อยากแนะนำที่พักในโอซาก้า เป็นบ้าน 2 ชั้นอายุ 40 ปีในย่านชุมชุนคนญี่ปุ่นค่ะ เข้าใจว่าหลายคนอยากพักแถบ Shinsaibashi หรืออะไรแถวๆนั้นตามสไตล์นักท่องเที่ยวเพราะต้องการความสะดวกสบาย แต่จริงๆแล้ว ถ้าเป็นทริปเที่ยว Kansai แล้วตั้งใจเที่ยวใจกลางเมืองซักวันนึง นอกนั้นก็ใช้ Osaka เป็นฐานที่ตั้ง เที่ยวรอบๆ เช่น Kobe, Kyoto, Nara, Wakayama แบบไปเช้าเย็นกลับ ไปดูวิถีชีวิต ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาไปช้อปปิ้ง การอยู่ Shinsaibashi, Namba ก็ดูแล้วไม่น่าจะมีความจำเป็นอะไรเลย และที่นี่ก็ไม่ได้ห่างจากใจกลางเมืองเล้ยยย การนั่งรถไฟระหว่าง Umeda กับที่นี่ (
Kami-shinjo station) ใช้เวลาเพียง 12 นาทีเท่านั้น เหมือนนั่ง MRT จากอโศกไปสามย่าน ถ้าจะไป Namba, Dotonbori ก็นั่ง subway จาก Kamishinjo ไปลง Nipponbashi station ซึ่งง่ายมาก เดินอีก 5 นาทีถึง Namba ไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟ
ส่วนใหญ่คนไทยจะต้องการที่พักที่ตอบโจทย์อยู่ 2 อย่างหลักๆคือ ใกล้ Namba / Shinsabashi ไม๊ และ ใกล้สถานี JR ไม๊เพราะจะซื้อ JR Pass (คือ by default ไปเที่ยวญี่ปุ่นต้อง JR Pass งิ) จริงๆแล้วการจะเที่ยวเจาะคันไซ ใช้บัตร Kansai Through Pass ก็สะดวกมากๆ อย่างในตัวเมืองโอซาก้าเนี่ยมันนั่งไปไหนมาไหนได้ซอกแซกกว่า JR เพราะ JR มันวนเป็นวงกลม หรือบางทีอาจจะชอบคิดว่านั่ง JR แล้วไม่ต้องเปลี่ยนสาย เช่นจากโอซาก้าไปวัดในเกียวโต มันต้องเปลี่ยนนะจ๊ะ จากบ้านนี้นั่งสาย Hankyu (ใช้ KTP ได้) สะดวกสบายมากเพราะเป็นเส้นที่เข้าเกียวโตได้ง่าย เข้าจาก West Kyoto (Arashiyama - ป่าไผ่) และ KTP 3 วันไม่จำเป็นต้องใช้ติดต่อกัน
บ้านหลังนี้มี 2 ชั้น ชั้นล่างมีห้องนั่งเล่น ห้องครัว (+ทานอาหาร) และห้องน้ำ ชั้นบนมีห้องนอน 2 ห้อง แต่ละห้องเซ็ทไว้ให้นอน 2 คนแต่เอาเข้าจริงๆนอนได้ห้องละ 3 โดยห้องนั่งเล่นด้านล่างสามารถปรับเป็นห้องนอนได้สำหรับ 2 คน แต่เราว่าไปแบบหลวมๆ สบายๆสัก 4 คนท่าจะเหมาะที่สุด ตอนที่ไปคือไป 4 คน futon ปูเป็น 4 ที่ ห้องนอนละ 2 ที่โดยแต่ละที่ซ้อน futon เป็น 2 ชั้นทำให้นอนอุ่น นุ่ม สบายมากๆ ทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่นด้านล่าง พื้นเป็นเสื่อตาตามิและบ้านเป็น traditional Japanese style
