5 สุดยอดเกมที่มีบทเริ่มดีที่สุด
5 เกมที่คุณได้เพียงแค่ลองเล่นสักครึ่งนาที คุณก็หลงรักมันแล้ว
สังเกตไหมว่าเกมเมอร์ทั้งหลายเป็นคนช่างเลือก และพิถีพิถัน หลายต่อหลายปีที่พวกเราโตขึ้นมากับกล่องสี่เหลี่ยมสร้างฝันที่มีแสงไฟวูบวาบ วิธีผ่านด่านที่ต้องขบคิดเป็นวันๆ หรือเนื้อเรื่องทียาวนานนับชั่วโมง ทุกสิ่งที่เอ่ยมาสั่งสมให้พวกเราจำเป็นจะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อให้คุ้มค่ากับเวลาที่เราจะเสียไป พวกเรายืม (โหลด) ก่อนซื้อ, พวกเราติมากกว่าชม และนิยมตัดสินว่าเกมนั้นดีหรือไม่ดีโดยใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที
แน่นอน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นเกมที่ผมจะต้องเสียเวลาไปคลุกคลีอยู่กับมันจะต้องเป็นเกมที่ดีที่สุดที่ผมได้คัดสรรมาแล้ว และจากประสบการณ์การเล่นเกมอันยาวนานของผม หลายต่อหลายเกมที่เพียงแค่ผมได้เห็นวีดิโออินโทร หรือแค่เปิดเผยเนื้อเรื่องความเป็นมา และเกมเพลย์ ก็ทำให้ผมอยากเล่นจนแทบคลั่งแล้ว มันแสดงให้เห็นว่าเกมที่ดีนั้น มันสามารถที่จะ “ก้าวผ่าน” สิ่งเลวร้ายที่พวกเรา “ตั้งแง่” มาได้ตั้งแต่ต้นได้
แล้วทำไมผมถึงเลือกมาแค่ 5 เกมจากหลายร้อยเกมในชีวิตผมน่ะเหรอ? เพราะ 5 เกมที่ว่านี้เคือ 5 เกมที่ไม่ว่าผมจะเห็นฉากเปิดตัวของมันสักกี่ครั้ง ความยอดเยี่ยมของพวกมันก็ไม่เคยเสื่อมคลายลงไปเลยน่ะสิ เอาล่ะครับขอยินดีต้อนรับสู่บทความ 5 เกมที่มีฉากเปิดยอดเยี่ยมที่สุดกันเลยครับ
5. Fallout 3
- เกิดอะไรขึ้น?
คุณลืมตาเกิดขึ้นมา คุณเติบโต มีพัฒนาการและได้รับการศึกษา คุณมีเพื่อนและสังคม คุณไปโรงเรียน และยังได้จัดงานปาร์ตี้วันเกิด คุณมีจิตใจอันดีงามที่เกิดขึ้นจากการสั่งสอนของบรรพบุรุษ คุณพยายามหาพื้นที่ของตัวเองในสังคม เฉกเช่นคนปกติทั่วไป แต่ต่อมาคุณจะรู้ว่าตัวเองพิเศษกว่าเด็กทุกคน และด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ชะตากรรมแบบ ฮีโร่ๆ รอคุณอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย
- มันเจ๋งตรงไหนล่ะ?
ทุกๆ RPG เกม (โดยเฉพาะฝั่ง JPN) ตัวเอกส่วนมากจะมาจาก หนุ่มน้อย (หรือสาวน้อย) ที่ไม่มีความเพียรพยายามในชีวิต, ใช้ชีวิตไปวันๆ, ทำไปเพราะสถานะการณ์บังคับ หรือแค่โชคดีได้รับพลังพิเศษ แค่นั้น? และทั้งหมดนั้นมันนำมาซึ่งเนื้อเรื่องน่าเบื่อ ชวนหาวรูปแบบเดิมๆ ซ้ำซาก ไร้ความแปลกใหม่ แต่ใน Fallout 3 กลับโยนตัวคุณเข้าไปในร่างของตัวละครที่พร้อมที่จะเป็นคนพิเศษตั้งเต่ลืมตาเกิดขึ้นมาบนโลก และพรั่งพร้อมไปด้วยความสามารถที่มีที่มาที่ไป (คุณได้เห็นมันนิ ใช่มั้ย?)
