กรณีทนายพรรคประชาธิปัตย์ ถูกทำร้าย กลับกลายเป็นว่าสลิ่ม-สาบ ก็ยกระดับเหตุการณ์ให้กลายมาเป็นเรื่องการเมืองไปแบบหน้าด้านๆ ตามแนวถนัด พูดไปในทำนองว่า ถูกคนของรัฐทำร้ายเสียแล้ว..ทั้งที่ยังจับใครไม่ได้หลายคนสงสัยว่า ถ้าจะทำร้ายกันด้วยฝีมือของคนในรัฐบาล ทำไมต้องเจาะจงทำร้าย นายราเมศคนนี้ด้วย ทั้งที่ก็ไม่ได้มีความสลักสำคัญใดๆ เป็นม้านอกสายตาของรัฐบาล เพียงแค่ทนายตีนโรงตีนศาลเท่านั้น ทำไม ถ้าจะเล่นงาน ก็น่าจะเป็นงานนายถาวร นายนิพิฎ หรือคนอื่นๆ เช่นนายชวนนท์ ..มากกว่านายราเมศ !
ก็อีกแหละ หลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่า งานนี้ อาจเล่นกันเอง ครื้นเครงกันในพรรค จากการเทียบเคียงเหตุการณ์หลายๆอย่างในอดีตของพรรคนี้ เช่น คดีจ่ามีวางระเบิดแม่สส.พรรคเดียวกัน หรืออาจเป็นคดีชู้สาวไปติดพันใครเข้า (แย่งผู้หญิง) หรือเป็นเรื่องคดีความในฐานะทนายที่ว่าความแล้ว ไม่ถูกใจฝ่ายโจทก์หรือจำเลย..เลยสั่งสอนแต่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามจะโยงเป็นเรื่องการเมือง กล่าวหาใส่ร้ายรัฐบาล เพื่อจะบอกว่าบ้านเมืองนี้ อยู่ภายใต้รัฐบาลอันธพาล ใช้อิทธิพลทำร้ายฝ่ายตรงข้ามให้เกิดความหวาดกลัว ต่างๆนานาสารพัด..ตามนิสัยถาวร
ถ้าจะโยงกันอย่างนี้ โดยไม่ยึดถือความถูกต้อง เป็นธรรม หรือคิดถึงจริยะธรรมอะไรกันแล้ว ผมเชื่อว่า ฝ่ายรัฐบาลเองก็สามารถโยงเรื่องต่างๆไปหาฝ่ายตรงข้ามได้เหมือนกัน ผมจะยกตัวอย่างการ เชื่อมโยงให้ดู ..จากข่าวนี้! .
...................................................................................
โจรเหิมบุกล้วงคองูเห่า! ทุบกระจกรถเก๋งผู้ช่วยนายเวร พงศพัศ เลขาธิการ ป.ป.ส. ลักกระเป๋าเอกร้อมเงินสด 2 หมื่นบาทก่อนหลบหนีลอยนวล
วันนี้ (18 ธ.ค.) เวลา 07.00 น. ร.ต.อ.หญิง อ้อมใจ รุ่งกลาง พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุมีรถถูกทุบกระจก เหตุเกิดภายในซอยทวีมิตร 3 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวางhttp://mgr.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000153300..................................................................................
แต่ในเนื้อข่าว ตรงนี้ ........
แต่กระเป๋าถือสีดำ เงินสด และเอกสารเกี่ยวกับเครือข่ายยาเสพติดยังหาไม่พบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเก็บเอกสารทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานใครจะกล้าคิดได้ว่า ทำไม โจรรายนี้ ถึงกล้าหาญกับตำรวจขนาดนี้ได้ ที่สำคัญนำเอกสารเกี่ยวกับเครือข่ายยาเสพย์ติดไปเสียด้วย งานนี้ ไม่ใช่โจรกระจอก..ต้องเป็นโจรนกอินทรีย์ !