และเมื่อไปแล้วก็รู้สึกเหมือนเราไปอยู่จริงๆ เหมือนเราไปเรียนญี่ปุ่น เหมือนไปลองอยู่แบบคนญี่ปุ่น เหมือนเป็นแม่บ้านญี่ปุ่น 555 เพราะย่านนั้นไม่มีนักท่องเที่ยวเลยและไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นนักท่องเที่ยว แม้กระทั่งออนเซนที่ไปแช่เกือบทุกคืนก็เป็นออนเซนที่ดูแล้วมีแต่คนในพื้นที่ไปใช้บริการ ถ้าเดินๆหน่อย รอบๆมีร้านอาหารไม่น้อยเลยทีเดียว เราแช่ออนเซนเสร็จแล้วไปนั่งจิบเบียร์ จกซาชิมิ จกหอยต่อ คือมันชิล มันไม่ต้องเดินตามฝูงชน มันไม่เหนื่อยมาก บ้านห่างจากสถานี
Kami-shinjo 10 นาที (เดิน) บางวันพวกเราแชร์ค่าแท็กซี่กันเพราะแอบขี้เกียจ แช่ออนเซนมาแล้วตัวเบา ง่วง นั่งแทกซี่ไม่เกิน 2 นาที ในราคา 680 เยน (ซึ่งเป็นราคาเริ่มต้น) และคลานขึ้นไปนอนที่นอนนุ่มๆ
ถ้าไป 4 คน และถ้าไม่ขี้เกียจที่จะขนกระเป๋าขึ้นชั้นบนก็เอากระเป๋าวางไว้ในห้องนั่งเล่นก็ได้เพราะบันไดชันและเล็กนิดนึง แต่ถ้าอยู่หลายวัน อยากเอากระเป๋าไว้ข้างบน ก็ต้องยก 2 คนนะคะ คนเดียวไม่ไหวหรอกโดยเฉพาะขาลง ต้องระวังดีๆเลย นอกนั้นก็ไม่มีอะไร ห้องน้ำ... มี 1 ห้อง ห้องส้วม 1 ห้อง ไม่ต้องแย่งกันค่ะ เพราะไม่อาบน้ำ! เฮ้ย ไม่ช่าย เพราะเวลาอีกคนอาบน้ำ อีกคนก็ล้างหน้าแปรงฟัน ส่วนอีกคนก็ทำธุระค่ะ ไม่ต้องแย่งกันเข้าห้องน้ำ 3 ฟังก์ชั่นแยกส่วนกัน
เรื่องหิวดึกๆดื่นๆ อันนี้ไม่ต้องกลัว เดินออกมาหาของกินได้ ซุปเปอร์มาร์เก็ตอย่างใหญ่ ของกินเยอะ มีทั้งเบนโตะ ซาชิมิ ของสด ผลไม้ เบียร์ สาเก มาม่า ขนม ที่นี่เปิด 9 โมงเช้า ปิดตี 1 ค่ะ แต่ถ้าหิวหลังตี 1 ก็ Family mart ข้างบ้านหรือร้านเบนโตะ 24 ชม หน้าบ้านค่ะ และอีกข้างหนึ่งของบ้านมีร้านปิ้งย่าง (Yakiniku) ข้ามถนนไปฝั่งตรงกันข้ามก็มีร้านเหล้า (Izakaya) รอบๆสถานีรถไฟก็มีหลายร้านที่เปิดดึกๆดื่นๆ หรือเปิดตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ
เราได้ทำอย่างที่ตั้งใจคือเที่ยวในใจกลางเมือง 1 วัน Kobe, Kyoto, Nara, และ Koyasan ที่ละ 1 วัน โดยการเดินทางไป Kyoto และ Kobe นั้นง๊ายง่ายๆๆๆ แสนง่าย ไม่ต้องต่อรถไฟ ยิงยาวเลย แค่งีบเดียวก็ถึง Arashiyama แล้ว นั่งรถไฟสาย Hankyu จาก Kami-shinjo ยาวเลย ถ้าขับรถ ข้างบ้านมีที่จอดรถทั้งคืน 300 เยน ทางไปสถานีรถไฟ มีที่เช่ารถของ Nissan ค่ะ
บ้านทั้งหลังพักได้ 4-6 คน ราคา จองผ่าน Airbnb บางครั้งราคาจะขยับขึ้น-ลง
https://www.airbnb.com/rooms/13067436
แต่ ณ. วันนี้ ราคาถูกม๊ากกกกก 5 พันกว่าเยน (บ้านทั้งหลัง)
อันนี้เป็นลิงก์ออนเซนข้างสถานีรถไฟ Kami-shinjo -
http://www.onsen-mangetsu.jp/
ถ้าจองตรงกับเจ้าของบ้านจะได้ราคาที่ถูกลงเพราะไม่ต้องจ่ายค่า airbnb service fee -
http://www.OsakaVacationHome.com
ปล. ขอรูปเค้ามาจากเว็บ Airbnb