และสิ่งที่พิเศษที่สุดนอกจากนั้นก็คือ คุณสามารถที่จำกำหนดลักษณะนิสัยจากการกระทำที่คุณเลือกได้อีก อยากที่จะเป็นคนดีของสังคมอย่างนั้นเหรอ? แบ่งสิ่งของต่างๆ ให้พวกเพื่อนและพูดเพราะๆ กับผู้ใหญ่สิ อะไรนะ มันธรรมดาไปหรอ? ถ้าอย่างนั้นคุณอาจจะลอง ใช้กำลังกลั่นแกล้งพวกเพื่อนๆ ในโรงเรียน โกหกพกลมกับพวกผู้หใญ่ หรือขโมยของที่พ่อคุณวางไว้บนโต้ะดูสิ ทุกๆ การกระทำหรือตัวเลือกสนทนาใน Fallout 3 จะนำคุณการพัฒนาตัวละครของคุณแบบสร้างสรรค์ ไม่มีตัวเลขให้คุณต้องกรอกหรือจดจำ และเมื่อคุณหันหลังให้กับ Vault แล้ว Fallout การเล่น Fallout 3 จะเหมือนบันทึกการเดินทางของคุณในโลกหลังหายนะมากกว่าที่จะเล่นเป็นฮีโร่เหมือนเกมทั่วๆ ไป (นับว่าเป็นจุดเด่นของเกมในตระกูล Fallout เลยทีเดียว)
4. Chrono Trigger
- เกิดอะไรขึ้น?
มันเป็นวันอากาศดีที่สวยงาม คุณตื่นขึ้นมาเพื่อเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 1,000 ปีของอาณาจักร คุณกำลังใช้ชีวิตอยู่ใน “เวลาและสถานที่ๆ ถูกต้อง” เอาเลยสนุกกับ Millennial Fair ให้เต็มที่... สนุกกับการแข่งขันดื่มกิน, การพนัน, และโชว์ต่างๆ ให้หนำใจ ตบท้ายด้วยการสำรวจเครื่องประดิษฐ์รุ่นใหม่ล่าสุดของเพื่อนสนิทคุณ พร้อมๆ กับทำความรู้จักกับสาวน้อยแปลกหน้าด้วย อ่า... โลกช่างสวยงามและสงบสุขจริงๆ
- มันเจ๋งตรงไหนล่ะ?
ผมเชื่อว่าทุกๆคนคงเคยเล่น Chrono Trigger และรู้ถึงเรื่องราวต่อจากนั้น อาทิเช่น ตัวจริงของสาวน่ารักลึกลับคนนั้นคือเจ้าหญิงแห่งอาณาจักร และเครื่องมือที่เพื่อนสนิทของคุณสร้างขึ้นมาคือเครื่องมือที่ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมด ใช่แล้ว มันคือเครื่อง Time Machine นั่นเอง และหลังจากช่วงเวลาสนุกสนานไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น คุณจะพบว่าตัวเองและพวกพ้องได้กระทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดกับกระแสกาลเวลาทั้งโลกอดีตกาลและอนาคตกาล สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือสันติภาพและความสงบสุขได้หายไปจากกาลเวลาซะแล้ว
และจากฉากเริ่มต้นอันแสนหวานที่คุณจะได้เจอ คุณ (เหล่าตัวละคร) จะมีความทรงจำเกี่ยวกับความสุขและความฝันอันสวยงามติดตัวไปตลอดการเดินทางข้ามกาลเวลา ทำไมผู้คนในยุคกลางที่เต็มไปด้วยจินตนากาลชวนฝันไม่สามารถมีความสุขได้? ทำไมผู้คนในยุคหลังหายนะ จึงไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะมีชีวิตอยู่? และเมื่อคุณได้เล่นเกมต่อจากนั้นจนจบคุณจะรู้ว่าฉากเปิดที่เราพูดถึงกันอยู่นั้น ไม่ใช่แค่ฉากเปิด มันคือจุดมุ่งหมายและแรงบันดาลใจของเกมนี้เลยทีเดียว
3. CONTRA 3 : THE ALIEN WARS
- เกิดอะไรขึ้น?
