การที่เราฝึกทำอะไรก็แล้วแต่ แต่พอถึงจุดนึง เราจะได้สิ่งที่เป็นความสามารถเฉพาะอย่างขึ้นมา เช่น การเล่นกีตาร์ของผม เมื่อก่อนตอนหัดใหม่ๆ ผมจะต้องถือหนังสือเพลงไปด้วย เพื่อจะเล่นเพลงอะไร เพราะในหนังสือเพลงนั้นมักจะมีคอร์ดกีตาร์เขียนลงไปด้วย ยกเว้นว่าจำคอร์ดของเพลงนั้นๆได้ แต่ถ้าไม่มีหนังสือเพลง ถึงแม้จะรู้จักเพลงนั้น ก็จะเล่นไม่ได้ แต่พอผมเล่นไปถึงจุดนึง ผมก็ทำการศึกษาหลักการของคอร์ดกีตาร์ในเพลง หลังจากนั้น ผมก็มาฝึกเดาคอร์ดว่าช่วงเสียงจะลงทำนองอย่างไร ผมก็จะสามารถเดาคอร์ดได้ถูกทำนองเพลง ความแม่นยำ ก็ 90% ขึ้น พอผมได้อย่างนี้ ผมเลิกพกหนังสือเพลงเลย ผมใช้จำทำนองเอา ถึงแม้จะมีการดูหนังสือเพลง แต่ก็จำแค่ว่าเริ่มต้นด้วยคอร์ดอะไร จากนั้นผมก็ใหลไปได้เอง ทีนี้ เพื่อนที่ชอบร้องเพลง หรือเวลาตั้งกลุ่ม เพื่อร้องเพลงกันสมัยวัยรุ่น เพื่อนๆก็ชอบมาก เพราะ ไม่ต้องมา strick ว่าต้องให้เราดูคอร์ดหรือเขาอยากร้องเพลงอะไร ไม่ว่า จะลูกทุ่ง ลูกกรุง หมอลำ ลิเก ไทยสากล สากล ผมเล่นได้เกือบหมด ขอให้ผมรู้ทำนองบ้างหรือแทบไม่รู้แต่พอเดาทางทำนองได้ ก็เล่นได้ (แต่วงเหล้า ชอบเป็นพิเศษ อิอิ) ความสามารถนี้ ตั้งแต่เรียน ม. 3 แต่หัดเล่นกีตาร์ตอน ม. 2
ผมก็มาเปรียบเทียบกับการฝึกฝนสิ่งใด ใช่ว่าทุกคนจะได้ความสามารถเฉพาะอย่างที่เหมือนกัน อย่างเล่นกีตาร์ บางคนโซโล่ ได้เก่ง แต่พอให้เล่นเดาคอร์ดเหมือนผม ก็มักจะเดาไม่ถูก แต่ผมเอง ก็ดันโซโล่ไม่เก่ง เหมือนเขา นี่ก็เปรียบเหมือนว่า คนที่ฝึกสมาธิ ก็ใช่ว่าทุกคนจะได้อภิญญา หรือความสามารถพิเศษที่เหมือนกัน หรือทุกๆคน ก็ใช่ว่าจะได้ ทั้งนี้ ก็ขึ้นกับ ของเก่าที่เคยฝึกมา และ อิทธิบาท 4 ใช่ไหมครับ
ผมเลยมีความคิดที่ว่า การนั่งสมาธิ ก็เหมือนกับการฝึกหัดเล่นกีตาร์ หรือ กิจกรรมใดๆ ในทางกายภาพที่เราชอบ คนหัดเล่นกีตาร์ใหม่ๆ ก็ต้องมีอารมร์ วิตก วิจารณ์ อารมณ์วิตก คือ มือซ้ายต้องจับคอร์ดให้ถูกตำแหน่ง กดให้แน่นพอประมาณ เพื่อไม่ให้เสียงบอด มือขวาก็ต้องดีดให้ถูกสาย สรุปคือต้องตามหลักการให้เป๊ะที่สุด พออารมณ์วิจารณ์ ก็คือ เอ๋ เราวิจารณ์การกดคอร์ดมือซ้ายและการดีดสายของมือขวาได้ว่า กดคอร์ดแรง หรือ ดีดค่อยดีแรง หรือ ดีดเป็นทำนองไหม พอเริ่มคล่อง วิตก วิจารณ์ จะเห็นว่ามือซ้ายมือขวามันทำงานกันสำพันธ์อัตโนมัติ ก็จะเกิดอารมณ์ ปิติ สุข ตามมา เพราะเล่นเพลงได้ไพเราะล่ะ
สรุป นี่คือความเข้าใจในทางสมาธิของผม ผิดถูก ขอชี้แนะครับ
การที่ผมเล่นกีตาร์ได้โดยที่ผมไม่ต้องดูหนังสือเพลงว่าใช้คอร์ดอะไร ถือว่าผมได้อภิญญาในสิ่งที่ทำ ไหมครับ
ผมก็มาเปรียบเทียบกับการฝึกฝนสิ่งใด ใช่ว่าทุกคนจะได้ความสามารถเฉพาะอย่างที่เหมือนกัน อย่างเล่นกีตาร์ บางคนโซโล่ ได้เก่ง แต่พอให้เล่นเดาคอร์ดเหมือนผม ก็มักจะเดาไม่ถูก แต่ผมเอง ก็ดันโซโล่ไม่เก่ง เหมือนเขา นี่ก็เปรียบเหมือนว่า คนที่ฝึกสมาธิ ก็ใช่ว่าทุกคนจะได้อภิญญา หรือความสามารถพิเศษที่เหมือนกัน หรือทุกๆคน ก็ใช่ว่าจะได้ ทั้งนี้ ก็ขึ้นกับ ของเก่าที่เคยฝึกมา และ อิทธิบาท 4 ใช่ไหมครับ
ผมเลยมีความคิดที่ว่า การนั่งสมาธิ ก็เหมือนกับการฝึกหัดเล่นกีตาร์ หรือ กิจกรรมใดๆ ในทางกายภาพที่เราชอบ คนหัดเล่นกีตาร์ใหม่ๆ ก็ต้องมีอารมร์ วิตก วิจารณ์ อารมณ์วิตก คือ มือซ้ายต้องจับคอร์ดให้ถูกตำแหน่ง กดให้แน่นพอประมาณ เพื่อไม่ให้เสียงบอด มือขวาก็ต้องดีดให้ถูกสาย สรุปคือต้องตามหลักการให้เป๊ะที่สุด พออารมณ์วิจารณ์ ก็คือ เอ๋ เราวิจารณ์การกดคอร์ดมือซ้ายและการดีดสายของมือขวาได้ว่า กดคอร์ดแรง หรือ ดีดค่อยดีแรง หรือ ดีดเป็นทำนองไหม พอเริ่มคล่อง วิตก วิจารณ์ จะเห็นว่ามือซ้ายมือขวามันทำงานกันสำพันธ์อัตโนมัติ ก็จะเกิดอารมณ์ ปิติ สุข ตามมา เพราะเล่นเพลงได้ไพเราะล่ะ
สรุป นี่คือความเข้าใจในทางสมาธิของผม ผิดถูก ขอชี้แนะครับ