[CR] เที่ยว เยอรมัน-ออสเตรีย-อิตาลี

สวัสดีค่ะ วันนี้จขกท.จะมารีวิวการเที่ยวยุโรปตะวันออก(เยอรมัน-ออสเตรีย-อิตาลี) 7 วัน ด้วยงบไม่เกิน 40K (รวมตั๋วเครื่องบิน และไม่เน้นกินหรู) ในที่นี้จะขอข้ามขั้นตอนการขอวีซ่าเชงเก้นนะคะ เพราะเคยรีวิวไว้แล้วในกระทู้นี้ค่ะhttp://ppantip.com/topic/33822914

ตามที่บอกไว้แล้วในกระทู้ก่อนว่า  เราจองตั๋วแบบ Multiple city คราวนี้ต้องบินออกจากสิงคโปร์ค่ะ
โดยออกเดินทางจากสิงคโปร์วันที่ 8 ส.ค. 58 เวลา 20.10 น.

วันที่ 1
     เดินทางถึงสนามบินมิวนิค วันที่ 9 ส.ค. 58 เวลา 6.45 ค่ะ การเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองมิวนิคจะต้องนั่งรถไฟจากสถานี Muenchen Flughafen ไปยังสถานี Muenchen Hauptbahnhof (HBF) (**Hauptbahnhof หรือ Hbf. แปลว่า สถานีหลัก**)
          สถานที่ : สนามบิน ---------------------------------------------> ตัวเมืองมิวนิค
          สถานี   : Muenchen Flughafen ----------------------------> Muenchen HBF
เราไม่ซื้อตั๋วแบบ Point to point แต่เลือกซื้อ Bayern Ticket (Bavaria Ticket) จากตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ สำหรับคนที่แลกเงินไปเป็นแบงค์ใหญ่พวกแบงค์ 100 และ 50 EUR ซึ่งเครื่องซื้อตั๋วนี้จะไม่รับแบงค์ใหญ่ อาจต้องเข้าซุปเปอร์ที่สนามบินเพื่อแตกแบงค์ใหญ่ก่อนค่ะ สาเหตุที่เราเลือกซื้อ Bayern Ticket เพราะเราแพลนว่าวันนี้จะเที่ยวมิวนิคทั้งวันไปทุกที่ๆเป็นจุดสำคัญ และ Bayern Ticket ก็สามารถตอบโจทย์เพราะใช้เดินทางภายในแคว้นบาวาเรีย ใช้ได้กับรถบัส, รถราง, แทรม, รถไฟใต้ดิน, U-bahn, S-bahn กี่ครั้งหรือกี่เที่ยวก็ได้ภายใน 1 วัน ส่วนราคาของตั๋วBayern จะขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่เดินทาง ยิ่งคนเยอะค่าตั๋วเฉลี่ยต่อคนยิ่งถูก MAXIMUM คือ 5 คนต่อตั๋ว 1 ใบค่ะ
                valid for 1 person EUR 23
                valid for 2 persons EUR 28
                valid for 3 persons EUR 33
                valid for 4 persons EUR 38
                valid for 5 persons EUR 43
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่http://www.bahn.com/i/view/GBR/en/prices/germany-regional/bavariaticket.shtml

     เราไปกับเพื่อน 2 คน ตกคนละ 14 EUR พอถึงสถานี  Muenchen Hauptbahnhof (HBF) ก็เดินจากสถานีรถไฟไปยังโรงแรม Vi Vadi Hotel Downtown Munich ซึ่งอยู่ไม่ไกล (คืนละ 80 EUR ไม่รวมอาหารเช้า) **หลักการเลือกโรงแรมของเรา คือ เราจะเลือกโรงแรมที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟและราคาไม่แพงมากค่ะ เพื่อจะได้ประหยัดค่ารถไปโรงแรม ถึงแม้จะไม่มีอาหารเช้าก็ตาม เพราะเราสามารถซื้ออาหารที่สถานีได้ แถมราคาอาหารที่สถานีรถไฟยังถูกอีกด้วยค่ะ
     เราถึงโรงแรมประมาณ 7:45 น. พนง.โรงแรมรับฝากกระเป๋าแต่ยังไม่ให้เช็คอิน จนกว่าจะบ่ายสองตามกำหนด แม้ว่าจะมีห้องว่างหรือเคลียร์ห้องเสร็จแล้วก็ตาม แต่วัฒนธรรมชองคนเยอรมัน กฎต้องเป็นกฎและตรงเวลา เราเลยตัดสินใจไปเที่ยวก่อนค่อยกลับมาเช็คอิน ก่อนออกจากโรงแรมก็ไม่ลืมที่จะขอของสำคัญคือ City Map ค่ะ เราเริ่มโดยเดินเท้าจากโรงแรมไม่นานก็ถึงแลนด์มาร์คสำคัญของมิวนิค คือ Marienplatz  หรือ Mary's Square (จตุรัสมาเรีย) จตุรัสกลางที่ใช้เป็นที่ท่องเที่ยวและจุดชมวิว มีชุดระฆังที่โด่งดังของเมืองมิวนิค
Marienplatz