หลังจากที่ตัวหนังสือแสดงข้อความจาก Konami เฟดลงไปไม่ถึงหนึ่งวินาทีคุณจะได้พบกับฉ่ากยานรบของมนุษย์ต่างดาวถล่มโลกและต่อจากนั้น เพียงแค่คุณกดปุ่ม START คุณจะได้พบกันเกมแอคชั่นล้างบางเหล่าเอเลี่ยนที่มันส์ที่สุดบนโลกใบนี้ (อย่างน้อยๆ ก็ในปี 1992) คุณจะควงปืนไรเฟิลได้พร้อมๆกันทั้งสองมือเพื่อที่จะระเบิดทุกสิ่งที่คุณเห็นในสายตา ไม่ว่าจะเป็นกำแพง รถยนต์ ตึกรามบ้านช่อง สิ่งกีดขวางต่างๆ พร้อมทั้งรับกระสุนพาวเวอร์อัปที่จะทำให้หน้าจอของคุณวาบวับไปด้วยสีจากกราฟฟิคแบบพิกเซลคุณภาพสูง (ที่สุดในปี 1992) ในนาทีต่อมาคุณจะได้นั่งบนรถถังของพวกเอเลี่ยนเพื่อระเบิดทุกอย่างที่ขวางทางคุณ ในอีกนาทีต่อมาคุณจะได้เห็นเครื่องบินทิ้งระเบิดทิ้งระเบิดพาดผ่านหน้าจอของคุณและทิ้งกราฟฟิกเปลวเพลิงเอาไว้ และในตอนจบคุณจะได้ประมือกับเต่ายักษ์ติดปรสิตยิงเลเซอร์ และทั้งหมดนั่นเพียงแค่ด่านแรกของทั้งเกมเท่านั้น
- มันเจ๋งตรงไหนล่ะ?
จากสิ่งที่ผมพูดเอาไว้ก่อนหน้า เกมเมอร์ทั้งหมดในยุคนั้นหลังจากได้เริ่มเล่น Contra III ทุกคนจะสัมผัสได้ว่า เครื่อง Super Nintendo นั้นเป็นสิ่งที่ถูกนำมาจากโลกอื่นเป็นแน่แท้ แม้ว่าเกม Contra III จะไม่ได้เปิดตัวพร้อมกันกับเครื่อง SNE (Contra III เปิดตัว 8 เดือนหลังจากเครื่อง SNE ออกวางจำหน่าย) แต่การเปิดตัวของ Contra III ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เครื่อง SNE ครองความเป็นเจ้ายุทธจักรในโลกของวิดีโอเกมในช่วงยุคก่อนปี 90 ได้อย่างภาคภูมิ โดยอาศัยแค่ฉากเปิดตัวด่านแรกของเกมนี้เกมเดียวเท่านั้น (จริงๆแล้วมันก็เปรียบเทียบได้กับเกมเมอร์สมัยนี้ที่ได้เห็น CRYSIS ปรับทุกอย่าง HIGH นั่นแหละครับ)
2. BIOSHOCK
- เกิดอะไรขึ้น?
คุณกำลังจะตาย ! ไม่มีคำอธิบาย และข้อความใดๆ คุณพบตัวเองกำลังลอยคออย่างสิ้นหวังอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร แอนตาร์คติค ความมืดของท้องฟ้าและความเยือกเย็นของท้องทะเลกำลังจะพรากชีวิตคุณ คุณมีสองทางเลือกเพื่อให้รอดชีวิต ทางแรกคือเครื่องบินโดยสารที่กำลังเผาไหม้และสามารถระบิดได้ทุกขณะจิต ทางที่สองคือว่ายน้ำไปยั่งประภาคารที่ส่องแสงอยู่ไม่ไกลจากคุณ อ่า...โชคดีจริงๆที่เครื่องบินของคุณมันตกใกล้สิ่งนี้ !?
- มันเจ๋งอย่างไรล่ะ ?
BIOSHOCK ไม่ได้บีบบังคับคุณให้ดำดิ่งลงไปสู่เมืองสยองน่าขยะแขยงใต้มหาสมุทร คุณ “เลือก” ที่จะเข้าไปเอง คุณเลือกที่จะว่ายน้ำไปสู่ประภาคารเพื่อที่จะเอาชีวิตรอด คุณเลือกที่จะเดินไปยังประตู คุณเลือกที่จะกดสวิตซ์เพื่อเปิดการทำงานของลิฟต์ และทุกสิ่งที่คุณทำไปนั้นไม่มีสิ่งที่ไหนที่จะชี้ทางหรือชักนำให้คุณทำสิ่งนั้นแม้แต่น้อย และทุกๆ ครั้งที่คุณเจอทางตัน เกมนี้จะไม่มีวันผลักคุณให้กระทำสิ่งที่คุณไม่อยากทำ ทุกสิ่งคุณเลือกที่จะกระทำเอง และผลสรุปของการกระทำนั้นๆ จะไปปรากฎและแสดงผลก็ต่อเมื่อคุณได้ไปถึงตอนจบของเกมแล้ว (เป็นการตัดสินใจของทีมงานที่ซาดิสม์เอามากๆ )
แต่ในนาทีต่อมาสิ่งที่คุณจะได้พบเจอกลับเปลี่ยนไป หลังจากที่คุณได้นั่งรถไฟเหาะเข้าสู่ใจกลางของนครใต้น้ำนาม Rapture ในนาทีต่อมาคุณจะได้พบเจ้า Slicer โมโหร้ายเป็นครั้งแรกในเกม และนั่นจะทำให้คุณเข้าสุ่โลกที่แท้จริงของ BIOSHOCK ( และเมื่อเนื้อเรื่องของเกมและที่มาของตัวเอกถูกเปิดเผยสิ่งที่คุณสงสัยหรือประหลาดใจจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เชื่อผมสิ )
1. HALF-LIFE
- เกิดอะไรขึ้น?
