เนื่องจากเห็นว่าช่วงนี้หน้าฝน ชวนไปเที่ยวน้ำตกกัน เลยเอารูปเก่า มาเล่าใหม่ โดยครั้งนี้ไปเมื่อ 22-24 สค 2551 ทริปนี้ใจอยากไปน้ำตกผาสวรรค์มาก เคยไปเมื่อนานแล้ว ยังไม่มีกล้องดิจิตอล คราวนี้จะถ่ายให้จุใจเลย พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันครับ
ทริปเก่ามาเล่าใหม่-โบกไปน้ำตกผาสวรรค์ # 2 ทีลอซูแห่งเมืองกาญจนบุรี น้ำตกผาตาด ช่วงน่าน้ำสวยสุดยอด
https://ppantip.com/topic/32382942
ทริปเก่ามาเล่าใหม่-โบกไปน้ำตกผาสวรรค์ # 3 เดินไปหาสวรรค์ชั้น 7 ที่น้ำตกผาสวรรค์
https://ppantip.com/topic/32386856
เดินตามรอยทริปเก่าที่เคยไป
http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=34&topic_no=30597&topic_id=30597
ทริปนี้ไปด้วยกัน 3 คน มี
เอก พ่อครัวใหญ่
ไก่ ผู้ช่วยพ่อครัว
ผม คนล้างจาน
*** ทริปนี้ไปนานแล้ว ค่าใช้จ่ายต่างก็จะเพิ่มขึ้นยังไงลองเช็คดูก่อนเดินทางนะครับ แต่เส้นทาง และความงามยังเหมือนเดิม

เริ่มจากนั่งรถเมล์ไปลงท่าพระจันทร์ อยู่ตรง ม.ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ แถวๆ สนามหลวงนะครับ หรือใครจะนั่งไปลงที่สถานีรถไฟธนบุรีเลยก็ได้นะครับ ค่าเรื่อข้ามฝาก 3.50

รอไม่นานเรือก็มา เป็นเรือเหล็กขนาดกลาง

เรื่อจะมีหลายสาย ขึ้นเรือที่เขียนว่า ท่าพระจันทร์-รถไฟ นะครับ เพราะเราจะไปสถานีรถไฟธนบุรีกัน นั่งสายอื่นก็จะไปที่อื่น เดี๋ยวไม่ทันรถไฟ

วันที่เราไปก็สบายๆ มีที่นั่งเหลือเยอะเลย

นั่งเรือข้ามฝาก ก็นั่งชมวิวไปเรื่อย

ฝั่งที่เราจะไปก็อยุ่ใกล้กับ รพ.ศิริราช

การขนส่งทางน้ำ

วิวกว้างๆ

ม.ธรรมศาสตร์ จุดเริ่มต้นที่เรานั่งเรือมา

นั่งไม่ถึง 5 นาที ก็มาถึงท่าขึ้น จะมีทั้ง มอเตอร์ไซค์ สองแถว นั่งสองแถวดีกว่าปลอดภัยดี 6.50 บาท (นี่เป็นราคาเก่านะครับ เดี๋ยวนี้คงปรับขึ้นไปเยอะ)

นั่งไปไม่เกิน 10 นาที รถไฟเที่ยวแรกออกประมาณ 7.45 แต่เท่าที่ขึ้นมาหลายครั้งออกประมาณ 8.00 น. หรือหลังว่านั้น ช่วงนี้รถไฟฟรีครับ ล่าสุดก็ยังฟรีอยู่ นั่งไปลงสถานีน้ำตก ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ค่ารถปกติ 30 กว่าบาทเอง ถูกมาก

เสริมอีกอย่าง ถ้าไปเที่ยวบ่าย (วันหนึ่งมีแค่ 2 เที่ยว) จะไปถึงสถานีน้ำตก ประมาณ 18.00 น. ถ้าไม่มีที่พักกางเต็นท์ที่ น้ำตกไทรโยคน้อยก็ได้

