ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลได้เปิดเผยฉายารัฐบาล ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยให้ชื่อฉายารัฐบาล "พี่คนแรก" รวมทั้งยังมีวาทะแห่งปีที่เป็นคำพูดของนายกฯ และไฮไลท์คือการตั้งฉายาของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี รวม 10 คน ด้วย
ฉายารัฐบาลประจำปี 2555ฉายารัฐบาล :
"พี่คนแรก" ความหมาย : ล้อคำมาจากนโยบายที่ขึ้นชื่อของรัฐบาล เช่น รถคันแรก บ้านหลังแรก แต่ด้วยความที่รัฐบาลต้องทำงานบริหารประเทศ โดยมีเงาของพี่ชาย พี่สาว พาดผ่านเข้ามา รวมไปถึงปัญหาต่าง ๆ ก็มาจากเรื่องของพี่ ทั้งปัญหาของบ้านเมือง ข้าวของแพง ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ข้อครหาทุจริตไม่ได้รับการแก้ไข หรือชี้แจงอย่างชัดเจน เรียกได้ว่า เอะอะอะไรก็พี่ เรื่องของพี่ต้องมาก่อน ต้องมาเป็นอับดับแรก
วาทะแห่งปี 27 พ.ย.55 "คำว่าลอยตัวนั้นต่างกับคำว่าไม่รับผิดชอบ" นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา หลังถูกกล่าวหาเรื่องการขาดความรับผิดชอบ ลอยตัวเหนือปัญหา ไม่ชี้แจงประเด็นที่ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะเรื่องนโยบายรับจำนำข้าว โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่ถูกตั้งข้อสังเกตถึงความไม่โปร่งใส และเอื้อประโยชน์พวกพ้อง
ฉายารัฐมนตรี 1. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ได้ฉายา " ปูกรรเชียง " ความหมาย : ล้อจากชื่อเล่นของนายกฯ คือ "ปู" ซึ่งลักษณะของปู คือ เดินเซไปเซมา ไม่ตรงทาง ในการบริหารงานของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ต้องแบกภาระ และใบสั่งจากพี่ชายชื่อทักษิณ พี่สาว (เจ๊ ด.) แม้แต่คนรอบข้างก็คอยลากไปลากมา ทำงานไม่เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรม ได้แต่เดินโชว์ไปโชว์มา เมื่อมีปัญหาทางการเมือง ก็มักจะตีกรรเชียง ลอยตัวหนีปัญหา
2. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา "กันชนตระกูลชิน" ความหมาย : บอดี้การ์ดคอยปกป้องนายกฯ และนายใหญ่ โดยเฉพาะคนตระกูลชินวัตร ทุกรูปแบบทั้งงานในสภาและม๊อบต้านรัฐบาล เดินหน้าท้าชนทุกเรื่อง แต่กลัวการลงไปแก้ปัญหาภาคใต้ ผลงานโดดเด่น คือการปราบปรามยาเสพติด
3. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ฉายา "ลูกไก่ไวท์ไล" ความหมาย : เป็นถึงรองนายกฯ ที่กำกับดูแลงานด้านเศรษฐกิจของประเทศ แต่กลับดิสเครดิตตัวเองจากกรณีโกหกสีขาว คือ การตั้งเป้าทางเศรษฐกิจเกินจริง จนถึงถูกตราหน้าว่า ขี้โกหก เหมือนเด็กเลี้ยงแกะ ส่วนคำว่าลูกไก่ ล้อจากชื่อเล่น "โต้ง" แต่เนื่องจากผลงาน และประสบการณ์ทางการเมืองยังไม่เด่นชัดและเก่งกาจตามที่ถูกคาดหวัง จึงเป็นได้เพียงลูกไก่ ไม่ใช่ไก่โต้ง
4. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ฉายา "ตามล่าหน้าหล่อ" ความหมาย : ตำแหน่งใหญ่โตแต่กลับไม่มีผลงานโดดเด่นด้านความมั่นคง ผลงานเป็นที่ประจักษ์เพียงอย่างเดียว คือ การไล่ล่าอดีตนายกฯหน้าหล่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อถอดยศกรณีหนีการเกณฑ์ทหาร นอกจากนี้ยังถูกหลานโอ๊ค "พานทองแท้ ชินวัตร" โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค สั่งสอนข่าวลอบทำร้ายพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆที่พานทองแท้เป็นเพียงเด็กที่ผ่านการเรียนร.ด.มาเท่านั้น แต่สามารถสั่งสอนคนระดับนายพลได้
5. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ฉายา "ไพร่เทียม" ความหมาย : เป็นโควต้าหนึ่งเดียวของนปช. คนเสื้อแดงที่ได้เป็นรัฐมนตรี แม้ในการปรับคณะรัฐมนตรีล่าสุดก็ยังคงได้เป็นรัฐมนตรี ส่งผลให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ 1 ในแกนนำนปช.ที่ได้รับการคาดหมายจะได้รับตำแหน่งต้องพลาดหวัง ขณะที่ผลงานไม่เด่นชัด มีชัดเจนเพียงการพูดเก่ง ดีแต่ปาก ขณะที่เมื่อมาเป็นรัฐมนตรีกลับใช้ชีวิตและการทำงานลักษณะอำมาตย์ ไม่ต่างจากคำว่าไพร่เทียม
6. นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ฉายา "บุญทรุด" ความหมาย : รัฐนตรีที่รับผิดชอบนโยบายหลักของรัฐบาล คือ รับจำนำข้าว การแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง แต่กลับถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยเฉพาะเรื่องการรับจำนำข้าว แทนที่จะเป็นผลงาน กลับกลายเป็นจุดอ่อน ให้ถูกโจมตี ข้อกล่าวหาต่างๆไม่สามารถชี้แจงได้ อาทิ สัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี ขณะเดียวกันกลับถูกมองว่า ที่ยัสามารถเป็นรัฐมนตรีอยู่ได้เพราะเป็นเด็กเจ๊ ด.
7. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ฉายา "ด.ดันดี" ความหมาย : เด็กเจ๊แดง ผลงานไม่เป็นที่ปรากฏ แต่ไม่เคยถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี ยึดเก้าอี้ได้เหนียวแน่น แถมล่าสุดยังไต่ระดับขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการเลยทีเดียว เชื่อว่ามีแรงดันดีจากเจ๊ด.อีกคน
8. นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ฉายา "โฟร์แมนสแตนด์บาย" ความหมาย : เป็นรัฐมนตรีน้องใหม่และเป็นที่คาดหวังของรัฐมนตรีน้ำดีซึ่งถูกมอบหมายให้ทำงานสารพัด ไฟแรง เป็นคนเก่ง ประกาศไม่ขอยุ่งการเมือง เร่งผลักดันงานด้านคมนาคม รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าต่างๆ เป็นคนที่มีหุ่นล่ำทรมานใจสาวๆ
9. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา "ปั้นน้ำเป็นทุน" ความหมาย : ผลงานโดดเด่น คือรับผิดชอบการแก้ปัญหาน้ำท่วม และเนื่องจากปีนี้น้ำไม่ท่วม มั่นใจว่าเป็นฝีมือของตนเอง จึงคุยโม้และแอ๊คอ๊าร์ท โดยเฉพาะเมื่อได้รับการเลื่อนขั้นจากรัฐมนตรีขึ้นเป็นรองนายกฯ ที่ได้ดูแลโปรเจ็กต์น้ำมูลค่ากว่า 3.5 แสนล้าน
10. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ฉายา "สิงห์สำรอง" ความหมาย : สัญลักษณ์ของกระทรวงมหาดไทย คือสิงห์ แต่เส้นทางการเข้ามาทำหน้าที่ของนายจารุพงษ์ ทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถูกมองว่าเป็นเพียงหุ่นเชิด ไม่ใช่ตัวจริง แกทั้งเป็นการเดินตามรอยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่เจอวิกฤติการเมืองจนต้องลาออกไป จึงถูกมองว่าเป็นได้เพียงสิงห์สำรองเท่านั้น
