ในบางครั้งคุณมีความคิดที่จะทำธุรกิจส่วนตัว , ค้าขายสินค้า โดยวิเคราะห์แล้วว่าจะขายสินค้าอะไร นำสินค้าไปขายที่ไหน มั่นใจแน่นอนว่าลูกค้าจะต้องชอบสินค้าแนวนี้แน่ๆ แต่พบปัญหาว่าไม่รู้ว่าจะหาแหล่งขายของจากที่ไหน
ผมขอเสนอวิธีการหาแหล่งสินค้ามาขายให้รวยดังนี้ครับ
1.หา แหล่งสินค้าขายส่งที่ขายสินค้าตามที่คุณต้องการ เนื่องจากในแหล่งนั้นจะมีผู้ขายสินค้าขายส่งอยู่หลายเจ้า ดังนั้นการไปยังแหล่งขายส่งจะทำให้คุณมีโอกาสเลือกสินค้าได้หลากหลาย และสามารถทำการเปรียบเทียบราคาได้
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการที่จะขายเสื้อผ้าแฟชั่น ก็ไปดูที่ประตูน้ำ
หรือว่าต้องการหาเคสมือถือ ก็ไปที่เสือป่า
ต้องการซื้อนาฬิกา ก็ไปแถววัดตึก เจริญกรุง เป็นต้น
2. โรงงาน การซื้อสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรง มักจะได้ราคาที่ถูกที่สุด ดังนั้นถ้าคุณรู้ว่าสินค้าที่ต้องการจะขาย มีโรงงานไหนผลิตบ้าง และคุณสามารถที่จะซื้อสินค้าจากโรงงานผู้ผลิตมาขายได้ ก็จะทำให้คุณซื้อสินค้าได้ในราคาถูกมาก
แต่ส่วนมากโรงงานมักจะขายสินค้า จำนวนมาก ดังนั้นถ้าคุณเริ่มทำธุรกิจส่วนตัวยังไม่เคยขายสินค้านั้นอาจจะต้องทำ การบ้านให้ดีก่อนว่าจะซื้อสินค้าจำนวนมากมาขายดีไหม เพราะถ้าขายได้ไม่หมดก็อาจจะทำให้ทุนจมกับสินค้าได้
3. หาสินค้ามาขายจากในเว็บ ข้อดีของการซื้อสินค้าจากในเว็บคือ เราสามารถค้นหาสินค้าขายส่งได้จากที่บ้าน และทำการเปรียบเทียบราคาแต่ละเจ้าได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน ก็คือ สินค้าที่แสดงในเว็บกับสินค้าจริงอาจจะไม่เหมือนกัน หรือบางเจ้าอาจจะโกงโดยการที่เราโอนเงินไปแล้วไม่ยอมส่งสินค้ามาให้เราก็ ได้ วิธีแก้ก็คือซื้อสินค้าจากผู้ขายที่เชื่อใจได้ โดยดูจาก feedback จากลูกค้า หรือค้นหาใน google ว่าผู้ขายรายนี้เคยโกงไหม นอกจากนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็ยังมีการออก verify seller เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าว่าเราสามารถติดต่อผู้ขายได้จริง ซื้อสินค้าจาก verify seller แล้วโอกาสถูกโกงน้อย (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.dbd.go.th/mainsite/)
โดยปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่รวมข้อมูลขายส่งอยู่มาก เช่น เว็บไทยที่ดังๆก็คือ pantipmarket
www.pantipmarket.com/business/ เป็นต้น
4. งานแสดงสินค้า ในงานแสดงสินค้าแต่ละครั้งจะมีผู้ผลิตสินค้าไปรวมตัวกันอยู่ในที่เดียวเป็น จำนวนมาก ดังนั้นถ้าคุณยอมเสียเวลาไปงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวกับสินค้าที่คุณอยากจะขาย
เช่น คุณอยากจะเปิดร้านขายของแต่งบ้านเก๋ๆ ถ้าคุณไปงาน BIG+BIH ที่จัดประจำทุกปี คุณก็มีโอกาสที่จะได้เห็นของแต่งบ้านจากหลากหลายผู้ผลิตและเนื่องจากว่าใน งานแสดงสินค้าจะมีผู้ผลิตรวมกันที่เดียว