ใกล้ๆกันก็จะเห็น Altes Rathaus เป็นศาลาว่าการเก่า เดินชมเมืองรอบๆจนมาถึง Residenz München ซึ่งเป็นพระราชวังใจกลางเมืองของกษัตริย์แคว้นบาวาเรียในสมัยก่อน ปัจจุบันเปิดเป็น Museum ให้คนเข้าชม โดยจะมีให้เลือกว่าจะเข้าชมส่วนไหนบ้าง ราคาก็แตกต่างกันไป เราเลือกแค่ส่วน Residence ราคาค่าเข้าชมคนละ 7 EUR ซึ่งห้องหลักๆของ Residenz München ที่มีชื่อเสียงได้แก่ Antiquarium,  Ancestral Gallery เป็นต้นค่ะ
ห้อง Antiquarium


ออกจาก Residenz München ก็เดินมาเรื่อยๆแวะ Hofgarten, Marienhof จนถึง Karlsplazt แล้วก็กลับไปที่โรงแรมเพื่อเช็คอิน

Marienhof


Hofgarten


**กระซิบ** ตรงแถว Marienplatz มี Free wifi ค่ะ

เช็คอินเสร็จแล้วก็ออกไปเที่ยวกันต่อ เนื่องจากเราไปช่วงฤดูร้อน กลางวันจะยาว กว่าฟ้าจะมืดก็สองทุ่มครึ่งมีเวลาเที่ยวอีกพักใหญ่ จึงไปต่อที่ BMW Museum เริ่มต้นโดยการขอ Train route map จากเจ้าหน้าที่สถานี หรือดูจากhttp://itforu.de/image/subway_train_route.gif แล้วก็ขึ้นรถไฟใต้ดินโดยใช้ Bayern ticketใบเดิมนั่นเอง จากสถานีเดิม Muenchen Hbf. ขึ้นรถไฟสาย U2 ไปลงที่สถานี Scheidplatz แล้วต่อสาย U3 ไปลงที่สถานี Olympia-Zentrum
          สถานที่ : ตัวเมืองมิวนิค------------------------------------------------------> BMW Museum/Olympia park
                                                      U2                                     U3
          สถานี   : Muenchen Hbf.-----------------> Scheidplatz-----------------> Olympia-Zentrum
จะเจอ BMW Welt ก่อน ซึ่งอยู่ติดกับ BMW Museum โดย BMW Welt สามารถเข้าชมได้ฟรี จัดแสดงเกี่ยวกับเทคโนโลยีและรถในปัจจุบัน  แต่ BMW Museum เสียค่าเข้าชมประมาณ 8 EUR จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของ BMW ค่ะ
BMW Museum


เดินชมรถกันทั่วแล้วก็เดินไปต่อที่ Olympia park ซึ่งอยู่ใกล้กันและเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญอีกที่นึง Olympia park เป็นศูนย์กีฬาขนาดใหญ่สำหรับการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน สร้างขึ้นเมื่อปี1972 ที่มิวนิคเป็นเจ้าภาพ ปัจจุบันเป็นหอโทรคมนาคมและสเตเดียมที่ทันสมัยสร้างแบบหลังคาเต็นท์ด้วยแท่งสลิงเหล็กยึดแขวนแผ่นอะครีลิกโปร่งแสงที่คลุมเป็นหลังคาเหมือนใยแมงมุม เราเดินชมแค่ภายนอกแล้วก็นั่งรถไฟกลับ ก่อนเข้าโรงแรมก็แวะจิบเบียร์เยอรมันที่ Hofbräuhaus München ค่ะ
     **กระซิบ** ที่ BMW Welt มี Free wifi ค่ะ

