สิบล้อห้องเย็นชนกระบะ-2สามีภรรยาดับคาที่
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.ต.นลธวัช รามหนู ร้อยเวร สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุรถบรรทุกห้องเย็นชนกับรถยนต์กระบะที่ถนนสายนคร-หัวไทร ม.9 ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ รับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วยแพทย์ และมูลนิธิประชาร่วมใจรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงพบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน บ-9802 สงขลา ภายในรถพบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ทราบชื่อ นางบุญญา ลาวัน อายุ 42 ปี และนายซารอนิ ลาวัน อายุ 49 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 217/1 ม.7 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ศพถูกอัดก๊อปปี้ร่างเละสยองทั้งสองศพ ส่วนรถคู่กรณีเป็นบรรทุก 10 ล้อห้องเย็นยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียร 80-9578 สุราษฎร์ธานี ที่หน้าพังเสียหายจอดอยู่ในที่เกิดเหตุและคนขับหลบหนีไปช่วงชุลมุน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายซารอนิ กับนางบุญญา สองสามีภรรยา ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช มุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.หัวไทร ด้วยความเร็วในขณะที่ฝนกำลังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถบรรทุกห้องเย็นแล่นสวนทางมาด้วยความเร็วเช่นกันและได้เสียหลักพุ่งชนรถผู้ตายอย่างจังจนเป็นเหตุให้สองสามีภรรยาเสียชีวิตคาที่
หลังจากนั้นคนขับรถบรรทุกได้ทิ้งรถไว้ในที่เกิดเหตุแล้วหลบหนีไป ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าฝนตกถนนลื่นอาจทำให้คนขับรถบรรทุกบังคับรถไม่อยู่ ทำให้เสียหลักพุ่งชนรถบนต์กระบะที่สองสามีภรรยาขับสวนทางมาจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งหลังจากชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้วจึงมอบให้กับญาตินำไปจัดการตามประเพณี และจะติดตามคนขับรถบรรทุกมาดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.ต.นลธวัช รามหนู ร้อยเวร สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุรถบรรทุกห้องเย็นชนกับรถยนต์กระบะที่ถนนสายนคร-หัวไทร ม.9 ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ รับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วยแพทย์ และมูลนิธิประชาร่วมใจรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงพบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน บ-9802 สงขลา ภายในรถพบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ทราบชื่อ นางบุญญา ลาวัน อายุ 42 ปี และนายซารอนิ ลาวัน อายุ 49 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 217/1 ม.7 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ศพถูกอัดก๊อปปี้ร่างเละสยองทั้งสองศพ ส่วนรถคู่กรณีเป็นบรรทุก 10 ล้อห้องเย็นยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียร 80-9578 สุราษฎร์ธานี ที่หน้าพังเสียหายจอดอยู่ในที่เกิดเหตุและคนขับหลบหนีไปช่วงชุลมุน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายซารอนิ กับนางบุญญา สองสามีภรรยา ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช มุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.หัวไทร ด้วยความเร็วในขณะที่ฝนกำลังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถบรรทุกห้องเย็นแล่นสวนทางมาด้วยความเร็วเช่นกันและได้เสียหลักพุ่งชนรถผู้ตายอย่างจังจนเป็นเหตุให้สองสามีภรรยาเสียชีวิตคาที่
หลังจากนั้นคนขับรถบรรทุกได้ทิ้งรถไว้ในที่เกิดเหตุแล้วหลบหนีไป ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าฝนตกถนนลื่นอาจทำให้คนขับรถบรรทุกบังคับรถไม่อยู่ ทำให้เสียหลักพุ่งชนรถบนต์กระบะที่สองสามีภรรยาขับสวนทางมาจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งหลังจากชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้วจึงมอบให้กับญาตินำไปจัดการตามประเพณี และจะติดตามคนขับรถบรรทุกมาดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU5qTTBOekkzTmc9PQ==&subcatid=
