"อมรา" ยัน "กสม."ทำงานเป็นกลาง ไม่มี2มาตรฐาน
ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) วันที่17 ธ.ค. 55 นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเครือข่ายญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การสลายชุมนุมปี 2553 ที่เดินทางมาทวงถามความคืบหน้าการสรุปรายงานการสืบสวนสอบสวนในเหตุการณ์การชุมนุมเมือปี 2553 และ การสลายการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่าเป็นสองมาตรฐานหรือไม่ ว่า ตนไม่ขอยอมรับว่าการดำเนินการของกรรมการสิทธิฯเป็นสองมาตรฐาน โดยมองว่าเป็นข้อกล่าวหา และผู้ที่มาร้องเรียนมีความเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก รวมถึงมีรายละเอียดไม่ครบถ้วน เขาออกมาว่าเราไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ซึ่งแท้จริงเราทำมาโดยตลอด ที่ผ่านมาตนได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลเช่นเดียวกับการ ดำเนินการเหตุการณ์สลายการชุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม แต่พวกเขาไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริงต่างหาก ดังนั้นคิดว่าน่าจะได้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนเมื่อมีรายงานออกมาและตนจะไม่ตอบโต้เพราะถือว่าเขามาชวนทะเลาะ ส่วนความคืบหน้าของรายงาน กรณีความรุนแรงทางการเมืองในปี 53 นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดูร่างครั้งสุดท้าย ส่วนจะเผยแพร่ได้เมื่อใดนั้นยังไม่สามารถระบุออกมาได้
"ยืนยันว่าเราทำงานด้วยความยากลำบาก ในบรรยากาศของความขัดแย้ง และถือว่ามีคนที่ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของกรรมการสิทธิฯอยู่ แต่ที่เราอยู่ได้เพราะมีคนที่เข้าใจเราอยู่ด้วย ซึ่งก็ถือว่าเราอยู่ตรงกลาง และการทำงานมีอุปสรรคมากจึงเป็นเหตุให้ล่าช้า ส่วนที่เกิดคำถามถึงการทำงานนั้นก็ต้องปรึกษากันหากเรื่องใดจำเป็นต้องชี้แจงก็ต้องชี้แจงแต่หากเป็นเรื่องที่ มีการต่อว่าโดยไม่มีข้อมูลที่ครบถ้วนก็ไม่อยากเสียเวลาในการแก้ตัว"นางอมรา กล่าวและว่า ขอยืนยันว่าการดำเนินการของทั้งสองกรณีไม่มีความแตกต่างกัน เพราะต้องดำเนินการในแนวทางนี้ตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่มีการอ้างว่านางอมรา เคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีอำนาจเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลมีความแตกต่างกับน.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิ มนุษยชนแห่งชาติ ที่เรียกให้ผู้ที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะของม็อบอพส.เข้าให้ข้อมูลนั้น นางอมรา กล่าวว่า ตนไม่เคยพูดว่าไม่มีอำนาจในการเรียกแต่อย่างใด ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่ผิดและตนจะไม่แก้ตัวเพราะถือว่าเสียเวลา
มาแว๊วววว.......เจ๊อมรา
ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) วันที่17 ธ.ค. 55 นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเครือข่ายญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การสลายชุมนุมปี 2553 ที่เดินทางมาทวงถามความคืบหน้าการสรุปรายงานการสืบสวนสอบสวนในเหตุการณ์การชุมนุมเมือปี 2553 และ การสลายการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่าเป็นสองมาตรฐานหรือไม่ ว่า ตนไม่ขอยอมรับว่าการดำเนินการของกรรมการสิทธิฯเป็นสองมาตรฐาน โดยมองว่าเป็นข้อกล่าวหา และผู้ที่มาร้องเรียนมีความเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก รวมถึงมีรายละเอียดไม่ครบถ้วน เขาออกมาว่าเราไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ซึ่งแท้จริงเราทำมาโดยตลอด ที่ผ่านมาตนได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลเช่นเดียวกับการ ดำเนินการเหตุการณ์สลายการชุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม แต่พวกเขาไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริงต่างหาก ดังนั้นคิดว่าน่าจะได้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนเมื่อมีรายงานออกมาและตนจะไม่ตอบโต้เพราะถือว่าเขามาชวนทะเลาะ ส่วนความคืบหน้าของรายงาน กรณีความรุนแรงทางการเมืองในปี 53 นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดูร่างครั้งสุดท้าย ส่วนจะเผยแพร่ได้เมื่อใดนั้นยังไม่สามารถระบุออกมาได้
"ยืนยันว่าเราทำงานด้วยความยากลำบาก ในบรรยากาศของความขัดแย้ง และถือว่ามีคนที่ไม่เห็นด้วยกับการทำงานของกรรมการสิทธิฯอยู่ แต่ที่เราอยู่ได้เพราะมีคนที่เข้าใจเราอยู่ด้วย ซึ่งก็ถือว่าเราอยู่ตรงกลาง และการทำงานมีอุปสรรคมากจึงเป็นเหตุให้ล่าช้า ส่วนที่เกิดคำถามถึงการทำงานนั้นก็ต้องปรึกษากันหากเรื่องใดจำเป็นต้องชี้แจงก็ต้องชี้แจงแต่หากเป็นเรื่องที่ มีการต่อว่าโดยไม่มีข้อมูลที่ครบถ้วนก็ไม่อยากเสียเวลาในการแก้ตัว"นางอมรา กล่าวและว่า ขอยืนยันว่าการดำเนินการของทั้งสองกรณีไม่มีความแตกต่างกัน เพราะต้องดำเนินการในแนวทางนี้ตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่มีการอ้างว่านางอมรา เคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีอำนาจเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลมีความแตกต่างกับน.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิ มนุษยชนแห่งชาติ ที่เรียกให้ผู้ที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะของม็อบอพส.เข้าให้ข้อมูลนั้น นางอมรา กล่าวว่า ตนไม่เคยพูดว่าไม่มีอำนาจในการเรียกแต่อย่างใด ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่ผิดและตนจะไม่แก้ตัวเพราะถือว่าเสียเวลา