รถที่เรานั่งก็จะเป็นรถหวานเย็น (ถึงก็ชัง ไม่ถึงก็ชัง) 555 มีทั้งแบบนุ่มๆ และแบบไม้
ที่นั่งผมเลือกเป็นไม้ครับ ฝึกโยคะไปด้วย แนะนำให้นั่งฝั่งซ้ายมือ ถ้าหันไปทางหัวรถจักร เพราะแดดไม่ค่อยส่อง และได้ดูช่วงโค้งมรณะ โดยไม่ต้องไปแย่งใคร

วิ่งข้างทางฝูงนกบินไปไหนไม่รู้ สงสัยไปเที่ยวกับผมด้วย

น่าฝน ต้องมีทุ่งนา สองข้างระหว่างทางรถไฟ ส่วนมากจะเป็น ไร่ สวน

นั่งคุย นั่งชมวิวไปเรื่อยๆ หรือใครจะเอาหนังสือ เอาหนัง มานั่งอ่านนั่งดูก็ดีครับ ฆ่าเวลาไปได้เยอะ

นั่งได้ประมาณ 3 ชั่งโมง(มาถึงสถานีสะพานข้ามแม่น้ำแคว ประมาณ 11.30 น.) ก็มาถึงสถานีสะพานข้ามแม่น้ำแควแล้ว นั่งท่องเที่ยวต่างชาติจะมารอขึ้นตรงนี้ รถไฟก็จะเริ่มเต็ม เพื่อนั่งไปชมโค้งมรณะ แถวๆ สถานีถ้ำกระแซ
อยากที่บอกตอนแรก ถ้าเลือกที่นั่งดี ก็ไม่ต้องมาค่อยแย่งตอนจะถ่ายรูป

ข้ามสะพานแล้ว รถไฟจะวิ่งช้าๆ เพื่อให้คนที่อยู่บนสะพานได้หลบรถ ตอนยื่นตัวออกไปถ่ายรูปก็ต้องระวังด้วย
ทุกปีที่สะพานข้ามแม่น้ำแควแห่งนี้จะมีการจัดงาน งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งปกติจะจัดช่วง ปลายเดือน พย-ต้นเดือน ธค
ซึ่งปีนี้ 2557 จัด 26 พฤศจิกายน 2557 - 5 ธันวาคม 2557
ข้อมูลจาก
http://goo.gl/5dCWdu

ทั้งสูงและน้ำเชียว

ที่สะพานก็จะมีช่องให้หลบรถไฟ และดูวิว หลายจุด

ผ่ามาประมาณ 10 นาที ก็จะผ่านช่วงที่วิ่งผ่านช่องเขาที่ขาดจากแรงงานและแรงระเบิด ซึ่งเส้นทางสายนี้ เรียกว่า "เส้นทางสายมรณะ" หนึ่งไม้หมอนรถไฟ เท่ากับหนึ่งชีวิต ลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://th.wikipedia.org/wiki/ทางรถไฟสายมรณะ

วิ่งมาได้ประมาณ 1 ชม นิดๆ จากสะพานข้ามแม่น้ำแคว จะถึงช่วงเด่นสุดของเส้นทาง คือโค้งมรณะ จะเป็นตอมอไม้สูง เวลารถวิ่งจะมีเสียงดัง เสียวรถไฟตกเหมือนกัน
ถ้าใครต้องการสัมผัส บรรยากาศ ก็นั่งรถมาขึ้นรถไฟที่สถานี ถ้ำกระแซก็ได้

มีสองช่วง ปลายโค้งมรณะเป็นสถานีถ้ำกระแซ

แถวนี้ก็จะมีรีสอร์ทริมน้ำแคว ใครจะส่งสถานีนี้ แล้วก็เดินมาพักก็ได้ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

นั่งเฉยไม่สนุก เลยเดินมาตรงทางลงและต้องเกาะเสาแล้วยื่นตัวออกไปนอกรถเพื่อถ่ายรูป

ช่วงนี้ใช้เวลาวิ่งช้าไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาทีได้ วิ่งเร็วไม่ได้ เพราะเป็นโค้ง

