ตื่นตาตื่นใจไปกับภาพสมจริง ด้วยการเลือกซื้อการ์ดแสดงผลให้โดนใจ

กระทู้สนทนา
ในการประมวลผลภาพบนหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้น จำเป็นจะต้องใช้ชิปประมวลผลกราฟิคเพื่อช่วยแสดงรายละเอียดในการแสดงผลภาพให้สมจริง คมชัด โดยรวมแล้วเราสามารถแยกประเภทของชิปประมวลผลเป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ แบบชิบบนตัวเมนบอร์ด (On-board graphic chip) และการ์ดแสดงผลซึ่งเป็นการ์ดเชื่อมต่อบนสล็อตบนเมนบอร์ด โดยการสังเกตว่าคอมพิวเตอร์ของเรารองรับการ์ดแสดงผลแบบใด จะต้องดูจากชิปเซต และดูว่ามีสล็อตประเภทใดที่รองรับการเชื่อมต่อการ์ดแสดงผลด้วย

ปัจจุบันการ์ดแสดงผลมีการพัฒนาชิปประมวลผลให้ทันสมัยอยู่เสมอเพื่อให้สามารถรองรับการประมวลผลภาพที่สมจริง เรียกได้ว่าแทบจะทุกๆ 6 เดือนเลยก็ว่าได้ โดยมักจะเน้นในด้านการแสดงผลในเกมสามมิติ การแสดงแสงเงาที่สมจริงในฉากเกม นอกจากนี้ยังมีเหตุผลในการเลือกซื้อการ์ดแสดงผลคือเรื่องของการรองรับการเชื่อมต่อ เช่น พอร์ต DVI เพื่อใช้เชื่อมต่อกับจอแสดงภาพแบบ Flat-panel เชื่อมต่อกับโทรทัศน์ หรือภาครับวิทยุ FM รวมถึงการเชื่อมต่อกับวีดีโอต่างๆ เช่น S-Video และการเชื่อมต่อ Component ทำให้การ์ดแสดงผลเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่หลายคนพยายามไขว่หาการ์ดแสดงผลที่ดีที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุดอยู่เสมอ ซึ่งนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนกันบ่อยสำหรับนักเล่นเกมที่ต้องการความสามารถในการแสดงผลในระดับสูง โดยการ์ดแสดงผลรุ่นท็อปมักมีราคาในระดับ 1 – 2 หมื่นบาทเลยทีเดียว

ประเด็นสำคัญที่จะต้องพิจารณาในการเลือกซื้อการ์ดแสดงผล


(รูปภาพจาก http://www.pcstats.com)

Interface เข้าใจง่ายๆคือรูปแบบการเชื่อมต่อ นั่นคือรูปแบบของการ์ดที่เชื่อมต่อกับตัวเมนบอร์ดนั่นเอง โดยปัจจุบันจะมีรูปแบบการเชื่อมต่อแบบ PCI Express ที่สามารถเชื่อมต่อกับสล็อต PCI Express สำหรับพีซีรุ่นใหม่ หรือสำหรับรุ่นเก่าจะรองรับรูปแบบการเชื่อมต่อ AGP โดยจะมีความเร็ว 8X 4X และ 2X ซึ่งปัจจุบันจะมีให้เลือกเป็น AGP 8X* และ PCI Express x16 คุณไม่สามารถนำการ์ดแสดงผลแบบ AGP ติดตั้งลงในช่องเสียบการ์ดแบบ PCI Express โดยรูปแบบการเชื่อมต่อแบบ PCI Express จะมีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลมากกว่า AGP โดยทางทฤษฎีจะมีความเร็ว 16X ซึ่งเร็วกว่า 8X) สำหรับเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆจะมีรูปแบบการเชื่อมต่อแบบ PCI Express

Graphic Processor
เหมือนมันสมองในการประมวลผล โดยปัจจุบันเกมต่างๆได้รับการพัฒนาให้สามารถแสดงผลในรูปแบบสามมิติ ต้องขอบคุณการ์ดแสดงผลในปัจจุบันที่รองรับการแสดงผลที่สมจริงมากยิ่งขึ้น โดยชิปประมวลผลกราฟิก (Graphic Processing Unit : GPU) นั้นมีผลกับคุณภาพในการประมวลผลภาพมาก โดยชิปประมวลผลภาพจะแบ่งเป็น 2 ค่ายคือ nVidia และ ATi