One day trip สำหรับมิวนิคเราแวะเที่ยวตามนี้ค่ะ


วันที่ 2
     เราตื่นเช้ามารีบเก็บของเพราะคืนนี้จะไปนอนอีกเมือง และต้องเช็คเอาท์ก่อนเที่ยง เลยเช็คเอาท์ตอนเช้าก่อน แต่ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม(ฟรี) แล้วออกไปเที่ยวปราสาทนอยชวานสไตน์(Neuschwanstein castle) โดยซื้อBayern ticket (จากสถานีรถไฟ) เริ่มจากไปเมืองฟุสเซ่น ขึ้นรถไฟจากสถานี Muenchen HBF ไปยัง สถานี Fussen Hbf. แล้วต่อรถบัสสาย 73 หรือ 78 (ใช้ตั๋วBaryernใบเดิม) ไปถึงยังตีนเขาซึ่งเป็นจุดขายตั๋วเข้าชมภายในปราสาท
          สถานที่ : ตัวเมืองมิวนิค--------------------------------> เมืองฟุสเซ่น --------------------------------> จุดขายตั๋วเข้าชมปราสาท          
                                                                Train                                        Bus no.73 or 78
          สถานี   : Muenchen HBF ----------------------------> Fussen Hbf --------------------------------> Ticket center (i)
ซึ่งใกล้จุดขายตั๋วนี้เองเป็นที่ตั้งของปราสาทHohenschwangau
Hohenschwangau castle


ส่วนราคาตั๋วเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์คือ 9 EUR การเข้าชมนั้นจะระบุรอบในการเข้าตามเวลาในตั๋ว ถ้าชมแค่ภายนอกก็ไม่ต้องซื้อตั๋วค่ะ (เราดูแค่ภายนอกค่ะ) จากตีนเขาไปยังตัวปราสาทนอยชวานสไตน์ สามารถขึ้นไปได้ 3 วิธีคือ
               1)นั่งรถบัส ราคาไป-กลับ 2.6 EUR  หรือ
               2)นั่งรถม้า ราคาไปกลับ 3 EUR หรือ
               3)เดินเท้า

ที่มาจากhttp://www.neuschwanstein.de/englisch/tourist/howtoget.htm
มาถึงปราสาท Neuschwanstein แล้ว View point ที่สำคัญคือการถ่ายรูปปราสาทจากสะพานแมรี่ (Marien-brucke) ทางขึ้นสะพานจะอยู่ใกล้กับจุดจอดรถบัสค่ะ สะพานแมรี่เป็นสะพานที่ทอดข้ามหน้าผาสูงและมีน้ำตกไหลผ่านด้านล่าง ในหน้าหนาวสะพานจะถูกปิดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวค่ะ ตอนเราไปสะพานปิดซ่อม แต่เราไปแล้วก็ไม่อยากให้เสียเที่ยว เลยพยายามหามุมที่ใกล้เคียง สุดท้ายก้ได้มาเป็นมุมจากใต้สะพานแมรี่ค่ะ

มุมนี้คือ ต้องเดินจากน้ำตกด้านล่างเลียบริมหน้าผาขึ้นมาซึ่งค่อนข้างอันตรายไม่แนะนำเส้นทางนี้นะคะ เราเดินถ่ายรูปจนทั่ว ดูวิว และทะเลสาป Alpseeแล้วก็ถึงเวลากลับ ขึ้นรถบัสสาย73หรือ78 มาลงสถานี Fussen Hbf.(สถานีรถบัสกับสถานีรถไฟอยู่ที่เดียวกัน) แต่เรายังไม่กลับมิวนิค พอมีเวลาเราเลยแวะเที่ยวเมืองฟุสเซ่นก่อนค่ะ
Fussen


ฟุสเซ่นเป็นเมืองน่ารัก สะอาด และสงบ บ้านเรือนมีสีสัน ไม่ใช่สีจัดจ้านแบบอิตาลี แต่ฟุสเซ่นจะเป็นแนวสีลูกกวาดหวานๆสดใส ปลูกต้นไม้ดอกไม้แทบทุกบ้านน่ารักมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักใช้ป็นทางผ่านไปยังปราสาทนอยชวานสไตน์มากกว่า เมืองนี้จึงไม่พลุกพล่าน

ระหว่างเดินชมเมืองอย่าลืมเช็ครอบรถไฟที่จะนั่งกลับมิวนิคด้วยนะคะ จะทำให้เราสามารถบริหารเวลาได้ดีขึ้น และป้องกันการตกรถรอบสุดท้ายด้วย ขากลับก็ใช้ตั๋วBaryernใบเดิมค่ะ
     **กระซิบ** ที่ Tourist information เมืองฟุสเซ่น มี Free wifi ค่ะ
เรานั่งรถไฟกลับมิวนิคแวะเอากระเป๋าที่โรงแรม แล้วนั่งรถไฟจาก Muenchen Hbf. ไปยังสถานี Nurnberg Hbf. เมืองนูเรมเบิร์ก (ใช้ตั๋ว Baryern ใบเดิม วันนี้ใช้คุ้มมากๆ) มาถึงประมาณห้าทุ่ม พักที่  B&B Hotel Nürnberg-Hbf (คืนละ 49 EUR ไม่รวมอาหารเช้า)
ชื่อสินค้า:   เที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่