ทุกสิ่งธรรมดามาก แม้กระทั่งรูปแบบการนำเสนอ Title Card ของทีมพัฒนา (Valve) ก็ยังดูธรรมดา อาจจะนับได้ว่าเป็นอินโทรที่เข้าใจง่ายที่สุดในบรรดาวิดีโอเกมทั้งหมด หลังจากตัวอักษรของทีมพัฒนาเฟดออกไป คุณจะเห็นเหล่าบรรดาพนักงานธรรมดา และคุณจะได้เข้าไปควบคุมหนึ่งในนั้น ตัวละครผู้ไม่ใช่ยอดสายลับฉลาดเป็นกรด หรือยอดคอมมานโดที่พร้อมไปด้วยร่างกายกำยำและอาวุะครบมือ คุณจะได้ควบคุม ชายผุ้เป็นนักวิทยาศาสต์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง... และเข้าควบคุมเขาเพื่อไปทำงาน พูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน โบกมือทักทายกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ฟังประกาศจากบริษัท ลงลิฟท์ (รถไฟฟ้า!?) ไปที่ล๊อกเกอร์เก็บของๆ คุณเพื่อที่จะเอาสัมภาระและเปลี่ยนชุดเข้าห้องแลป โอว...ชีวิตพนักงานกินเงินเดือนธรรมดาๆ คนหนึ่งนั่นเอง
- แล้วมันเจ๋งตรงไหนล่ะ?
Gordon Freeman อาจจะเป็นแค่นักวิทยาศาสตร์หรือพนักงานเงินเดือนธรรมดาๆ ทำงานไปวันๆ เมื่อคุณได้เล่นเป็นตัวเขาในประสบการณ์การเล่น HALF-LIFE ช่วงห้านาทีแรกของเกม แต่ต่อจากนั้นคุณจะพบว่าเขาเป็นถึง”ผู้เชี่ยวชาญพิเศษในด้านทฤษฎีฟิสิกส์ ” และกำลังทำงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ “วัตถุประหลาดจากนอกโลก” และต่อจากนั้นคุณก็สามารถที่จะเริ่มเดาได้ว่า ไอ้สิ่งนั้นจะต้องนำหายนะมาสู่พระเอกของเราแหงๆ
และไม่นานหลังจากที่คุณเริ่มเดา หลังจากการฉายรังสีสำรวจ เจ้าวัตถุประหลาดอันนั้นก็ได้เปิดประตูมิติและได้ชักนำกองทัพเอเลี่ยนต่างโลกที่นำหายนะมาสู่ที่ๆ มันไม่สมควรจะอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางของมันได้ถุกทำลายล้างจนเรียบ และคุณจะได้บังคับมิสเตอร์ Gordon ว่าที่ฮีโร่ที่เพิ่งกลับมาหลังจากไปเยี่ยมมิติของพวกมนุษย์ต่างด่าว (เขาถูกสลับที่กับพวกเอเลี่ยนหลังจากการเปิดมิติเวลา) เข้าต่อกรกับพวกต่างดาว (ด้วยชะแลงคู่มือ !) และหาทางเอาชีวิตรอดจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ไปให้ได้ (เพื่อไปเผชิญหน้ากับสถานะการณ์ที่เลวร้ายกว่าเดิมในภาค 2 :P )
ในชั่วโมงแรกของเกม HALF-LIFE ได้นำประสบการณ์เกมเพลย์ที่ยอดเยี่ยมและยากที่จะลืมเลือนให้กับบรรดาผู้เล่นทุกหมู่เหล่า เนื่องจากคุณจะได้ดื่มด่ำไปกับชีวิตและบทบาท “ก่อน” การเป็นฮีโร่ของคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง โดยการทัวร์ไปทั่วออฟฟิศที่ทำงานของเขา แลเหตุการณ์หลังจากนั้นที่เกิดขึ้นก็ดูจะมีที่มาที่ไปและมีทฤษฎีรองรับมากกว่าเกมอื่นๆในยุคเดียวกัน (รวมไปถึงกราฟฟิกที่ยอดเยี่ยม) ทำให้บทเปิดของ HALF-LIFE กลายเป็นแม่แบบของหลายๆ เกมในยุคปัจจุบันนี้