สรุป ฉายารัฐบาล 2555
ฉายารัฐบาลประจำปี 2555ฉายารัฐบาล :
"พี่คนแรก" ความหมาย : ล้อคำมาจากนโยบายที่ขึ้นชื่อของรัฐบาล เช่น รถคันแรก บ้านหลังแรก แต่ด้วยความที่รัฐบาลต้องทำงานบริหารประเทศ โดยมีเงาของพี่ชาย พี่สาว พาดผ่านเข้ามา รวมไปถึงปัญหาต่าง ๆ ก็มาจากเรื่องของพี่ ทั้งปัญหาของบ้านเมือง ข้าวของแพง ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ข้อครหาทุจริตไม่ได้รับการแก้ไข หรือชี้แจงอย่างชัดเจน เรียกได้ว่า เอะอะอะไรก็พี่ เรื่องของพี่ต้องมาก่อน ต้องมาเป็นอับดับแรก
วาทะแห่งปี 27 พ.ย.55 "คำว่าลอยตัวนั้นต่างกับคำว่าไม่รับผิดชอบ" นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา หลังถูกกล่าวหาเรื่องการขาดความรับผิดชอบ ลอยตัวเหนือปัญหา ไม่ชี้แจงประเด็นที่ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะเรื่องนโยบายรับจำนำข้าว โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่ถูกตั้งข้อสังเกตถึงความไม่โปร่งใส และเอื้อประโยชน์พวกพ้อง
ฉายารัฐมนตรี 1. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ได้ฉายา " ปูกรรเชียง " ความหมาย : ล้อจากชื่อเล่นของนายกฯ คือ "ปู" ซึ่งลักษณะของปู คือ เดินเซไปเซมา ไม่ตรงทาง ในการบริหารงานของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ต้องแบกภาระ และใบสั่งจากพี่ชายชื่อทักษิณ พี่สาว (เจ๊ ด.) แม้แต่คนรอบข้างก็คอยลากไปลากมา ทำงานไม่เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรม ได้แต่เดินโชว์ไปโชว์มา เมื่อมีปัญหาทางการเมือง ก็มักจะตีกรรเชียง ลอยตัวหนีปัญหา
2. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา "กันชนตระกูลชิน" ความหมาย : บอดี้การ์ดคอยปกป้องนายกฯ และนายใหญ่ โดยเฉพาะคนตระกูลชินวัตร ทุกรูปแบบทั้งงานในสภาและม๊อบต้านรัฐบาล เดินหน้าท้าชนทุกเรื่อง แต่กลัวการลงไปแก้ปัญหาภาคใต้ ผลงานโดดเด่น คือการปราบปรามยาเสพติด
3. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ฉายา "ลูกไก่ไวท์ไล" ความหมาย : เป็นถึงรองนายกฯ ที่กำกับดูแลงานด้านเศรษฐกิจของประเทศ แต่กลับดิสเครดิตตัวเองจากกรณีโกหกสีขาว คือ การตั้งเป้าทางเศรษฐกิจเกินจริง จนถึงถูกตราหน้าว่า ขี้โกหก เหมือนเด็กเลี้ยงแกะ ส่วนคำว่าลูกไก่ ล้อจากชื่อเล่น "โต้ง" แต่เนื่องจากผลงาน และประสบการณ์ทางการเมืองยังไม่เด่นชัดและเก่งกาจตามที่ถูกคาดหวัง จึงเป็นได้เพียงลูกไก่ ไม่ใช่ไก่โต้ง
4. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ฉายา "ตามล่าหน้าหล่อ" ความหมาย : ตำแหน่งใหญ่โตแต่กลับไม่มีผลงานโดดเด่นด้านความมั่นคง ผลงานเป็นที่ประจักษ์เพียงอย่างเดียว คือ การไล่ล่าอดีตนายกฯหน้าหล่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อถอดยศกรณีหนีการเกณฑ์ทหาร นอกจากนี้ยังถูกหลานโอ๊ค "พานทองแท้ ชินวัตร" โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค สั่งสอนข่าวลอบทำร้ายพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆที่พานทองแท้เป็นเพียงเด็กที่ผ่านการเรียนร.ด.มาเท่านั้น แต่สามารถสั่งสอนคนระดับนายพลได้
5. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ฉายา "ไพร่เทียม" ความหมาย : เป็นโควต้าหนึ่งเดียวของนปช. คนเสื้อแดงที่ได้เป็นรัฐมนตรี แม้ในการปรับคณะรัฐมนตรีล่าสุดก็ยังคงได้เป็นรัฐมนตรี ส่งผลให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ 1 ในแกนนำนปช.ที่ได้รับการคาดหมายจะได้รับตำแหน่งต้องพลาดหวัง ขณะที่ผลงานไม่เด่นชัด มีชัดเจนเพียงการพูดเก่ง ดีแต่ปาก ขณะที่เมื่อมาเป็นรัฐมนตรีกลับใช้ชีวิตและการทำงานลักษณะอำมาตย์ ไม่ต่างจากคำว่าไพร่เทียม
6. นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ฉายา "บุญทรุด" ความหมาย : รัฐนตรีที่รับผิดชอบนโยบายหลักของรัฐบาล คือ รับจำนำข้าว การแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง แต่กลับถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยเฉพาะเรื่องการรับจำนำข้าว แทนที่จะเป็นผลงาน กลับกลายเป็นจุดอ่อน ให้ถูกโจมตี ข้อกล่าวหาต่างๆไม่สามารถชี้แจงได้ อาทิ สัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี ขณะเดียวกันกลับถูกมองว่า ที่ยัสามารถเป็นรัฐมนตรีอยู่ได้เพราะเป็นเด็กเจ๊ ด.
7. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ฉายา "ด.ดันดี" ความหมาย : เด็กเจ๊แดง ผลงานไม่เป็นที่ปรากฏ แต่ไม่เคยถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี ยึดเก้าอี้ได้เหนียวแน่น แถมล่าสุดยังไต่ระดับขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการเลยทีเดียว เชื่อว่ามีแรงดันดีจากเจ๊ด.อีกคน
8. นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ฉายา "โฟร์แมนสแตนด์บาย" ความหมาย : เป็นรัฐมนตรีน้องใหม่และเป็นที่คาดหวังของรัฐมนตรีน้ำดีซึ่งถูกมอบหมายให้ทำงานสารพัด ไฟแรง เป็นคนเก่ง ประกาศไม่ขอยุ่งการเมือง เร่งผลักดันงานด้านคมนาคม รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าต่างๆ เป็นคนที่มีหุ่นล่ำทรมานใจสาวๆ
9. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา "ปั้นน้ำเป็นทุน" ความหมาย : ผลงานโดดเด่น คือรับผิดชอบการแก้ปัญหาน้ำท่วม และเนื่องจากปีนี้น้ำไม่ท่วม มั่นใจว่าเป็นฝีมือของตนเอง จึงคุยโม้และแอ๊คอ๊าร์ท โดยเฉพาะเมื่อได้รับการเลื่อนขั้นจากรัฐมนตรีขึ้นเป็นรองนายกฯ ที่ได้ดูแลโปรเจ็กต์น้ำมูลค่ากว่า 3.5 แสนล้าน
10. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ฉายา "สิงห์สำรอง" ความหมาย : สัญลักษณ์ของกระทรวงมหาดไทย คือสิงห์ แต่เส้นทางการเข้ามาทำหน้าที่ของนายจารุพงษ์ ทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถูกมองว่าเป็นเพียงหุ่นเชิด ไม่ใช่ตัวจริง แกทั้งเป็นการเดินตามรอยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่เจอวิกฤติการเมืองจนต้องลาออกไป จึงถูกมองว่าเป็นได้เพียงสิงห์สำรองเท่านั้น