Hands On : Dragon Age : Origin
ผมรู้หรอกน่า ว่าหลายๆ คนกำลังเผ้ารอคอยที่จะได้เล่นเกม RPG ว่าที่สุดยอด EPIC RPG เนื้อเรื่องเยี่ยมแห่งยุคที่ชื่อว่า Dragon Age : Origin ที่พร้อมออกวางจำหน่ายในทั่วโลกในวันที่ 3 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้แล้ว ผมเองเป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดียวกัน แค่ชื่อผู้พัฒนาอย่าง Bioware ก็เชื่อขนมกินได้แล้วว่าเกม RPG ที่หลุดออกมาจากค่ายนี้ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังนึกเสียตายตังแม้แต่สลึงค์เดียว (โดยเฉพาะอย่างยิ่งอะไรที่เป็น Starwars)
และด้วยความโชคดีของผมที่ได้ทิ้ง Contact ไว้ให้กับทีมงาน Saluzi ในการพรีวิวเกมครั้งที่แล้ว ทำให้ครั้งนี้ผมได้รับโอกาศครั้งใหญ่อีกครั้งที่จะไดรับเลือกให้เป็นตัวแทนจากเว็บไซต์ ppantip.com เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทดลองเล่นเกม Dragon Age : Origin เวอร์ชั่นเบต้าก่อนใคร (แลกกับการเขียนบทความ) ซึ่งในการเข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้ผมได้หนีบเอาเพื่อนสมาชิกในบอร์ดไปด้วย 2 ท่านด้วยกัน
เริ่มแรกกันที่สเปคเครื่องก่อนเลย แน่นอนที่ว่าเกมที่เป็นว่าที่สุดยอด RPG นั้นจะต้องมีกราฟฟิกที่สวยงามอย่างที่พวกเราเคยเห็นกันใน SS ของเว็บไซต์เกมทั้งหลายแหล่ เครื่องทดสอบที่พวกผมได้ทดลองเล่นนั้นมี Setting กราฟฟิกของเกมอยู่ในระดับสูงสุดที่ทุกๆ การตั้งค่าเกี่ยวกับการแสดงผลนั้นได้ปรับไปยังตัวเลือกสูงสุดที่มี (ไม่เว้นแม้แต่ Resolution หน้าจอ) ซึ่งต่อผ่าน LCD 26 นิ้ว แว่บเรกที่ผมเห็น Setting กราฟฟิกนั้นผมพาลคิดไปว่าเครื่องทดสอบนี้ใช้การ์ดจอ Hi End แบบ GTS 260 ขึ้นไปแหงๆ แต่เปล่าเลยครับเจ้าเครื่องที่ผมว่านั้นทาง Saluzi ใช้แค่การ์ดจอ 9600GT เท่านั้น ! ดังนั้นถ้าหากหลายๆ คนกังวลเรื่องเกมนี้จะกินสเปคนั้นลืมไปได้เลยครับ
ภาพ : 9600GT เท่านั้น !!
