เลือกมือถือสุดคุ้มในราคา 5 - 6 พันบาท เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่าย EDGE กันเถอะ

กระทู้สนทนา
ปัจจุบัน หากสมาชิก Pantip ได้เยี่ยมชมกระทู้ในห้องมาบุญครอง จะพบว่า มีการตั้งกระทู้สอบถามการนำโทรศัพท์มือถือมาใช้งานเพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดยผ่านระบบการสื่อสารเครือข่าย EDGE กันมาก ผมจะขอแนะนำมือถือสุดคุ้ม ในราคาไม่ถึง 6,000 บาท เพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกในการขอโทรศัพท์พื้นฐานเพื่อเชื่อมต่อเครือข่าย ADSL โดยเฉพาะผู้ที่อยู่หอ คอนโด หรือผู้ใช้ต้องการความคล่องตัวในการใช้งานนอกสถานที่

ลองๆค้นหากระทู้ในห้องมาบุญครอง จะพบว่า โทรศัพท์มือถือยอดนิยมที่ติดอันดับในการค้นหาเป็นอันดับต้นๆคือ Motorola V360 ซึ่งราคาค่าตัวไม่แพง ลูกเล่นเยอะ แต่ปัจจุบัน ไม่พบการวางจำหน่ายมือ 1 แล้ว อาจจะต้องหามือสองมาใช้ แต่ในขณะนี้ โทรศัพท์มือถือติด EDGE หลายๆรุ่น ได้ทยอยลงสนามแข่งด้วยราคาค่าตัวเครื่องใหม่ที่ไม่แพง จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากทีเดียว ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่าย EDGE ด้วยโทรศัพท์มือถือ

รอบนี้ ขนมาแต่ Nokia เพราะมีหลายรุ่นลงแข่งในสนาม EDGE แถมตามร้าน ผมแทบหามือถือ Sony Ericsson W300i ไม่ได้เลย ส่วน Samsung E250 ก็ยังน่าเล่นครับ

Nokia 7360
Nokia 7360

Nokia 6230i
Nokia 6230i

Nokia 6070
Nokia 6070

ศึกชิงบังลังก์มือถือ EDGE สุดคุ้ม Nokia 7360, Nokia 6230i, Nokia 6070
แรกเห็นตามร้านมือถือ จะเห็นว่า หลายๆร้านจะส่งมือถือหนึ่งในสามรุ่นนี้เข้าประกวด เนื่องจากราคาไม่ค่อยต่างกันมาก แม้ว่า Nokia 7360 จะมากับดีไซน์แฟชั่นโฟน กับคอลเลคชั่น L'Amour ก็ตาม ในเมื่อราคามือถือแนวแฟชั่น หล่นลงมาในกลุ่มห้าพันบาท ใครที่ชอบดีไซน์อยู่แล้วคงไม่ปฏิเสธ แต่หากเทียบด้านราคาแล้ว Nokia 6070 กลับมีราคาถูกกว่าสองตัวแรก แต่หากทว่าเทียบสเปคแล้ว Nokia 6230i น่าจะมีภาษีดีกว่าเพื่อน เพราะจอสี TFT 65K กล้อง 1.3 ล้านพิกเซล เพิ่มหน่วยความจำเอาไว้ฟังเพลงได้ ทุกอย่างครบครัน แต่หากคุณต้องการเพียงมือถือที่รองรับการเชื่อมต่อ EDGE ไม่เน้นกล้อง ไม่เน้นฟังเพลง ไม่เน้นการเชื่อมต่อใดๆ คิดว่า 6070 ราคาสบายกระเป๋า (ประมาณ 38xx) แต่หากต้องการฟังเพลงด้วย Nokia 6230i ตอบความต้องการคุณได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีหน่วยความจำในตัว แถมเพิ่มหน่วยความจำแบบ MMC ได้อีกด้วย แถมการเชื่อมต่อ Nokia 6230i ยังกินขาดด้วย Bluetooth อีก สำหรับการพกพานั้น Nokia 6070 จะมีน้ำหนักที่เบากว่ามาก แถมหน้าตายังออกแนวเบสิคโฟนอีก แม้ว่าเจ้าตัวจะสังกัดกลุ่ม Nokia ตระกูล 6 Series ก็ตาม