โค้งที่ผ่านมา
ข้อมูล ทางรถไฟสายนี้เริ่มต้นจากสถานีหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านกาญจนบุรี ข้ามแม่น้ำแควใหญ่ไปทางทิศตะวันตก ผ่านด่านพระเจดีย์สามองค์ จนถึงปลายทางที่เมืองต้นบีอุซายัต ประเทศพม่า เส้นทางสายนี้เป็นน้ำพักน้ำแรงการบุกเบิกของทหารเชลยศึกพันธมิตรที่กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์สร้างเพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า โดยบรรยากาศสองริมฟากฝั่งทางรถไฟเป็นบรรยากาศที่น่าชวนชมเป็นอย่างมาก
ข้อมูลถ้ำกระแซ
ถ้ำนี้เป็นถ้ำที่เคยเป็นที่พักของเชลยศึกเมื่อครั้งสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า ตัวถ้ำติดกับเส้นทางรถไฟสายกาญจนบุรี–น้ำตก วึ่งเป็นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันสิ้นสุดที่สถานีรถไฟน้ำตก ภายในถ้ำโปร่งและมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ มองจากปากถ้ำมาที่บริเวณทางรถไฟจะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามและมองเห็นแม่น้ำแควน้อยอยู่เบื้องล่าง บริเวณนี้เป็นจุดที่สร้างทางรถไฟยากที่สุด เนื่องจากเส้นทางโค้งเลียบเขา
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่าน จ.นครปฐม ขับมาประมาณ 9 กม. จะพบสะพานลอยข้ามไปทาง จ.กาญจนบุรี ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ขับมาประมาณ 7 กม. ท่านจะพบสี่แยก ให้ท่านเลี้ยวขวา ( แยกซ้ายไปบ้านโป่ง ตรงไปคือถ้ำค้างคาว) เพื่อไปยัง อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นมุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยน ให้ขับไปทาง อ.ไทรโยค อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 55 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 กิโลเมตรที่ 29–30
*** เพิ่มเติม
ถ้ามาเที่ยวสถานีถ้ำกระแซ เวลาก็เดินเล่นตามรางรถไฟก็ได้ (รูปประกอบเอามาจากที่เคยไปเมื่อปี 2547)

เดินมาก็จะเห็นรีสอร์ทสองข้าง

ตรงสถานีรถไฟถ้ำกระแซ เดินตามรางรถไฟไม่ไกล จะมีถ้ำอยู่ทางด้านซ้ายมือ แวะไหว้พระก่อนได้

เดินไปเรื่อยๆ ก่อนเดินก็เช็คเวลารถไฟวิ่งมาด้วยนะครับ ที่ตัวสถานี เดี๋ยวไปกลางทางต้องวิ่งหนีรถไฟ 555

เดินมาไกลแล้ว ตัวสถานีอยู่ไกลๆ

อีกฝั่ง ก็จะมีสถานี(ผมจำชื่อไม่ได้) สามารถลงได้ แล้วก็เดินลงไปถ่ายรูปที่รีสอร์ทด้านล่างก็ได้
รีสอร์ทนี้ชื่อว่า สวนไทรโยครีสอร์ท
http://www.suansaiyok.com/suansaiyok.php เคยคิดว่าจะมากางเต็นท์นอนเหมือนกัน วิวตรงรีสอร์ทสามารถถ่ายรูปตอนรถไฟ วิ่งผ่านโค้งมรณะได้
-------------------------------------

เลยจากถ้ำกระแซมาประมาณ 25 นาที จะเห็นวัดบนยอดเขา ซึ่งรถไฟก็จะจอดให้ลง ส่วนมาจะมาปฏิบัติธรรมกันเยอะ สวยดี แต่ผมถ่ายตอนรถไฟวิ่งเลยเบลอไป