ฝอยมาซะนาน เข้าเรื่องกันดีกว่าครับ Dragon Age : Origin ในตอนแรกเริ่มนั้นก็เหมือนกับเกม RPG ฝั่งตะวันตกโดยทั่วไปที่เริ่มแรกนั้นเราจะต้องทำการ “สร้าง” ตัวละครที่เราจะให้เป็นตัวเองของการเล่นเสียก่อน ซึ่งฟีเจอร์ตัวเลือกของรายละเอียดเครื่องมือสร้างตัวละครที่อยู่ใน Dragon Age : Origin นั้นมีมากเหลือเกินมันสามรรถทำได้ตั้งแต่เมจสาวขาวเอลฟ์สุดโมเอะ ไปจนถึงดวาฟท์ชายหน้าตาสุดโฉด ตัวเลือกเผ่าใน Dragon Age : Origin มีแค่เพียง 3 เผ่าเท่านั้นครับ ได้แก่ มนุษย์ เอลฟ์ และคนแคระ ซึ่งแต่ละตัวละครหลังจากที่ได้เลือกเพศและเผ่าไปเล้วเราจะต้องมาเลือกปูมหลังของตัวละครนั้นๆ อีกที ซึ่งปูมหลังที่เราเลือกจะส่งผลต่อการดำเนินเนื้อเรื่อง Status ความถนัด และสิ่งต่างๆ ของตัวละครเราไปจนตลอดทั้งเกม
หลังจากการถกเถียงกันอยู่พักใหญ่ๆ ระหว่างผู้เข้าร่วมทดสอบเกมเนื่องจากภายในเวลา 2 ชั่วโมงอันจำกัดทำให้พวกเราจำเป็นต้องเลือกที่จะสร้างตัวเองเจ๋งๆ มาสักหนึ่งตัวเพื่อที่จะได้เข้าถึงอรรถรสเนื้อเรื่องของเกมว่าที่สุดยอด RPG ว่าจะเยี่ยมสมคำร่ำรือหรือเปล่า ในขั้นแรกนั้นพวกเราได้เลือกที่จะใช้ตัวเอกเป็นเอลฟ์สาวสุดโมเอะ แต่หนึ่งในทีมก็ได้ทักท้วงว่ามันเกร่อไปแล้ว ดังนั้นการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจึงมาตกอยู่ที่การเลือกตัวเองเป็นคนแคระ (Dwaf) ปูมหลังต่ำต้อยหน้าตาสุดโฉดที่พร้อมจะเลือกตัวเลือกที่เลวร้ายที่สุดทุกการกระทำในการเล่นครั้งนี้
ภาพ : แค่หนังหน้าก็โฉดเเล้ว
เหตุผลน่ะเหรอ? เนื่องจากพวกคนแคระในเกมทุกเกมที่ใช้ Setting แบบยุคแฟนตาซีนั้นมักจะได้รับบทบาทเป็นตัวประกอบ ตัวแถม ไม่ก็ตัวฮาไปซะเฉยๆ (แม้แต่ในมหากาพย์อย่าง LOTR ก็เถิด) แต่ทุกๆ เกมก็ไม่สามารถขาดเผ่าพันธ์นี้ได้เช่นเดียวกัน (มิฉะนั้นจะไม่ครบองค์ประกอบแฟนตาซีไปทันที) ดังนั้นพวกเราจึงอยากที่จะ “ลองของ” กับว่าที่เกม RPG แห่งยุคที่ชูเนื้อเรื่องเป็นจุดขายว่าจะเจ๋งจริงสมชื่อ่อ่ะป่าววว ด้วยการเลือกใช้ตัวเอกเป็นเผ่าคนแคระปูมหลังต้อยต่ำที่มีคอนเซปทำชั่วมั่วทุกอย่าง
ภาพ : การควบคุมลูกทีมแบบเป็นหมู่คณะจะใช้การเลือกแบบ Drag & Drop ครับ
เกมเปิดเริ่มที่การบรรยายปูมหลังอันคับแค้นของพวกคนแคระทั่วไป (อีกหนึ่งตัวเลือกที่เราไม่ได้เลือกก็คือคนแคระที่มีปูมหลังดีเริ่ด หรือคนแคระไฮโซ Dwaft Nobel ครับ) และหลังจากการตอบคำถามแนวกวน (TEEN) กับคนรอบข้างสักพัก พ่อคนแคระแบดบอยตัวเอกของเราก็จับพลัดจับพลูเข้าร่วมแก๊งมาเฟียแคระไปซะอย่างนั้น พร้อมๆ กับรับภารกิจแรกก็คือภารกิจติดตามทวงหนี้จจากลูกหนี้รายหนึ่งที่บาร์เหล้า (อินดี้มาก) จากแรกเริ่มเกมจนมาถึงตัวเลือกในการปฎิบัติภารกิจแรกนั้น ผมพบว่า Dragon Age : Origin มีการลำดับเนื้อเรื่องและแทรกมุกตลกปนเสียดสีได้เฮฮาสมกับที่นำมาเป็นจุดขายจริงๆ การเลือกเล่นเป็นเผ่า Dwaf นั้นสร้างความสนุกสนากับเนื้อเรื่องให้กับพวกผมไม่แพ้การดำเนินเรื่องของตัวเอกในเกมอื่นๆ เลย (แม้ว่ามันจะน้ำเน่าไปหน่อยไปบางทีก็ตาม)
ภาพ : จากภาพเราจะรู้ได้ทันทีว่า DA ไม่เหมาะกับเยาวชนอย่างแน่นอน
หลังจากที่พ่อคนแคระแบดบอยของพวกผมได้บั่นหัวลูกหนี้ออกจากที่ๆ มันเคยตั้งอยู่แล้ว เขาก็ได้รับภารกิจต่อไปภารกิจที่ว่านั้นไม่พ้นเรื่องสกปรกๆ อย่างวางยาคู่แข่งในการต่อสู้เพื่อคัดเลือกฮีโร่หน้าใหม่เข้าสู่กองกำลัง Grey Warden เพื่อทีบิ๊กบอสของพวกเราจะได้วางพนันได้กำไรเหนาะๆ จากการแข่งขันในครั้งนี้ เมื่อไปถึงสถานที่การแข่งขันฮีโร่แบดบอยของพวกเราก็ได้พบเจอกับ 1 ในผู้นำของกองกำลัง Grey Warden และได้สร้างความประดับใจให้กับเขาในการสนทนาครั้งแรก ต่อจากนั้นเมื่อเข้าไปถึงห้องของนักสู้ที่บิ๊กบอสได้พนันเข้าข้างไว้ ราก็ได้พบนักสู้คนนั้นเมาพับพร้อมกับทิ้งชุดเกราะโคตรโกงไว้ในหีบ และด้วยเหตุอันใดไม่ทราบฮีโร่ของเราก็เกิดจะอยากใส่ชุดนั้นเพื่ออกไปสู้แทนและแกล้งแพ้เพื่อที่หัวหน้าจะได้เงินจากการพนัน แต่ เฮ้ !! คนที่ชนะการแข่งขันจะได้รับคัดเลือกให้อยู่ในกองกำลัง Grey Warden เชียวนะ !! ระบบการต่อสู้ การได้รับไอเทม การใช้งานอินเตอร์เฟสต่างๆ ของ Dragon Age : Origin นั้นได้รับอิทธิพลมาเต็มๆ จากเกมรุ่นพี่อย่างซีรีย์ Never Winter Night และ KOTOR แต่การควบคุมตัวละครฉากต่อสู้นั้นจะได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้น พร้อมๆ กับการใช้การคำนวนแบบใหม่แทนที่การคำนวนลูกเต๋า AD&D ที่น่าปวดหัวและหันมาใช้สูตรการคำนวนแบบใหม่ของตัวเองแทน
ภาพ : Interface แบบเคยๆ
ภาพ : สร้างความประทับใจด้วยการเลือกบทพูดสุดกวนxีน
หลังจากที่ฮีโร่แคระแบดบอยของเราชนะรวด 3 ตาด้วยชุดเกราะโคตรโกง ความจริงก็จะถูกเปิดเผยจากเจ้าของชุดตัวจริง พร้อมๆ กับที่เราและคู่หูกลับกลายเป็นคนทรยศที่ทำให้บอสเราเสียเงินเป็นจำนวนมากและถูกจับเข้าซังเตใต้ดินที่ซุกอยู่ ณ ที่ตั้งแก๊งค์นั่นเอง และหลังจากที่เราได้ฝ่าด่าผู้คุมกรงออกมา (ด้วยตัวเลือกที่แสนประทับใจพวกผมอย่าง หลอกผู้คุมมาใกล้ๆ และจับหัวเขากระแทกเข้ากับลูกกรงจนตาย) เราก็จะได้เผชิญหน้ากับบิ๊กบอสเจ้านายเก่าอันแสนคุ้นเคยและจำเป็นที่จะต้องชนะตามบทบาท เพื่อเข้าสู่เส้นทางของการเป็นหนึ่งในฮีโร่ Grey Warden !!