เอาเป็นว่า หากมองเรื่องแฟชั่น ดีไซน์ Nokia 7360 น่าจะถูกใจหลายๆคน แต่สีดำผมกลับไม่ชอบ หากได้สีสันชมพู ผมว่าสวยไม่เบาสำหรับสุภาพสตรี ส่วน Nokia 6070 นั้นเอาใจคนที่ต้องการเชื่อมต่อ EDGE ในราคาเพียงแค่ 3 พันปลายๆเท่านั้น แต่กับ Nokia 6230i ยังไงก็กินขาด อย่าลืมว่า เสน่ห์ของมือถือรุ่นเก่าที่กลับมาบูมอีกครั้ง จะมีลูกเล่นที่หลายๆคนติดใจก็คือการเปลี่ยนหน้ากากนั่นเอง อย่าลืมสิครับว่า เมื่อก่อนเราใช้มือถือเมื่อ 2 - 3 ปีที่แล้ว สนุกกับการเปลี่ยนหน้ากากแค่ไหน และแน่นอนว่า ลูกเล่นนี้ ไม่มีรุ่นใดในกลุ่มเทียบได้แน่นอน

มาเขย่าบังลังก์มือถือ EDGE อีก 3 รุ่น นั่นคือ Nokia 6085, Nokia 3110 Classic และ Nokia 6111

Nokia 3110 Classic [ภาพจาก Thai Mobile Center]
Nokia 3110 Classic [ภาพจาก Thai Mobile Center]
Nokia 3110 Classic
เจ้าตัวนี้นับว่าเป็นม้ามืดของวงการทีเดียว แค่เห็นสเปคก็กินขาดรุ่นอื่นๆข้างต้น ด้วยการเชื่อมต่อครบครัน แค่เทียบสเปค รุ่นอื่นๆแทบหงายหลังในราคาเท่ากัน

รองรับการเชื่อมต่อ EDGE Class 10/GPRS/WAP 2.0 XHTML/HTML/HSCSD/CSD ด้านการโอนถ่ายข้อมูลก็เพียบพร้อมจริงๆกับ Bluetooth/IrDA, Pop-Port USB2.0

แถมด้านมัลติมีเดียก็ไม่เป็นรองใครด้วย กล้อง 1.3 ล้านพิกเซล กล้องวีดีโอ สนับสนุน FM, Visual Radio, เล่นเพลง MP3, MP4, AAC ครบครันจริงๆ เมื่อเทียบกับ Nokia 6230i ในราคาที่เท่าๆกัน ผมว่า 3110 Classic ขาดเสน่ห์ความคลาสสิคของ Nokia ที่ฮิตติดลมบนในสมัยก่อนด้วยการเปลี่ยนหน้ากากครับ ถ้าหากเทียบเรื่องหน้ากากแล้ว Nokia 6230i ชนะขาดลอยด้านความคลาสสิคแฟชั่นเปลี่ยนหน้ากากแบบสมัย 3310, 3210, 8250, 8210 เลยล่ะครับ

Nokia 6111
Nokia 6111
Nokia 6111

ฝาสไลด์จาก Nokia ที่ออกมานานจนราคาจากหมื่นร่วงลงมาในระดับ 59xx เช่นเดียวกัน
เทียบกันแล้วสเปคไม่ค่อยต่างกันนัก เพราะจอ 262K เท่าๆกัน กล้อง 1.3 พอๆกับ Nokia 3110 Classic เทียบต่อรุ่น ทุกรุ่นมี FM, Visual Radio อยู่แล้ว แต่ Nokia 6111 ก็ดันเพิ่มหน่วยความจำไม่ได้ซะอีก ทำให้การฟังเพลงถูกจำกัดไป แบบนี้ Nokia 3110 Classic ตีห่างไปอย่างน่าเสียดาย

Nokia 6085
Nokia 6085
Nokia 6085
เห็นรูปร่างก็แสนธรรมดา จอด้านนอกไม่ใช่จอสี แต่ภายในน่าสนใจเมื่อระดับราคาหล่นลงมาในกลุ่มห้าพันบาทเช่นกัน ด้วยความสามารถในการเล่นเพลง ถ่ายรูป แม้จะไม่ค่อยเน้นมากนัก แต่ก็น่าสนใจหากจะนำมาใช้เชื่อมต่อ EDGE มากทีเดียว แต่เห็นว่าต้องอัพ Firmware ช่วยแก้ไขปัญหาด้านการฟังเพลงและปัญหากับหน่วยความจำด้วย

คงจะต้องเทียบกันแล้วว่า ในระดับราคา 5000 - 6000 บาท ตัวไหนน่าเล่นกว่ากัน โดยดูจากความชอบด้านดีไซน์ ความคล่องตัวในการใช้งาน เรียกว่าการเปรียบมวยยกนี้ มีทั้งแบบฝาพับ สไลด์ และแบบแท่งมาประชันกันเลยทีเดียว

SAMSUNG E-250
Samsung E-250
Samsung E-250
สไลด์โฟนจากค่ายซัมซุง โผล่มาประชันกับพี่น้องสายเลือด Nokia กับราคาค่าตัวที่ดิ่งลงมา กับฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ จอของค่ายนี้สีสวยอยู่แล้วไม่ต้องห่วง แม้จะเป็น 65K ก็ตามเถอะ
กล้อง VGA, MP3, VDO Mpeg4, EDGE Class 10, Bluetooth ครบครันไม่แพ้มือถือตัวอื่นเลย แถมยังมี FM ให้อีก เรียกว่าคุณสมบัติครบเต็มตัวจริงๆ

สำหรับการเลือกซื้อมือถือที่รองรับ EDGE คงจะแล้วแต่ความพอใจ เพราะราคาก็พอๆกันอยู่แล้ว คงจะขึ้นอยู่กับความชอบในตัวแบรนด์ การคล่องตัวในการใช้งาน การเชื่อมต่อ และนอกจากนี้ยังมีอีกหลายรุ่นที่น่าสนใจ ลองหาข้อมูลกันดูตามงบประมาณที่ตั้งไว้ครับ

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ตรวจสอบคุณภาพการรับสัญญาณ EDGE ในพื้นที่ที่คุณใช้งานก่อนซื้อมือถือจะดีกว่า หรือถามเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่บ้านใกล้ๆกัน หรือจะออกอุบายพาเพื่อนที่ใช้มือถือรองรับ EDGE ไปที่บ้านเพื่อขอเช็คสัญญาณ EDGE ก็ไม่ว่ากัน เพราะคงตีเป็นค่าเหล้าอยู่แล้ว

นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย EDGE คือ ค่าบริการในการใช้งาน GPRS ตรวจสอบกันให้ดี ว่าคิดเป็นชั่วโมง นาที เหมาจ่ายเป็นรายวัน จะได้นับค่าใช้จ่ายกันได้ถูกต้องเหมาะสม ไม่ใช่ตะบี้ตะบันใช้กัน โดยไม่รอบคอบว่าคิดค่าบริการตามปริมาณการใช้งานข้อมูล [KB] ก็ต้องรับเคราะห์กันไป เพราะค่าบริการอาจสูงร่วมพัน ถึงหมื่นเลยทีเดียว จึงขอให้ตรวจสอบจากค่ายผู้ให้บริการก่อน ไม่ว่าจะเป็นระบบรายเดือน หรือเติมเงินครับ

หากสนใจข้อมูล สามารถหาข้อมูลได้จาก ห้องมาบุญครอง ในโซน Cafe ppantip.com ได้เลยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่