จากถ้ำกระแซ วิ่งอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงสถานีน้ำตก สุดสายแล้ว ต่อจากนี้ก็ต่อไปออกไปถนนใหญ่ ซึ่งจะมีรถสองแถวมาจอดรอให้บริการ

นั่งสองแถวต่อไปน้ำตกไทรโยคน้อย คนละ 10 บาท ห่างประมาณ 3-4 กม แวะเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย ซึ่งน้ำน้อยมากเลย โดยฝากกระเป๋าไว้ที่ป้อมตำรวจก็ได้ ถ้าหิวก็กินข้าวก่อนบริเวณนี้ร้านค้าเยอะมาก

น้ำตกไทรโยคน้อย เดิมเรียกกันว่า "น้ำตกเขาพัง" ตั้งอยู่ห่าง จากสถานีรถไฟน้ำตกอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 60 กิโลเมตร อยู่ริมถนนทางหลวงหมายเลข 323 ระหว่างทางไป สังขละบุรี เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่สวยงามร่มรื่น โดยมีน้ำมากใน ช่วงฤดูฝน ฤดูหนาว แต่ช่วงฤดูร้อนน้ำตกจะน้อยถึงน้อยมากบริเวณน้ำตกยังมีหัวรถจักรไอน้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่สองตั้งไว้เพื่อรำลึกถึงการสร้างทาง รถไฟสายมรณะ ที่สร้างผ่านบริเวณด้านหน้าน้ำตกไทรโยค เข้าสู่ประเทศพม่า
การเดินทาง ท่านสามารถเดินทางโดยรถส่วนตัว หรือ รถประจำทาง และรถไฟ
ค่าเข้าชมสถานที่: ฟรี
การเดินทาง: เดินทางส่วนตัว, รถประจำทาง ,
-------------------------------------------------------------------------------
น้ำตกที่นี่ถ้าไม่ใช่ช่วงฝนตกหนักๆ น้ำจะน้อยมากๆ จนไม่น่าเที่ยว แต่ก็ถือเป็นแหล่งพักระหว่างทางได้
[img]
http://f.ptcdn.info/652/021/000/140635166
[CR] ทริปเก่ามาเล่าใหม่-โบกไปผาสวรรค์ # 1 ขึ้นรถเมล์ ลงเรือข้ามฝาก นั่งรถไฟเสียวๆ โค้งมรณะ แวะ อช.ไทรโยค นอนพักที่ผาตาด
ทริปเก่ามาเล่าใหม่-โบกไปน้ำตกผาสวรรค์ # 2 ทีลอซูแห่งเมืองกาญจนบุรี น้ำตกผาตาด ช่วงน่าน้ำสวยสุดยอด
https://ppantip.com/topic/32382942
ทริปเก่ามาเล่าใหม่-โบกไปน้ำตกผาสวรรค์ # 3 เดินไปหาสวรรค์ชั้น 7 ที่น้ำตกผาสวรรค์
https://ppantip.com/topic/32386856
เดินตามรอยทริปเก่าที่เคยไป
http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=34&topic_no=30597&topic_id=30597
ทริปนี้ไปด้วยกัน 3 คน มี
เอก พ่อครัวใหญ่
ไก่ ผู้ช่วยพ่อครัว
ผม คนล้างจาน
*** ทริปนี้ไปนานแล้ว ค่าใช้จ่ายต่างก็จะเพิ่มขึ้นยังไงลองเช็คดูก่อนเดินทางนะครับ แต่เส้นทาง และความงามยังเหมือนเดิม
เริ่มจากนั่งรถเมล์ไปลงท่าพระจันทร์ อยู่ตรง ม.ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ แถวๆ สนามหลวงนะครับ หรือใครจะนั่งไปลงที่สถานีรถไฟธนบุรีเลยก็ได้นะครับ ค่าเรื่อข้ามฝาก 3.50