ความสามารถในการแสดงผลภาพของการ์ดแสดงผลประสิทธิภาพสูงจะสามารถเรนเดอร์ภาพได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ภาพที่ออกมาสวยงาม สดใส ไม่สะดุด ไม่มีการกระตุกให้เห็นในการเล่นเกมส์ รับชมภาพยนตร์ โดยจะมีการวัดค่าในการแสดงผลภาพในหน่วยเฟรมต่อวินาที (Frame per second เรียกย่อๆว่า fps) เช่นการรับชมภาพ 30 fps คือการรับชมภาพที่ 30 เฟรมต่อวินาที (ต้องอธิบายก่อนว่าภาพที่เราเห็นนั้น จะมีการเปลี่ยนเฟรมของภาพอย่างรวดเร็วจนตาของเราจับไม่ทัน ทำให้ภาพมีความต่อเนื่อง หากมีการแสดงผลเฟรมภาพได้มาก ก็จะแสดงภาพได้อย่างนิ่มนวลมากยิ่งขึ้น โดยคุณสมบัติของการ์ดแสดงผลที่ต้องนำมาพิจารณาคือ Pixel Shading การแสดงผลภาพ, Transparency การแสดงภาพความคมชัด ความลึกของภาพ, High Dynamic-rang lighting การสร้างแสงเงาของภาพ และความละเอียดในการแสดงผลภาพ เช่น 1600x1200 จะใช้กับหน้าจอที่แสดงผลภาพขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ Antialiasing การเปิดคุณสมบัติทำให้ภาพมีความสมูท ไหลลื่น นิ่มนวล ไม่ดูแข็งกระด้าง



ในปัจจุบันเกมส่วนใหญ่มักจะใช้คุณสมบัติ DirectX 9 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผลภาพให้คมชัด ยอดเยี่ยม นำประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์มาใช้เร่งความเร็วในการแสดงผลกราฟิกมากยิ่งขึ้น

หน่วยความจำ
ในการใช้งานด้านกราฟิก เช่น การเล่นเกมส์ ตัดต่อวีดีโอ จำเป็นต้องอาศัยการส่งผ่านข้อมูลไปฝากไว้ในหน่วยความจำสำหรับรอการประมวลผลภาพในแสดงผลต่อไป ซึ่งในปัจจบันเกมต่างๆต้องการเนื้อที่หน่วยความจำจำนวนมากในการประมวลผล โดยการ์ดแสดงผลมักมากับหน่วยความจำชนิด GDDR3 ขนาด หน่วยความจำอย่างน้อย 128MB โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานกับ Windows Vista ระบบปฏิบัติการแห่งอนาคตกับคุณสมบัติ Aero Glass ส่วนในระดับเมนสตรีมแนะนำให้ใช้ขนาดหน่วยความจำที่ 256MB จนถึง 512MB โดยในปัจจุบัน (ไตรมาสที่ 1/2006) หน่วยความจำขนาด 512MB เป็นขนาดหน่วยความจำที่มากที่สุด

ในเกมเก่าๆ ขนาดหน่วยความจำ 128MB อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการในการเล่นเกม หากต้องการอัตราการแสดงผลเฟรมภาพที่สูง และสามารถรองรับการแสดงผลที่ความละเอียด 1600x1200 pixels ควรมีขนาดหน่วยความจำที่ 256MB แต่ความต้องการอาจไม่ได้มากขนาดนั้น สำหรับคนที่เล่นเกมเก่าๆอยู่อาจยังไม่ถึงเวลาอัพเกรด จนกว่าจะมีเกมใหม่ๆที่ถูกใจออกมาจึงค่อยทำการอัพเกรดภายหลัง

