นับว่าออกจะช็อควงการจอแก้วทีเดียว หากใครที่เป็นแฟนรายการของค่าย "ทริปเปิ้ลทู" ภายใต้การดูแลของ "เกียรติ กิจเจริญ" และ "ชาญณรงค์ ขันทีท้าว" เจ้าของนิคเนมอมตะ "ซูโม่กิ๊ก"-"ติ๊ก กลิ่นสี" ก็คงจะได้รับทราบบ้างแล้วว่า ในปีหน้า เราจะไม่ได้พบกับรายการ "อัพทูยูคู่ซ่า" รวมถึง "กิ๊กดู๋ สงครามเพลง" ที่วิกหมอชิต-ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ แน่นอน
2 รายการดาวรุ่ง ดำเนินได้เพียงไม่นาน แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างเหลือเชื่อ ขณะรายการอันเก่าแก่อย่าง "เกมพันหน้า" ที่ดูจะยังคงอยู่ในผังช่องนี้ต่อไป
งานนี้คงจะทำเอาหัวเรือใหญ่อย่าง "ซูโม่กิ๊ก" ต้องช้ำใจไม่น้อยกับสิ่งที่ทุ่มเทไปให้อยู่ภายในระยะเวลาออกอากาศถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง โฆษณานาทีละสามแสน ทั้งสองรายการ ซึ่งเขารับหน้าที่เป็นพิธีกรทั้งสิ้น
แรกเริ่มที่รายการออกอากาศ ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ดูไม่เวิร์ก! ไม่สร้างสรรค์! นั่นก็เป็นธรรมดาของการเริ่มผลิตรายการที่มักใช้เวลาเตรียมตัวเพียงน้อย และต้องเร่งเพื่อให้ได้ออกอากาศตามใบสั่ง(ของช่อง) ซึ่งทั้งสองรายการของเขาก็น่าจะเข้าข่ายอย่างนั้น
รายการ "กิ๊กดู๋" ซึ่งแต่เดิมยังเป็นกิ๊กดู๋เฉยๆ เป็นที่เฝ้ามองในส่วนของเพื่อนร่วมสถาบันเก่าอย่าง "ดู๋-สัญญา คุณากร" ที่พบกันเป็นโอกาสแรกในบทบาทพิธีกร ว่ารับส่งมุขได้ไม่แนบเนียนกับกิ๊ก เช่นเดียวกับรูปแบบรายการที่ดูยังไม่ลงตัวดีนัก แต่พอปรับมาเป็น กิ๊กดู๋ แล้วต่อท้ายด้วย "สงครามเพลง" เปลี่ยนเป็นการประกวดร้องเพลงระดับชุมชนพบชุมชน การดำเนินรายการจึงคล่องตัวและสนิทขึ้น มีการพัฒนารูปแบบให้รายการดูมีสีสันและสนุกสนาน ระยะหลังๆ ก็ใส่ความเป็นแอ็คชั่นเข้าไปด้วย จนเรียกว่าสร้างความแตกต่างไปจากรายการแนวเดียวกันที่กลายเป็นเทรนด์ฮิตของวงการโทรทัศน์ไปแล้ว
ขณะที่ "อัพทูยูคู่ซ่า" ก็คล้ายๆกัน ระยะแรกกิ๊กยืนคู่กับ "โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ" รูปแบบรายการค่อนข้างหลากหลาย รวมถึงช่วงจับคู่ ที่หากใครติดตามรายการของพี่กิ๊กมานมนานก็จะนึกถึงรายการกามเทพผิดคิว เหมือนกับรื้อของเก่ามาทำใหม่ว่าอย่างนั้น อีกทั้งช่วงที่ได้ "พิษณุ นิลกลัด" มาช่วยเติมความรู้ความเข้าใจในเรื่องกีฬา หรือเรื่องที่แขกรับเชิญอยากเห็น ก็เป็นที่ค่อนแคะอยู่ไม่น้อย แต่ละเทปๆ เลยดูกร่อยๆ ต่อมาจึงตัดช่วงเหล่านั้นออก(จนล่าสุดลุงณุที่เคยมาช่วยก็รับสภาพไม่ไหวเลยกระเด็นออกจากเจ็ดสีไปเรียบร้อยแล้ว) เปลี่ยนพิธีกรคู่มาเป็น "ต้นหอม-ศกุนตลา เทียนไำพโรจน์" และปรับเปลี่ยนรูปแบบอย่างหมดจด กลายเป็นการประกวดเต้นรำสำหรับขาโจ๋แทน ดึงคนที่รู้จักมักจี่กับพิธีกรมาเป็นกรรมการตัดสินร่วมกับแขกรับเชิญ รายการนี้ก็เลยดูสนิทขึ้นกว่าเดิม แถมลูกเล่นต่างๆ ที่ปล่อยมาจากทั้งพิธีกร-กรรมการ-ผู้แข่งขัน ก็น่าจับตามองไม่น้อย
