ในช่วงนี้มีขาวประเภทมิจฉาชีพแอบเอาเอกสารของชาวบ้านมาทำเรื่องกู้เงิน ทำบัตรเครดิต ไปค้ำประกัน โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง ทำให้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลโดยไม่จำเป็น แถมต้องเสียเวลาเสียสุขภาพจิตมาพิสูจน์ว่าเจ้าตัวไม่รู้เรื่อง
บางทีอาจจะต้องกลับมาแก้โดยวิธีที่ง่ายและโบราณที่สุด "แปะโป้ง"
ออกกฏหมายมาเลย การทำธุรกรรมทางการเงินประเภททำบัตรเครดิต บัตรเงินสด ขอสินเชื่อ ค้ำประกัน เปิดบัญชีเงินฝาก อะไรทำนองนี้ นอกจากเอกสารทั่วๆไปตามปกติแล้ว ต้องให้ใช้ลายแสกนนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตน โดยอาจจะอิงกับลายนิ้วมือที่มีอยู่ในฐานข้อมูลของหน่วยงานราชการตอนที่ทุกคนต้องแสกนตอนทำบัตรประชาชนอยู่แล้ว วิธีนี้น่าจะป้องกันการแอบเอาบัตรคนอื่นมาใช้ได้และวิธีนี้ทางแบงค์ก็น่าจะลงทุนได้เพราะเทียบกับความเสียหายแล้วถือว่าน้อยกว่ามาก
อีกประการ ธ.แห่งประเทศไทยน่าจะมีระบบกลางที่คอยป้องกันการนำเอกสารคนอื่นมาใช้ในทางมิชอบให้รัดกุมกว่านี้
-เปิดให้มีระบบที่ให้ผู้ไม่ประสงค์จะทำบัตรเครดิตหรือบัตรเงินสดมายืนยันตัวตน จากนั้นก็บล๊อคเลขบัตรประชาชนของผู้ที่มายืนยันว่าไม่ต้องการก่อหนี้หรือทำบัตรใดๆ จากนั้นแบงค์หรือบ.บัตรเงินสดเมื่อจะเปิดบัตรใหม่ให้ลูกค้าต้องมาตรวจสอบฐานข้อมูลตรงนี้ก่อน หากเลขบัตรนี้ถูกระบุว่าไม่ประสงค์จะทำบัตรก็เท่ากับว่าเลขบัตรนี้จะไม่สามารถนำไปใช้ทำบัตรใดๆได้อีก นอกเสียจากว่าเจ้าตัวจะไปยืนยันตัวตนแก้ไขข้อมูลด้วยลายนิ้วมือตัวเองในภายหลัง
ถ้าหากว่าเห็นด้วยกับความคิดดังกล่าวรบกวนช่วย Forward ไปมากๆนะครับ เสียงเบาๆแต่หากมีเป็นล้านๆเสียงก็น่าจะดังพอที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้
การป้องกันการแอบอ้างตัวตนที่ดีที่สุดและง่ายที่สุด "แปะโป้ง"
บางทีอาจจะต้องกลับมาแก้โดยวิธีที่ง่ายและโบราณที่สุด "แปะโป้ง"
ออกกฏหมายมาเลย การทำธุรกรรมทางการเงินประเภททำบัตรเครดิต บัตรเงินสด ขอสินเชื่อ ค้ำประกัน เปิดบัญชีเงินฝาก อะไรทำนองนี้ นอกจากเอกสารทั่วๆไปตามปกติแล้ว ต้องให้ใช้ลายแสกนนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตน โดยอาจจะอิงกับลายนิ้วมือที่มีอยู่ในฐานข้อมูลของหน่วยงานราชการตอนที่ทุกคนต้องแสกนตอนทำบัตรประชาชนอยู่แล้ว วิธีนี้น่าจะป้องกันการแอบเอาบัตรคนอื่นมาใช้ได้และวิธีนี้ทางแบงค์ก็น่าจะลงทุนได้เพราะเทียบกับความเสียหายแล้วถือว่าน้อยกว่ามาก
อีกประการ ธ.แห่งประเทศไทยน่าจะมีระบบกลางที่คอยป้องกันการนำเอกสารคนอื่นมาใช้ในทางมิชอบให้รัดกุมกว่านี้
-เปิดให้มีระบบที่ให้ผู้ไม่ประสงค์จะทำบัตรเครดิตหรือบัตรเงินสดมายืนยันตัวตน จากนั้นก็บล๊อคเลขบัตรประชาชนของผู้ที่มายืนยันว่าไม่ต้องการก่อหนี้หรือทำบัตรใดๆ จากนั้นแบงค์หรือบ.บัตรเงินสดเมื่อจะเปิดบัตรใหม่ให้ลูกค้าต้องมาตรวจสอบฐานข้อมูลตรงนี้ก่อน หากเลขบัตรนี้ถูกระบุว่าไม่ประสงค์จะทำบัตรก็เท่ากับว่าเลขบัตรนี้จะไม่สามารถนำไปใช้ทำบัตรใดๆได้อีก นอกเสียจากว่าเจ้าตัวจะไปยืนยันตัวตนแก้ไขข้อมูลด้วยลายนิ้วมือตัวเองในภายหลัง
ถ้าหากว่าเห็นด้วยกับความคิดดังกล่าวรบกวนช่วย Forward ไปมากๆนะครับ เสียงเบาๆแต่หากมีเป็นล้านๆเสียงก็น่าจะดังพอที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้