ในชิประมวลผลกราฟิกในบางรุ่น เช่นเมนบอร์ดในเครื่องพีซี (หรือโน้ตบุค) อาจใช้หน่วยความจำหลักของระบบมาใช้ในการประมวลผลภาพด้วย ซึ่งจะแบ่งส่วนหน่วยความจำของระบบไปใช้ในการแสดงผลภาพกราฟิก ทำให้หน่วยความจำที่ใช้ในระบบปฏิบัติการลดน้อยลง หากหน่วยความจำระบบน้อยเพียง 128MB เมื่อถูกแบ่งไปใช้งานด้านกราฟิกอาจทำให้เหลือหน่วยความจำเพียงแค่ 96MB เท่านั้น แต่สำหรับชิปบนเมนบอร์ดในบางรุ่น เช่น Intel Celeron อาจมีชิปประมวลผลภาพกราฟิกมาให้ นั่นหมายถึงมีหน่วยความจำในตัวชิปต่างหากด้วย

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีในการจัดการหน่วยความจำโดยจัดสรรหน่วยความจำของระบบมาใช้กับการ์ดแสดงผลครึ่งหนึ่ง คือเทคโนโลยี TurboCache จาก nVidia และ HyperMemory จาก ATi

พอร์ตเชื่อมต่อ 2 พอร์ต


กราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ๆจะให้พอร์ตเชื่อมต่อ 2 พอร์ต โดยอาจจะให้พอร์ต DVI (Digital) และพอร์ต VGA (Analog) หรือให้พอร์ต DVI ทั้ง 2 พอร์ตเลยก็เป็นได้ โดยการเชื่อมต่อแบบ DVI จะส่งสัญญาณแบบดิจิตอล ซึ่งให้คุณภาพในการแสดงผลที่ดีกว่าแบบอนาล็อค (พอร์ต DVI มักให้มากับจอภาพแบบ LCD) หรือจอแสดงผลระดับสูงที่รองรับการส่งผ่านข้อมูลแบบดิจิตอล สำหรับพอร์ต VGA หรือพอร์ค D-Sub 15 pin คือพอร์ตที่ใช้ต่อจอมอนิเตอร์แบบ CRT ทั่วๆไป จุดเด่นของการเชื่อมต่อจอแสดงผลแบบนี้คือสามารถเชื่อมต่อจอภาพได้มากถึง 2 - 4 จอเลยทีเดียว ทำให้เพิ่มพื้นที่การทำงานโปรแกรมต่างๆได้มากขึ้น หากการ์ดแสดงผลของคุณไม่มีพอร์ต VGA คุณก็สามารถเชื่อมต่อจอภาพแบบ DVI ผ่านทางตัวแปลง DVI-to-VGA ได้อีกด้วย

คลิกเพื่อดูภาพขนาดจริง
รูปแบบของพอร์ต DVI ชนิดต่างๆและพอร์ต VGA รวมทั้งอแดปเตอร์แปลง DVI to VGA



เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแสดงผลภาพ
ทั้ง nVidia และ ATi ต่างก็พัฒนาขีดความสามารถในการแสดงผลวีดีโอที่สมจริง ภาพคมชัด สดใส แยกแยะความแตกต่างของสีได้ดียิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี Avivo จาก ATi และ PureVideo จาก nVidia ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ DVD โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่ถ่ายทำด้วยความละเอียดระดับ High-definition ทำให้ภาพที่รับชมชัดเจน สดใส สมจริง มีชีวิตชีวา ไม่ใช่แค่จอภาพทื่อๆอีกต่อไป

ภาพคมชัด
ภาพคมชัด

สีสันสดใส
สีสันสดใส



พอร์ต S-Video-out/-in

S-Video port
S-Video port


รองรับการส่งสัญญาณภาพจากคอมพิวเตอร์ไปยังเครื่องรับโทรทัศน์ จอฉายภาพโปรเจคเตอร์ จอ VCR และอุปกรณ์แสดงผลภาพอื่นๆ นอกจากนี้คุณยังพบกับการเชื่อมต่อแบบ VIVO (ย่อมาจาก Video in/Video out) และพอร์ต S-Video ให้คุณรับชมภาพจากกล้องถ่ายภาพวีดีโอได้อย่างง่ายดาย หมายความว่าคุณสามารถรับและส่งสัญญาณภาพในพอร์ตเดียวกันได้อีกด้วย