[SR] Don't go to Osaka. Live there! 6 วันในโอซาก้า ประหนึ่งว่าไปใช้ชีวิต
อยากแนะนำที่พักในโอซาก้า เป็นบ้าน 2 ชั้นอายุ 40 ปีในย่านชุมชุนคนญี่ปุ่นค่ะ เข้าใจว่าหลายคนอยากพักแถบ Shinsaibashi หรืออะไรแถวๆนั้นตามสไตล์นักท่องเที่ยวเพราะต้องการความสะดวกสบาย แต่จริงๆแล้ว ถ้าเป็นทริปเที่ยว Kansai แล้วตั้งใจเที่ยวใจกลางเมืองซักวันนึง นอกนั้นก็ใช้ Osaka เป็นฐานที่ตั้ง เที่ยวรอบๆ เช่น Kobe, Kyoto, Nara, Wakayama แบบไปเช้าเย็นกลับ ไปดูวิถีชีวิต ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาไปช้อปปิ้ง การอยู่ Shinsaibashi, Namba ก็ดูแล้วไม่น่าจะมีความจำเป็นอะไรเลย และที่นี่ก็ไม่ได้ห่างจากใจกลางเมืองเล้ยยย การนั่งรถไฟระหว่าง Umeda กับที่นี่ (Kami-shinjo station) ใช้เวลาเพียง 12 นาทีเท่านั้น เหมือนนั่ง MRT จากอโศกไปสามย่าน ถ้าจะไป Namba, Dotonbori ก็นั่ง subway จาก Kamishinjo ไปลง Nipponbashi station ซึ่งง่ายมาก เดินอีก 5 นาทีถึง Namba ไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟ
ส่วนใหญ่คนไทยจะต้องการที่พักที่ตอบโจทย์อยู่ 2 อย่างหลักๆคือ ใกล้ Namba / Shinsabashi ไม๊ และ ใกล้สถานี JR ไม๊เพราะจะซื้อ JR Pass (คือ by default ไปเที่ยวญี่ปุ่นต้อง JR Pass งิ) จริงๆแล้วการจะเที่ยวเจาะคันไซ ใช้บัตร Kansai Through Pass ก็สะดวกมากๆ อย่างในตัวเมืองโอซาก้าเนี่ยมันนั่งไปไหนมาไหนได้ซอกแซกกว่า JR เพราะ JR มันวนเป็นวงกลม หรือบางทีอาจจะชอบคิดว่านั่ง JR แล้วไม่ต้องเปลี่ยนสาย เช่นจากโอซาก้าไปวัดในเกียวโต มันต้องเปลี่ยนนะจ๊ะ จากบ้านนี้นั่งสาย Hankyu (ใช้ KTP ได้) สะดวกสบายมากเพราะเป็นเส้นที่เข้าเกียวโตได้ง่าย เข้าจาก West Kyoto (Arashiyama - ป่าไผ่) และ KTP 3 วันไม่จำเป็นต้องใช้ติดต่อกัน
บ้านหลังนี้มี 2 ชั้น ชั้นล่างมีห้องนั่งเล่น ห้องครัว (+ทานอาหาร) และห้องน้ำ ชั้นบนมีห้องนอน 2 ห้อง แต่ละห้องเซ็ทไว้ให้นอน 2 คนแต่เอาเข้าจริงๆนอนได้ห้องละ 3 โดยห้องนั่งเล่นด้านล่างสามารถปรับเป็นห้องนอนได้สำหรับ 2 คน แต่เราว่าไปแบบหลวมๆ สบายๆสัก 4 คนท่าจะเหมาะที่สุด ตอนที่ไปคือไป 4 คน futon ปูเป็น 4 ที่ ห้องนอนละ 2 ที่โดยแต่ละที่ซ้อน futon เป็น 2 ชั้นทำให้นอนอุ่น นุ่ม สบายมากๆ ทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่นด้านล่าง พื้นเป็นเสื่อตาตามิและบ้านเป็น traditional Japanese style