ภาพ : เฮ้ย เอ็งน่ะมาใกล้ๆ หน่อย
ภาพ : เลือดสาดดด !!
หลังจากที่เนื้อเรื่องเริ่มเข้าสู่บทดราม่าสำคัญ เวลา 2 ชัวโมงสำหรับการทดสอบก็ได้หมดลงไปพอดี และแม้ว่าผมจะอดเสียดายนิดๆ ที่ไม่ได้ดูชะตากรรมที่เหลือของฮีโร่แบดบอยของเรา แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมดีใจอย่างยิ่งก็คือ Dragon Age : Origin เป็นเกมที่ผมพูดได้เต็มปากว่าคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ บทสนทนาทุกๆ บทถูกขัดเกลามาอย่างดี กราฟฟิกสวยงามไม่กินสเปค เนื้อเรื่องที่มีเนื้อหาลุ่มลึกราวกับนิยายมหากาพย์ชั้นอ๋อง (ที่ติดเน่านิดๆ ) ทำให้ Dragon Age : Origin เป็นเกมที่ผมสามารถยืนยันได้ว่า มันเป็นเกมที่เกมเมอร์คอ RPG ทั้งหลายไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ (แต่สำหรับคนที่คิดไม่เคยเล่นหรือคิดจะเริ่มเล่นเกม RPG , Dragon Age : Origin เป็นเกมที่ไม่เหมาะอย่างยิ่งครับ - -*)
ชมภาพต่อได้ที่ Gallery ครับ
Hands On : Dragon Age : Origin
ผมรู้หรอกน่า ว่าหลายๆ คนกำลังเผ้ารอคอยที่จะได้เล่นเกม RPG ว่าที่สุดยอด EPIC RPG เนื้อเรื่องเยี่ยมแห่งยุคที่ชื่อว่า Dragon Age : Origin ที่พร้อมออกวางจำหน่ายในทั่วโลกในวันที่ 3 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้แล้ว ผมเองเป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดียวกัน แค่ชื่อผู้พัฒนาอย่าง Bioware ก็เชื่อขนมกินได้แล้วว่าเกม RPG ที่หลุดออกมาจากค่ายนี้ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังนึกเสียตายตังแม้แต่สลึงค์เดียว (โดยเฉพาะอย่างยิ่งอะไรที่เป็น Starwars)
และด้วยความโชคดีของผมที่ได้ทิ้ง Contact ไว้ให้กับทีมงาน Saluzi ในการพรีวิวเกมครั้งที่แล้ว ทำให้ครั้งนี้ผมได้รับโอกาศครั้งใหญ่อีกครั้งที่จะไดรับเลือกให้เป็นตัวแทนจากเว็บไซต์ ppantip.com เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทดลองเล่นเกม Dragon Age : Origin เวอร์ชั่นเบต้าก่อนใคร (แลกกับการเขียนบทความ) ซึ่งในการเข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้ผมได้หนีบเอาเพื่อนสมาชิกในบอร์ดไปด้วย 2 ท่านด้วยกัน
เริ่มแรกกันที่สเปคเครื่องก่อนเลย แน่นอนที่ว่าเกมที่เป็นว่าที่สุดยอด RPG นั้นจะต้องมีกราฟฟิกที่สวยงามอย่างที่พวกเราเคยเห็นกันใน SS ของเว็บไซต์เกมทั้งหลายแหล่ เครื่องทดสอบที่พวกผมได้ทดลองเล่นนั้นมี Setting กราฟฟิกของเกมอยู่ในระดับสูงสุดที่ทุกๆ การตั้งค่าเกี่ยวกับการแสดงผลนั้นได้ปรับไปยังตัวเลือกสูงสุดที่มี (ไม่เว้นแม้แต่ Resolution หน้าจอ) ซึ่งต่อผ่าน LCD 26 นิ้ว แว่บเรกที่ผมเห็น Setting กราฟฟิกนั้นผมพาลคิดไปว่าเครื่องทดสอบนี้ใช้การ์ดจอ Hi End แบบ GTS 260 ขึ้นไปแหงๆ แต่เปล่าเลยครับเจ้าเครื่องที่ผมว่านั้นทาง Saluzi ใช้แค่การ์ดจอ 9600GT เท่านั้น ! ดังนั้นถ้าหากหลายๆ คนกังวลเรื่องเกมนี้จะกินสเปคนั้นลืมไปได้เลยครับ
ภาพ : 9600GT เท่านั้น !!