สิบล้อห้องเย็นชนกระบะ-2สามีภรรยาดับคาที่ สายนคร-หัวไทร ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.ต.นลธวัช รามหนู ร้อยเวร สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุรถบรรทุกห้องเย็นชนกับรถยนต์กระบะที่ถนนสายนคร-หัวไทร ม.9 ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ รับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วยแพทย์ และมูลนิธิประชาร่วมใจรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงพบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน บ-9802 สงขลา ภายในรถพบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ทราบชื่อ นางบุญญา ลาวัน อายุ 42 ปี และนายซารอนิ ลาวัน อายุ 49 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 217/1 ม.7 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ศพถูกอัดก๊อปปี้ร่างเละสยองทั้งสองศพ ส่วนรถคู่กรณีเป็นบรรทุก 10 ล้อห้องเย็นยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียร 80-9578 สุราษฎร์ธานี ที่หน้าพังเสียหายจอดอยู่ในที่เกิดเหตุและคนขับหลบหนีไปช่วงชุลมุน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายซารอนิ กับนางบุญญา สองสามีภรรยา ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช มุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.หัวไทร ด้วยความเร็วในขณะที่ฝนกำลังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถบรรทุกห้องเย็นแล่นสวนทางมาด้วยความเร็วเช่นกันและได้เสียหลักพุ่งชนรถผู้ตายอย่างจังจนเป็นเหตุให้สองสามีภรรยาเสียชีวิตคาที่
หลังจากนั้นคนขับรถบรรทุกได้ทิ้งรถไว้ในที่เกิดเหตุแล้วหลบหนีไป ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าฝนตกถนนลื่นอาจทำให้คนขับรถบรรทุกบังคับรถไม่อยู่ ทำให้เสียหลักพุ่งชนรถบนต์กระบะที่สองสามีภรรยาขับสวนทางมาจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งหลังจากชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้วจึงมอบให้กับญาตินำไปจัดการตามประเพณี และจะติดตามคนขับรถบรรทุกมาดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.ต.นลธวัช รามหนู ร้อยเวร สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุรถบรรทุกห้องเย็นชนกับรถยนต์กระบะที่ถนนสายนคร-หัวไทร ม.9 ต.เชียรเขา อ.เฉลิมพระเกียรติ มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ รับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วยแพทย์ และมูลนิธิประชาร่วมใจรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงพบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน บ-9802 สงขลา ภายในรถพบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ทราบชื่อ นางบุญญา ลาวัน อายุ 42 ปี และนายซารอนิ ลาวัน อายุ 49 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 217/1 ม.7 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ศพถูกอัดก๊อปปี้ร่างเละสยองทั้งสองศพ ส่วนรถคู่กรณีเป็นบรรทุก 10 ล้อห้องเย็นยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียร 80-9578 สุราษฎร์ธานี ที่หน้าพังเสียหายจอดอยู่ในที่เกิดเหตุและคนขับหลบหนีไปช่วงชุลมุน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายซารอนิ กับนางบุญญา สองสามีภรรยา ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช มุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.หัวไทร ด้วยความเร็วในขณะที่ฝนกำลังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถบรรทุกห้องเย็นแล่นสวนทางมาด้วยความเร็วเช่นกันและได้เสียหลักพุ่งชนรถผู้ตายอย่างจังจนเป็นเหตุให้สองสามีภรรยาเสียชีวิตคาที่
หลังจากนั้นคนขับรถบรรทุกได้ทิ้งรถไว้ในที่เกิดเหตุแล้วหลบหนีไป ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าฝนตกถนนลื่นอาจทำให้คนขับรถบรรทุกบังคับรถไม่อยู่ ทำให้เสียหลักพุ่งชนรถบนต์กระบะที่สองสามีภรรยาขับสวนทางมาจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งหลังจากชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้วจึงมอบให้กับญาตินำไปจัดการตามประเพณี และจะติดตามคนขับรถบรรทุกมาดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU5qTTBOekkzTmc9PQ==&subcatid=