Composite-out/-in

Composite Cable
Composite Cable


ทำงานเช่นเดียวกับพอร์ต S-Video แต่จะมีการส่งผ่านข้อมูลต่ำกว่า S-Video ใช้งานกับอุปกรณ์เก่าๆได้เป็นอย่างดี สำหรับการ์ดแสดงผลส่วนใหญ่มักจะให้สายแปลงพ่วงต่อ S-Video-to-composite อยู่แล้ว

TV-Tuner

TV Tuner Card
TV Tuner Card


รับชมรายการโทรทัศน์ บันทึกรายการโทรทัศน์สุดโปรด ปกติการ์ด TV Tuner จะจำหน่ายแยกจากการ์ดแสดงผล แต่หากการ์ดแสดงผลมีคุณสมบัตินี้ก็สามารถรับชมโทรทัศน์ได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ทันที

Overclocking
การปรับแต่งการ์ดแสดงผลให้ทำงานในระดับที่เกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดมาจากโรงงาน จะเป็นสวรรค์ของนักปรับแต่งที่ชอบการโมดิฟาย โดยผู้ผลิตการ์ดจะยอมให้ทำการโอเวอร์คล็อคในระดับหนึ่ง โดยมีการป้องกันความเสียหายจากการโอเวอร์คล็อค ผู้ผลิตบางรายอาจจำหน่ายการ์ดแสดงผลที่ปรับแต่งความเร็วสัญญาณนาฬิกามาให้แล้ว โดยกระทำอยู่ในมาตรฐานที่ไว้วางใจได้ นอกจากนี้ยังมีการ์ดแสดงผลที่แถมซอฟต์แวร์ในการปรับแต่งเป็นลูกเล่นให้อีกด้วย ทำให้มีบางคนซื้อการ์ดแสดงผลมาเพื่อการโอเวอร์คล็อคกันเลยทีเดียว แต่การปรับแต่งต้องอาศัยความชำนาญ และระมัดระวังความเสียหายและความร้อนที่สะสมจากการจูนเครื่องให้ทำงานเกินกำลังความสามารถ

Antialiasing

คลิกเพื่อดูภาพขนาดจริง
เปรียบเทียบคุณสมบัติ Antialiasing


เทคโนโลยีในการ์ดแสดงผลที่ช่วยในการลบรอยหยักของภาพ ช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวอย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด มีความคมชัดของภาพในระดับที่ไม่คมเกินไปนัก ภาพจะดูนุ่มนวลสบายตา คุณสมบัตินี้จะช่วยในการแสดงผลภาพในความละเอียดต่ำที่ภาพจะแตก หยาบ แสดงผลภาพในอัตราเฟรมเรตที่ต่ำ ทำให้ภาพที่ออกมาไม่แยกและหยาบจนเกินไป โดยคอเกมส์อาจเลือกเปิดคุณสมบัติเพื่อให้ภาพที่ละเอียด ราบรื่นยิ่งขึ้น หรือมีประสิทธิภาพในการแสดงผลสูงขึ้น

การรองรับการเชื่อมต่อแบบ Dual GPU

การเชื่อมต่อการ์ดแสดงผลแบบคู่
การเชื่อมต่อการ์ดแสดงผลแบบคู่


การรันการ์ดแสดงผล 2 ตัวในระบบเดียวกัน จะช่วยในการประมวลผลภาพที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยต้องใช้เมนบอร์ดที่รองรับการเชื่อมต่อการ์ดแสดงผลแบบคู่ โดยทางฝั่ง nVidia จะใช้เทคโนโลยี SLi (Scalable Link Interface) ส่วนทาง ATi จะมากับคุณสมบัติ CrossFire โดยการ์ดแสดงผลส่วนใหญ่ที่ใช้ความสามารถนี้จะสามารถแสดงผลที่ความละเอียด 1600x1200 pixel พร้อมเปิดใช้คุณสมบัติ antialiasing นอกจากนี้ทาง nVidia ยังได้พัฒนาชิปประมวลผลกราฟิกแบบ Quad-SLi ที่ให้การแสดงผลมากถึง 4 ชิปประมวลด้วยกัน (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก http://www.nvidia.com และ http://www.ati.com)