รอไม่นานเรือก็มา เป็นเรือเหล็กขนาดกลาง
เรื่อจะมีหลายสาย ขึ้นเรือที่เขียนว่า ท่าพระจันทร์-รถไฟ นะครับ เพราะเราจะไปสถานีรถไฟธนบุรีกัน นั่งสายอื่นก็จะไปที่อื่น เดี๋ยวไม่ทันรถไฟ
วันที่เราไปก็สบายๆ มีที่นั่งเหลือเยอะเลย
นั่งเรือข้ามฝาก ก็นั่งชมวิวไปเรื่อย
ฝั่งที่เราจะไปก็อยุ่ใกล้กับ รพ.ศิริราช
การขนส่งทางน้ำ
วิวกว้างๆ
ม.ธรรมศาสตร์ จุดเริ่มต้นที่เรานั่งเรือมา
นั่งไม่ถึง 5 นาที ก็มาถึงท่าขึ้น จะมีทั้ง มอเตอร์ไซค์ สองแถว นั่งสองแถวดีกว่าปลอดภัยดี 6.50 บาท (นี่เป็นราคาเก่านะครับ เดี๋ยวนี้คงปรับขึ้นไปเยอะ)
นั่งไปไม่เกิน 10 นาที รถไฟเที่ยวแรกออกประมาณ 7.45 แต่เท่าที่ขึ้นมาหลายครั้งออกประมาณ 8.00 น. หรือหลังว่านั้น ช่วงนี้รถไฟฟรีครับ ล่าสุดก็ยังฟรีอยู่ นั่งไปลงสถานีน้ำตก ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ค่ารถปกติ 30 กว่าบาทเอง ถูกมาก
เสริมอีกอย่าง ถ้าไปเที่ยวบ่าย (วันหนึ่งมีแค่ 2 เที่ยว) จะไปถึงสถานีน้ำตก ประมาณ 18.00 น. ถ้าไม่มีที่พักกางเต็นท์ที่ น้ำตกไทรโยคน้อยก็ได้
รถที่เรานั่งก็จะเป็นรถหวานเย็น (ถึงก็ชัง ไม่ถึงก็ชัง) 555 มีทั้งแบบนุ่มๆ และแบบไม้
ที่นั่งผมเลือกเป็นไม้ครับ ฝึกโยคะไปด้วย แนะนำให้นั่งฝั่งซ้ายมือ ถ้าหันไปทางหัวรถจักร เพราะแดดไม่ค่อยส่อง และได้ดูช่วงโค้งมรณะ โดยไม่ต้องไปแย่งใคร
วิ่งข้างทางฝูงนกบินไปไหนไม่รู้ สงสัยไปเที่ยวกับผมด้วย
น่าฝน ต้องมีทุ่งนา สองข้างระหว่างทางรถไฟ ส่วนมากจะเป็น ไร่ สวน
นั่งคุย นั่งชมวิวไปเรื่อยๆ หรือใครจะเอาหนังสือ เอาหนัง มานั่งอ่านนั่งดูก็ดีครับ ฆ่าเวลาไปได้เยอะ
นั่งได้ประมาณ 3 ชั่งโมง(มาถึงสถานีสะพานข้ามแม่น้ำแคว ประมาณ 11.30 น.) ก็มาถึงสถานีสะพานข้ามแม่น้ำแควแล้ว นั่งท่องเที่ยวต่างชาติจะมารอขึ้นตรงนี้ รถไฟก็จะเริ่มเต็ม เพื่อนั่งไปชมโค้งมรณะ แถวๆ สถานีถ้ำกระแซ
อยากที่บอกตอนแรก ถ้าเลือกที่นั่งดี ก็ไม่ต้องมาค่อยแย่งตอนจะถ่ายรูป
ข้ามสะพานแล้ว รถไฟจะวิ่งช้าๆ เพื่อให้คนที่อยู่บนสะพานได้หลบรถ ตอนยื่นตัวออกไปถ่ายรูปก็ต้องระวังด้วย
ทุกปีที่สะพานข้ามแม่น้ำแควแห่งนี้จะมีการจัดงาน งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งปกติจะจัดช่วง ปลายเดือน พย-ต้นเดือน ธค
ซึ่งปีนี้ 2557 จัด 26 พฤศจิกายน 2557 - 5 ธันวาคม 2557
ข้อมูลจาก http://goo.gl/5dCWdu
ทั้งสูงและน้ำเชียว
ที่สะพานก็จะมีช่องให้หลบรถไฟ และดูวิว หลายจุด
ผ่ามาประมาณ 10 นาที ก็จะผ่านช่วงที่วิ่งผ่านช่องเขาที่ขาดจากแรงงานและแรงระเบิด ซึ่งเส้นทางสายนี้ เรียกว่า "เส้นทางสายมรณะ" หนึ่งไม้หมอนรถไฟ เท่ากับหนึ่งชีวิต ลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/ทางรถไฟสายมรณะ
