ไม่มีรถมันไม่ตายหรอก แต่ไม่มีเงินกินข้าวน่ะ จะอดตาย

กระทู้สนทนา
แฟนว่าหนูค่ะ ใช้ประโยคนี้เป็นประจำ เวลาพูดถึงเรื่องจะซื้อรถ ที่มา ก็มาจากความที่หนูอยากได้รถ เงินน่ะมีค่ะ แต่ใจก็เสียดายเงินนิดหน่อย มีเงินแสนไว้อุ่นใจ แต่ก็เสียดายภาษี (ถ้าได้คืนจะเก็บไว้เป็นค่าต่างๆเกี่ยวกับรถค่ะ มันก็ดีใช่ไหมล่ะค่ะ เงินแสนหาไม่ยาก แต่นานกว่าจะหาได้ ใช้เวลาหลายเดือน) ถ้าไม่ออกตอนนี้ ก็ได้ออกปีหน้าอยู่ดี

หนูกลัวเสียหน้า(ดูถูก ว่าไม่มีปัญญา)ญาติๆ วัยเดียวกัน เขามีรถกันหมด ขนาดคนไม่มีปัญญา ยังออกได้ (ดาวน์น้อย ผ่อนนาน) ทั้งๆที่พ่อแม่ดาวน์ให้ด้วยซ้ำ บางคนพ่อแม่ช่วยผ่อนให้อีก แต่กลับได้รับการยกย่อง หรือ(คำชมเชย) จากผู้ใหญ่

แฟนหนูก็มีรถ(เก๋ง Honda FD)น่ะค่ะ ปากก็พูดว่าจะให้รถมาใช้ ตัวเขาเองใช้บริการพี่วินได้ แต่ไม่เห็นจะเอามาให้ใช้เลย

จากที่แฟนเคยใช้รถยนต์ เคยขับไปทำงานทุกวัน ข้าวของที่เกี่ยวกับงานก็เต็มรถไปหมด พวกชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ มีโน้ตบุ๊คอีก

แล้วอยู่มาวันนึงต้องเอารถมาให้แฟนใช้ ส่วนตนเองหันมาใช้รถมอไซต์ ปั่นจักรยาน ไปทำงานแทนการใช้รถยนต์ จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ได้ไหม?

ส่วนตัวหนูไม่เชื่อค่ะ 100 %

ไม่มีเงินกินข้าว กินมาม่าได้ ปลากระป๋องคลุกข้าวได้ อย่าต้องมาเป็นห่วงกันเลย เอาตัวรอดได้ มาม่ามีเป็นลัง (ถ้าจำเป็นจริงๆไม่กิน)

อยากมาบ่น ระบายให้ฟังค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่รับฟัง

แก้ไขข้อความให้อ่านเพื่อที่จะเข้าใจถึงความรู้สึกของหนูมากขึ้นค่ะ

อยากจะว่า ติ แนะนำ อะไร เต็มที่ๆ ค่ะพี่ๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่