ฝอยมาซะนาน เข้าเรื่องกันดีกว่าครับ Dragon Age : Origin ในตอนแรกเริ่มนั้นก็เหมือนกับเกม RPG ฝั่งตะวันตกโดยทั่วไปที่เริ่มแรกนั้นเราจะต้องทำการ “สร้าง” ตัวละครที่เราจะให้เป็นตัวเองของการเล่นเสียก่อน ซึ่งฟีเจอร์ตัวเลือกของรายละเอียดเครื่องมือสร้างตัวละครที่อยู่ใน Dragon Age : Origin นั้นมีมากเหลือเกินมันสามรรถทำได้ตั้งแต่เมจสาวขาวเอลฟ์สุดโมเอะ ไปจนถึงดวาฟท์ชายหน้าตาสุดโฉด ตัวเลือกเผ่าใน Dragon Age : Origin มีแค่เพียง 3 เผ่าเท่านั้นครับ ได้แก่ มนุษย์ เอลฟ์ และคนแคระ ซึ่งแต่ละตัวละครหลังจากที่ได้เลือกเพศและเผ่าไปเล้วเราจะต้องมาเลือกปูมหลังของตัวละครนั้นๆ อีกที ซึ่งปูมหลังที่เราเลือกจะส่งผลต่อการดำเนินเนื้อเรื่อง Status ความถนัด และสิ่งต่างๆ ของตัวละครเราไปจนตลอดทั้งเกม
หลังจากการถกเถียงกันอยู่พักใหญ่ๆ ระหว่างผู้เข้าร่วมทดสอบเกมเนื่องจากภายในเวลา 2 ชั่วโมงอันจำกัดทำให้พวกเราจำเป็นต้องเลือกที่จะสร้างตัวเองเจ๋งๆ มาสักหนึ่งตัวเพื่อที่จะได้เข้าถึงอรรถรสเนื้อเรื่องของเกมว่าที่สุดยอด RPG ว่าจะเยี่ยมสมคำร่ำรือหรือเปล่า ในขั้นแรกนั้นพวกเราได้เลือกที่จะใช้ตัวเอกเป็นเอลฟ์สาวสุดโมเอะ แต่หนึ่งในทีมก็ได้ทักท้วงว่ามันเกร่อไปแล้ว ดังนั้นการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจึงมาตกอยู่ที่การเลือกตัวเองเป็นคนแคระ (Dwaf) ปูมหลังต่ำต้อยหน้าตาสุดโฉดที่พร้อมจะเลือกตัวเลือกที่เลวร้ายที่สุดทุกการกระทำในการเล่นครั้งนี้
ภาพ : แค่หนังหน้าก็โฉดเเล้ว
เหตุผลน่ะเหรอ? เนื่องจากพวกคนแคระในเกมทุกเกมที่ใช้ Setting แบบยุคแฟนตาซีนั้นมักจะได้รับบทบาทเป็นตัวประกอบ ตัวแถม ไม่ก็ตัวฮาไปซะเฉยๆ (แม้แต่ในมหากาพย์อย่าง LOTR ก็เถิด) แต่ทุกๆ เกมก็ไม่สามารถขาดเผ่าพันธ์นี้ได้เช่นเดียวกัน (มิฉะนั้นจะไม่ครบองค์ประกอบแฟนตาซีไปทันที) ดังนั้นพวกเราจึงอยากที่จะ “ลองของ” กับว่าที่เกม RPG แห่งยุคที่ชูเนื้อเรื่องเป็นจุดขายว่าจะเจ๋งจริงสมชื่อ่อ่ะป่าววว ด้วยการเลือกใช้ตัวเอกเป็นเผ่าคนแคระปูมหลังต้อยต่ำที่มีคอนเซปทำชั่วมั่วทุกอย่าง