วิ่งมาได้ประมาณ 1 ชม นิดๆ จากสะพานข้ามแม่น้ำแคว จะถึงช่วงเด่นสุดของเส้นทาง คือโค้งมรณะ จะเป็นตอมอไม้สูง เวลารถวิ่งจะมีเสียงดัง เสียวรถไฟตกเหมือนกัน
ถ้าใครต้องการสัมผัส บรรยากาศ ก็นั่งรถมาขึ้นรถไฟที่สถานี ถ้ำกระแซก็ได้
มีสองช่วง ปลายโค้งมรณะเป็นสถานีถ้ำกระแซ
แถวนี้ก็จะมีรีสอร์ทริมน้ำแคว ใครจะส่งสถานีนี้ แล้วก็เดินมาพักก็ได้ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
นั่งเฉยไม่สนุก เลยเดินมาตรงทางลงและต้องเกาะเสาแล้วยื่นตัวออกไปนอกรถเพื่อถ่ายรูป
ช่วงนี้ใช้เวลาวิ่งช้าไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาทีได้ วิ่งเร็วไม่ได้ เพราะเป็นโค้ง
โค้งที่ผ่านมา
ข้อมูล ทางรถไฟสายนี้เริ่มต้นจากสถานีหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผ่านกาญจนบุรี ข้ามแม่น้ำแควใหญ่ไปทางทิศตะวันตก ผ่านด่านพระเจดีย์สามองค์ จนถึงปลายทางที่เมืองต้นบีอุซายัต ประเทศพม่า เส้นทางสายนี้เป็นน้ำพักน้ำแรงการบุกเบิกของทหารเชลยศึกพันธมิตรที่กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์สร้างเพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า โดยบรรยากาศสองริมฟากฝั่งทางรถไฟเป็นบรรยากาศที่น่าชวนชมเป็นอย่างมาก
ข้อมูลถ้ำกระแซ
ถ้ำนี้เป็นถ้ำที่เคยเป็นที่พักของเชลยศึกเมื่อครั้งสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า ตัวถ้ำติดกับเส้นทางรถไฟสายกาญจนบุรี–น้ำตก วึ่งเป็นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันสิ้นสุดที่สถานีรถไฟน้ำตก ภายในถ้ำโปร่งและมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ มองจากปากถ้ำมาที่บริเวณทางรถไฟจะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามและมองเห็นแม่น้ำแควน้อยอยู่เบื้องล่าง บริเวณนี้เป็นจุดที่สร้างทางรถไฟยากที่สุด เนื่องจากเส้นทางโค้งเลียบเขา
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่าน จ.นครปฐม ขับมาประมาณ 9 กม. จะพบสะพานลอยข้ามไปทาง จ.กาญจนบุรี ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ขับมาประมาณ 7 กม. ท่านจะพบสี่แยก ให้ท่านเลี้ยวขวา ( แยกซ้ายไปบ้านโป่ง ตรงไปคือถ้ำค้างคาว) เพื่อไปยัง อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นมุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยน ให้ขับไปทาง อ.ไทรโยค อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 55 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 กิโลเมตรที่ 29–30
