ไอหมอก........ยามเช้า
กลิ่นฟาง .......และ .....ไอดิน
คือ.......ลมหายใจแห่งท้องทุ่ง
ณ วัดดอน แห่งบ้านทุ่งรี คือที่ก่อกำเนิดตำนานของสัปเหร่อชายชรา และทายาทผู้สืบสันสาน...
โตขึ้น ขุนจะเป็นสัปเหร่อ เหมือนตา เจ้าขุนน้อยตะโกนลั่น ขณะเดินเตาะแตะตามผู้เป็นตา
ความภูมิใจหนึ่งเดียวในชีวิตของเด็กชายตัวน้อย ที่ไร้การเสแสร้ง ใดๆ..
ตาฉ่อยมองหลานชายตัวน้อยอย่างขบขัน ซ่อนความปลาบปลื้มอยู่ภายใน คงเป็นเจ้าขุนน้อยเพียงคนเดียวกระมังที่ไม่เคยเยาะเหยียดอาชีพของผู้เป็นตา แม้แต่น้อย....
ฤดูกาลผันเปลี่ยนพร้อมขวบวัยของเจ้าขุนน้อย...ที่เติบโต
เอ็งต้องไปโรงเรียนนะไอ้ขุน
ตาต้องไปส่งขุนทุกวัของผู้เป็นตา ที่ถีบสามล้อคันเก่าคร่ำคร่า ตามถนนดินลูกรัง โดยหลานชายตัวน้อยนั่งยิ้มกริ่ม หัวใจพองโต..ทักทายผู้คนตามรายทางนั้น เป็นที่ประทับใจแก่ผู้ที่พบเห็นไม่น้อย....
ขุนไปโรงเรียนแล้วนะ
เจ้าขุนตะโกนบอผู้คนคุ้นเคยที่สัญจรผ่าน ตาฉ่อยมองหลานชายตัวน้อย ส่ายหน้าอย่างเอ็นดูรักใคร่..
ทุกวัน เมื่อกลับจากโรงเรียน เด็กชายขุนจะแวะเวียนหาตาฉ่อยที่วัด ก่อนกลับบ้านเสมอ ภาพการปฏิบัติงานของผู้เป็นตา จึงเป็นสิ่งชินตาของเด็กน้อย...
เพียงไม่กี่ปีผ่านไป ภาพชินตายามเช้าของชาวบ้านทุ่ง ก็ขาดหาย...
ตา.. ขุนไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว
ตาฉ่อย หันมองหลานชายตัวน้อยอย่างแปลกใจ..เกิดอะไรขึ้นวะ!!
เพื่อนๆ มันชอบล้อขุนว่าเป็นหลานสัปเหร่อ หากินกับผี ขุนไม่ชอบเลย
ตาฉ่อยส่ายหน้า เวทนาหลานชายยิ่งนัก...
เอ็งกลับไปถามพวกมันทีว่า ไอ้ตอนที่โคตรพ่อโคตรแม่พวกมันที่ตายๆ กันน่ะ ใครเป็นคนเผา
ใช่! ตาพูดถูก เพราะตาฉ่อย เป็นเพียงสัปเหร่อหนึ่งเดียวเท่านั้นในหมู่บ้าน...
..."ผู้สืบสาน"...
กลิ่นฟาง .......และ .....ไอดิน
คือ.......ลมหายใจแห่งท้องทุ่ง
ณ วัดดอน แห่งบ้านทุ่งรี คือที่ก่อกำเนิดตำนานของสัปเหร่อชายชรา และทายาทผู้สืบสันสาน...
โตขึ้น ขุนจะเป็นสัปเหร่อ เหมือนตา เจ้าขุนน้อยตะโกนลั่น ขณะเดินเตาะแตะตามผู้เป็นตา
ความภูมิใจหนึ่งเดียวในชีวิตของเด็กชายตัวน้อย ที่ไร้การเสแสร้ง ใดๆ..
ตาฉ่อยมองหลานชายตัวน้อยอย่างขบขัน ซ่อนความปลาบปลื้มอยู่ภายใน คงเป็นเจ้าขุนน้อยเพียงคนเดียวกระมังที่ไม่เคยเยาะเหยียดอาชีพของผู้เป็นตา แม้แต่น้อย....
ฤดูกาลผันเปลี่ยนพร้อมขวบวัยของเจ้าขุนน้อย...ที่เติบโต
เอ็งต้องไปโรงเรียนนะไอ้ขุน
ตาต้องไปส่งขุนทุกวัของผู้เป็นตา ที่ถีบสามล้อคันเก่าคร่ำคร่า ตามถนนดินลูกรัง โดยหลานชายตัวน้อยนั่งยิ้มกริ่ม หัวใจพองโต..ทักทายผู้คนตามรายทางนั้น เป็นที่ประทับใจแก่ผู้ที่พบเห็นไม่น้อย....
ขุนไปโรงเรียนแล้วนะ
เจ้าขุนตะโกนบอผู้คนคุ้นเคยที่สัญจรผ่าน ตาฉ่อยมองหลานชายตัวน้อย ส่ายหน้าอย่างเอ็นดูรักใคร่..
ทุกวัน เมื่อกลับจากโรงเรียน เด็กชายขุนจะแวะเวียนหาตาฉ่อยที่วัด ก่อนกลับบ้านเสมอ ภาพการปฏิบัติงานของผู้เป็นตา จึงเป็นสิ่งชินตาของเด็กน้อย...
เพียงไม่กี่ปีผ่านไป ภาพชินตายามเช้าของชาวบ้านทุ่ง ก็ขาดหาย...
ตา.. ขุนไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว
ตาฉ่อย หันมองหลานชายตัวน้อยอย่างแปลกใจ..เกิดอะไรขึ้นวะ!!
เพื่อนๆ มันชอบล้อขุนว่าเป็นหลานสัปเหร่อ หากินกับผี ขุนไม่ชอบเลย
ตาฉ่อยส่ายหน้า เวทนาหลานชายยิ่งนัก...
เอ็งกลับไปถามพวกมันทีว่า ไอ้ตอนที่โคตรพ่อโคตรแม่พวกมันที่ตายๆ กันน่ะ ใครเป็นคนเผา
ใช่! ตาพูดถูก เพราะตาฉ่อย เป็นเพียงสัปเหร่อหนึ่งเดียวเท่านั้นในหมู่บ้าน...