พิจารณาจากสเปค

จะแบ่งเป็น 3 ระดับดังนี้

ระดับล่าง ขนาดหน่วยความจำ 128MB-256MB
ระดับกลาง ขนาดหน่วยความจำ 256MB
ระดับบน ขนาดหน่วยความจำ 256- 512MB
(หากขนาดหน่วยความจำมาก ก็จะมีราคาสูง แต่จะให้ประสิทธิภาพในการแสดงผลดีกว่า)

ระดับล่าง ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 300 – 500 MHz
ระดับกลาง ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 400 – 500 MHz
ระดับบน ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 450 MHz ขึ้นไป
(ความเร็วสัญญาณนาฬิกาของการ์ดแสดงผลมีผลต่อประสิทธิภาพโดยรวมในการแสดงผล
ภาพ)

อินเทอร์เฟซการเชื่อมต่อ ทั้งระดับ ล่าง กลาง บน เลือกได้ทั้ง AGP / PCI Express
(ต้องพิจารณาจากเมนบอร์ดของคุณว่ารองรับการ์ดแสดงผลแบบใด หรือหากต้องการใช้การ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ๆ ก็ต้องเลือกเมนบอร์ดให้เหมาะสมด้วย)

การเชื่อมต่ออุปกรณ์แสดงผล
ระดับล่าง DVI 1 หรือ 2 พอร์ต
ระดับกลาง DVI 1 หรือ 2 พอร์ต
ระดับบน DVI 2 พอร์ต

พอร์ตการเชื่อมต่ออื่นๆ
ทุกระดับเลือกได้ทั้ง S-Video, Composite หรือ Component
(พิจารณาจากความสำคัญของงาน การตัดต่อวีดีโอแบบดิจิตอล พอร์ต S-Video จะดีกว่า นอกจากนี้ให้พิจารณาว่าอุปกรณ์ต่างๆที่คุณใช้งานรองรับพอร์ตชนิดใด)

พอร์ตการรับสัญญาณ:
ระดับล่าง ไม่ต้องมี Video/Audio input
ระดับกลางและบน Video Input / Audio Input
(หากต้องการบันทึกภาพจากโทรทัศน์หรือกล้องวีดีโอ การ์ดแสดงผลแบบ TV Tuner รองรับความสามารถในการบันทึกรายการโทรทัศน์อยู่แล้ว)

คำแนะนำในการเลือกซื้อ

1. ตรวจสอบชนิดการเชื่อมต่อการจอภาพที่คุณต้องการ รูปแบบการเชื่อมต่อที่เมนบอร์ดรองรับ หรือหากซื้อเมนบอร์ดแล้วให้พิจารณาว่าจะใช้การ์ดแสดงผลที่เชื่อมต่อในรูปแบบใด หรืออาจจะพิจารณาเลือกรูปแบบการเชื่อมต่อ จากนั้นจึงซื้อเมนบอร์ด และซีพียูก็ได้
2. ตรวจสอบการเข้ากันได้ของการ์ดแสดงผล โดยการ์ดแสดงผลจะมี AGP2x/4x/8x นอกจากนี้ยังมีแรงดันไฟที่ต่างกัน เช่น 3.3 โวลต์อีกด้วย
3. พิจารณาตั้งแต่ขั้นตอนการจัดสเปคคอมพิวเตอร์ ว่าจะใช้เมนบอร์ดที่รองรับการ์ดแสดงผลแบบใด แล้วจึงเลือกการ์ดแสดงผลที่ต้องการ หรือหากต้องการเชื่อมต่อการ์ดแสดงผลแบบคู่ก็ต้องเลือกตั้งแต่เมนบอร์ดเลยทีเดียว
4. ตรวจสอบให้ดีว่าโปรแกรมหรือเกมที่คุณใช้นั้น รองรับเทคโนโลยีใดบ้าง แล้วจึงเลือกให้เหมาะสมกับงานที่เราใช้จริง

ขอให้โชคดีในการเลือกซื้อการ์ดแสดงผลนะครับ

ข้อมูลอ้างอิงจาก [URL=http://www.pcworld.com/howto/bguide/0,guid,21,page,1,00.asp]http://www.pcworld.com/howto/bguide/0,guid,21,page,1,00.asp

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่