5 สุดยอดเกมที่มีบทเริ่มดีที่สุด
5 เกมที่คุณได้เพียงแค่ลองเล่นสักครึ่งนาที คุณก็หลงรักมันแล้ว
สังเกตไหมว่าเกมเมอร์ทั้งหลายเป็นคนช่างเลือก และพิถีพิถัน หลายต่อหลายปีที่พวกเราโตขึ้นมากับกล่องสี่เหลี่ยมสร้างฝันที่มีแสงไฟวูบวาบ วิธีผ่านด่านที่ต้องขบคิดเป็นวันๆ หรือเนื้อเรื่องทียาวนานนับชั่วโมง ทุกสิ่งที่เอ่ยมาสั่งสมให้พวกเราจำเป็นจะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อให้คุ้มค่ากับเวลาที่เราจะเสียไป พวกเรายืม (โหลด) ก่อนซื้อ, พวกเราติมากกว่าชม และนิยมตัดสินว่าเกมนั้นดีหรือไม่ดีโดยใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที
แน่นอน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นเกมที่ผมจะต้องเสียเวลาไปคลุกคลีอยู่กับมันจะต้องเป็นเกมที่ดีที่สุดที่ผมได้คัดสรรมาแล้ว และจากประสบการณ์การเล่นเกมอันยาวนานของผม หลายต่อหลายเกมที่เพียงแค่ผมได้เห็นวีดิโออินโทร หรือแค่เปิดเผยเนื้อเรื่องความเป็นมา และเกมเพลย์ ก็ทำให้ผมอยากเล่นจนแทบคลั่งแล้ว มันแสดงให้เห็นว่าเกมที่ดีนั้น มันสามารถที่จะ “ก้าวผ่าน” สิ่งเลวร้ายที่พวกเรา “ตั้งแง่” มาได้ตั้งแต่ต้นได้
แล้วทำไมผมถึงเลือกมาแค่ 5 เกมจากหลายร้อยเกมในชีวิตผมน่ะเหรอ? เพราะ 5 เกมที่ว่านี้เคือ 5 เกมที่ไม่ว่าผมจะเห็นฉากเปิดตัวของมันสักกี่ครั้ง ความยอดเยี่ยมของพวกมันก็ไม่เคยเสื่อมคลายลงไปเลยน่ะสิ เอาล่ะครับขอยินดีต้อนรับสู่บทความ 5 เกมที่มีฉากเปิดยอดเยี่ยมที่สุดกันเลยครับ
5. Fallout 3
- เกิดอะไรขึ้น?
คุณลืมตาเกิดขึ้นมา คุณเติบโต มีพัฒนาการและได้รับการศึกษา คุณมีเพื่อนและสังคม คุณไปโรงเรียน และยังได้จัดงานปาร์ตี้วันเกิด คุณมีจิตใจอันดีงามที่เกิดขึ้นจากการสั่งสอนของบรรพบุรุษ คุณพยายามหาพื้นที่ของตัวเองในสังคม เฉกเช่นคนปกติทั่วไป แต่ต่อมาคุณจะรู้ว่าตัวเองพิเศษกว่าเด็กทุกคน และด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ชะตากรรมแบบ ฮีโร่ๆ รอคุณอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย
- มันเจ๋งตรงไหนล่ะ?
ทุกๆ RPG เกม (โดยเฉพาะฝั่ง JPN) ตัวเอกส่วนมากจะมาจาก หนุ่มน้อย (หรือสาวน้อย) ที่ไม่มีความเพียรพยายามในชีวิต, ใช้ชีวิตไปวันๆ, ทำไปเพราะสถานะการณ์บังคับ หรือแค่โชคดีได้รับพลังพิเศษ แค่นั้น? และทั้งหมดนั้นมันนำมาซึ่งเนื้อเรื่องน่าเบื่อ ชวนหาวรูปแบบเดิมๆ ซ้ำซาก ไร้ความแปลกใหม่ แต่ใน Fallout 3 กลับโยนตัวคุณเข้าไปในร่างของตัวละครที่พร้อมที่จะเป็นคนพิเศษตั้งเต่ลืมตาเกิดขึ้นมาบนโลก และพรั่งพร้อมไปด้วยความสามารถที่มีที่มาที่ไป (คุณได้เห็นมันนิ ใช่มั้ย?)