และเมื่อไปแล้วก็รู้สึกเหมือนเราไปอยู่จริงๆ เหมือนเราไปเรียนญี่ปุ่น เหมือนไปลองอยู่แบบคนญี่ปุ่น เหมือนเป็นแม่บ้านญี่ปุ่น 555 เพราะย่านนั้นไม่มีนักท่องเที่ยวเลยและไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นนักท่องเที่ยว แม้กระทั่งออนเซนที่ไปแช่เกือบทุกคืนก็เป็นออนเซนที่ดูแล้วมีแต่คนในพื้นที่ไปใช้บริการ ถ้าเดินๆหน่อย รอบๆมีร้านอาหารไม่น้อยเลยทีเดียว เราแช่ออนเซนเสร็จแล้วไปนั่งจิบเบียร์ จกซาชิมิ จกหอยต่อ คือมันชิล มันไม่ต้องเดินตามฝูงชน มันไม่เหนื่อยมาก บ้านห่างจากสถานี Kami-shinjo 10 นาที (เดิน) บางวันพวกเราแชร์ค่าแท็กซี่กันเพราะแอบขี้เกียจ แช่ออนเซนมาแล้วตัวเบา ง่วง นั่งแทกซี่ไม่เกิน 2 นาที ในราคา 680 เยน (ซึ่งเป็นราคาเริ่มต้น) และคลานขึ้นไปนอนที่นอนนุ่มๆ
ถ้าไป 4 คน และถ้าไม่ขี้เกียจที่จะขนกระเป๋าขึ้นชั้นบนก็เอากระเป๋าวางไว้ในห้องนั่งเล่นก็ได้เพราะบันไดชันและเล็กนิดนึง แต่ถ้าอยู่หลายวัน อยากเอากระเป๋าไว้ข้างบน ก็ต้องยก 2 คนนะคะ คนเดียวไม่ไหวหรอกโดยเฉพาะขาลง ต้องระวังดีๆเลย นอกนั้นก็ไม่มีอะไร ห้องน้ำ... มี 1 ห้อง ห้องส้วม 1 ห้อง ไม่ต้องแย่งกันค่ะ เพราะไม่อาบน้ำ! เฮ้ย ไม่ช่าย เพราะเวลาอีกคนอาบน้ำ อีกคนก็ล้างหน้าแปรงฟัน ส่วนอีกคนก็ทำธุระค่ะ ไม่ต้องแย่งกันเข้าห้องน้ำ 3 ฟังก์ชั่นแยกส่วนกัน
เรื่องหิวดึกๆดื่นๆ อันนี้ไม่ต้องกลัว เดินออกมาหาของกินได้ ซุปเปอร์มาร์เก็ตอย่างใหญ่ ของกินเยอะ มีทั้งเบนโตะ ซาชิมิ ของสด ผลไม้ เบียร์ สาเก มาม่า ขนม ที่นี่เปิด 9 โมงเช้า ปิดตี 1 ค่ะ แต่ถ้าหิวหลังตี 1 ก็ Family mart ข้างบ้านหรือร้านเบนโตะ 24 ชม หน้าบ้านค่ะ และอีกข้างหนึ่งของบ้านมีร้านปิ้งย่าง (Yakiniku) ข้ามถนนไปฝั่งตรงกันข้ามก็มีร้านเหล้า (Izakaya) รอบๆสถานีรถไฟก็มีหลายร้านที่เปิดดึกๆดื่นๆ หรือเปิดตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ
เราได้ทำอย่างที่ตั้งใจคือเที่ยวในใจกลางเมือง 1 วัน Kobe, Kyoto, Nara, และ Koyasan ที่ละ 1 วัน โดยการเดินทางไป Kyoto และ Kobe นั้นง๊ายง่ายๆๆๆ แสนง่าย ไม่ต้องต่อรถไฟ ยิงยาวเลย แค่งีบเดียวก็ถึง Arashiyama แล้ว นั่งรถไฟสาย Hankyu จาก Kami-shinjo ยาวเลย ถ้าขับรถ ข้างบ้านมีที่จอดรถทั้งคืน 300 เยน ทางไปสถานีรถไฟ มีที่เช่ารถของ Nissan ค่ะ
บ้านทั้งหลังพักได้ 4-6 คน ราคา จองผ่าน Airbnb บางครั้งราคาจะขยับขึ้น-ลง
https://www.airbnb.com/rooms/13067436
แต่ ณ. วันนี้ ราคาถูกม๊ากกกกก 5 พันกว่าเยน (บ้านทั้งหลัง)
อันนี้เป็นลิงก์ออนเซนข้างสถานีรถไฟ Kami-shinjo - http://www.onsen-mangetsu.jp/
ถ้าจองตรงกับเจ้าของบ้านจะได้ราคาที่ถูกลงเพราะไม่ต้องจ่ายค่า airbnb service fee - http://www.OsakaVacationHome.com
ปล. ขอรูปเค้ามาจากเว็บ Airbnb