิ้มบอลไปให้เพื่อนที่วิ่งตามเข้ามาได้ด้วยในจังหวะ 50/50 แบบนี้ หรือถ้าจะให้สรุปก็คือ ค่า One on One ในฤดูกาลนี้มีผลเป็นรูปธรรมแล้ว และผู้รักษาประตูก็มีสิทธิที่จะโดนใบเหลืองหรือแดงได้ถ้าบังเอิญสิ่งที่พวกเขาคว้านั้นเป็นขาของอีกฝ่ายไม่ใช่บอล แต่อย่าเพิ่งตกใจไปครับ เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักหรอก เท่าที่สังเกตดู ผู้รักษาประตูมักจะคว้าบอลได้ก่อนเสมอล่ะ
มีอีกสิ่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาในฤดูกาลนี้ก็คือเอนจิ้นที่ใช้ครับ แม้จะไม่ได้งามหยดเหมือน FIFA บนคอนโซล แต่โดยรวมแล้วก็จัดได้ว่าเจ๋งมากมายเมื่อเทียบกับ 3D Match ของเกมประเภทเดียวกัน รายละเอียดของนักเตะถูกปั้นออกมาได้ละเอียดใช้ได้เลย แม้สภาพแวดล้อมอย่างพื้นสนามหรือผู้ชมจะยังคงไม่เข้าตากรรมการเท่าไหร่ แต่เมื่อมองภาพรวมแล้วก็ต้องยอมรับครับว่า “เยี่ยมยอด” อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของเอนจิ้นตัวนี้ก็คือ “กินสเปคสูงขึ้น” เพราะฉะนั้น ถ้าคุณต้องการเล่นเกมนี้ การ์ดจอของคุณก็ไม่ควรที่จะเห่ยไปกว่า 6600 128MB ครับ มิฉะนั้นคุณจะไม่อาจรัน 3D Match ได้
ภาพ : สาบาน ! นี่หรือคือเกมวางเเผน !!
มีอีกอย่างหนึ่งที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาในส่วนของ 3D Match ครับ สิ่งนั้นก็คือ Shouts นั่นเอง ซึ่งเจ้าสิ่งนี้ก็คือการตะโกนสั่งนักเตะจากข้างสนาม แม้คุณจะไม่สามารถควบคุมนักเตะได้แบบสมบูรณ์ แต่ทว่าคุณสามารถร้องบอกให้พวกเขาทำบางอย่างได้ด้วยการตะโกนสั่งครับ ยกตัวอย่างเช่น บอลเข้าจุดล่อแหลมแล้ว คุณสามารถสั่งให้ผู้เล่นของคุณลองเสี่ยงตัดบอลแบบ 50/50 ได้ หรือเมื่อผู้เล่นลากบอลเข้าจุดโฟกัสแล้ว คุณก็สามารถร้องสั่งให้เขาลองยิงดูได้เลยโดยไม่ต้องต่อบอลเข้าไปให้เสียเวลาตามแผนที่วางไว้อีกต่อไป แม้ในช่วงแรกๆ คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นระบบที่ไร้สาระ แต่เมื่อคุณใช้มันได้ชำนาญแล้วคุณจะพบว่านี่เป็นสุดยอดไม้ตายของผู้จัดการในเกมนี้เลยทีเดียว (อย่าใช้ถี่จนเกินไปล่ะ เพราะถ้าคุณจี้จุกจิกเกินไปจนผู้ตัดสินรำคาญ คุณอาจถูกใบแดงส่งขึ้นไปดูการแข่งบนอัฒจันทร์ได้)
หลังจากนำข้อดีข้อเสียมารวมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 3D Match ตัวนี้นั้นเกือบจะเรียกได้ว่า “ไร้ที่ติ” ครับ แต่ก็แค่เกือบจะนะ เพราะยังคงมีบัคเล็กๆน้อยให้เห็นบ้างประปราย แต่บัคก็คงจะได้รับการแก้ไขเรียบร้อยใน Patch ต่อๆไปครับ