หรือจะกล่าวง่ายๆ .. พอออกอากาศมาได้หลายเดือน เสียงที่บ่นๆ ไม่เห็นดีเห็นงาม ก็ค่อยๆ พลันหายไป ทำให้ทั้งสองรายการเป็นที่ชอบอกชอบใจของลูกเด็กเล็กแดง ทั้งที่เอาแต่ชมและที่มีความฝันอยากจะแสดงออกกับเค้าบ้าง
แม้ว่ารายการของทริปเปิ้ลทูจะพ้นจากจอแก้วถึง 2 รายการแล้ว ทั้งที่เสียงชื่นชมที่มีต่อรายการจะยังเหนียวแน่น แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขากำลังสนุกกับ "กลมกิ๊ก" ซึ่งปีหน้าจะยังคงอยู่ในผังของวิกสนามเป้า-ไม่ไปไหน แต่อาจเลื่อนเวลาออกอากาศ ซึ่งแฟนรายการจะต้องติดตามข่าวสารจากทางรายการ ส่วน "เกมพันหน้า" ก็เช่นเคย และล่าสุด..เพิ่งได้รับโอกาสจากช่อง 7 สีที่ได้กลับมาลุยงานละครกันอีกครั้ง
เรียกว่านับจากนี้ไป แฟนๆ คงไม่ต้องเป็นห่วงเลย เพราะจะได้ดูอะไรสนุกๆ ตามสไตล์ทั้งงานเดิมและงานใหม่ที่จะทดแทนเข้ามา รับรองว่าทริปเปิ้ลทูในวัย 16 ปียังเอาอยู่..ต่อไป
สำหรับงานส่วนตัวของ "กิ๊ก" ที่หมายถึงงานรับจ้างทั่วไป อย่างเช่นรายการ วันวานยังหวานอยู่ ก็เหมือนเดิม เพียงแต่แฟนๆ วิกหมอชิตก็จะพบกับบทบาทพิธีกรภาคดึกของเขาเพียงรายการเดียวเท่านั้น โดยไม่ต้ิองฝืนเอาอะไรอีก ไม่อย่างนั้นคนดูทางบ้านจะสับสนแน่นอน ไม่น่ามีใครขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของช่องเพียงผู้เดียว
ฉะนั้นแล้ว ในปี 2556 เราจะเห็นซูโม่กิ๊ก หรือ "ป๋ากิ๊ก" รับงานเพียง 3 รายการ แต่อาจจะเพิ่มก็ได้ หากผู้หลักผู้ใหญ่ท่านใดสนใจ แต่ไม่ใช่งานของบริษัทตัวเอง
เช่นเดียวกับอายุของเขาที่จะผ่านวัยครึ่งชีวิต ซึ่งอาจจะต้องดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างดี และทำงานอย่างเหมาะสมตามกำลัง เพื่อที่จะมอบความสุขและเสียงเฮฮาตามแบบ "กลมกิ๊ก" เรื่อยๆ ไปถึงรุ่นหลาน รุ่นเหลน
เป็นกำลังใจให้แล้่วกัน
เป็นกำลังใจให้ "ซูโม่กิ๊ก" กับก้าวต่อไปอย่างมั่นคง
2 รายการดาวรุ่ง ดำเนินได้เพียงไม่นาน แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างเหลือเชื่อ ขณะรายการอันเก่าแก่อย่าง "เกมพันหน้า" ที่ดูจะยังคงอยู่ในผังช่องนี้ต่อไป
งานนี้คงจะทำเอาหัวเรือใหญ่อย่าง "ซูโม่กิ๊ก" ต้องช้ำใจไม่น้อยกับสิ่งที่ทุ่มเทไปให้อยู่ภายในระยะเวลาออกอากาศถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง โฆษณานาทีละสามแสน ทั้งสองรายการ ซึ่งเขารับหน้าที่เป็นพิธีกรทั้งสิ้น
แรกเริ่มที่รายการออกอากาศ ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ดูไม่เวิร์ก! ไม่สร้างสรรค์! นั่นก็เป็นธรรมดาของการเริ่มผลิตรายการที่มักใช้เวลาเตรียมตัวเพียงน้อย และต้องเร่งเพื่อให้ได้ออกอากาศตามใบสั่ง(ของช่อง) ซึ่งทั้งสองรายการของเขาก็น่าจะเข้าข่ายอย่างนั้น
รายการ "กิ๊กดู๋" ซึ่งแต่เดิมยังเป็นกิ๊กดู๋เฉยๆ เป็นที่เฝ้ามองในส่วนของเพื่อนร่วมสถาบันเก่าอย่าง "ดู๋-สัญญา คุณากร" ที่พบกันเป็นโอกาสแรกในบทบาทพิธีกร ว่ารับส่งมุขได้ไม่แนบเนียนกับกิ๊ก เช่นเดียวกับรูปแบบรายการที่ดูยังไม่ลงตัวดีนัก แต่พอปรับมาเป็น กิ๊กดู๋ แล้วต่อท้ายด้วย "สงครามเพลง" เปลี่ยนเป็นการประกวดร้องเพลงระดับชุมชนพบชุมชน การดำเนินรายการจึงคล่องตัวและสนิทขึ้น มีการพัฒนารูปแบบให้รายการดูมีสีสันและสนุกสนาน ระยะหลังๆ ก็ใส่ความเป็นแอ็คชั่นเข้าไปด้วย จนเรียกว่าสร้างความแตกต่างไปจากรายการแนวเดียวกันที่กลายเป็นเทรนด์ฮิตของวงการโทรทัศน์ไปแล้ว
