อนิเมเรื่องนี้สนุกมากๆค่ะ เป็นแนวที่เราชอบเลยล่ะ ดาร์ก ลึกลับ แฟนตาซี ไซโค แล้วก็รูปแบบความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนที่ซับซ้อน(ที่สุด)
ตอนแรกเป็นเมะนอกสายตาค่ะ เพราะอ่านเรื่องย่อดูแล้วเหมือนจะไม่ดึงดูด คือกล่าวถึงโลกในอนาคตที่มนุษย์ใช้เวทมนตร์ได้ แล้วก็มีสัตว์แปลกๆเกิดขึ้นมาใช่มั้ยคะ แต่พอดูเทรเลอร์ไปก็รู้สึกว่า เฮ้ย เจ๋ง ทั้งงานภาพ ทั้งเพลง ส่งให้บรรยากาศในเรื่องดูน่าค้นหามาก ก็เลยลองดูไปตอนหนึ่ง ปรากฎว่าประทับใจมากค่ะ แม้ว่าเรื่องจะยืดยาดไปในช่วงตอนแรกที่ซากิกับซาโตรุไปสู้กับสงครามของพวกหนูผี แต่พอกลับมาคิดดูแล้ว เนื้อเรื่องในช่วงนั้นน่าจะเป็นส่วนที่ตัดออกไม่ได้ด้วยเหตุผลบางอย่างแน่นอน
(ตั้งแต่ส่วนนี้ไปเป็นสปอยล์ค่ะ)
หลังจากกลับมาจากอีเว้นท์สงครามหนูผี เรื่องในวัยสิบสี่ของกลุ่มนางเอกก็กลับตารปัดหมด ซากิคบกับมาเรีย ซาโตรุกับชุนก็... อืม สิ่งนี้กระชากสติเรากลับมาจากความยืดในช่วงก่อนหน้านี้ เกิดคำถามขึ้นมากมายว่าทำไม ได้ยังไง แล้วเราก็พอว่าจริงๆเขาปูทางให้เรามาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ทั้งเรื่องเพศ เรื่องภาวะความเครียดของซาโตรุกับซากิที่เกือบจะทำอะไรกันตอนถูกหนูผีจับตัวไป จนซากิพูดเตือนขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า พวกเราไม่ใช่ลิงนะ ทั้งตอนจบของตอนแปดที่ชุนไปบอกเลิกซาโตรุ แล้วพูดว่า น่าขยะแขยง(ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งแลกลิ้นกันไปสดๆ = =")
และในที่สุดเมื่อชุนตาย เราก็พบว่าตอนหนูผีนั้น อาจมีเพื่อให้คนอ่านเห็นความใกล้ชิดระหว่างซากิกับซาโตรุก็ได้ ซึ่งถ้าหากไม่มีตอนนี้ เราอาจจะเห็นภาพไม่ชัดว่าทำไมซากิถึงเลือกซาโตรุทั้งที่ยังรักชุน เพราะเหตุการณ์นั้นแสดงให้เห็นว่า นิสัยของทั้งคู่เข้าขากันได้ดีมากๆ มีความกล้าหาญพอๆกัน ไม่มีใครถ่วงใคร แต่ซาโตรุจะใจร้อนกว่า ในขณะที่ซากิเยือกเย็น ความสมดุลนี้ทำให้ทั้งสองกลายเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าเหตุการณ์หลักสำคัญอะไรมาถึง เราจะเห็นว่าสองคนนี้จะเป็นผู้นำในการตามหาความจริงเสมอ รวมทั้งตอนเรื่องของชุนด้วย และด้วยความที่ทั้งคู่มีอะไรหลายอย่างคล้ายกันนี่เอง จึงไม่น่าแปลกใจที่ทั้งคู่จะหลงรักชุนเหมือนกัน
เรียกได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ของพระเอกนางเอกที่แปลกใหม่มากจนชวนเวียนหัวเลยทีเดียว (แน่ละ ไม่ค่อยมีเรื่องไหนที่พระเอกกับนางเอกหลงรักผู้ชายคนเดียวกันบ่อยๆหรอก)
เราดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกประทับใจอะไรหลายอย่างมาก แต่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ค่อยจะถูกว่ารู้สึกอะไรบ้าง
เรารู้สึกว่ามันมีทั้งมุมมองด้านสังคม จิตวิทยา เพศ วัฒนธรรมที่ละเอียดลึกซึ้ง เหมือนคนเขียนบทศึกษาเรื่องพวกนี้มาแล้วสะท้อนความคิด ความรู้ และการวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของสังคมมนุษย์ผสมจินตนาการลงไปในเรื่องยังไงยังงั้น ยิ่งเสพเนื้อหาของมันยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นแนวปรัชญาที่ "เยอะ" เกินกว่าจะเป็นโนเวลวัยรุ่นทั่วไป แต่มันเหมือนเนื้อหาของวรรณกรรมระดับรางวัลมากกว่า(เว่อร์ไปมั้ย แต่คิดแบบนั้นจริงๆนะ)