เอาล่ะ หลังจากฟังข้อดีไปเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว มาดูข้อเสียกันบ้างดีกว่า แน่นอนว่าข้อเสียของเกมก็คือ ฐานข้อมูลที่ไม่อาจเปรียบได้เลยกับคู่แข่งซึ่งก็คือ FM สาเหตุหลักๆนั้นก็คงเป็นเพราะ FIFA Manager ต้องอิงฐานข้อมูลตามที่ FIFA มีอยู่ครับ ด้วยเหตุนี้ FIFA Manager จึงมีขนาดฐานข้อมูลจำกัด (แต่อย่างไรก็ตาม คุณสามารถปรับแต่งเองได้ด้วย Editor ที่เกมมีมาให้ครับ) แต่ในข้อเสียนี้ก็มีข้อดีอยู่ครับ ด้วยเหตุที่ว่าเกมนี้ได้ลิขสิทธิ์แบบ All Rights ฐานข้อมูลในเกมจึงมาพร้อมกับโลโก้และภาพนักเตะพร้อมสรรพครับ (แม้จะไม่ครบทุกทีมทุกผู้เล่นก็ตาม) สรุปก็มีทั้งดีและเสียล่ะนะ แต่อย่าเพิ่งกลัวว่าจะมีผู้เล่นให้คุณน้อยเกินไปครับ เพราะฐานข้อมูลที่มีมานั้นก็ไม่ใช่เล็กๆเหมือนกัน (ประมาณ Big ของ FM ได้ แต่ไม่ถึง Huge)
ข้อเสียอีกข้อก็คือ ระบบการจัดการมันช่างแฟนตาซีเสียเหลือเกิน ซึ่งถ้าคุณชอบอะไรที่สร้างสรรค์แบบนี้ก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณชอบความสมจริงแล้วล่ะก็ คุณก็ควรลืมๆเกมนี้ไปได้เลย เพราะมันไม่เหมาะกับคุณแน่ๆ (แต่นี่ก็เรียกได้ว่าเป็นข้อเสียได้ไม่เต็มปากอ่ะนะ เพราะหลายๆคนชอบเกมนี้ก็เพราะความแฟนตาซีของมันนี่แล)
และข้อเสียอย่างสุดท้ายก็คือระบบ Tactic ที่ทำได้ไม่ลึกสักเท่าไหร่ครับ คือเข้าใจง่ายน่ะไม่เถียงครับ แต่มันง่ายเกินไปจนทำให้รู้สึก Tactic ไม่ลึกเท่าที่ควรครับ
นี่ก็คือภาพรวมทั้งหมดของ FIFA Manager 10 ครับ สำหรับตัวผมเองแล้ว เกมๆนี้คงหนีไม่พ้น Game of The Year แหงๆ (อันที่จริงยังลังเลอยู่ว่าจะเป็น FM หรือเกมนี้) แต่พอเห็น 3D Match เข้าไปแล้วต้องยอมรับเลยว่า “เกมนี้คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับผม”
มีคำถามที่ผมได้ยินหรือได้อ่านบ่อยๆนะ ระหว่าง Football Manager กับ FIFA Manager เกมไหนกันแน่ที่เจ๋งกว่ากัน ผมก็ต้องขอสรุปไว้ตรงนี้เลยว่า...
ถ้าคุณชอบเกมที่มีความสมจริงและความลุ่มลึก ผมขอแนะนำ Football manager
แต่ถ้าคุณต้องการรับรู้ถึงความยอดเยี่ยมและเร้าใจของเกมลูกหนัง อย่างไรเสียผมขอแนะนำ FIFA Manager ครับ
ภาพ : ใบเเดงสำหรับเเฟนบอยไร้เหตุผล
FIFA Manager Review
ใช่แล้วครับ FIFA manager 10 ก็ยังคงมี DRM ติดมาเช่นฤดูกาลก่อนๆ และคงเป็นปัญหาไม่น้อยถ้าผู้เล่นใช้ Rounter ครับ ซึ่งถ้าคุณใช้ Rounter ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ผมแนะนำให้คุณ Forward port ก่อนเข้าเกม เพราะมิฉะนั้นจะไม่อาจ Connect ไปยัง Server เพื่อ Active เกมได้ โดย Port ที่ต้องใช้ก็ตามข้างล่างนี้เลยครับ
(แม้ว่าคุณจะเข้าเกมได้โดยไม่ต้อง Forward Port ก็ตาม แต่คุณก็ยังคงจำเป็นต้องพึ่ง Port เหล่านี้ในการ Auto Update และเล่น Online Match อยู่ดี เพราะฉะนั้น Forward Port เตรียมไว้เลยจะดีมากๆครับ ดีกว่าไปเจอปัญหาทีหลังอ่ะนะ)
ภาพ : DRM ไม่ตายง่ายๆ หรอกครับนาย...
