ชป.ไม่ปล่อยเลยผ่าน ยื่น ป.ป.ช.-ผู้ตรวจการแผ่นดิน เอาผิด ปู-ศันสนีย์ สมคบ ชัยสิทธิ์ เหิมเกริม ทำเรื่องมิบังควร แอบอ้างใช้ถ้วยพระราชทานศึกมวยไทยวอริเออร์สฯ แถมให้ นช.แม้ว นักโทษหนีคดีจ้อผ่านช่อง 11 เผยมีพยานยืนยันท้วงติงแล้ว แต่ผู้มีอำนาจบอกให้เลยตามเลย เตรียมกันอธิบดี-ขรก.กรมประชาฯ เป็นพยาน
วันนี้(15 ธ.ค.) น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีสำนักราชเลขาธิการได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะประธานจัดงานศึกมวยไทยวอริเออร์ส ปีที่ 2 เทิดไท้องค์ราชัน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา ที่เขตปกครองพิเศษมาเก๊า ซึ่งถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 11 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยพล.อ.ชัยสิทธิ์ ใช้ถ้วยพระราชทานศึกมวยไทยวอริเออร์สฯ โดยไม่ได้ขอพระบรมราชานุญาต ว่า ล่าสุด พล.อ.ชัยสิทธิ์ อ้างว่าผิดพลาดและเป็นเรื่องมิบังควรจริงโดยอ้างว่าเป็นความผิดพลาดในขั้นตอน และเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวร ที่เป็นประธานเปิดงาน เรื่องนี้พรรคกำลังรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียดเพื่อส่งผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เอาผิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และน.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากนั้นยังมีหลักฐานที่เป็นพยานบุคคลอีกส่วนหนึ่งที่ท้วงติงกรณีการแอบอ้าง และใช้ถ้วยพระราชทานปลอมตั้งแต่ก่อนจะถ่ายทอดสดเพราะคนปฏิบัติงานเขาก็กลัวและรู้ถึงสิ่งมิบังควร แต่ผู้มีอำนาจกลับบอกว่า เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วก็ให้เลยตามเลย ดังนั้นเห็นว่า กันฝ่ายปฏิบัติงานช่อง 11 ออกมาเป็นพยานทุกคนตั้งแต่อธิบดีลงมา และ ป.ป.ช.และผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้องรีบสืบสวนสอบสวนไม่เช่นนั้นคงจะมีการตัดตอนพยานเกิดขึ้นอีกแน่นอน
แม้พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้ทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษแล้วแต่เป็นการทำหลังจากสำนักราชเลขาธิการท้วงติง ที่สำคัญคือตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ผู้จัดงาน รวมทั้งช่อง 11 ผู้ถ่ายทอดก็สมคบกันใช่หรือไม่ เพราะต่างรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่า้วยดังกล่าวเป็นถ้วยพระราชทานปลอม แต่ยังกล้า ซึ่งเป็นทำร้ายจิตใจคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นเรื่องนี้คนไทยไม่ควรเพิกเฉย และควรทำเรื่องนี้ให้เป็นเยี่ยงอย่างในสังคม จะได้ไม่มีใครกล้าอีก ทั้งนี้ดิฉันจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดไม่ปล่อยให้เลยตามเลย โดยหลักฐานเบื้องต้นได้มาแล้ว 60เปอร์เซ็นต์ แต่จะรวบรวมให้ได้ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์ ให้ทาง ป.ป.ช.และผู้ตรวจการแผ่นดิน ดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวร่ายงานว่า น.ส.มัลลิกา ได้นำภาพถ่ายของนายพานทองแท้ ชินวัตร ซึ่งถ่ายคู่กับพล.อ.ชัยสิทธิ์ บริเวณข้างเวทีมวยมาประกอบการแถลงข่าวด้วย โดยระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของหลักฐานในการยื่นต่อ ป.ป.ช.และผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป
ปชป.ยื่น ป.ป.ช. ฟัน ปู-ศันสนีย์เหิมปล่อย ชยสิทธิ์ใช้ถ้วยพระราชทานปลอม
วันนี้(15 ธ.ค.) น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีสำนักราชเลขาธิการได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะประธานจัดงานศึกมวยไทยวอริเออร์ส ปีที่ 2 เทิดไท้องค์ราชัน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา ที่เขตปกครองพิเศษมาเก๊า ซึ่งถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 11 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยพล.อ.ชัยสิทธิ์ ใช้ถ้วยพระราชทานศึกมวยไทยวอริเออร์สฯ โดยไม่ได้ขอพระบรมราชานุญาต ว่า ล่าสุด พล.อ.ชัยสิทธิ์ อ้างว่าผิดพลาดและเป็นเรื่องมิบังควรจริงโดยอ้างว่าเป็นความผิดพลาดในขั้นตอน และเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวร ที่เป็นประธานเปิดงาน เรื่องนี้พรรคกำลังรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียดเพื่อส่งผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เอาผิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และน.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากนั้นยังมีหลักฐานที่เป็นพยานบุคคลอีกส่วนหนึ่งที่ท้วงติงกรณีการแอบอ้าง และใช้ถ้วยพระราชทานปลอมตั้งแต่ก่อนจะถ่ายทอดสดเพราะคนปฏิบัติงานเขาก็กลัวและรู้ถึงสิ่งมิบังควร แต่ผู้มีอำนาจกลับบอกว่า เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วก็ให้เลยตามเลย ดังนั้นเห็นว่า กันฝ่ายปฏิบัติงานช่อง 11 ออกมาเป็นพยานทุกคนตั้งแต่อธิบดีลงมา และ ป.ป.ช.และผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้องรีบสืบสวนสอบสวนไม่เช่นนั้นคงจะมีการตัดตอนพยานเกิดขึ้นอีกแน่นอน
แม้พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้ทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษแล้วแต่เป็นการทำหลังจากสำนักราชเลขาธิการท้วงติง ที่สำคัญคือตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ผู้จัดงาน รวมทั้งช่อง 11 ผู้ถ่ายทอดก็สมคบกันใช่หรือไม่ เพราะต่างรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่า้วยดังกล่าวเป็นถ้วยพระราชทานปลอม แต่ยังกล้า ซึ่งเป็นทำร้ายจิตใจคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นเรื่องนี้คนไทยไม่ควรเพิกเฉย และควรทำเรื่องนี้ให้เป็นเยี่ยงอย่างในสังคม จะได้ไม่มีใครกล้าอีก ทั้งนี้ดิฉันจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดไม่ปล่อยให้เลยตามเลย โดยหลักฐานเบื้องต้นได้มาแล้ว 60เปอร์เซ็นต์ แต่จะรวบรวมให้ได้ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์ ให้ทาง ป.ป.ช.และผู้ตรวจการแผ่นดิน ดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวร่ายงานว่า น.ส.มัลลิกา ได้นำภาพถ่ายของนายพานทองแท้ ชินวัตร ซึ่งถ่ายคู่กับพล.อ.ชัยสิทธิ์ บริเวณข้างเวทีมวยมาประกอบการแถลงข่าวด้วย โดยระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของหลักฐานในการยื่นต่อ ป.ป.ช.และผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป