คืออ่านคำอวยมาเยอะ แม้กระทั่งฟังทีมผู้สร้างอวยก็เยอะ ว่ามันดีอย่างนั่น
มันดีอย่างนี้กับหนังเรื่อง Hobbit อันนี้ยังไม่พูดถึงเรื่อง เฟรมเฟริมอะไรนะครับ
ด้วยตัวหนังมันก็ธรรมดาและก็ไม่น่าติดตามหรือตื่นเต้นอะไรมากมายเลย
หนังกลับด้อยกว่า ลอร์ด ออฟ ลิง ด้วยซ้ำไป คือผมอาจจะตั้งตารอและมีความ
คาดหวังเอาไว้มาก ๆ หนังทำเอาผมหลับตั้งแต่ตอนต้นเลย เหนือย ช้า เดินเรื่อง
ซ้ำซาก มาสนุกอีกทีก็ตอนออกจากหมู่บ้าน คำว่าสนุกไม่ใช่บอกว่าสุดยอด
แต่มันก็ดูเพลิน ๆ ได้เรื่อย ๆ แต่ก็มีขยับตัวดูเวลาเพราะรู้สึกว่ามันอืดอาด
และเรื่องราวก็ทำเอาตลกหลายฉากเพราะ หนังคิดอะไรมาทำที (เช่นคิดเรื่อง
ดวงจันทร์ก็มาทันที)
ข้อดีของเรื่องนี้มีแค่กอลลัมที่ดูมีมิติที่สุดในหนังเรื่องนี้
มาถึงเรื่อง 3 มิติ เวียนหัวสุด ๆ มิติไม่ดีเท่าอวตาร ใครบอกเรื่องนี้มิติดีเท่าอวตาร
ผมคิดว่าคุณน่าจะอวยเว่อร์เกิน สรุป 3 มิติไม่ผ่าน
จากการนั่งชม 3 มิติมาสองแบบคือ 3DHFR กับ IMAX
ผมได้ข้อสรุปคือ IMAX เวิร์คกว่าระบบใหม่อย่าง 3D HFR
สรุปคือเรื่องนี้ผิดหวังกับ ปีเตอร์ พอสมควร
--"
Hobbit HFR จบกัน ปีเตอร์แจ็คสัน
มันดีอย่างนี้กับหนังเรื่อง Hobbit อันนี้ยังไม่พูดถึงเรื่อง เฟรมเฟริมอะไรนะครับ
ด้วยตัวหนังมันก็ธรรมดาและก็ไม่น่าติดตามหรือตื่นเต้นอะไรมากมายเลย
หนังกลับด้อยกว่า ลอร์ด ออฟ ลิง ด้วยซ้ำไป คือผมอาจจะตั้งตารอและมีความ
คาดหวังเอาไว้มาก ๆ หนังทำเอาผมหลับตั้งแต่ตอนต้นเลย เหนือย ช้า เดินเรื่อง
ซ้ำซาก มาสนุกอีกทีก็ตอนออกจากหมู่บ้าน คำว่าสนุกไม่ใช่บอกว่าสุดยอด
แต่มันก็ดูเพลิน ๆ ได้เรื่อย ๆ แต่ก็มีขยับตัวดูเวลาเพราะรู้สึกว่ามันอืดอาด
และเรื่องราวก็ทำเอาตลกหลายฉากเพราะ หนังคิดอะไรมาทำที (เช่นคิดเรื่อง
ดวงจันทร์ก็มาทันที)
ข้อดีของเรื่องนี้มีแค่กอลลัมที่ดูมีมิติที่สุดในหนังเรื่องนี้
มาถึงเรื่อง 3 มิติ เวียนหัวสุด ๆ มิติไม่ดีเท่าอวตาร ใครบอกเรื่องนี้มิติดีเท่าอวตาร
ผมคิดว่าคุณน่าจะอวยเว่อร์เกิน สรุป 3 มิติไม่ผ่าน
จากการนั่งชม 3 มิติมาสองแบบคือ 3DHFR กับ IMAX
ผมได้ข้อสรุปคือ IMAX เวิร์คกว่าระบบใหม่อย่าง 3D HFR
สรุปคือเรื่องนี้ผิดหวังกับ ปีเตอร์ พอสมควร
--"