และสิ่งที่พิเศษที่สุดนอกจากนั้นก็คือ คุณสามารถที่จำกำหนดลักษณะนิสัยจากการกระทำที่คุณเลือกได้อีก อยากที่จะเป็นคนดีของสังคมอย่างนั้นเหรอ? แบ่งสิ่งของต่างๆ ให้พวกเพื่อนและพูดเพราะๆ กับผู้ใหญ่สิ อะไรนะ มันธรรมดาไปหรอ? ถ้าอย่างนั้นคุณอาจจะลอง ใช้กำลังกลั่นแกล้งพวกเพื่อนๆ ในโรงเรียน โกหกพกลมกับพวกผู้หใญ่ หรือขโมยของที่พ่อคุณวางไว้บนโต้ะดูสิ ทุกๆ การกระทำหรือตัวเลือกสนทนาใน Fallout 3 จะนำคุณการพัฒนาตัวละครของคุณแบบสร้างสรรค์ ไม่มีตัวเลขให้คุณต้องกรอกหรือจดจำ และเมื่อคุณหันหลังให้กับ Vault แล้ว Fallout การเล่น Fallout 3 จะเหมือนบันทึกการเดินทางของคุณในโลกหลังหายนะมากกว่าที่จะเล่นเป็นฮีโร่เหมือนเกมทั่วๆ ไป (นับว่าเป็นจุดเด่นของเกมในตระกูล Fallout เลยทีเดียว)
4. Chrono Trigger
- เกิดอะไรขึ้น?
มันเป็นวันอากาศดีที่สวยงาม คุณตื่นขึ้นมาเพื่อเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 1,000 ปีของอาณาจักร คุณกำลังใช้ชีวิตอยู่ใน “เวลาและสถานที่ๆ ถูกต้อง” เอาเลยสนุกกับ Millennial Fair ให้เต็มที่... สนุกกับการแข่งขันดื่มกิน, การพนัน, และโชว์ต่างๆ ให้หนำใจ ตบท้ายด้วยการสำรวจเครื่องประดิษฐ์รุ่นใหม่ล่าสุดของเพื่อนสนิทคุณ พร้อมๆ กับทำความรู้จักกับสาวน้อยแปลกหน้าด้วย อ่า... โลกช่างสวยงามและสงบสุขจริงๆ
- มันเจ๋งตรงไหนล่ะ?
ผมเชื่อว่าทุกๆคนคงเคยเล่น Chrono Trigger และรู้ถึงเรื่องราวต่อจากนั้น อาทิเช่น ตัวจริงของสาวน่ารักลึกลับคนนั้นคือเจ้าหญิงแห่งอาณาจักร และเครื่องมือที่เพื่อนสนิทของคุณสร้างขึ้นมาคือเครื่องมือที่ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมด ใช่แล้ว มันคือเครื่อง Time Machine นั่นเอง และหลังจากช่วงเวลาสนุกสนานไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น คุณจะพบว่าตัวเองและพวกพ้องได้กระทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดกับกระแสกาลเวลาทั้งโลกอดีตกาลและอนาคตกาล สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือสันติภาพและความสงบสุขได้หายไปจากกาลเวลาซะแล้ว
และจากฉากเริ่มต้นอันแสนหวานที่คุณจะได้เจอ คุณ (เหล่าตัวละคร) จะมีความทรงจำเกี่ยวกับความสุขและความฝันอันสวยงามติดตัวไปตลอดการเดินทางข้ามกาลเวลา ทำไมผู้คนในยุคกลางที่เต็มไปด้วยจินตนากาลชวนฝันไม่สามารถมีความสุขได้? ทำไมผู้คนในยุคหลังหายนะ จึงไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะมีชีวิตอยู่? และเมื่อคุณได้เล่นเกมต่อจากนั้นจนจบคุณจะรู้ว่าฉากเปิดที่เราพูดถึงกันอยู่นั้น ไม่ใช่แค่ฉากเปิด มันคือจุดมุ่งหมายและแรงบันดาลใจของเกมนี้เลยทีเดียว
3. CONTRA 3 : THE ALIEN WARS
- เกิดอะไรขึ้น?
หลังจากที่ตัวหนังสือแสดงข้อความจาก Konami เฟดลงไปไม่ถึงหนึ่งวินาทีคุณจะได้พบกับฉ่ากยานรบของมนุษย์ต่างดาวถล่มโลกและต่อจากนั้น เพียงแค่คุณกดปุ่ม START คุณจะได้พบกันเกมแอคชั่นล้างบางเหล่าเอเลี่ยนที่มันส์ที่สุดบนโลกใบนี้ (อย่างน้อยๆ ก็ในปี 1992) คุณจะควงปืนไรเฟิลได้พร้อมๆกันทั้งสองมือเพื่อที่จะระเบิดทุกสิ่งที่คุณเห็นในสายตา ไม่ว่าจะเป็นกำแพง รถยนต์ ตึกรามบ้านช่อง สิ่งกีดขวางต่างๆ พร้อมทั้งรับกระสุนพาวเวอร์อัปที่จะทำให้หน้าจอของคุณวาบวับไปด้วยสีจากกราฟฟิคแบบพิกเซลคุณภาพสูง (ที่สุดในปี 1992) ในนาทีต่อมาคุณจะได้นั่งบนรถถังของพวกเอเลี่ยนเพื่อระเบิดทุกอย่างที่ขวางทางคุณ ในอีกนาทีต่อมาคุณจะได้เห็นเครื่องบินทิ้งระเบิดทิ้งระเบิดพาดผ่านหน้าจอของคุณและทิ้งกราฟฟิกเปลวเพลิงเอาไว้ และในตอนจบคุณจะได้ประมือกับเต่ายักษ์ติดปรสิตยิงเลเซอร์ และทั้งหมดนั่นเพียงแค่ด่านแรกของทั้งเกมเท่านั้น
- มันเจ๋งตรงไหนล่ะ?
จากสิ่งที่ผมพูดเอาไว้ก่อนหน้า เกมเมอร์ทั้งหมดในยุคนั้นหลังจากได้เริ่มเล่น Contra III ทุกคนจะสัมผัสได้ว่า เครื่อง Super Nintendo นั้นเป็นสิ่งที่ถูกนำมาจากโลกอื่นเป็นแน่แท้ แม้ว่าเกม Contra III จะไม่ได้เปิดตัวพร้อมกันกับเครื่อง SNE (Contra III เปิดตัว 8 เดือนหลังจากเครื่อง SNE ออกวางจำหน่าย) แต่การเปิดตัวของ Contra III ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เครื่อง SNE ครองความเป็นเจ้ายุทธจักรในโลกของวิดีโอเกมในช่วงยุคก่อนปี 90 ได้อย่างภาคภูมิ โดยอาศัยแค่ฉากเปิดตัวด่านแรกของเกมนี้เกมเดียวเท่านั้น (จริงๆแล้วมันก็เปรียบเทียบได้กับเกมเมอร์สมัยนี้ที่ได้เห็น CRYSIS ปรับทุกอย่าง HIGH นั่นแหละครับ)
2. BIOSHOCK
- เกิดอะไรขึ้น?
คุณกำลังจะตาย ! ไม่มีคำอธิบาย และข้อความใดๆ คุณพบตัวเองกำลังลอยคออย่างสิ้นหวังอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร แอนตาร์คติค ความมืดของท้องฟ้าและความเยือกเย็นของท้องทะเลกำลังจะพรากชีวิตคุณ คุณมีสองทางเลือกเพื่อให้รอดชีวิต ทางแรกคือเครื่องบินโดยสารที่กำลังเผาไหม้และสามารถระบิดได้ทุกขณะจิต ทางที่สองคือว่ายน้ำไปยั่งประภาคารที่ส่องแสงอยู่ไม่ไกลจากคุณ อ่า...โชคดีจริงๆที่เครื่องบินของคุณมันตกใกล้สิ่งนี้ !?
- มันเจ๋งอย่างไรล่ะ ?
BIOSHOCK ไม่ได้บีบบังคับคุณให้ดำดิ่งลงไปสู่เมืองสยองน่าขยะแขยงใต้มหาสมุทร คุณ “เลือก” ที่จะเข้าไปเอง คุณเลือกที่จะว่ายน้ำไปสู่ประภาคารเพื่อที่จะเอาชีวิตรอด คุณเลือกที่จะเดินไปยังประตู คุณเลือกที่จะกดสวิตซ์เพื่อเปิดการทำงานของลิฟต์ และทุกสิ่งที่คุณทำไปนั้นไม่มีสิ่งที่ไหนที่จะชี้ทางหรือชักนำให้คุณทำสิ่งนั้นแม้แต่น้อย และทุกๆ ครั้งที่คุณเจอทางตัน เกมนี้จะไม่มีวันผลักคุณให้กระทำสิ่งที่คุณไม่อยากทำ ทุกสิ่งคุณเลือกที่จะกระทำเอง และผลสรุปของการกระทำนั้นๆ จะไปปรากฎและแสดงผลก็ต่อเมื่อคุณได้ไปถึงตอนจบของเกมแล้ว (เป็นการตัดสินใจของทีมงานที่ซาดิสม์เอามากๆ )
แต่ในนาทีต่อมาสิ่งที่คุณจะได้พบเจอกลับเปลี่ยนไป หลังจากที่คุณได้นั่งรถไฟเหาะเข้าสู่ใจกลางของนครใต้น้ำนาม Rapture ในนาทีต่อมาคุณจะได้พบเจ้า Slicer โมโหร้ายเป็นครั้งแรกในเกม และนั่นจะทำให้คุณเข้าสุ่โลกที่แท้จริงของ BIOSHOCK ( และเมื่อเนื้อเรื่องของเกมและที่มาของตัวเอกถูกเปิดเผยสิ่งที่คุณสงสัยหรือประหลาดใจจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เชื่อผมสิ )
1. HALF-LIFE
- เกิดอะไรขึ้น?