เรื่องนี้ทำให้เราเชื่อสนิทว่า ทุกอย่างมาจาก "โลกใบใหม่" จริงๆ สมกับชื่อเรื่อง เพราะทุกอย่างคือสิ่งใหม่หมด สิ่งที่เราไม่รู้จักและไม่มีอยู่ในสังคมธรรมดาของเรา แต่ก็มีบางอย่างที่เหมือนจะสื่อว่า มันก็คือสิ่งที่พัฒนามาจากสภาพสังคมเราตอนนี้นั่นแหละ แค่ต่อยอดไปในอนาคตอีกหลายพันปี เท่านั้นเอง
ทั้งเรื่องระบบการศึกษา การสอนเด็กในโรงเรียนก็ต่างจากวัฒนธรรมปกติแล้ว เด็กคนไหนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ต้องเก็บทิ้งเนี่ย มันต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่าง การที่เด็กวัยรุ่นช่วงหนึ่งรักเพศเดียวกันเป็นปกติก็เหมือนกัน หลายคนดูแล้วขนลุกถึงขั้นเลิกดูไปเลย แต่ว่าตัวละครทุึกตัวในเรื่องกลับไม่มีอาการรังเกียจใดๆ เสมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะมี sex กับเพื่อนเพศเดียวกัน แล้วกลับมารักเพศตรงข้ามอีกหลังจากนั้น
ทั้งการกำจัดเด็กที่จะเป็นปัญหา โดยที่ไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเรื่องถูกหรือผิด ความกลัวที่จะรับรู้ความจริง ความกลัวที่จะเปิดเผยความจริงแก่เด็ก การกำจัดคนที่แตกต่างและความควบคุมไม่ได้ โดยที่ไม่รู้เลยว่ามันจะมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่าการกำจัดไปตั้งแต่แรกหรือไม่ และการทำให้เด็ก "ไม่ต้องรับรู้อะไรเลย" นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วจริงหรือ? เป็นเพียงการปกป้อง "คนที่อ่อนแอที่สุด" เอาไว้ หรือเพื่ออะไรกันแน่ แล้วความอ่อนแอนั้น ใครกันที่เป็นคนตัดสินว่าคนๆนี้อ่อนแอ
เราดูเรื่องนี้ถึงตอนสิบสามค่ะ ได้ยินมาว่าตัดรายละเอียดจากนิยายไปเยอะ เราอยากอ่านนิยายเรื่องนี้แปลไทยมากๆ ไม่รู้ว่าจะมีคนเอามาแปลขายหรือเปล่า
อยากให้มีมากๆค่ะ
Shin Sekai Yori (จากโลกใบใหม่) มีนิยายแปลไทยมั้ยคะ
ตอนแรกเป็นเมะนอกสายตาค่ะ เพราะอ่านเรื่องย่อดูแล้วเหมือนจะไม่ดึงดูด คือกล่าวถึงโลกในอนาคตที่มนุษย์ใช้เวทมนตร์ได้ แล้วก็มีสัตว์แปลกๆเกิดขึ้นมาใช่มั้ยคะ แต่พอดูเทรเลอร์ไปก็รู้สึกว่า เฮ้ย เจ๋ง ทั้งงานภาพ ทั้งเพลง ส่งให้บรรยากาศในเรื่องดูน่าค้นหามาก ก็เลยลองดูไปตอนหนึ่ง ปรากฎว่าประทับใจมากค่ะ แม้ว่าเรื่องจะยืดยาดไปในช่วงตอนแรกที่ซากิกับซาโตรุไปสู้กับสงครามของพวกหนูผี แต่พอกลับมาคิดดูแล้ว เนื้อเรื่องในช่วงนั้นน่าจะเป็นส่วนที่ตัดออกไม่ได้ด้วยเหตุผลบางอย่างแน่นอน
(ตั้งแต่ส่วนนี้ไปเป็นสปอยล์ค่ะ)
หลังจากกลับมาจากอีเว้นท์สงครามหนูผี เรื่องในวัยสิบสี่ของกลุ่มนางเอกก็กลับตารปัดหมด ซากิคบกับมาเรีย ซาโตรุกับชุนก็... อืม สิ่งนี้กระชากสติเรากลับมาจากความยืดในช่วงก่อนหน้านี้ เกิดคำถามขึ้นมากมายว่าทำไม ได้ยังไง แล้วเราก็พอว่าจริงๆเขาปูทางให้เรามาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ทั้งเรื่องเพศ เรื่องภาวะความเครียดของซาโตรุกับซากิที่เกือบจะทำอะไรกันตอนถูกหนูผีจับตัวไป จนซากิพูดเตือนขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า พวกเราไม่ใช่ลิงนะ ทั้งตอนจบของตอนแปดที่ชุนไปบอกเลิกซาโตรุ แล้วพูดว่า น่าขยะแขยง(ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งแลกลิ้นกันไปสดๆ = =")