ขณะที่ "อัพทูยูคู่ซ่า" ก็คล้ายๆกัน ระยะแรกกิ๊กยืนคู่กับ "โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ" รูปแบบรายการค่อนข้างหลากหลาย รวมถึงช่วงจับคู่ ที่หากใครติดตามรายการของพี่กิ๊กมานมนานก็จะนึกถึงรายการกามเทพผิดคิว เหมือนกับรื้อของเก่ามาทำใหม่ว่าอย่างนั้น อีกทั้งช่วงที่ได้ "พิษณุ นิลกลัด" มาช่วยเติมความรู้ความเข้าใจในเรื่องกีฬา หรือเรื่องที่แขกรับเชิญอยากเห็น ก็เป็นที่ค่อนแคะอยู่ไม่น้อย แต่ละเทปๆ เลยดูกร่อยๆ ต่อมาจึงตัดช่วงเหล่านั้นออก(จนล่าสุดลุงณุที่เคยมาช่วยก็รับสภาพไม่ไหวเลยกระเด็นออกจากเจ็ดสีไปเรียบร้อยแล้ว) เปลี่ยนพิธีกรคู่มาเป็น "ต้นหอม-ศกุนตลา เทียนไำพโรจน์" และปรับเปลี่ยนรูปแบบอย่างหมดจด กลายเป็นการประกวดเต้นรำสำหรับขาโจ๋แทน ดึงคนที่รู้จักมักจี่กับพิธีกรมาเป็นกรรมการตัดสินร่วมกับแขกรับเชิญ รายการนี้ก็เลยดูสนิทขึ้นกว่าเดิม แถมลูกเล่นต่างๆ ที่ปล่อยมาจากทั้งพิธีกร-กรรมการ-ผู้แข่งขัน ก็น่าจับตามองไม่น้อย
หรือจะกล่าวง่ายๆ .. พอออกอากาศมาได้หลายเดือน เสียงที่บ่นๆ ไม่เห็นดีเห็นงาม ก็ค่อยๆ พลันหายไป ทำให้ทั้งสองรายการเป็นที่ชอบอกชอบใจของลูกเด็กเล็กแดง ทั้งที่เอาแต่ชมและที่มีความฝันอยากจะแสดงออกกับเค้าบ้าง
แม้ว่ารายการของทริปเปิ้ลทูจะพ้นจากจอแก้วถึง 2 รายการแล้ว ทั้งที่เสียงชื่นชมที่มีต่อรายการจะยังเหนียวแน่น แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขากำลังสนุกกับ "กลมกิ๊ก" ซึ่งปีหน้าจะยังคงอยู่ในผังของวิกสนามเป้า-ไม่ไปไหน แต่อาจเลื่อนเวลาออกอากาศ ซึ่งแฟนรายการจะต้องติดตามข่าวสารจากทางรายการ ส่วน "เกมพันหน้า" ก็เช่นเคย และล่าสุด..เพิ่งได้รับโอกาสจากช่อง 7 สีที่ได้กลับมาลุยงานละครกันอีกครั้ง
เรียกว่านับจากนี้ไป แฟนๆ คงไม่ต้องเป็นห่วงเลย เพราะจะได้ดูอะไรสนุกๆ ตามสไตล์ทั้งงานเดิมและงานใหม่ที่จะทดแทนเข้ามา รับรองว่าทริปเปิ้ลทูในวัย 16 ปียังเอาอยู่..ต่อไป
สำหรับงานส่วนตัวของ "กิ๊ก" ที่หมายถึงงานรับจ้างทั่วไป อย่างเช่นรายการ วันวานยังหวานอยู่ ก็เหมือนเดิม เพียงแต่แฟนๆ วิกหมอชิตก็จะพบกับบทบาทพิธีกรภาคดึกของเขาเพียงรายการเดียวเท่านั้น โดยไม่ต้ิองฝืนเอาอะไรอีก ไม่อย่างนั้นคนดูทางบ้านจะสับสนแน่นอน ไม่น่ามีใครขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของช่องเพียงผู้เดียว
ฉะนั้นแล้ว ในปี 2556 เราจะเห็นซูโม่กิ๊ก หรือ "ป๋ากิ๊ก" รับงานเพียง 3 รายการ แต่อาจจะเพิ่มก็ได้ หากผู้หลักผู้ใหญ่ท่านใดสนใจ แต่ไม่ใช่งานของบริษัทตัวเอง
เช่นเดียวกับอายุของเขาที่จะผ่านวัยครึ่งชีวิต ซึ่งอาจจะต้องดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างดี และทำงานอย่างเหมาะสมตามกำลัง เพื่อที่จะมอบความสุขและเสียงเฮฮาตามแบบ "กลมกิ๊ก" เรื่อยๆ ไปถึงรุ่นหลาน รุ่นเหลน
เป็นกำลังใจให้แล้่วกัน