ทุกสิ่งธรรมดามาก แม้กระทั่งรูปแบบการนำเสนอ Title Card ของทีมพัฒนา (Valve) ก็ยังดูธรรมดา อาจจะนับได้ว่าเป็นอินโทรที่เข้าใจง่ายที่สุดในบรรดาวิดีโอเกมทั้งหมด หลังจากตัวอักษรของทีมพัฒนาเฟดออกไป คุณจะเห็นเหล่าบรรดาพนักงานธรรมดา และคุณจะได้เข้าไปควบคุมหนึ่งในนั้น ตัวละครผู้ไม่ใช่ยอดสายลับฉลาดเป็นกรด หรือยอดคอมมานโดที่พร้อมไปด้วยร่างกายกำยำและอาวุะครบมือ คุณจะได้ควบคุม ชายผุ้เป็นนักวิทยาศาสต์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง... และเข้าควบคุมเขาเพื่อไปทำงาน พูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน โบกมือทักทายกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ฟังประกาศจากบริษัท ลงลิฟท์ (รถไฟฟ้า!?) ไปที่ล๊อกเกอร์เก็บของๆ คุณเพื่อที่จะเอาสัมภาระและเปลี่ยนชุดเข้าห้องแลป โอว...ชีวิตพนักงานกินเงินเดือนธรรมดาๆ คนหนึ่งนั่นเอง
- แล้วมันเจ๋งตรงไหนล่ะ?
Gordon Freeman อาจจะเป็นแค่นักวิทยาศาสตร์หรือพนักงานเงินเดือนธรรมดาๆ ทำงานไปวันๆ เมื่อคุณได้เล่นเป็นตัวเขาในประสบการณ์การเล่น HALF-LIFE ช่วงห้านาทีแรกของเกม แต่ต่อจากนั้นคุณจะพบว่าเขาเป็นถึง”ผู้เชี่ยวชาญพิเศษในด้านทฤษฎีฟิสิกส์ ” และกำลังทำงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ “วัตถุประหลาดจากนอกโลก” และต่อจากนั้นคุณก็สามารถที่จะเริ่มเดาได้ว่า ไอ้สิ่งนั้นจะต้องนำหายนะมาสู่พระเอกของเราแหงๆ
และไม่นานหลังจากที่คุณเริ่มเดา หลังจากการฉายรังสีสำรวจ เจ้าวัตถุประหลาดอันนั้นก็ได้เปิดประตูมิติและได้ชักนำกองทัพเอเลี่ยนต่างโลกที่นำหายนะมาสู่ที่ๆ มันไม่สมควรจะอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางของมันได้ถุกทำลายล้างจนเรียบ และคุณจะได้บังคับมิสเตอร์ Gordon ว่าที่ฮีโร่ที่เพิ่งกลับมาหลังจากไปเยี่ยมมิติของพวกมนุษย์ต่างด่าว (เขาถูกสลับที่กับพวกเอเลี่ยนหลังจากการเปิดมิติเวลา) เข้าต่อกรกับพวกต่างดาว (ด้วยชะแลงคู่มือ !) และหาทางเอาชีวิตรอดจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ไปให้ได้ (เพื่อไปเผชิญหน้ากับสถานะการณ์ที่เลวร้ายกว่าเดิมในภาค 2 :P )
ในชั่วโมงแรกของเกม HALF-LIFE ได้นำประสบการณ์เกมเพลย์ที่ยอดเยี่ยมและยากที่จะลืมเลือนให้กับบรรดาผู้เล่นทุกหมู่เหล่า เนื่องจากคุณจะได้ดื่มด่ำไปกับชีวิตและบทบาท “ก่อน” การเป็นฮีโร่ของคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง โดยการทัวร์ไปทั่วออฟฟิศที่ทำงานของเขา แลเหตุการณ์หลังจากนั้นที่เกิดขึ้นก็ดูจะมีที่มาที่ไปและมีทฤษฎีรองรับมากกว่าเกมอื่นๆในยุคเดียวกัน (รวมไปถึงกราฟฟิกที่ยอดเยี่ยม) ทำให้บทเปิดของ HALF-LIFE กลายเป็นแม่แบบของหลายๆ เกมในยุคปัจจุบันนี้