คุณจะได้พบของเล่นใหม่ตั้งแต่เกมยังไม่เริ่มกันเลยทีเดียว ของเล่นใหม่ที่ว่าก็คือ Manager Create นั่นเองครับ ถ้าคุณเคยอ่าน Preview หรือข่าวเกี่ยวกับเกมๆนี้ คุณคงจะได้รู้เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ในฤดูกาลนี้จะมี Manager ตัวเป็นๆ (หรือซึ่งก็คือตัวคุณเอง) มายืนบ่นอยู่ริมสนามด้วย
ภาพ : จะให้หล่อขนาดไหน หรือหัวล้านแบบไหนเลือกได้ตามใจคุณ
FIFA Manager 10 มีการปรับปรุงในเรื่อง Interface ด้วย ซึ่งถ้าคุณมองแค่ผ่านๆคงไม่อาจสังเกตเห็นได้เลย เพราะสิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นไม่ใช่รูปร่างหน้าตาครับ แต่เป็นลูกเล่นเกี่ยวกับ Interface ต่างหาก (ซึ่งคุณจะได้พบกับลูกเล่นนี้ก็ต่อเมื่อปรับความละเอียดไปที่ 1280*1024 เท่านั้น) โดยคุณสามารถจัดเรียงกรอบข้อมูลที่มีอยู่ใหม่ได้ครับ ไม่ต้องการกรอบไหนก็แค่ปิดไป และต้องการกรอบอะไรก็คลิกขวาในพื้นที่ว่างแล้วเรียกขึ้นมาใหม่เท่านั้นเอง เป็นระบบที่ง่ายๆแต่สร้างสรรค์จริงๆ ซึ่งการปรับเปลี่ยน Interface นี้ช่วยแก้ปัญหาขัดใจที่เคยมีมาในฤดูกาลก่อนได้มากโขเลย เพราะฤดูกาลก่อนนั้น กรอบข้อมูลจะถูกเรียกออกมาแบบ Random ครับ แถมกำลังอ่านๆอยู่ก็ดันเปลี่ยนไปซะงั้นด้วยระบบอัตโนมัติ บอกตรงๆว่าเจ้าระบบ Interface ในฤดูกาลก่อนนั้นเป็นอะไรที่ขัดใจผมจริงๆ (ประโยชน์น้อยแถมพาเครียดอีกต่างหาก)
ระบบภายในเกมของฤดูกาลนี้ก็ยังคงเป็นเช่นฤดูกาลก่อนๆครับ ระบบการจัดการและบริหารยังคงไม่ได้มีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากมายนัก ระบบการจัดการในเกมก็ยังคงอิงแนวแฟนตาซีเช่นฤดูกาลที่ผ่านๆมาครับ ยกตัวอย่างเช่น การสร้างสิ่งก่อสร้างบางอย่างจะช่วยเพิ่มความสามารถบางอย่างให้แก่นักเตะ หรือระบบการพัฒนานักเตะที่มีการพัฒนาแบบ RPG (เก็บ EXP ไปเรื่อยๆจากการฝึก พอถึงระยะหนึ่งค่าความสามารถก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของตัวนักเตะเอง โดยความสามารถจะไม่ถูกจำกัดด้วยความสามารถแฝงแบบ FM คุณจึงสามารถปั้นดินให้เป็นดาวได้ นี่ก็คือจุดเด่นอีกจุดของ FIFA Manager) ซึ่งถ้าคุณชอบความสมจริงก็คงจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ทว่าถ้าคุณต้องการเล่นเอามันส์และไม่คำนึงถึงความสมจริงสักเท่าไหร่ คุณมาถูกที่แล้ว
เพราะฉะนั้น ผมขอข้ามไปสู่หัวข้อที่น่าสนใจที่สุดเลยละกัน แน่ล่ะคงเป็นอื่นไปไม่ได้เลยนอกจาก 3D Match นั่นเอง
สำหรับ 3D Match ในฤดูกาลนี้ คงไม่มีคำบรรยายไหนที่จะสามารถบ่งบอกความสุดยอดของ 3D Match ตัวนี้ได้มากไปกว่า “เมพขิงๆ”
แต่มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย ข้อเสียที่ว่าก็คือ ในบางจังหวะที่ควรจะยิงหรือจ่ายบอล ผู้เล่นกลับหยุดยืนไปดื้อๆหรือไม่ก็ชะลอความเร็วลง หรืออย่างร้ายที่สุดก็คือพาบอลวิ่งกลับหลังมาไกลกว่าค่อนสนามก่อนจ่ายบอลกลับไปหาผู้รักษาประตูทั้งๆที่อีกก้าวเดียวก็ถึงเส้นหลังแล้ว แต่ดีหน่อยตรงที่ว่าเราไม่ค่อยได้เห็นจังหวะแบบนี้บ่อยๆนัก (นานๆจะเจอที) ด้วยเหตุนี้ ข้อเสียนี้จึงไม่น่าจะเป็นปัญหาสักเท่าไหร่ครับ
ผู้รักษาประตูสามารถโดนใบเหลืองแดงได้แล้ว!!