ดังนั้นคุณจึงสามารถที่จะเปรียบเทียบสินค้าและราคาได้ภายในงานเดียว
5. นำเข้าจากเว็บต่างประเทศ เช่น จากเว็บไซต์ ebay , taobao ข้อดีของวิธีนี้ก็คือเราสามารถเลือกสินค้าจากผู้ผลิตจากต่างประเทศ ทำให้สินค้าที่เราจะเอามาขายมีความหลากหลายมากกว่าซื้อจากผู้ผลิตในประเทศ อย่างเดียว
แต่ข้อเสียก็คือการขนส่ง ถ้าส่งทางเรืออาจจะต้องใช้เวลานาน แต่ถ้าส่งทางเครื่องบินก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูง
6.ทำ เอง/จ้างผลิต ในกรณีที่คุณต้องการความแตกต่างจากคู่แข่ง การผลิตสินค้าเองจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะคุณสามารถออกแบบสินค้าได้ตามใจต้องการ และสินค้าที่ผลิตได้ก็จะไม่ซ้ำแบบใคร ยิ่งออกแบบสินค้าให้ดูดีได้ ก็จะสามารถเพิ่มราคาสินค้าได้มาก ไม่ต้องกังวลเรื่องการตัดราคาสินค้า แต่ถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะผลิตสินค้าเอง ก็สามารถไปจ้างผลิตสินค้าได้ โดยปัจจุบันก็มีผู้ผลิตหลายรายที่รับจ้างผลิตสินค้าให้คนนอกด้วย
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คนทำจะทำธุรกิจส่วนตัวหรือค้าขายได้หาแหล่งซื้อสินค้ามาขายได้ดั่งใจ และค้าขายร่ำรวยกันนะครับ
ที่มา
www.ThaiSMEfriend.comใครชอบบทความนี้ รบกวนช่วยโหวตให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
ขอแนะนำอึกบทความนึงนะครับ
วิธีรักษาลูกน้องคนเก่งให้อยู่คู่กับธุรกิจ SME ของเราไปนานๆhttp://www.ppantip.com/cafe/silom/topic/B13112924/B13112924.html
วิธีหาแหล่งสินค้ามาขายให้รวย
ผมขอเสนอวิธีการหาแหล่งสินค้ามาขายให้รวยดังนี้ครับ
1.หา แหล่งสินค้าขายส่งที่ขายสินค้าตามที่คุณต้องการ เนื่องจากในแหล่งนั้นจะมีผู้ขายสินค้าขายส่งอยู่หลายเจ้า ดังนั้นการไปยังแหล่งขายส่งจะทำให้คุณมีโอกาสเลือกสินค้าได้หลากหลาย และสามารถทำการเปรียบเทียบราคาได้
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการที่จะขายเสื้อผ้าแฟชั่น ก็ไปดูที่ประตูน้ำ
หรือว่าต้องการหาเคสมือถือ ก็ไปที่เสือป่า
ต้องการซื้อนาฬิกา ก็ไปแถววัดตึก เจริญกรุง เป็นต้น
2. โรงงาน การซื้อสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรง มักจะได้ราคาที่ถูกที่สุด ดังนั้นถ้าคุณรู้ว่าสินค้าที่ต้องการจะขาย มีโรงงานไหนผลิตบ้าง และคุณสามารถที่จะซื้อสินค้าจากโรงงานผู้ผลิตมาขายได้ ก็จะทำให้คุณซื้อสินค้าได้ในราคาถูกมาก
แต่ส่วนมากโรงงานมักจะขายสินค้า จำนวนมาก ดังนั้นถ้าคุณเริ่มทำธุรกิจส่วนตัวยังไม่เคยขายสินค้านั้นอาจจะต้องทำ การบ้านให้ดีก่อนว่าจะซื้อสินค้าจำนวนมากมาขายดีไหม เพราะถ้าขายได้ไม่หมดก็อาจจะทำให้ทุนจมกับสินค้าได้