ภาพ : การควบคุมลูกทีมแบบเป็นหมู่คณะจะใช้การเลือกแบบ Drag & Drop ครับ
เกมเปิดเริ่มที่การบรรยายปูมหลังอันคับแค้นของพวกคนแคระทั่วไป (อีกหนึ่งตัวเลือกที่เราไม่ได้เลือกก็คือคนแคระที่มีปูมหลังดีเริ่ด หรือคนแคระไฮโซ Dwaft Nobel ครับ) และหลังจากการตอบคำถามแนวกวน (TEEN) กับคนรอบข้างสักพัก พ่อคนแคระแบดบอยตัวเอกของเราก็จับพลัดจับพลูเข้าร่วมแก๊งมาเฟียแคระไปซะอย่างนั้น พร้อมๆ กับรับภารกิจแรกก็คือภารกิจติดตามทวงหนี้จจากลูกหนี้รายหนึ่งที่บาร์เหล้า (อินดี้มาก) จากแรกเริ่มเกมจนมาถึงตัวเลือกในการปฎิบัติภารกิจแรกนั้น ผมพบว่า Dragon Age : Origin มีการลำดับเนื้อเรื่องและแทรกมุกตลกปนเสียดสีได้เฮฮาสมกับที่นำมาเป็นจุดขายจริงๆ การเลือกเล่นเป็นเผ่า Dwaf นั้นสร้างความสนุกสนากับเนื้อเรื่องให้กับพวกผมไม่แพ้การดำเนินเรื่องของตัวเอกในเกมอื่นๆ เลย (แม้ว่ามันจะน้ำเน่าไปหน่อยไปบางทีก็ตาม)
ภาพ : จากภาพเราจะรู้ได้ทันทีว่า DA ไม่เหมาะกับเยาวชนอย่างแน่นอน
หลังจากที่พ่อคนแคระแบดบอยของพวกผมได้บั่นหัวลูกหนี้ออกจากที่ๆ มันเคยตั้งอยู่แล้ว เขาก็ได้รับภารกิจต่อไปภารกิจที่ว่านั้นไม่พ้นเรื่องสกปรกๆ อย่างวางยาคู่แข่งในการต่อสู้เพื่อคัดเลือกฮีโร่หน้าใหม่เข้าสู่กองกำลัง Grey Warden เพื่อทีบิ๊กบอสของพวกเราจะได้วางพนันได้กำไรเหนาะๆ จากการแข่งขันในครั้งนี้ เมื่อไปถึงสถานที่การแข่งขันฮีโร่แบดบอยของพวกเราก็ได้พบเจอกับ 1 ในผู้นำของกองกำลัง Grey Warden และได้สร้างความประดับใจให้กับเขาในการสนทนาครั้งแรก ต่อจากนั้นเมื่อเข้าไปถึงห้องของนักสู้ที่บิ๊กบอสได้พนันเข้าข้างไว้ ราก็ได้พบนักสู้คนนั้นเมาพับพร้อมกับทิ้งชุดเกราะโคตรโกงไว้ในหีบ และด้วยเหตุอันใดไม่ทราบฮีโร่ของเราก็เกิดจะอยากใส่ชุดนั้นเพื่ออกไปสู้แทนและแกล้งแพ้เพื่อที่หัวหน้าจะได้เงินจากการพนัน แต่ เฮ้ !! คนที่ชนะการแข่งขันจะได้รับคัดเลือกให้อยู่ในกองกำลัง Grey Warden เชียวนะ !! ระบบการต่อสู้ การได้รับไอเทม การใช้งานอินเตอร์เฟสต่างๆ ของ Dragon Age : Origin