เพราะหากเป็นเครือข่ายยาเสพติดทั่วไป น่าจะไม่กล้าล้วงคองูเขียวง่ายๆอย่างนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า
อาจมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพื่ออยากรู้ว่าพรรคพวกของตน มีรายชื่อเป็นแบล็คลิสต์ในเครือข่ายยาเสพย์ติดของ พล.ต.อ.พงศพัศ หรือไม่ ? ..เห็นมั๊ย เริ่มเห็นเค้าละ
หากลองทบทวน เมื่อพรรคการเมืองพรรคนี้ มีอำนาจ ก็เกิดการระบาดของยาเสพย์ติดอย่างมหาศาล ทั้งยาบ้า ยาไอซ์ ยาเค ยาอี ฯลฯ (ไม่เกี่ยวกับยาทัมใจ)ไปทั่วประเทศ ทำให้ยาเสพย์ติดขายกันเกลื่อนเหมือนขายท็อฟฟี่ ..ราคาก็ถูก
แล้วถ้าย้อนไปอีก จะพบว่าเมื่อตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพย์ติดได้ ก็มักจะพบว่าผู้ที่ถูกจับกุม จะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับพรรคนั้นเสมอ เป็นลูกสส. บ้าง เป็นสข.บ้าง เป็นผู้สมัคร สส.บงฯลฯ..ยั๊วะเยี๊ยะจึงพอเชื่อมโยงเหตุการณ์ได้ว่า การทุบรถผู้ช่วยนายเวรฯของท่าน พงศพัศนั้น ไม่ใช่โจรธรรมดา แต่ต้องเป็นโจรที่สามารถรู้การเคลื่อนไหวของตำรวจ หรืออาจเป็นตำรวจที่ยังฝักใฝ่พรรคการเมืองนี้อยู่ ชี้เบาะแสให้โจรไปทุบรถ..เพื่อเอาข้อมูล
ฉะนั้น โจรร้ายนี้ ต้องมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพื่อต้องการข้อมูลเครือข่ายยาเสพย์ติด ไว้สำหรับแจ้งเตือนพวกเดียวกันให้รู้ตัวว่าถูกตำรวจขึ้นบัญชีดำไว้ และหาช่องหลบหลีกทางกฎหมาย ..ชัวร์ชัวร์
เป็นไงครับ นี่เพียงแค่ทดลอง เชื่อมโยงเหตุการณ์ดู เพื่อให้เห็นว่า ใครก็สามารถเชื่อมโยงกันได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าจะคิดไม่ดีต่อกัน มิไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ที่ทำได้ แต่ที่พรรคอื่นๆเขาไม่ทำเรื่องชั่วๆอย่างนี้กัน..เพราะเขายังเป็นคน !!!
...ถ้าจะ เชื่อมโยงเหตุการณ์ เพื่อใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ดูบ้าง ?...
หลายคนสงสัยว่า ถ้าจะทำร้ายกันด้วยฝีมือของคนในรัฐบาล ทำไมต้องเจาะจงทำร้าย นายราเมศคนนี้ด้วย ทั้งที่ก็ไม่ได้มีความสลักสำคัญใดๆ เป็นม้านอกสายตาของรัฐบาล เพียงแค่ทนายตีนโรงตีนศาลเท่านั้น ทำไม ถ้าจะเล่นงาน ก็น่าจะเป็นงานนายถาวร นายนิพิฎ หรือคนอื่นๆ เช่นนายชวนนท์ ..มากกว่านายราเมศ !
ก็อีกแหละ หลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่า งานนี้ อาจเล่นกันเอง ครื้นเครงกันในพรรค จากการเทียบเคียงเหตุการณ์หลายๆอย่างในอดีตของพรรคนี้ เช่น คดีจ่ามีวางระเบิดแม่สส.พรรคเดียวกัน หรืออาจเป็นคดีชู้สาวไปติดพันใครเข้า (แย่งผู้หญิง) หรือเป็นเรื่องคดีความในฐานะทนายที่ว่าความแล้ว ไม่ถูกใจฝ่ายโจทก์หรือจำเลย..เลยสั่งสอน
แต่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามจะโยงเป็นเรื่องการเมือง กล่าวหาใส่ร้ายรัฐบาล เพื่อจะบอกว่าบ้านเมืองนี้ อยู่ภายใต้รัฐบาลอันธพาล ใช้อิทธิพลทำร้ายฝ่ายตรงข้ามให้เกิดความหวาดกลัว ต่างๆนานาสารพัด..ตามนิสัยถาวร
ถ้าจะโยงกันอย่างนี้ โดยไม่ยึดถือความถูกต้อง เป็นธรรม หรือคิดถึงจริยะธรรมอะไรกันแล้ว ผมเชื่อว่า ฝ่ายรัฐบาลเองก็สามารถโยงเรื่องต่างๆไปหาฝ่ายตรงข้ามได้เหมือนกัน ผมจะยกตัวอย่างการ เชื่อมโยงให้ดู ..จากข่าวนี้!
.
...................................................................................
โจรเหิมบุกล้วงคองูเห่า! ทุบกระจกรถเก๋งผู้ช่วยนายเวร พงศพัศ เลขาธิการ ป.ป.ส. ลักกระเป๋าเอกร้อมเงินสด 2 หมื่นบาทก่อนหลบหนีลอยนวล
วันนี้ (18 ธ.ค.) เวลา 07.00 น. ร.ต.อ.หญิง อ้อมใจ รุ่งกลาง พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุมีรถถูกทุบกระจก เหตุเกิดภายในซอยทวีมิตร 3 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง
http://mgr.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000153300
..................................................................................
แต่ในเนื้อข่าว ตรงนี้ ........แต่กระเป๋าถือสีดำ เงินสด และเอกสารเกี่ยวกับเครือข่ายยาเสพติดยังหาไม่พบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเก็บเอกสารทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
ใครจะกล้าคิดได้ว่า ทำไม โจรรายนี้ ถึงกล้าหาญกับตำรวจขนาดนี้ได้ ที่สำคัญนำเอกสารเกี่ยวกับเครือข่ายยาเสพย์ติดไปเสียด้วย งานนี้ ไม่ใช่โจรกระจอก..ต้องเป็นโจรนกอินทรีย์ !
เพราะหากเป็นเครือข่ายยาเสพติดทั่วไป น่าจะไม่กล้าล้วงคองูเขียวง่ายๆอย่างนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า อาจมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพื่ออยากรู้ว่าพรรคพวกของตน มีรายชื่อเป็นแบล็คลิสต์ในเครือข่ายยาเสพย์ติดของ พล.ต.อ.พงศพัศ หรือไม่ ? ..เห็นมั๊ย เริ่มเห็นเค้าละ
หากลองทบทวน เมื่อพรรคการเมืองพรรคนี้ มีอำนาจ ก็เกิดการระบาดของยาเสพย์ติดอย่างมหาศาล ทั้งยาบ้า ยาไอซ์ ยาเค ยาอี ฯลฯ (ไม่เกี่ยวกับยาทัมใจ)ไปทั่วประเทศ ทำให้ยาเสพย์ติดขายกันเกลื่อนเหมือนขายท็อฟฟี่ ..ราคาก็ถูก
แล้วถ้าย้อนไปอีก จะพบว่าเมื่อตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพย์ติดได้ ก็มักจะพบว่าผู้ที่ถูกจับกุม จะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับพรรคนั้นเสมอ เป็นลูกสส. บ้าง เป็นสข.บ้าง เป็นผู้สมัคร สส.บงฯลฯ..ยั๊วะเยี๊ยะ
จึงพอเชื่อมโยงเหตุการณ์ได้ว่า การทุบรถผู้ช่วยนายเวรฯของท่าน พงศพัศนั้น ไม่ใช่โจรธรรมดา แต่ต้องเป็นโจรที่สามารถรู้การเคลื่อนไหวของตำรวจ หรืออาจเป็นตำรวจที่ยังฝักใฝ่พรรคการเมืองนี้อยู่ ชี้เบาะแสให้โจรไปทุบรถ..เพื่อเอาข้อมูล
ฉะนั้น โจรร้ายนี้ ต้องมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพื่อต้องการข้อมูลเครือข่ายยาเสพย์ติด ไว้สำหรับแจ้งเตือนพวกเดียวกันให้รู้ตัวว่าถูกตำรวจขึ้นบัญชีดำไว้ และหาช่องหลบหลีกทางกฎหมาย ..ชัวร์ชัวร์
เป็นไงครับ นี่เพียงแค่ทดลอง เชื่อมโยงเหตุการณ์ดู เพื่อให้เห็นว่า ใครก็สามารถเชื่อมโยงกันได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าจะคิดไม่ดีต่อกัน มิไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ที่ทำได้ แต่ที่พรรคอื่นๆเขาไม่ทำเรื่องชั่วๆอย่างนี้กัน..เพราะเขายังเป็นคน !!!