และในที่สุดเมื่อชุนตาย เราก็พบว่าตอนหนูผีนั้น อาจมีเพื่อให้คนอ่านเห็นความใกล้ชิดระหว่างซากิกับซาโตรุก็ได้ ซึ่งถ้าหากไม่มีตอนนี้ เราอาจจะเห็นภาพไม่ชัดว่าทำไมซากิถึงเลือกซาโตรุทั้งที่ยังรักชุน เพราะเหตุการณ์นั้นแสดงให้เห็นว่า นิสัยของทั้งคู่เข้าขากันได้ดีมากๆ มีความกล้าหาญพอๆกัน ไม่มีใครถ่วงใคร แต่ซาโตรุจะใจร้อนกว่า ในขณะที่ซากิเยือกเย็น ความสมดุลนี้ทำให้ทั้งสองกลายเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าเหตุการณ์หลักสำคัญอะไรมาถึง เราจะเห็นว่าสองคนนี้จะเป็นผู้นำในการตามหาความจริงเสมอ รวมทั้งตอนเรื่องของชุนด้วย และด้วยความที่ทั้งคู่มีอะไรหลายอย่างคล้ายกันนี่เอง จึงไม่น่าแปลกใจที่ทั้งคู่จะหลงรักชุนเหมือนกัน
เรียกได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ของพระเอกนางเอกที่แปลกใหม่มากจนชวนเวียนหัวเลยทีเดียว (แน่ละ ไม่ค่อยมีเรื่องไหนที่พระเอกกับนางเอกหลงรักผู้ชายคนเดียวกันบ่อยๆหรอก)
เราดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกประทับใจอะไรหลายอย่างมาก แต่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ค่อยจะถูกว่ารู้สึกอะไรบ้าง
เรารู้สึกว่ามันมีทั้งมุมมองด้านสังคม จิตวิทยา เพศ วัฒนธรรมที่ละเอียดลึกซึ้ง เหมือนคนเขียนบทศึกษาเรื่องพวกนี้มาแล้วสะท้อนความคิด ความรู้ และการวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของสังคมมนุษย์ผสมจินตนาการลงไปในเรื่องยังไงยังงั้น ยิ่งเสพเนื้อหาของมันยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นแนวปรัชญาที่ "เยอะ" เกินกว่าจะเป็นโนเวลวัยรุ่นทั่วไป แต่มันเหมือนเนื้อหาของวรรณกรรมระดับรางวัลมากกว่า(เว่อร์ไปมั้ย แต่คิดแบบนั้นจริงๆนะ)
เรื่องนี้ทำให้เราเชื่อสนิทว่า ทุกอย่างมาจาก "โลกใบใหม่" จริงๆ สมกับชื่อเรื่อง เพราะทุกอย่างคือสิ่งใหม่หมด สิ่งที่เราไม่รู้จักและไม่มีอยู่ในสังคมธรรมดาของเรา แต่ก็มีบางอย่างที่เหมือนจะสื่อว่า มันก็คือสิ่งที่พัฒนามาจากสภาพสังคมเราตอนนี้นั่นแหละ แค่ต่อยอดไปในอนาคตอีกหลายพันปี เท่านั้นเอง
ทั้งเรื่องระบบการศึกษา การสอนเด็กในโรงเรียนก็ต่างจากวัฒนธรรมปกติแล้ว เด็กคนไหนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ต้องเก็บทิ้งเนี่ย มันต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่าง การที่เด็กวัยรุ่นช่วงหนึ่งรักเพศเดียวกันเป็นปกติก็เหมือนกัน หลายคนดูแล้วขนลุกถึงขั้นเลิกดูไปเลย แต่ว่าตัวละครทุึกตัวในเรื่องกลับไม่มีอาการรังเกียจใดๆ เสมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะมี sex กับเพื่อนเพศเดียวกัน แล้วกลับมารักเพศตรงข้ามอีกหลังจากนั้น
ทั้งการกำจัดเด็กที่จะเป็นปัญหา โดยที่ไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเรื่องถูกหรือผิด ความกลัวที่จะรับรู้ความจริง ความกลัวที่จะเปิดเผยความจริงแก่เด็ก การกำจัดคนที่แตกต่างและความควบคุมไม่ได้ โดยที่ไม่รู้เลยว่ามันจะมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่าการกำจัดไปตั้งแต่แรกหรือไม่ และการทำให้เด็ก "ไม่ต้องรับรู้อะไรเลย" นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วจริงหรือ? เป็นเพียงการปกป้อง "คนที่อ่อนแอที่สุด" เอาไว้ หรือเพื่ออะไรกันแน่ แล้วความอ่อนแอนั้น ใครกันที่เป็นคนตัดสินว่าคนๆนี้อ่อนแอ
เราดูเรื่องนี้ถึงตอนสิบสามค่ะ ได้ยินมาว่าตัดรายละเอียดจากนิยายไปเยอะ เราอยากอ่านนิยายเรื่องนี้แปลไทยมากๆ ไม่รู้ว่าจะมีคนเอามาแปลขายหรือเปล่า
อยากให้มีมากๆค่ะ