อยากลงไปขอโทษคุณลุงที่ถือของหนักคนนั้นจัง
เรื่องมีอยู่ว่า เราเข้าไปในลิฟท์ของคอนโด กำลังจะปิดประตูลิฟท์
คุณลุงท่านนึงหอบหิ้วถุงวิ่งมาเพื่อจะเข้ามาในลิฟท์ ตะโกนว่า " หนู รอด้วย รอด้วย "
ลิฟท์กำลังจะปิด เราจึงรีบ กด ๆๆๆ ที่สัญลักษณ์ลูกศรเพื่อให้ลิฟท์เปิด
กดเท่าไหร่มันก็ไม่เปิด ประตูลิฟท์ปิด และ ลิฟท์เลื่อนไปถึงชั้นสี่ เฮ้ย.. ไอ้ลิฟท์บ้า !!!
มือยังกดระรัวด้วยความเจ็บใจ เสียป่าววะเนียะ
คุณลุงเลยไม่ได้ขึ้นเลย ต้องคิดว่าเราแร้งน้ำใจแน่ๆ ..
ก่อนออกจากลิฟท์ ก็เอานิ้วจิ้มไปที่ปุ่มเปิดอีกที จึงได้รู้ว่า
ด้วยความตกใจ หรือรีบ ทำให้สมองสั่งการและตีความผิดพลาด
สมองสั่งให้เปิดลิฟท์ แต่ตีความสัญลักษณ์ลูกศรเป็นปิดลิฟท์ พระเจ้า
เรื่องนี้ทำให้เราย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์ในอดีตทันที
เมื่อครั้งนึงเราวิ่งจะเข้าลิฟท์ แล้วคนในลิฟท์ไม่กดเปิดให้
ความคิดผุดขึ้นมาโดยอัตโนมัติเลยว่าทำไมเขาไม่น้ำใจเลยนะ
กดปิดจนประตูลิฟท์แทบจะหนีบมือเราแน่ะ
เหตุผลมันคงเป็นแบบเดียวกันกับที่คุณลุงเจอ
และคนที่กดปิดลิฟท์ก็คงรู้สึกผิดเช่นเดียวกับเราตอนนั้น
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เราคงไม่โกรธคนที่ปิดลิฟท์ใส่เราคนนั้นหรอก..
อย่าเพิ่งตัดสินอะไรจากสิ่งที่เห็น
เรื่องมีอยู่ว่า เราเข้าไปในลิฟท์ของคอนโด กำลังจะปิดประตูลิฟท์
คุณลุงท่านนึงหอบหิ้วถุงวิ่งมาเพื่อจะเข้ามาในลิฟท์ ตะโกนว่า " หนู รอด้วย รอด้วย "
ลิฟท์กำลังจะปิด เราจึงรีบ กด ๆๆๆ ที่สัญลักษณ์ลูกศรเพื่อให้ลิฟท์เปิด
กดเท่าไหร่มันก็ไม่เปิด ประตูลิฟท์ปิด และ ลิฟท์เลื่อนไปถึงชั้นสี่ เฮ้ย.. ไอ้ลิฟท์บ้า !!!
มือยังกดระรัวด้วยความเจ็บใจ เสียป่าววะเนียะ
คุณลุงเลยไม่ได้ขึ้นเลย ต้องคิดว่าเราแร้งน้ำใจแน่ๆ ..
ก่อนออกจากลิฟท์ ก็เอานิ้วจิ้มไปที่ปุ่มเปิดอีกที จึงได้รู้ว่า
ด้วยความตกใจ หรือรีบ ทำให้สมองสั่งการและตีความผิดพลาด
สมองสั่งให้เปิดลิฟท์ แต่ตีความสัญลักษณ์ลูกศรเป็นปิดลิฟท์ พระเจ้า
เรื่องนี้ทำให้เราย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์ในอดีตทันที
เมื่อครั้งนึงเราวิ่งจะเข้าลิฟท์ แล้วคนในลิฟท์ไม่กดเปิดให้
ความคิดผุดขึ้นมาโดยอัตโนมัติเลยว่าทำไมเขาไม่น้ำใจเลยนะ
กดปิดจนประตูลิฟท์แทบจะหนีบมือเราแน่ะ
เหตุผลมันคงเป็นแบบเดียวกันกับที่คุณลุงเจอ
และคนที่กดปิดลิฟท์ก็คงรู้สึกผิดเช่นเดียวกับเราตอนนั้น
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เราคงไม่โกรธคนที่ปิดลิฟท์ใส่เราคนนั้นหรอก..