นั้นได้รับอิทธิพลมาเต็มๆ จากเกมรุ่นพี่อย่างซีรีย์ Never Winter Night และ KOTOR แต่การควบคุมตัวละครฉากต่อสู้นั้นจะได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้น พร้อมๆ กับการใช้การคำนวนแบบใหม่แทนที่การคำนวนลูกเต๋า AD&D ที่น่าปวดหัวและหันมาใช้สูตรการคำนวนแบบใหม่ของตัวเองแทน
ภาพ : Interface แบบเคยๆ
ภาพ : สร้างความประทับใจด้วยการเลือกบทพูดสุดกวนxีน
หลังจากที่ฮีโร่แคระแบดบอยของเราชนะรวด 3 ตาด้วยชุดเกราะโคตรโกง ความจริงก็จะถูกเปิดเผยจากเจ้าของชุดตัวจริง พร้อมๆ กับที่เราและคู่หูกลับกลายเป็นคนทรยศที่ทำให้บอสเราเสียเงินเป็นจำนวนมากและถูกจับเข้าซังเตใต้ดินที่ซุกอยู่ ณ ที่ตั้งแก๊งค์นั่นเอง และหลังจากที่เราได้ฝ่าด่าผู้คุมกรงออกมา (ด้วยตัวเลือกที่แสนประทับใจพวกผมอย่าง หลอกผู้คุมมาใกล้ๆ และจับหัวเขากระแทกเข้ากับลูกกรงจนตาย) เราก็จะได้เผชิญหน้ากับบิ๊กบอสเจ้านายเก่าอันแสนคุ้นเคยและจำเป็นที่จะต้องชนะตามบทบาท เพื่อเข้าสู่เส้นทางของการเป็นหนึ่งในฮีโร่ Grey Warden !!
ภาพ : เฮ้ย เอ็งน่ะมาใกล้ๆ หน่อย
ภาพ : เลือดสาดดด !!
หลังจากที่เนื้อเรื่องเริ่มเข้าสู่บทดราม่าสำคัญ เวลา 2 ชัวโมงสำหรับการทดสอบก็ได้หมดลงไปพอดี และแม้ว่าผมจะอดเสียดายนิดๆ ที่ไม่ได้ดูชะตากรรมที่เหลือของฮีโร่แบดบอยของเรา แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมดีใจอย่างยิ่งก็คือ Dragon Age : Origin เป็นเกมที่ผมพูดได้เต็มปากว่าคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ บทสนทนาทุกๆ บทถูกขัดเกลามาอย่างดี กราฟฟิกสวยงามไม่กินสเปค เนื้อเรื่องที่มีเนื้อหาลุ่มลึกราวกับนิยายมหากาพย์ชั้นอ๋อง (ที่ติดเน่านิดๆ ) ทำให้ Dragon Age : Origin เป็นเกมที่ผมสามารถยืนยันได้ว่า มันเป็นเกมที่เกมเมอร์คอ RPG ทั้งหลายไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ (แต่สำหรับคนที่คิดไม่เคยเล่นหรือคิดจะเริ่มเล่นเกม RPG , Dragon Age : Origin เป็นเกมที่ไม่เหมาะอย่างยิ่งครับ - -*)
ชมภาพต่อได้ที่ Gallery ครับ