ในบางจังหวะครับที่แนวรุกลากบอลบุกตะลุยผ่านเข้ามาดวลเดี่ยวหรือจังหวะที่พยายามวิ่งไปรับบอลจ่ายทะลุช่อง ก็เช่นตามหลักความจริงครับ ผู้รักษาประตูจำเป็นต้องพุ่งออกมาตัดบอล ถ้าเป็นในฤดูกาลก่อน จังหวะ 50/50 นั้นมักจะเสร็จผู้รักษาประตูแน่ๆแบบ 100% แต่ในฤดูกาลนี้ไม่ใช่อีกแล้วครับ ผู้เล่นตัวรุกชั้นอ๋องบางคนสามารถที่จะกระชากบอลหลบผู้รักษาประตูหรือจิ้มบอลไปให้เพื่อนที่วิ่งตามเข้ามาได้ด้วยในจังหวะ 50/50 แบบนี้ หรือถ้าจะให้สรุปก็คือ ค่า One on One ในฤดูกาลนี้มีผลเป็นรูปธรรมแล้ว และผู้รักษาประตูก็มีสิทธิที่จะโดนใบเหลืองหรือแดงได้ถ้าบังเอิญสิ่งที่พวกเขาคว้านั้นเป็นขาของอีกฝ่ายไม่ใช่บอล แต่อย่าเพิ่งตกใจไปครับ เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักหรอก เท่าที่สังเกตดู ผู้รักษาประตูมักจะคว้าบอลได้ก่อนเสมอล่ะ
มีอีกสิ่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาในฤดูกาลนี้ก็คือเอนจิ้นที่ใช้ครับ แม้จะไม่ได้งามหยดเหมือน FIFA บนคอนโซล แต่โดยรวมแล้วก็จัดได้ว่าเจ๋งมากมายเมื่อเทียบกับ 3D Match ของเกมประเภทเดียวกัน รายละเอียดของนักเตะถูกปั้นออกมาได้ละเอียดใช้ได้เลย แม้สภาพแวดล้อมอย่างพื้นสนามหรือผู้ชมจะยังคงไม่เข้าตากรรมการเท่าไหร่ แต่เมื่อมองภาพรวมแล้วก็ต้องยอมรับครับว่า “เยี่ยมยอด” อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของเอนจิ้นตัวนี้ก็คือ “กินสเปคสูงขึ้น” เพราะฉะนั้น ถ้าคุณต้องการเล่นเกมนี้ การ์ดจอของคุณก็ไม่ควรที่จะเห่ยไปกว่า 6600 128MB ครับ มิฉะนั้นคุณจะไม่อาจรัน 3D Match ได้
ภาพ : สาบาน ! นี่หรือคือเกมวางเเผน !!
หลังจากนำข้อดีข้อเสียมารวมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 3D Match ตัวนี้นั้นเกือบจะเรียกได้ว่า “ไร้ที่ติ” ครับ แต่ก็แค่เกือบจะนะ เพราะยังคงมีบัคเล็กๆน้อยให้เห็นบ้างประปราย แต่บัคก็คงจะได้รับการแก้ไขเรียบร้อยใน Patch ต่อๆไปครับ
ข้อเสียอีกข้อก็คือ ระบบการจัดการมันช่างแฟนตาซีเสียเหลือเกิน ซึ่งถ้าคุณชอบอะไรที่สร้างสรรค์แบบนี้ก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณชอบความสมจริงแล้วล่ะก็ คุณก็ควรลืมๆเกมนี้ไปได้เลย เพราะมันไม่เหมาะกับคุณแน่ๆ (แต่นี่ก็เรียกได้ว่าเป็นข้อเสียได้ไม่เต็มปากอ่ะนะ เพราะหลายๆคนชอบเกมนี้ก็เพราะความแฟนตาซีของมันนี่แล)
และข้อเสียอย่างสุดท้ายก็คือระบบ Tactic ที่ทำได้ไม่ลึกสักเท่าไหร่ครับ คือเข้าใจง่ายน่ะไม่เถียงครับ แต่มันง่ายเกินไปจนทำให้รู้สึก Tactic ไม่ลึกเท่าที่ควรครับ
มีคำถามที่ผมได้ยินหรือได้อ่านบ่อยๆนะ ระหว่าง Football Manager กับ FIFA Manager เกมไหนกันแน่ที่เจ๋งกว่ากัน ผมก็ต้องขอสรุปไว้ตรงนี้เลยว่า...
ถ้าคุณชอบเกมที่มีความสมจริงและความลุ่มลึก ผมขอแนะนำ Football manager
แต่ถ้าคุณต้องการรับรู้ถึงความยอดเยี่ยมและเร้าใจของเกมลูกหนัง อย่างไรเสียผมขอแนะนำ FIFA Manager ครับ
ภาพ : ใบเเดงสำหรับเเฟนบอยไร้เหตุผล
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