3. หาสินค้ามาขายจากในเว็บ ข้อดีของการซื้อสินค้าจากในเว็บคือ เราสามารถค้นหาสินค้าขายส่งได้จากที่บ้าน และทำการเปรียบเทียบราคาแต่ละเจ้าได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน ก็คือ สินค้าที่แสดงในเว็บกับสินค้าจริงอาจจะไม่เหมือนกัน หรือบางเจ้าอาจจะโกงโดยการที่เราโอนเงินไปแล้วไม่ยอมส่งสินค้ามาให้เราก็ ได้ วิธีแก้ก็คือซื้อสินค้าจากผู้ขายที่เชื่อใจได้ โดยดูจาก feedback จากลูกค้า หรือค้นหาใน google ว่าผู้ขายรายนี้เคยโกงไหม นอกจากนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็ยังมีการออก verify seller เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าว่าเราสามารถติดต่อผู้ขายได้จริง ซื้อสินค้าจาก verify seller แล้วโอกาสถูกโกงน้อย (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dbd.go.th/mainsite/)
โดยปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่รวมข้อมูลขายส่งอยู่มาก เช่น เว็บไทยที่ดังๆก็คือ pantipmarket
www.pantipmarket.com/business/ เป็นต้น
4. งานแสดงสินค้า ในงานแสดงสินค้าแต่ละครั้งจะมีผู้ผลิตสินค้าไปรวมตัวกันอยู่ในที่เดียวเป็น จำนวนมาก ดังนั้นถ้าคุณยอมเสียเวลาไปงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวกับสินค้าที่คุณอยากจะขาย
เช่น คุณอยากจะเปิดร้านขายของแต่งบ้านเก๋ๆ ถ้าคุณไปงาน BIG+BIH ที่จัดประจำทุกปี คุณก็มีโอกาสที่จะได้เห็นของแต่งบ้านจากหลากหลายผู้ผลิตและเนื่องจากว่าใน งานแสดงสินค้าจะมีผู้ผลิตรวมกันที่เดียว
ดังนั้นคุณจึงสามารถที่จะเปรียบเทียบสินค้าและราคาได้ภายในงานเดียว
5. นำเข้าจากเว็บต่างประเทศ เช่น จากเว็บไซต์ ebay , taobao ข้อดีของวิธีนี้ก็คือเราสามารถเลือกสินค้าจากผู้ผลิตจากต่างประเทศ ทำให้สินค้าที่เราจะเอามาขายมีความหลากหลายมากกว่าซื้อจากผู้ผลิตในประเทศ อย่างเดียว
แต่ข้อเสียก็คือการขนส่ง ถ้าส่งทางเรืออาจจะต้องใช้เวลานาน แต่ถ้าส่งทางเครื่องบินก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูง
6.ทำ เอง/จ้างผลิต ในกรณีที่คุณต้องการความแตกต่างจากคู่แข่ง การผลิตสินค้าเองจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะคุณสามารถออกแบบสินค้าได้ตามใจต้องการ และสินค้าที่ผลิตได้ก็จะไม่ซ้ำแบบใคร ยิ่งออกแบบสินค้าให้ดูดีได้ ก็จะสามารถเพิ่มราคาสินค้าได้มาก ไม่ต้องกังวลเรื่องการตัดราคาสินค้า แต่ถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะผลิตสินค้าเอง ก็สามารถไปจ้างผลิตสินค้าได้ โดยปัจจุบันก็มีผู้ผลิตหลายรายที่รับจ้างผลิตสินค้าให้คนนอกด้วย
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คนทำจะทำธุรกิจส่วนตัวหรือค้าขายได้หาแหล่งซื้อสินค้ามาขายได้ดั่งใจ และค้าขายร่ำรวยกันนะครับ
ที่มา
www.ThaiSMEfriend.com
ใครชอบบทความนี้ รบกวนช่วยโหวตให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
ขอแนะนำอึกบทความนึงนะครับ
วิธีรักษาลูกน้องคนเก่งให้อยู่คู่กับธุรกิจ SME ของเราไปนานๆ
http://www.ppantip.com/cafe/silom/topic/B13112924/B13112924.html