*** เพิ่มเติม
ถ้ามาเที่ยวสถานีถ้ำกระแซ เวลาก็เดินเล่นตามรางรถไฟก็ได้ (รูปประกอบเอามาจากที่เคยไปเมื่อปี 2547)
เดินมาก็จะเห็นรีสอร์ทสองข้าง
ตรงสถานีรถไฟถ้ำกระแซ เดินตามรางรถไฟไม่ไกล จะมีถ้ำอยู่ทางด้านซ้ายมือ แวะไหว้พระก่อนได้
เดินไปเรื่อยๆ ก่อนเดินก็เช็คเวลารถไฟวิ่งมาด้วยนะครับ ที่ตัวสถานี เดี๋ยวไปกลางทางต้องวิ่งหนีรถไฟ 555
เดินมาไกลแล้ว ตัวสถานีอยู่ไกลๆ
อีกฝั่ง ก็จะมีสถานี(ผมจำชื่อไม่ได้) สามารถลงได้ แล้วก็เดินลงไปถ่ายรูปที่รีสอร์ทด้านล่างก็ได้
รีสอร์ทนี้ชื่อว่า สวนไทรโยครีสอร์ท http://www.suansaiyok.com/suansaiyok.php เคยคิดว่าจะมากางเต็นท์นอนเหมือนกัน วิวตรงรีสอร์ทสามารถถ่ายรูปตอนรถไฟ วิ่งผ่านโค้งมรณะได้
-------------------------------------
เลยจากถ้ำกระแซมาประมาณ 25 นาที จะเห็นวัดบนยอดเขา ซึ่งรถไฟก็จะจอดให้ลง ส่วนมาจะมาปฏิบัติธรรมกันเยอะ สวยดี แต่ผมถ่ายตอนรถไฟวิ่งเลยเบลอไป
จากถ้ำกระแซ วิ่งอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงสถานีน้ำตก สุดสายแล้ว ต่อจากนี้ก็ต่อไปออกไปถนนใหญ่ ซึ่งจะมีรถสองแถวมาจอดรอให้บริการ
นั่งสองแถวต่อไปน้ำตกไทรโยคน้อย คนละ 10 บาท ห่างประมาณ 3-4 กม แวะเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย ซึ่งน้ำน้อยมากเลย โดยฝากกระเป๋าไว้ที่ป้อมตำรวจก็ได้ ถ้าหิวก็กินข้าวก่อนบริเวณนี้ร้านค้าเยอะมาก
น้ำตกไทรโยคน้อย เดิมเรียกกันว่า "น้ำตกเขาพัง" ตั้งอยู่ห่าง จากสถานีรถไฟน้ำตกอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 60 กิโลเมตร อยู่ริมถนนทางหลวงหมายเลข 323 ระหว่างทางไป สังขละบุรี เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่สวยงามร่มรื่น โดยมีน้ำมากใน ช่วงฤดูฝน ฤดูหนาว แต่ช่วงฤดูร้อนน้ำตกจะน้อยถึงน้อยมากบริเวณน้ำตกยังมีหัวรถจักรไอน้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่สองตั้งไว้เพื่อรำลึกถึงการสร้างทาง รถไฟสายมรณะ ที่สร้างผ่านบริเวณด้านหน้าน้ำตกไทรโยค เข้าสู่ประเทศพม่า
การเดินทาง ท่านสามารถเดินทางโดยรถส่วนตัว หรือ รถประจำทาง และรถไฟ
ค่าเข้าชมสถานที่: ฟรี
การเดินทาง: เดินทางส่วนตัว, รถประจำทาง ,
-------------------------------------------------------------------------------
น้ำตกที่นี่ถ้าไม่ใช่ช่วงฝนตกหนักๆ น้ำจะน้อยมากๆ จนไม่น่าเที่ยว แต่ก็ถือเป็นแหล่งพักระหว่างทางได้
[img]http://f.ptcdn.info/652/021/000/140635166